:::     :::

Once a Red, always a Red. "Captain" Herrera

วันศุกร์ที่ 05 กรกฎาคม 2562 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
4,368
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
จริงอยู่ที่เด็กสมัยนี้เชียร์แมนยูแล้วไม่มีใครเป็นไอดอลเพราะกากกันหมด แต่ช่วงตกต่ำเช่นนี้เอเรร่านี่แหละคือนักเตะคนเดียวในยุคที่เรารักหมดหัวใจ

บทความนี้คงจะไม่มีข้อมูลอะไรที่ลึกซึ้งจะสำคัญไปกว่าความรู้สึกที่จะกล่าวถึงอดีตนักเตะของเราที่เพิ่งจะถูกสโมสรปล่อยหมดสัญญา และเซ็นสัญญาแบบไร้ค่าตัว เปิดตัวกับทาง Paris Saint-Germain F.C. เรียบร้อยแล้วด้วยค่าเหนื่อยราว 200k สัญญาระยะยาวถึงปี2024 

เขาคนนั้นคือ Ander Herrera มิดฟิลด์ผู้ซึ่งทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมาตลอด5ปีที่ผ่านมา

เส้นทางชีวิตของเด็กหนุ่มผู้ซึ่งมีพื้นเพอดีตจากBilbao ประเทศสเปน เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในแคว้นบาสก์ เริ่มต้นชีวิตนักเตะเยาวชนวัยรุ่นกับ Real Zaragoza ก่อนที่จะย้ายสู่ทีม Athletic Bilbao บ้านเกิด จากนั้นปี2014 เราจึงได้เห็นเขาย้ายมาสู่สีเสื้อของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอย่างที่ทราบกัน

ซึ่งฟอร์มการเล่นของเอเรร่าสมัยอยู่บิลเบานั้นต้องบอกว่า เตะตา และโดดเด่นมากๆ แมตช์นั้นวิ่งไล่กิ๊กส์ ปะทะรูนีย์ เล่นมีเพลย์ที่ยอดเยี่ยมจนทำให้แมวมองของเราสนใจและดึงตัวมาในที่สุดในยุคของอาจารย์หลุยส์ Louis Van Gaal นั่นเอง นั่นคือที่มาของเอเรร่า


ความประทับใจแรกสุดของเอเรร่า ฟอร์มการเล่นของเขาตื่นตาตื่นใจมากในฐานะมิดฟิลด์เชิงรุกที่มีเซนส์บอลสูงมาก และผมเชื่อว่า ตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ เซนส์บอลของเอเรร่ายังคงที่เช่นเคย เพียงแค่ว่าระยะหลังๆเขาไม่ได้มีโอกาสรับหน้าที่ทำเกมบุกด้วยตัวเองเท่าใดนัก แต่ภาพติดตาของผมคือ คิลเลอร์พาส ของเอเรร่าในช่วงแรกๆนั่นคือสิ่งที่ผมบอกกับตัวเองว่า "นี่แหละ นักเตะคนนี้คือสิ่งที่แมนยูไนเต็ดต้องการ"

เราขาดมิติการบุกแบบภาคพื้นทวีป คือเล่นบอลพื้น จ่ายเร็ว แทงช่อง ในสไตล์บอลสเปนเช่นนี้ ซึ่งช่วงนั้นก็เป็นยุคเปลี่ยนผ่านเข้ามาสู่แทคติกการเล่นแบบบอลสมัยใหม่ที่เน้นความรวดเร็วและการเพรสซิ่งอย่างหนักหน่วงแล้ว ซึ่งอังเดร เอเรร่า ถือเป็นนักเตะที่สามารถนำเข้าไปสู่ทุกแผนที่เป็นสไตล์นี้ได้เลยไม่ว่าจะรับหรือรุก การเล่นบอลช่องเร็วอย่างชาญฉลาด คือสิ่งที่เอเรร่ามี และใครที่มีนักเตะเช่นนี้อยู่ในแผงกองกลาง มันจะทำให้เกมเร็วขึ้น และคู่ต่อสู้จับทางได้ยากขึ้นจริงๆ อันจะส่งผลไปถึงเกมรุกแดนหน้าที่จะมีโอกาสบุกอยู่ตลอดเวลา

สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจในตัวนักเตะคนนี้ มีอยู่หลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ความอดทน" ที่เขามีให้กับสโมสรที่เขารัก ซึ่งเอเรร่า แสดงออกให้เห็นอยู่เสมอว่า เขานั้นรักแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดหมดหัวใจเพียงใด .. เอเรร่าที่ถูกซื้อตัวมา ถูกมองจากผู้จัดการทีมในฐานะฟันเฟืองนักเตะมิดฟิลด์คนหนึ่ง แต่ไม่ใช่นักเตะตัวหลักของทีมมาโดยตลอด ตั้งแต่ยุคของหลุยส์ฟานกัล ไล่มาจนถึงสมัยของน้ามูก็ตามที  เอเรร่าไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงแบบถาวรได้แบบยาวๆ แต่บ่อยครั้งที่เขา "ไม่ได้ลงเล่น" และทำได้แค่เชียร์เพื่อนอยู่ในม้านั่งสำรองข้างสนามเท่านั้นในยุคก่อน ทั้งยุคจารย์หลุยส์ และน้ามูก็ตามที

แต่สิ่งที่เอเรร่าทำนั้น ไม่เคยมีอาการงอแง (ทั้งที่จริงๆแล้วเรื่องการโดนดรอปของนักฟุตบอลนี่เรื่องใหญ่นะ ถ้าเป็นผมผมก็อาจจะอดทนอยู่ที่นี่ไม่ไหวเหมือนกัน แล้วไปหาที่อื่นที่เขาเห็นคุณค่าและส่งเราลงตัวจริงดีกว่า)  เอเรร่าไม่บ่น ไม่ด่า ไม่เรียกร้องอะไรออกสื่อ หรือสร้างความวุ่นวายให้ผู้จัดการทีมเลยแม้แต่ครั้งเดียว  เขายังคงทำงานต่อไปเรื่อยๆอย่างหนัก จนกระทั่งโอกาสมาถึงเขา และทุกครั้งที่เอเรร่าได้โอกาสลงสนาม เขาจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่สุดความสามารถทุกครั้ง

เหมือนทุกนัดมันเป็นนัดสุดท้ายในชีวิต ที่พรุ่งนี้จะไม่ได้เตะบอลอีกแล้ว

เรื่องนี้ทำให้ผม "เคารพและยกย่อง" อังเดร เอเรร่ามาก ในแง่ของ"ความเป็นมืออาชีพ"ระดับสูงที่มีความอดทนอย่างมาก มากขนาดที่คิดว่า ถ้าเป็นคนอื่นน่าจะทำเรื่องขอขึ้นtransfer listตั้งแต่หลายปีที่แล้วไปแล้ว แต่เอเรร่าก็ยืนหยัดต่อสู้แย่งตำแหน่ง และเป็นแบ็คอัพฟันเฟืองที่แข็งแรงให้ทีมมาตลอด  นี่คือสิ่งที่น่าเคารพมากที่สุดในตัวนักเตะคนนี้

ส่วนเรื่องอื่นนั้น แน่นอน Passionของเขา และความ"อิน" ความรักในแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ไม่ต้องบอกว่ามันมากขนาดไหนข้อนี้ทุกคนคงรู้กันดีจากนิสัย จากการแสดงออกของเขา  ผมยังจำได้ดีภาพที่เอเรร่าอยู่ม้านั่งสำรอง แล้วเพื่อนยิงได้ ทำประตูได้ ไอ้หมอนี่วิ่งดีใจยิ่งกว่าคิปโชเก้ที่กำลังจะทำลายสถิติโลกกำแพง2ชั่วโมงฟูลมาราธอนในอนาคตเสียอีก บางคนถูกหวยรางวัลที่1ยังไม่ดีใจเท่าเอเรร่าบนม้านั่งสำรองเลยมั้ง! (ฮา) คือไอ้หมอนี่อินมากกกกที่สุดในสามโลก ไม่ว่าจะเป็นคนเตะเอง หรือเชียร์เพื่อนร่วมทีมเตะก็ตาม ผมรู้ได้เลยว่าเขามีpassionกับฟุตบอลและสโมสรเรามากมายขนาดไหน

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของเอเรร่า หรือว่าที่คนไทยชอบแทนชื่อเล่นแกว่าพี่น้อย วงพรู หรือจะเรียกพี่เอ๋ก็ตาม อย่างนึงที่ต้องบอกว่า มันฮา และเป็นภาพจำสุดๆคือ แกเนี่ยเป็นนักเตะประเภทจอมโวยวาย เป็นตัวขี้ฟ้องจารย์ตัวยงคนนึงเลย (ฮา) ภาพจำยังชัดเจน ทุกครั้งที่แกได้ลงสนาม ไม่ว่าจะเสียฟาล์ว หรือไม่ได้ฟาล์ว  แกมักจะรีบทำหน้าคิ้วขมวดเหมือนในรูป แล้วปรี่เข้าไปคุยกับจารย์เชิ้ตดำเสมอ  เวลาไม่ได้ฟาล์ว แกก็ทำหน้านิ่วแล้วรีบไปฟ้องเลยว่า

"โห่ จารย์ ไรอ่ะ ไมไม่ฟ๊าาล์ววววว"

เป็นภาพจำที่แฟนผีเห็นกันจนคุ้นเคยถ้าใครสังเกต   และจะบอกว่า เห็นหน้าอ่อนๆติ๋มๆแบบนี้ โอโห พี่น้อยแกเอาเรื่องอยู่นะ ไอ้ประเภทจ็อบใต้ดิน เทรดของตลาดมืด มือโปรดาร์คเว็บรับทำงานสกปรกทุกรูปแบบ  แกไม่เคยขาด เรียกง่ายๆว่างานประเภทเล่นตุกติก นอกเกม แกมีครบในระดับแพรวพราวเลย แถมกรรมการจับไม่ได้ด้วย (มันดีตรงนี้ ไม่เหมือนสโคลส์ 555) งานตัวโกงทุกประเภทไอ้หมอนี่เล่นได้หมด ไม่ใช่นักเตะประเภทที่ว่าจะเสียเหลี่ยมลูกตุกติกเลย ถึงจะตัวเล็กกว่าชาวบ้าน แต่พี่แกแม่งไม่เคยกลัวใครจริงๆ

ซึ่งเรื่องนี้นั้นสาเหตุที่ต้องกล่าวขึ้นมา เพราะมันเป็นภาพความทรงจำที่เรายังจดจำเขาอยู่ ซึ่งสิ่งที่เขาทำทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วนั้น มันคือสิ่งที่ทำให้เรา "รัก" อังเดร เอเรร่า กันโดยไม่รู้ตัว นั่นเป็นเพราะว่า เขาคือนักเตะหนึ่งเดียวในยุคนี้ที่มี DNA ของ Manchester United ชัดเจนมากที่สุดในระดับที่สัมผัสได้ นั่นก็คือ "การทุ่มเทจิตวิญญาณและทุกๆอย่างลงในสนามเพื่อแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด"

เขาพร้อมที่จะสู้ตายเพื่อปีศาจแดงเสมอ


เอเรร่านั้นคือนักฟุตบอลที่มีระดับความทุ่มเทในทุกๆนัดสูงมาก แม้ตัวจะเล็กแต่ไม่เคยกลัวการเข้าบอล ปะทะ บวกกับคู่ต่อสู้ที่มีขนาดใหญ่กว่า  และเมื่อเขาเสียบอล หรือทีมกำลังเพลี่ยงพล้ำ เอเรร่าไม่เคยถอดใจที่จะหยุดวิ่ง ไม่เคยทำหน้าแบบว่า "กูไม่เอาแล้ว" เหมือนที่เด็กๆในทีมหลายคนทำ  ไม่เคยแสดงท่าทางยอมแพ้ให้พวกเราเห็น

ปรัชญาของแมนยูไนเต็ดคืออะไร? มันคือการทุ่มเทสุดชีวิตและไม่ยอมแพ้จนนาทีสุดท้าย

คุ้นๆไหม.. ใช่ นั่นแหละคือตัวตนของเอเรร่าแบบเต็มๆเลย!


นี่คือความจริงที่น่าพรั่นพรึงว่า หากพวกคุณ และผม หลายๆคนที่เชียร์แมนยูไนเต็ดมานับจะ30ปีอยู่แล้ว และพี่ๆบางท่านมากกว่านั้น เรารักที่แมนยูเป็นแมนยูที่เราคุ้นเคยกันมา นั่นก็คือการไม่ยอมแพ้จนนาทีสุดท้าย การต่อสู้และทุ่มเทสุดชีวิตอย่างบ้าคลั่ง นั่นแหละคือทีมเรา  เพราะเราไม่เคยมีทรงบอลที่สวยงาม ไม่ได้เล่นเหนือกว่าชาวบ้านแบบกดอยู่ฝ่ายเดียวตลอด แม้กระทั่งเจอทีมเล็กๆบางครั้งยังเป็นงานยากเลย (แต่ป๋ามักพาทีมตบเด็กผ่านไปได้เสมอๆ)  เราไม่เคยเทพระดับบาซ่ามาดริดเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่ใกล้เคียง หรือจะมีคลาสที่สูงส่ง ไม่ใช่

แต่แมนยูไนเต็ดที่เรารัก มันคือความทุ่มเท และจิตใจของนักสู้ที่นักเตะที่ใส่ลงไปจนสุด บนผืนสนามหญ้าของสังเวียนโอลด์แทรฟฟอร์ดนั่นเอง


ดังนั้นทุกสิ่งที่กล่าวมาแล้ว ตลอด5ปีที่ผ่านมา เอเรร่าแสดงสิ่งเหล่านี้ให้กับแฟนบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้เห็นมาตลอด จนกระทั่งพวกเราแฟนผีหลายๆท่านเองก็ยังอยากจะให้เขานั้นได้เป็น "กัปตันทีม" เสียด้วยซ้ำมาหลายปีแล้ว ผมเชื่อว่าเอเรร่ามีภาะผู้นำมากพอที่จะทำตรงนี้ได้ มันอาจจะไม่ได้ดูโดดเด่นขนาดคนแบบรอยคีน หรือเนื่องจากตัวเขาเองก็อาจจะยังแย่งตำแหน่งตัวจริงถาวรมาไม่ได้ และไม่ได้มีอิทธิพลมากนักในห้องแต่งตัวที่คนอื่นที่โดดเด่นและเสียงดังกว่า จึงยังทำให้เขาไม่ได้รับตำแหน่งกัปตัน กับชั่วโมงบินและความเป็นซีเนียร์ในทีมที่อาจจะยังไม่ถึงขั้นนั้น (เพราะมีคนอื่นๆที่อยู่มานานกว่ามาก ตามระบบอาวุโสในทีม มาก่อนเป็นพี่มาหลังเป็นน้อง ซึ่งเป็นวัฒนธรรมของทีมเรา)

ใช่แล้ว สิ่งเหล่านั้นที่เขียนมาเป็นเหตุผลว่า ทำไมเอเรร่าถึงยังไม่ได้เป็นกัปตันใหญ่  แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะเจ้าตัวเองก็ไม่ได้ซีเรียสด้วย เราแฟนบอลซีเรียสที่ว่า อยากจะให้เขาได้ลงสนาม หรืออยากจะให้เขาอยู่กับทีมมากกว่า และสิ่งที่ผมเชื่อว่า ทำไมแฟนๆถึงอยากมอบตำแหน่งกัปตันให้ นั่นก็เป็นเพราะว่า

"นักฟุตบอลชุดปัจจุบันไม่มีคนไหนเลยที่ทุ่มเทเพื่อแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมากเท่ากับเขาในสนาม"


หากมันจะช่วยได้ ถ้าเอเรร่าได้รับตำแหน่งกัปตันในเวลาที่ผ่านมา มันอาจจะเป็นตัวกระตุ้นให้กับเพื่อนๆได้มีแรงฮึด และสู้กับฝั่งตรงข้ามได้มากกว่านี้ เพราะปัญหาที่ผ่านมาๆนั้น บอกเลยว่า "ทีมเราขาดผู้นำ" มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว ผู้นำที่แท้จริงที่จะฮึดสู้ให้กับเพื่อนๆได้เห็น และลุกขึ้นมาไม่ว่าจะโดนเตะร่วงลงไปกองกี่ครั้ง มันก็จะยืนขึ้นมาด้วยแววตาที่ไม่ยอมแพ้เสมอ นั่นแหละทีมเราขาดลูกพี่ใหญ่แบบนั้น  คนที่จะไม่ยอมใครไม่ว่าจะด้วยอะไรก็แล้วแต่

เราถึงได้อยากให้เอเรร่าเป็นกัปตันทีม .. ซึ่งมันก็ไม่มีทางเป็นจริงแล้ว

สิ่งที่เกิดขึ้นมานั้น เรื่องราวระหว่างเอเรร่า และสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด หลายคนอาจจะไม่เข้าใจ บางคนยังด่าเอเรร่าว่าหน้าเงินด้วยซ้ำเวลาที่ผมพบตามเพจต่างๆที่ผู้คนมักจะพิมพ์อะไรออกมาก็ได้ตามใจคิดโดยไม่ไตร่ตรองนั้น เรารู้สึกเศร้าใจมากที่นักเตะคนหนึ่ง ที่ไม่เคยปริปากบ่น และอดทนทำเพื่อทีมอย่างเป็นprofessionalในหน้าที่ตัวเองมาตลอด กลับถูกด่าเสียๆหายๆ ทั้งๆที่เรายังไม่รู้ความจริงเลยด้วยซ้ำว่า "ทำไม" การต่อสัญญามันจึงไม่ประสบผลสำเร็จ

"ตอนนี้ความจริงเปิดเผยออกมาแล้ว"

ถ้าเอเรร่าหน้าเงินจริง และเรียกร้องเงินสูงๆ ไม่ยอมต่อสัญญากับเราตามข่าวที่มากมายระดับ 350,000ปอนด์ต่อสัปดาห์ จนทำให้หลายๆคนคลางแคลงใจ และด่าเอเรร่ากันไปเรียบร้อยแล้วนั้น วันนี้มันชัดเจนมากแล้ว ผมเขียนแล้วแม่งโคตรอยากจะร้องไห้ เพราะข่าวมันโคตรจะไม่เมคเซนส์เลย เอเรร่าเนี่ยนะที่จะกล้าเรียกสัญญาระดับเดียวกับป็อกบาอเล็กซิส? ตลกมากข่าวนี้ แล้วแฟนบอลบางส่วนก็ดันเชื่อซะด้วย

ค่าเหนื่อยเก่าของเอเรร่าอยู่ที่เท่าไหร่รู้ไหมครับ > 80,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

คำถามคือ ไอ้ข่าวบ้าที่เล่นเรื่อง350kมันมาจากไหน จนทำให้แฟนบอลจำนวนมากก่นด่าเขาทั้งๆที่ไม่รู้เรื่องราวเช่นนี้?


ถ้าหากเอเรร่าหน้าเงินจริง เขาควรจะไปดีลกับปารีส และได้เงินในระดับที่สูงกว่านี้อีก แต่นี่คือสัญญา5ปีถึง2024 และได้ค่าเหนื่อยเพียงแค่ 200k ซึ่งค่าเหนื่อยก็เท่ากับแรชฟอร์ดที่เพิ่งต่อสัญญาไปกับทีมเรา และกับนักเตะแนวหน้าของสโมสร มันอยู่ที่เรท 300k++ ทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น เด อเล็กซิส ป็อกบา เป็นต้น ดังนั้นเรท200k มันไม่ได้มากไปเลยหากเอเรร่าต้องการเรียกค่าเหนื่อยเท่านี้ และมันก็คงจะเป็นเช่นนั้นจริงๆเมื่อทางปารีสก็เปิดเผยตัวเลขมาที่จำนวนที่เท่ากัน

นั่นแปลว่า การดีลระหว่างเอเรร่าและแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ไม่ใช่สามแสนห้าตามข่าวแน่นอน เพราะปารีสพร้อมมอบค่าเหนื่อยเท่าที่เอเรร่าเรียกร้องแมนยูเอาไว้ที่200kต่อสัปดาห์นั่นเอง

200k แมนยูให้เอเรร่าไม่ได้  แต่กลับมอบเงินจำนวนเดียวกันนี้หรือมากกว่านี้ให้นักเตะที่ผลงานห่วยแตกและไร้ความทุ่มเทแทนซะอย่างนั้น

และหากการที่เอเรร่าจะอยากได้ค่าเหนื่อยมากกว่าเดิมที่น้อยยิ่งกว่าจิ๋มมดที่ 80k นั้น ไม่ใช่เรื่องที่ "น่าเกลียด" เลยด้วยซ้ำ หากว่าเหล่าคนที่ด่าๆเอเรร่าทั้งหลายจะคิดกันได้ ผมมองว่านี่เป็นเรื่องธรรมดาของ "อาชีพ" นักฟุตบอล ที่ไม่ว่าใครๆอาชีพอื่นๆ เราๆท่านๆก็ต้องการที่จะได้รับค่าจ้างค่าเหนื่อยตอบแทนดีๆเวลาทำงาน ที่มัน "ยอมรับได้" แต่เมื่อเทียบกับนักเตะอื่นๆในทีมเราแล้ว และรวมถึงทีมอื่นๆด้วย เรทแค่แปดหมื่นนี่ถือว่าน้อยแล้วในยุคนี้ มันสามารถได้รับมากกว่านี้  และอายุงานของ"อาชีพนักฟุตบอล" มันแสนสั้น เป็นอาชีพที่โคตรจะอยู่บนความเสี่ยงเลย เสี่ยงบาดเจ็บ เสี่ยงไม่ได้ลงเล่น มากมาย และถึงแค่35-40ไม่เกินนี้ ทุกคนก็ต้องเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพระดับสูงกันหมดแล้ว

เป็นภาพที่โคตรบาดตาบาดใจแฟนผีที่สุดแล้ว

การที่เอเรร่า จะอยากย้ายไปสู่ในที่ที่เขา "มองเห็นคุณค่า"  และมอบค่าเหนื่อยให้กับชีวิตเขาได้ไปใช้ดูแลครอบครัวนั้น ผมถือว่าเป็นสิ่งที่ "ยอมรับได้" อย่างมาก และตอนนี้โคตรจะดีใจที่ ปารีสเห็นคุณค่าของเอเรร่า และมอบเงินก้อนใหญ่ในสัญญาที่ดีที่สุดในชีวิตนักเตะของเอเรร่า เป็นของรางวัลตอบแทนความภักดี ที่ผมเชื่อตามคำพูดเขาแน่ๆว่า เขาจะมอบความเป็นมืออาชีพ จะมอบpassionความหลงใหลทุ่มเทให้สโมสร และทุกสิ่งทุกอย่างให้กับปารีสอย่างแน่นอน

แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไม่ได้มองเห็นคุณค่าของเอเรร่าเลยแม้แต่นิดเดียว กับค่าเหนื่อยและสัญญาระยะยาวเพียงแค่ประมาณ200kต่อสัปดาห์กับมิดฟิลด์คนสำคัญของสโมสร  เพื่อตอบแทนที่เขารับใช้และอยู่กับสโมสรมาถึงครึ่งทศวรรษแล้ว ก็ไม่ใช่น้อยๆ เงินแค่นี้เขาไม่ต่อสัญญาและยอมเสียนักเตะไปฟรีๆ แต่กับดาวรุ่งของทีม นักเตะคนอื่นๆที่ผลงานย่ำแย่กว่าเอเรร่ามาก ความทุ่มเทก็ไม่มี ใจก็ไม่สู้ จำนวนหลายๆคนเลยในทีมที่ไร้ศักดิ์ศรีของการเป็นนักเตะแมนยูไนเต็ด และ"ไม่คู่ควรกับการได้ใส่เสื้อปีศาจแดง" บางคนกลับได้เงินมากกว่า200k ได้มากกว่าเอเรร่าหลายเท่า


เรื่องนี้น่าจะชัดเจนแล้วว่า คำว่าหน้าเงิน ไม่ได้ใกล้เคียงกับเอเรร่าเลย  เขาไม่ได้เล่นตัว แต่เป็นทางบอร์ดบริหารของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดต่างหากที่ไม่เห็นคุณค่าเขา คุณไม่มีสิทธิ์แม้แต่นิดเดียวที่จะด่าเอเรร่าเช่นนั้นได้ ในมิติของทั้งความจงรักภักดี ความทุ่มเทให้แมนยู  และในมิติของ "อาชีพนักฟุตบอลก็ตาม"

ขอขอบคุณที่PSG มองเห็นถึงคุณค่าของนักเตะคนนี้ และมอบเงินที่ดีมากๆให้กับอาชีพของเอเรร่าที่น่าจะเป็นการต่อสัญญาใหญ่ครั้งสุดท้ายที่ดีที่สุดแล้ว ผมเชื่อว่าปารีสจะได้อะไรจากพี่น้อยเพียบแน่นอน กับวัยเพียงแค่29 กำลังอยู่ในช่วงพีคของตำแหน่งมิดฟิลด์เลด้วยซ้ำ  ทั้งพลังร่างกาย ประสบการณ์ ความเก๋าเกม ทางบอล ทุกอย่างแมนยูไนเต็ดปั้นให้เอเรร่าดีกว่าสมัยปี2014มาก เรียกว่าครบเครื่องเลย แต่สุดท้ายก็ปล่อยตัวดีๆเสียฟรีไปแบบไม่ได้อะไรกลับมา..

นี่แหละคือสิ่งที่ทำให้ผมเกลียดบอร์ดบริหารมากที่สุด ที่ไร้ทั้งความชาญฉลาดในการทำธุรกิจ ซึ่งมันล้มเหลวมากๆ และยังไร้ซึ่ง"หัวใจ" ในการที่จะรับรู้ว่า นักเตะคนไหนควรค่าแก่การต่อสัญญา และเก็บเขาไว้  แต่ไอ้พวกที่ไม่คู่ควรกับแมนยูไนเต็ด กลับโอ๋มันซะยิ่งกว่าอะไรดี..

นับตั้งแต่การสูญเสียขวัญใจของพวกเราคนก่อนๆมาจำนวนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเบ็คแฮม รอยคีน รุด โรนัลโด้ รูนีย์ ทุกครั้งก็เสียใจและใจหายมากๆ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างมันล้วนแล้วแต่มีเหตุผลที่เข้าใจ และรับได้ ไม่ว่าจะเป็นเพราะการบริหารที่มั่นคงของป๋า หรือเหตุผลทางด้านความใฝ่ฝันของตัวนักเตะ / เหตุผลทางด้านการใช้งาน ประสิทธิภาพการเล่นที่หมดลงไป  แต่การเสียอังเดร เอเรร่า คือครั้งที่ผมรู้สึก"เจ็บปวดที่สุด" ตั้งแต่เชียร์บอลมา 

มันเป็นการสูญเสียแบบที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น

ไอ้การเสียฟรีไม่เท่าไหร่ แต่การเสียไปด้วยเหตุผลที่เพราะว่าสโมสรไม่เห็นคุณค่า มันโคตรเสียใจเลย

ทั้งๆที่นี่คือว่าที่กัปตันที่เราหวังจะพึ่งพาในอนาคต

ทั้งๆที่นี่คือนักเตะที่รักแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมากที่สุดคนหนึ่งตั้งแต่เคยเห็นมา

ทั้งๆที่นี่คือนักเตะที่ฝีเท้าเยี่ยม เซนส์บอลสูง อ่านเกมโคตรฉลาดและสร้างประสิทธิภาพให้แดนกลางของทีมอย่างดีเยี่ยม


จนถึงตอนนี้มันเป็นเหมือนเส้นขนานไปแล้ว สายน้ำที่ไม่ไหลย้อนกลับ และเส้นทางของเอเรร่ากับแมนยูไนเต็ดมันไม่สามารถกลับมาบรรจบกันได้อีกแล้วเพราะเขาได้เซ็นสัญญายาวกับปารีสไปเป็นที่เรียบร้อย และถึงตอนนั้นเมื่อสัญญาหมดก็เข้าสู่ช่วงใกล้แขวนสตั๊ดพอดี สิ่งที่เหลือก็จะมีเพียงแค่ภาพจำเก่าๆ ความทรงจำที่เอเร่า เคยใส่เครื่องแบบอสูรแดงอย่างทรงเกียรติที่สุดคนนึง แล้วลงไปต่อสู้ในสนามอย่างสมศักดิ์ความเป็นนักเตะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอย่างที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา

ถ้าเด็กๆยุค90sอย่างพวกผม ที่เคยรักและบ้าคลั่งแมนยูไนเต็ด ซึ่งเคยมีนักเตะอย่าง คันโตน่า รอยคีน พอลสโคลส์ รูนีย์ สตัม วิดิช เฟอร์ดินานด์ ชไมเคิล ฯลฯ เป็นไอดอลกันมาแล้ว  นักเตะคนเดียวในยุคนี้ที่สามารถทำให้ผมรักได้เท่ากับตำนานที่ผ่านมาอันเป็นนักเตะที่ทรงเกียรติของสโมสรเราทั้งสิ้นนั้น

คนเดียวในยุคนี้ที่ทำให้ผมรักได้เช่นยุคก่อนนั้น มีเพียงแค่ อังเดร เอเรร่า เท่านั้นจริงๆ

ต่อจากนี้ภาพจำของเหล่าแก๊งค์สเปนที่นำโดย เดเคอา มาต้า เอเร่า สามพี่น้องเลือดกระทิงดุเหล่านี้ (รวมถึงโรโฮด้วยที่สนิทกับแก๊งค์นี้ สังเกตให้ดีๆหลายๆภาพ โรโฮไม่ได้เข้าไปเสือกถ่ายรูปด้วยนะ แต่พวกเขา4คนสนิทกันจริงๆ) คงจะไม่ได้เห็นภาพนั้นที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอีกต่อไปแล้ว ทุกอย่างก็เหลือเพียงแค่ความทรงจำว่าครั้งนึง เราเคยมีนักเตะคนนี้ ชื่อนี้ กับหมายเลขที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเขาอยู่

หมายเลข21 จากฟอร์ลัน มาสู่ราฟาเอล ตกทอดมาถึงมือเอเรร่า และล่าสุดเบอร์แห่งความทรงจำนี้ตกทอดไปถึงน้องใหม่อย่าง แดเนียล เจมส์ แล้ว ซึ่งหลังจากนี้ เวลาที่เราเห็นหมายเลข21 ใครจะคิดยังไงไม่รู้นะ แต่เอเรร่าสร้างภาพจำของ เบอร์21 แมนยูไนเต็ดให้ผมแล้ว  มันคือภาพของมิดฟิลด์ตัวเล็กๆคนนึง ที่ใจแม่งโคตรสู้ ไม่เคยกลัวใครไม่ว่าจะนักเตะดังระดับไหน หรือเจอการเข้าปะทะรุนแรงเพียงใด  เขาไม่เคยยอมย่อท้อ  และไม่เคยถอดใจจนถึงวินาทีสุดท้ายทุกครั้ง

ช็อตจำของเอเรร่า 38วินาทีในตำนาน

ภาพจำของเบอร์21 คือภาพของนักสู้ที่ทุ่มเทอย่างไม่หยุดหย่อน วิ่งจนแรงหมดก็ยังไม่หยุด

และขอขอบคุณดีลของปารีส ที่มอบเงินจำนวนมากที่คู่ควร ให้กับอาชีพนักฟุตบอลของเอเรร่า และทำให้พวกเราได้ "รู้ความจริง" ของเบื้องหลังการต่อสัญญาเสียทีว่า สิ่งที่สงสัยตลอดมา ทำไมเอเรร่าถึงไม่ได้รับการต่อสัญญากับสโมสรเสียที

ทุกอย่างชัดเจนแล้วว่า เอเรร่าไม่ได้หน้าเงิน แต่บอร์ดแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไม่เห็นคุณค่าของเขามากกว่า

บทความสุดท้ายนี้จึงเป็นเหมือนความทรงจำทั้งหมดที่มีกับเขา เขียนด้วยความเสียใจและเจ็บปวดที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตการดูบอลและเชียร์แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมาตลอด และเขียนด้วยความรักที่ยิ่งใหญ่ที่มอบให้แด่นักเตะที่จะเป็นนักเตะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในดวงใจตลอดกาลอีกคนหนึ่ง ไม่ต่างกับก็องโต้ ชไมเคิล รอยคีน เบ็คแฮม รูนีย์ ฯลฯ

ครั้งหนึ่งที่เขาเคยมีเลือดของปีศาจแดงอยู่ในตัวแล้วนั้น 

ต่อย้ายไปเล่นให้ทีมอื่นที่ไหนก็ตาม เขาก็จะยังเป็น"ปีศาจแดง"ตลอดไปในสายตาของผม

Once a Red, always a Red

AH21  "Captain" Ander Herrera

-ศาลาผี-


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด