:::     :::

แมกไกวร์ในสายตาป๋า และเกมล่าชีวิตของโอเล่

วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม 2562 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
4,610
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เซอร์อเล็กซ์คือหนึ่งในคนที่เห็นแววของแมกไกวร์มาตั้งแต่เป็นดาวรุ่ง และเกมล่าชีวิตของโซลชาที่หากดีลไม่ได้ตามเงื่อนไขนี้ เขาก็น่าจะไม่รอดเป็นแน่แท้

ช่วงนี้ถือว่าเข้มข้นและบีบคั้นแฟนผีอย่างถึงที่สุดจริงๆ เมื่อตอนนี้ดีลอีกหนึ่งตำนาน "48ชั่วโมง" ได้ถือกำเนิดขึ้นอีกหนึ่งราย นั่นก็คือมหากาพย์การไล่ล่าตัว แฮรี่ แมกไกวร์ กองหลังทีมชาติอังกฤษของเลสเตอร์ ที่แมนยูไนเต็ดมีข่าวไล่ล่าตัวมาอย่างนานแสนนาน ข่าวก็จ่อแล้ว จ่ออีก ขอขึ้นบัญชีย้ายก็แล้ว Breaking Newsก็แล้ว แมนยูไนเต็ดเพิ่มตังค์ล่อในดีลก็แล้ว ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเสียที

ส่วนหนึ่งนั้นอย่างที่ทราบกัน เลสเตอร์เองไม่มีความจำเป็นที่จะต้องขายนักเตะมากนัก และยังถือแต้มต่อในตัวของนักเตะอยู่ ในขณะที่ตามข่าวมันก็ชัดเจนว่า แมกไกวร์เองนั้นอยากมาจอยกับทางแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอยู่แล้ว ซึ่งคู่แข่งแย่งตัวอย่างซิตี้ ก็ไม่ได้มีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่จะต้องเสริมกองหลังมากเท่าทางแมนยู ดังนั้นตอนนี้จึงเหลือแต่การดึงเช็งกันระหว่าง เลสเตอร์ กับ แมนยูไนเต็ดล้วนๆว่า จะตกลงกันที่ราคาค่าตัวเท่าไหร่

ล่าสุดที่เห็นกันก็คือ 60m + add ons อาจจะยังไม่ดีพอสำหรับการทำให้เลสเตอร์นั้นคายแมกไกวร์มาได้ ดังนั้นจึงต้องลุ้นกันต่อไปสำหรับแฟนผี ในดีลของแมกไกวร์ว่า พณฯ ท่าน เอ็ด วู้ดเวิร์ด จะจัดมาให้เราได้หรือไม่ ซึ่งด่าไปเยอะจนขี้เกียจจะด่าแล้วว่าทำงานกันล่าช้าห่วยแตก และเหมือนเคลียร์งานกันทีละดีลๆจนตอนนี้ใกล้จะเปิดฤดูกาลมาเรื่อยๆแล้วยังไม่ได้ตัว .. เราก็ได้แต่หวังว่า ดีลนี้จะสำเร็จในเร็ววัน

อย่างน้อยที่สุด มีข่าว48ชั่วโมงให้กูลุ้นหน่อยก็ดี!

ไม่อยากเป็นไกตัน2นะโว้ยยยยย

ในเรื่องราวของแมกไกวร์นั้น เมื่อพูดถึงเช่นนี้แล้ว ก็หวนให้มีเรื่องราวๆหนึ่ง ชวนให้กล่าวถึง นั่นก็คือหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า จริงๆแล้ว แฮรี่ แมกไกวร์นั้น ถือเป็นแข้งดาวรุ่งที่มีแววมานานแล้ว และเรื่องนี้ก็มีการเปิดเผยว่า "ป๋า"ของเราชาวแฟนผี คึืออีกหนึ่งคนที่เห็นฟอร์มและแววของนักเตะผู้นี้มาเป็นเวลานานตั้งแต่สมัยดาวรุ่งแล้ว

Harry Maguire ถือเป็นดีลใหญ่ที่สุดของแมนยูไนเต็ดในฤดูกาลนี้ แต่ว่าป๋านั้นรู้เรื่องนักเตะคนนี้ดีมาก่อนอยู่แล้ว เพราะการได้เห็นคุณภาพของนักเตะคนนี้ตั้งแต่อายุ17ปีในบอลถ้วย FA Youth Cup ในปี 2011 หากใครจะจำไทม์ไลน์ช่วงนั้นได้ดี ก็ให้นึกภาพของปีที่ ชิชาริโต้ย้ายมาใหม่ๆด้วยความรู้สึกว่า ใครวะ? ก่อนที่จะพาทีมเถลิงบัลลังก์แชมป์ลีกกันอย่างฟินๆในปีนั้นนั่นล่ะ ทางแมกไกวร์นั้นโชว์ฟอร์มเตะตาบรมครูแห่งวงการผู้จัดการทีมโลกรายนี้

จากนักข่าวของยูไนเต็ด Andy Mitten รายงานว่า เฟอร์กี้ได้พูดคุยกับแมกไกวร์หลังจากวันที่เชฟฟิลด์ยูไนเต็ดของเขานั้นพ่ายให้กับเด็กๆของเฟอร์กี้ ซึ่งตอนนั้นก็มี ราเวล มอริสัน / ปอล ป็อกบา และ เจสซี่ ลินการ์ด ในชุดนั้นซึ่งโชว์ศักยภาพไล่อัดดาบคู่สกอร์รวม 6 ประตูต่อ 3 ในสองเลกของการแข่งขันนั่นเอง

ภาพในตำนานภาพนี้นั่นแหละ แชมป์FA Youth Cupปี2011 ที่ผู้พ่ายแพ้รอบชิงคือ Harry Maguire ในวัย17ปี!!!

ซึ่งนักเตะผู้นี้ไม่หลุดรอดสายตาเฟอร์กี้ไปได้ ถึงจะแพ้แต่เขาก็เป็นที่ถูกอกถูกใจของบรมครูชาวสก็อตผู้นี้อย่างยิ่ง ..แมกไกวร์ถูกสั่งให้อยู่ที่โรงพยาบาลในหลายวันต่อมาเพื่อเช็คอาการบาดเจ็บ ในระหว่างนั้นเขาได้พูดคุยกันส่วนตัวกับเซอร์อเล็กซ์ และป๋าก็บอกให้เขาตั้งหน้าตั้งตาทำงานหนักต่อไปเรื่อยๆ ไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น (getting his head down and working hard) และถ้าเขาทำได้ เขาจะได้ก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับแนวหน้าอย่างแน่นอน ..

คำพูดนี้ได้ช่วยจุดประกายให้กับนักเตะที่กำลังต้องการแรงใจเป็นอย่างยิ่ง

จิตวิทยาของป๋ายังคงทำงานด้วยลูปอนันต์ ส่งผลมาจนถึงดีลปัจจุบันนี้ ก็ยังมีส่วนเล็กๆจากป๋า

ดังนั้นจากจุดนี้ในฐานะแฟนบอล แฟนผี เราจะเห็นว่า แมกไกวร์มีสายสัมพันธ์ทางใจเล็กๆกับบุคลากรของสโมสรเราเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งข่าวที่แกชื่นชอบทางริโอ เฟอร์ดินานด์ หรือ วิดิชอยู่แล้วเป็นทุนเดิม และอยากเจริญรอยตามด้วยยิ่งสำคัญ (กับริโอนี่ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมเขาเป็นไอดอลนักบอลอังกฤษรุ่นหลังโดยเฉพาะพวกกองหลังด้วยกันอย่างแมกไกวร์ )

การอยากอัพเกรดตัวเองสู่สโมสรที่ยิ่งใหญ่ในอาชีพนักฟุตบอล ก็ถือเป็นส่วนสำคัญและความฝันของแมกไกวร์และนักบอลทุกคน ดังนั้นเมื่อทุกอย่างมันลงตัว และยูไนเต็ดเองก็สนใจตัวเขาด้วย ดังนั้นดีลนี้จึงเป็นดีลสำคัญที่น่าจับตามองมากๆ และตัวนักเตะเองก็มีใจอยากจะย้ายเต็มที่จากเรื่องราวนี้ที่เล่าให้ฟัง ซึ่งนับจากวันที่ป๋าได้พูดคุยกับแมกไกวร์ด้วยคำพูดนั้นแล้ว สุดท้าย8ปีต่อมา มันก็เป็นจริงในที่สุดเมื่อ แมนยูไนเต็ด ต้องการกระชากตัวเขามาในฐานะดีลใหญ่ที่สุดของซัมเมอร์นี้

แม้ซิตี้จะยังคงสนใจเขาด้วยเช่นกัน แต่ทางเลสเตอร์ต้องการ80ล้าน และซิตี้ไม่สู้ ในขณะที่แมนยูไนเต็ดยังต่อรองราคาให้ใกล้เคียงเรทนั้นอยู่ ถึงแม้ว่านักเตะทีมชาติอังกฤษผู้นี้จะได้รับโอกาสในการเลือกระหว่าง "การจะไปอยู่กับทีมแชมป์" (ย้ายไปซิตี้) หรือว่า การจะมารียูเนี่ยนกับอดีตบอสเก่าที่ฮัลล์อย่าง "Mike Phelan" นั้น ถ้าตัวแมกไกวร์เห็นว่า การพูดคุยกับป๋าในครั้งนั้นถือเป็นจุดหักเหใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในอาชีพเขาแล้วละก็ เขาก็น่าจะมีโอกาสที่จะเลือกมาตอบแทนคำพูดครั้งนั้นที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดแน่นอน และนี่คือ สายสัมพันธ์ระหว่าง แฮรี่ แมกไกวร์ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และการมีใจกับทางฝั่งยูไนเต็ด

ตัวนี้ดี เอามันมาให้ได้ ถ้าไม่ได้ตัวมา เอาเท้าไปลูบหน้าเอ็ดเลย

ซึ่งจากเรื่องราวข้างต้นนี้ของแมกไกวร์นั้น โยงใยไปสู่เรื่องราวสำคัญถึง "ชะตาชีวิตของโอเล่ กุนนาร์ โซลชา" ในการกุมบังเหียนม้าพยศที่มีชื่อว่าแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดตัวนี้อีกต่อหนึ่งด้วย เมื่อดีลของ แฮรี่ แมกไกวร์นั้น ถือเป็นดีลต่อลมหายใจของโอเล่จริงๆ ที่ถ้าหากว่า เขาไม่ได้นักเตะอย่างแมกไกวร์มาแล้วละก็ เส้นทางข้างหน้าในการคุมทีมของโอเล่จะดูมืดมนลงไปทันที หากยังต้องใช้กองหลังตัวเก่าๆที่มีอยู่ ซึ่งหาตัวที่ฟอร์มมั่นคงยากมาก แต่ละตัวคือไม่สามารถไว้ใจได้อย่างสนิทใจเลย ทั้งๆที่คุณสมบัติจริงๆของคนเล่นกองหลัง ที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่ความดุดัน ป้องกันเก่ง โหม่งดี ฯลฯ แต่อย่างใด.. เพราะไอ้สิ่งเหล่านั้น นักเตะอย่าง ไบญี่ โจนส์ สมอลลิ่ง มันก็มีหมดแหละ เก่งกันคนละอย่าง

แต่ที่สำคัญสำหรับกองหลัง มันคือ "ความแน่นอนในการเล่นที่ไว้ใจได้" ต่างหากที่สำคัญ


ความคงเส้นคงวาที่ว่านั้น เราไม่สามารถหาได้จาก คริส สมอลลิ่ง ที่ต้องมานั่งลุ้นทุกนัดว่า ร่างพี่ไมค์จะมาหรือไม่มา หรือจะกลายเป็นไอ้คิงสมอลXXXเหมือนที่เคย / ฟิล โจนส์ และ เอริค ไบญี่ ที่ไม่รู้ว่า วันดีคืนดีอยู่ดีๆพี่จะเล่นเสี่ยงๆ เข้าหนักๆ แล้วก็พากันเจ็บยาวไปตอนไหนก็ได้ทั้งนั้น  แถมลูกโฉ่งฉ่างของ ไบญี่ และ โรโฮ ที่ก็ไม่รู้ว่าจะต้องไปเกณฑ์ทหารเมื่อไหร่ (ใบแดง)

กล่าวคือ นักเตะพวกนี้ไม่สามารถไว้ใจให้ยืนคุมแผงหลังได้เลย

อย่างที่เขียนบ่อยๆ คนที่มีฟอร์มการเล่นไว้ใจได้ และมีความคงเส้นคงวามากที่สุดในแผงหลัง มีเพียงแค่ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่ค่อยๆฉายแววความเป็นผู้นำด้านการสั่งการแผงหลังากขึ้นเรื่อยๆ  แต่การจะมีเขาคนเดียวยืนเป็นตัวหลัก ในขณะที่เพื่อนพร้อมก่อความฉิบXายตลอดเวลานั้น จะส่งผลให้ลินเดอเลิฟ มีโอกาสโดนลากออกทะเลไปอีกรายด้วย (ฮา) ดังนั้น สิ่งสำคัญก็คือ การจะได้กองหลังตัวหลักอีกตัว มายืนคู่กับลินเดอเลิฟแบบยาวๆ และช่วยประคองทีมไว้ให้ได้ หากมีใครเจ็บไป เราจะได้ควบคุมเกมรับอยู่

ดีลของแมกไกวร์ซึ่งเป็นนักเตะที่ฟอร์มคงที่และไว้ใจได้ จึงถือเป็นดีลสำคัญ ที่แมนยูไนเต็ด ต้องซื้อมาให้สำเร็จให้จงได้ หากจะให้เบื้องต้น การคุมทีมของโอเล่นั้นอยู่รอดได้ในซีซั่นที่จะถึงนี้

แต่มันยังไม่จบแค่นั้น


หากได้มาเพียงแค่ แมกไกวร์อีกตัว ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับการจะท้าชนกับ "เกมไล่ล่าชีวิต" อันสุดโหดและไร้ปราณีของชีวิตจริง ที่เหล่าเสือสิงห์กระทิงแรดในพรีเมียร์ลีก จะไม่ไว้หน้าคุณ และจะมายัดเยียดความพ่ายแพ้คา "โอลด์แทรฟฟอร์ด รีสอร์ทแอนด์สปา" อย่างแน่นอน ถ้าปีนี้เราได้เพียงแค่ เจมส์ บิสซาก้า และ แมกไกวร์

ผมว่าโอเล่จะอยู่ได้ถึงเพียงแค่ครึ่งซีซั่น แล้วชะตากรรมก็ไม่ต่างกับ โจเซ่ มูรินโญ่เป็นแน่ เพราะแม้เด็กผีจะรักโอเล่เพียงใดก็ตาม แต่ผลงานทีมต้องมาก่อน สโมสรต้องมาก่อนตัวบุคคลอย่างที่เคยเป็นมา

เกมล่าชีวิตของโอเล่ จะยืนหยัดอยู่รอดได้ครบซีซั่น และอาจจะทำให้เรามีความหวังได้ในอนาคตจริงๆจังๆนั้น นอกจากดีลของแมกไกวร์แล้ว อีกดีลที่สำคัญมากระดับคอขาดบาดตาย ก็คือดีลของ "Bruno Fernandes" มิดฟิลด์ตัวรุกผู้มาพร้อมพลังทำลายอันสูงลิบลิ่วผู้นี้  คืออีกดีลที่สำคัญที่จะสามารถมาเป็นอาวุธให้กับโอเล่ เพื่อที่จะอยู่รอดในสังเวียนเลือดได้

โอเล่จะรอดได้นั้น จำเป็นต้องได้ทั้ง แมกไกวร์ และ บรูโน่ มาทั้งสองตัวในซีซั่นนี้


เราไม่ได้คาดหวังว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะสามารถซ่อมแมนยูไนเต็ดที่เป็นคนป่วยเรื้อรังมาหลายปีนั้น ให้หายได้ในปีเดียว จริงๆแล้วผมอยากให้เวลาเขาปั้นเด็กพวกนี้สักสามปี แล้วค่อยมาดูกันด้วยซ้ำว่า ผลจะเป็นยังไง ถ้าสามปีแล้วยังไม่รอดขึ้น ค่อยปลดก็ยังไม่สาย ดังนั้นเรื่องการได้รับโอกาสในการทำทีมต่อเนื่องของโซลชานั้นสำคัญมากๆ และถ้าระหว่างนั้นรีบไล่เขา ผมบอกเลยว่า ยังไงก็พังแน่นอน

อยากให้แฟนผีที่ใจร้อนกันเหลือเกิน ช่วยอดทนและให้เวลากับโซลชาหน่อย เพราะการปั้นทีมเด็กหนุ่มมันต้องใช้เวลาพอควร

การจะเอาให้ โซลชานั้น รอดชีวิตไปถึงจุดนั้นได้ แปลว่าซีซั่นแรกของเขา ต้องผ่านและเอาตัวรอดให้ได้ก่อน ซึ่งการจะรอดได้ในลีกสุดโหดนั้น ผมมองว่า เราจำเป็นต้องได้ กองหลังเก่งมากๆคนนึงเข้ามาประคองแกนหลักของทีมให้ได้ นั่นก็คือ แมกไกวร์นั่นแหละ ตัวนึง  และในตอนนี้ หากใครได้ดูเกมปรีซีซั่น จะเห็นชัดเจนว่า ปัญหาของเราอีกอย่างคือเรื่องของ "กองกลาง" ด้วยที่เริ่มมีปัญหาจากการเสียทั้งเอเรร่า และเฟลไลนี่ไปแบบฟรีๆ  เราจำเป็นต้องมีตัวใหม่ที่เก่งมากๆเข้ามาอุดรอยรั่วของทั้งสองคนนี้ให้ได้ เพื่อช่วยงานป็อกบาที่อาจจะไม่ได้ย้ายทีม

ดังนั้น ดีลของ บรูโน่ แฟร์นันเดส..ชายหนุ่มตำแหน่งมิดฟิลด์ผู้กระซวกไป32ประตูในปีที่ผ่านมา จึงสำคัญกับแมนยูไนเต็ดมากๆไม่ต่างกับดีลแมกไกวร์เลย

ของจริงไม่ต้องอิงนิยาย นอกจากจะทำให้กลางลื่นไหลแล้วยังเพิ่มพลังทำลายให้เกมรุกเราอีกด้วย

เพราะถ้าได้แค่ตัวเดียวนั้น นั่นแปลว่า กองกลางเราจะเละเทะแน่นอนปีนี้ เพราะนักเตะไม่กี่คนในปัจจุบันเอาไม่อยู่แน่นอน เราจำเป็นต้องเสริมศักยภาพตรงนี้ให้มากขึ้น และหาคนมาช่วยงานป็อกบาอีกคนนึง  หากว่าได้ บรูโน่ เข้ามาในแผงกลาง ผมเชื่อมั่นว่า เราจะได้กองกลางที่แข็งแกร่ง เหมือนกับช่วงชนะรวดสิบนัดในปีที่แล้วที่ใช้สามประสาน ป็อก เอเรร่า มาติช อย่างแน่นอนถ้าได้บรูโน่มาในทีม

แต่ถ้าไม่ได้ตัวมา ได้แค่แมกไกวร์ เราก็จะมีเพียง แผงหลังที่เหนียวแน่น เกมรับดี  แต่ว่าเราไม่สามารถครองเกม ควบคุมบอล และตั้งเกมบุกอย่างที่ต้องการ และนั่นมันทำให้ยากที่จะหาชัยชนะให้ทีมได้ เพราะทีมบุกไม่ขึ้น ยิงไม่ได้นั่นแล

หวังว่าพอจะเห็นภาพ

และที่แย่กว่านั้นคือ ณ ปัจจุบัน มันยังไม่ได้ใครเลยสักคนนี่ดิ อาการหนัก!

แอ๊ะแอ๋!!!!

ซึ่งหากเราจำเป็นต้องลุยฤดูกาลใหม่ ด้วยแค่ตัวนักเตะปัจจุบันที่มี โดยไม่ได้ทั้งแมกไกวร์ และ บรูโน่นั้น ขอบอกเลยว่า โซลชาอาจจะอยู่ไม่ถึง10นัดเสียด้วยซ้ำ เพราะลำพังแค่ความยอดเยี่ยมของบิสซาก้า ยังไม่พออุดช่องโหว่ที่มีอยู่เพียบของยูไนเต็ดอย่างแน่นอน

.. เกมล่าชีวิตของโซลชา จึงจำเป็นต้องได้โคตรอาวุธสองอันนี้มาไว้ในมือทั้งคู่สถานเดียวเท่านั้น ทั้งแมกไกวร์และบรูโน่ ถ้าไม่เช่นนั้นเขาก็คงจะเดินตามรอยเลือดของมอยส์กัลมูไปอีกคนอย่างแน่นอน ซึ่งเชื่อว่าแฟนผีไม่อยากเห็นภาพนั้นกับตำนานของทีมผู้กล้าเข้ามารับเผือกร้อนงานนี้ให้กับสโมสร ในช่วงเวลายากลำบากเช่นนี้..

ลีกนี้มันเถื่อน ไม่แน่จริงอยู่ไม่ได้

-ศาลาผี-

source : https://www.thesun.co.uk/sport/football/9448429/harry-maguire-man-utd-ferguson-call-80m-transfer/


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด