:::     :::

นกใหญ่พิฆาต ในวันวิญญาณกลับเข้าร่าง

วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม 2561 คอลัมน์ ฉันดูบอลที่ร้านเหล้า โดย ดากานดา
6,054
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ก่อนเปิดฤดูกาล หลายคนฟันฉับว่าพวกเขาคือ 1 ใน 5 ทีมที่มีสิทธิ์บอกลาลีกสูงสุดอีกคำรบ จากงบประมาณที่หว่าน และทรัพยากรสโมสร

ตัวเลข 70 ล้านบาท ถือว่าต่ำมากในไทยลีก และน่าจะแทบน้อยสุดในบรรดา 18 ทีม เมื่อผสมกับวัตถดิบลูกหนังที่มีอยู่ ยิ่งทำให้คนมองฟุตบอลเชื่อว่า ชัยนาท ฮอร์นบิล อาจไม่ได้ไปต่อ

แต่ขอโทษ… ปัจจุบันขณะ “นกใหญ่พิฆาต” ที่ใครพากันปรามาส ยืนอยู่อันดับ 8 ของตารางอย่างสง่า ด้วยผลงานที่เหนือกว่าสโมสรอย่าง บีจีเอฟซี, สุพรรณบุรี, ราชบุรี มิตรผล หรือ โปลิศ เทโรฯ

อะไรคือสูตรสำเร็จเหล่านั้น ?

ครั้นจะถามคนในสโมสรที่คลุกคลี ฉันเชื่อว่าอาจได้คำตอบที่ซ้ำจำเจเหมือนสื่อหลายเจ้านำเสนอ หรือหากจะละเลงตามใจผู้เขียน นี่ก็เสือกไม่ได้ตามทีมมามากพออีก

ฉับพลันวาบความคิดผุดขึ้นมา ว่ามีเพื่อนนักข่าวเป็นคน “ชัยนาท” อยู่ แม้มันจะรัก “นกใหญ่พิฆาต” น้อยกว่าเมียตัวเอง แต่ก็เป็นหนึ่งในสาวกตัวยงที่ตามทีมบ้านเกิดตลอด

“กูมั่นใจว่ารอกตกชั้นชัวร์” อนุพนธ์ ศักดิ์ดา คนข่าวสายการเมือง ผู้ลืมตาดูโลกที่ อ.หันคา ตอบอย่างมั่นใจ

ฉันถาม อะไรที่ทำให้นกใหญ่โกงความตายพ้นจากเรดโซน ทั้งที่ต้นซีซั่น ชัยนาท แทบไม่ต่างจากผู้ป่วยหนักที่ต้องเข้า “ไอซียู” แต่อยู่ดีดี พวกเขากลับลุกขึ้นมาเดินได้หน้าตาเฉย

“แท็คติก กูมองว่าการเปลี่ยนผ่านกุนซือกลับมาใช้ เดนนิส อมาโต ทำให้ทีมกลับมาผลงานดีอีกครั้ง”


“กูดู ชัยนาท มาตั้งแต่ดิวิชั่น 2 จนตกชั้นไปแล้วขึ้นมาใหม่ แต่กูยังไม่เคยเห็นทีมบ้านกูมีทรงบอลเป็นของตัวเองเลย จนมาปีนี้ อมาโต กลับมาช่วยอีกรอบ ทำให้ทีมมีทรง มีแท็คติกและระบบของตัวเอง ที่หมุนเวียนไปตามคู่ต่อสู้ที่เจอ และแบบแผนของโค้ชเข้ากับวัตถุดิบที่มี”

อาจถูกอย่างที่เพื่อนแทนพูด ระบบทีมคือ “จุดแข็ง” ของชัยนาทในปีนี้ ผลงานตอบได้ดี พวกเขาชนะทีมอย่าง บีจีเอฟซี, สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด หรือ กระทั่ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คาบ้านได้

แต่สิ่งสำคัญคือทรัพยากรทีมที่มี ผู้เล่นส่วนใหญ่แทบจะ “โนเนม” หรือเป็นแข้งที่ไม่ใช่เกรดพรีเมียมของไทยลีกทั้งหมด นักเตะอย่าง ดิยุฟ บิรัม, อองรี ดุมเบีย ล้วนเป็นผู้เล่นที่ถูกปล่อยตัว หรือดึงมาจากลีกที่ต่ำกว่า

ไม่นับรวมดาวรุ่งที่ยังไม่ผ่านการพาสเจอไรซ์ฝีตีนอย่างจริงจังบนเวทีไทยลีก มีประสบการณ์จำกัดจำเขี่ย แต่โชว์ผลงานได้อย่างสุดติ่ง ชื่ออย่าง ชัชชน ใจรังสี, รัชนาท อรัญญไพโรจน์ หรือ มาร์โก บัลลินี กลายเป็นที่จับตามองของบรรดาสโมสรใหญ่ไปเสียในชั่วโมงนี้

“แท็คติกของ อมาโต แม่งสำคัญ แต่ที่สำคัญกว่าคือเด็กแม่งเข้าใจแท็คติก และตอบโจทย์ได้” คนข่าวเลือดชัยนาท เล่าต่อ

“อีกอย่างเลยคือสภาพจิตใจ เมื่อปลดล็อกได้ใจมันมา เหมือนที่เวลาบ้านกูเจอทีมใหญ่ สมมุติอย่างสัปดาห์นี้ เจอทีมอย่าง เชียงราย ถ้าเป็นปกติ กูคงขอมีแต้มไว้ก่อนถือว่าโอเคแล้ว แต่นี่นัดแรกกูไปชนะ เชียงราย ในบ้านได้ไง มันตอบให้เห็นได้ว่า เฮ้ยกูก็สามารถชนะทีมใหญ่ได้นะ ฉะนั้นเมื่อมาเล่นที่เขาพลอง ยังไงก็ต้องตั้งเป้าสามแต้มไว้อยู่แล้ว กูเชื่อว่าทีมเองก็คิดเช่นนั้น”


ฉันถามต่อถึงความมั่นใจ จากคำตอบข้างต้นที่ว่า ชัยนาท จะไม่ตกชั้น ใช่พวกเขามีโอกาส แต่เมื่อมองตามความเป็นจริง ชัยนาท ยังมีคะแนนหนีห่างจากโซนแดงเพียง 5 แต้มเท่านั้น

“กูเชื่อว่าถ้าเด็กมันยังเล่นตามแท็คติกได้ ยังไงก็ไม่ร่วง คือช่วงที่ทีมกูสปีดทำผลงานดีขึ้นมา มันตรงข้ามกับทีมใหญ่ที่ผลงานหล่นลงมาด้วย”

“กูยังไม่เข้าใจทฤษฎีที่เฮียรุท (อนุรุทธิ์ นาคาศัย รองประธานสโมสร) เคยบอกนะ ว่าขอ 41 แต้มจะรอดตกชั้น ว่าเฮียแกวัดจากอะไร เพราะยังเหลือแมตช์อีกตั้ง 12 เกม แต่ตอนนี้ทีมกูมี 31 คะแนน ถ้าเฮียขอ 41 เท่ากับว่า ทีมกูขอแค่ 10 คะแนนจาก 12 นัดซึ่งกูมองว่าสบายมาก”

น่าสนใจว่ากับสโมสรที่มีกุนซือจอมแท็คติก ผู้งัดระบบการเล่นอย่าง 3-3-3-1, 3-4-3 หรือ 4-3-3 มาหมุนใช้ตามสถานการณ์คู่แข่งที่เจอ จะบินได้สูงแค่ไหนในซีซั่นนี้

จากที่ถูกมองว่าเป็นเต็งตกชั้น

จากที่ตั้งเป้าไว้ว่าขอแค่อยู่รอด

จากที่ผลงานทีม “โคม่า” ถึงขั้นเข้าไอซียู

ปัจจุบันขณะ ชัยนาท กลายเป็น “นักสู้ภูธร” ที่พร้อมท้าตีท้าต่อย ได้ทุกทีม หรือหากพูดเป็นภาษาบ้านๆแบบเข้าใจง่ายคงอารมณ์ประมาณ

“ใครเก๋าเจอกูได้”


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด