:::     :::

"ปีศาจผู้ให้กำเนิดปีศาจ" งานสร้างยอดเยี่ยมไร้ที่สิ้นสุดจากนิคกี้ บัตต์

วันพุธที่ 24 กรกฎาคม 2562 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
6,136
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ชายผู้นี้เปรียบเสมือนStemcellของแมนยูไนเต็ด ผู้สร้างเลือดเนื้อเชื้อไขใหม่ๆให้กับปีศาจแดง ในวันที่สโมสรยังคงรักษาประเพณีปั้นเด็กท้องถิ่นเช่นในอดีต

นานมาแล้วแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไม่เคยขาดการ"ดันเด็กขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่"ของเหล่านักเตะดาวรุ่งเลย ซึ่งนั่นคือหนึ่งในวัฒนธรรมสโมสรที่ฝังรากลึกและเหนียวแน่นมากที่สุด ที่เรามีการฝึกฝนและปั้นเหล่าเด็กนักฟุตบอลท้องถิ่นที่เติบโตมาจากถิ่นนี้โดยตรงหรือที่เรียกว่าแมนคูเนี่ยน อย่างที่ทราบกัน (Mancunians) ซึ่งก็คือชาวเมืองแมนเชสเตอร์นั่นแหละ แต่สิ่งที่อะคาเดมี่ของเราทำนั้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงเด็กท้องถิ่นที่สำคัญ แต่แรงดึงดูดสู่สโมสรที่มีเสน่ห์แห่งนี้ยังสามารถนำเอา เหล่านักเตะดาวรุ่งผู้มีความฝันจะเล่นให้แมนยูไนเต็ด หรือเด็กที่อยากเติบโตเป็นนักฟุตบอลชั้นนำที่มีชื่อเสียง  ไม่ว่าจะจากท้องถิ่นแมนเชสเตอร์เอง หรือว่าเด็กจากที่อื่นๆในอังกฤษ หลายๆคนก็มาสมัครเข้าร่วมอยู่เป็นนักเตะเยาวชนของแมนยูไนเต็ดจำนวนมากมาย

มีจำนวนมากที่ไม่ติดชุดเยาวชนของเรา ไม่น้อยที่พ่อแม่เสียใจ ตัวเด็กนักเตะก็ผิดหวัง แต่นั่นคือความเป็นจริงที่ว่าเราจำเป็นต้องคัดสิ่งที่ดีที่สุดที่มีคุณภาพพอจะไปต่อกับเราได้

ทายซิใครเอ่ย

อะคาเดมี่ของแมนยูไนเต็ด หลายๆครั้งมีการทำงานที่ควบคู่กับเหล่าscoutชั้นเยี่ยมของทีมที่จะไปทำหน้าที่เป็นแมวมองเสาะหา "เพชรเม็ดงามที่ยังไม่ถูกเจียระไน"  ที่มีอยู่เต็มโลกใบนี้ ตามประเทศต่างๆ ตามสโมสรต่างๆมากมายทั้งในยุโรปและทวีปอื่นๆ อะคาเดมี่จะถูกป้อนสมาชิกเพิ่มเข้ามาจากฝีมือแมวมองที่จะไปตามเซ็นสัญญาเหล่า "นักเตะที่มีแวว" ที่สามารถจะพัฒนาต่อยอด หรือเรียกง่ายๆว่า "ปั้น" ให้เก่งในอนาคตได้  เยาวชนทีมเราก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน ใช่ว่าจะปั้นแต่เด็กท้องถิ่นที่มาสมัครอย่างเดียว การไปแต๊บตัวอ่อนมีแววที่ไม่มีใครมองเห็นคุณค่าเอามาปลุกปั้นนั้น ก็คืออีกหนึ่งลักษณะพิเศษของยูไนเต็ดเช่นกัน (ข้อนี้มีสโมสรเรากับ อาร์เซนอลนี่แหละที่แต๊บเด็กมาปั้นต่อเก่งๆ)

ตัวอย่างเคสนี้ง่ายที่สุดก็คือ ปอล ป็อกบา ในสมัยที่เป็นนักเตะเยาวชนของเรา นั่นก็ไม่ใช่เด็กท้องถิ่นเหมือนกัน(แหงล่ะ!) ป็อกบาก็คือหนึ่งในเด็กที่มีแววมากมาตั้งแต่แรกและถูกสโมสรเราดึงตัวเข้ามาในอะคาเดมี่นั่นเอง โดยดึงมาจากLe Harve ในปี2009 จากนั้นก็ลากยาวมาจนได้แชมป์FA Youth Cupปี2011 ก่อนที่จะค่อยย้ายไปยูเว่ในปีถัดมานั่นเอง


นี่คือการเกริ่นนำให้เห็นภาพของอะคาเดมี่สร้างนักเตะดาวรุ่งของทีมเรา ว่ามีพื้นฐานและการทำงานที่มั่นคงและเหนียวแน่นมานาน สร้างเหล่าลูกกรอกคะนองให้กับแมนยูมานับไม่ถ้วนหลายยุคหลายสมัยตั้งแต่ยุคโบราณ และถูกพัฒนามาเรื่อยๆจนกระทั่งมาถึงยุคที่มีศูนย์ฝึกซ้อมเป็นล่ำเป็นสัน และพัฒนาถึงขีดสุดในยุคของเซอร์อเล็กซ์ที่ได้ทำการปั้น The Class of '92 ขึ้นมา

และนั่นแหละ คือจุดกำเนิดที่แท้จริงของชายผู้ให้กำเนิดปีศาจอย่างไม่รู้จุดจบอย่าง Nicky Butt

ภาพนี้โคตรทรงพลัง แต่ละคนนี่ระดับตำนานโลกทั้งนั้น

นิคกี้บัตต์ ถือเป็นโคตรของโคตร "แมนคูเนี่ยน" อีกคนนึง เพราะพี่แกเกิดในถิ่นGorton, Manchesterขนานแท้ หลังจากที่สร้างความยิ่งใหญ่กับแมนยูไนเต็ดมากมายแล้วนั้นก็ย้ายไปอยู่กับนิวคาสเซิลในปี2004 และแขวนสตั๊ดกับSouth Chinaเมื่อปี2011 8ปีที่ผ่านมานี่เอง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นยิ่งใหญ่มากๆ นั่นก็คือบทบาทหน้าที่ของเขาหลังการเล่นฟุตบอล ที่ยังคงเกี่ยวเนื่องกับฟุตบอลอยู่ เพราะหลังจากแขวนสตั๊ดปีเดียว บัตต์ก็กลับมาเป็นโค้ชให้กับทีมสำรองของสโมสรเราแทบจะในทันทีเมื่อปี2012 และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่เขามีส่วนร่วมกับการ "ปั้นเด็กสู่ทีมชุดใหญ่ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด" เรื่อยมาจนกระทั่งถึงบัดนี้

หลังจากเป็นโค้ชอยู่4ปี นิคกี้ บัตต์ได้ถูกโปรโมทให้เป็น "หัวหน้าศูนย์ฝึกอะคาเดมี่" ในปี2016ขึ้นมาแทนที่ของ ไบรอัน แมคแคลร์ ตำนานสโมสรอีกคนนึงที่ออกจากตำแหน่งไป และนั่นคือจุดเริ่มที่บัตต์เริ่มสร้างลูกกรอกคะนองตัวเป้งๆขึ้นมาได้เรื่อยๆ โดยเฉพาะเหล่าเด็กแสบที่เรามีอยู่ในมือ ณ ปัจจุบันนี้ในปี 2019 ส่วนใหญ่ก็เริ่มขึ้นมาจากปี2016 ที่ถูกปั้นโดยฝีมือของบัตต์นั่นเอง


หากให้ลิสต์รายชื่อเด็กในยุคนั้นขึ้นมา คงต้องร้องอ๋อกันทุกคนแล้ว ไม่มีแฟนผีคนไหนงงอีกต่อไป เมื่อในตอนนี้ทุกคนรู้จักชื่อของ อังเคล โกเมส กันหมดแล้วในฐานะมิดฟิลด์ตัวรุกจิ๋วจี๊ดของเรา / แอกเซล ตวนเซเบ้ ที่ตอนนี้กระดูกและชื่อชั้นดีพอที่จะเล่นเป็นตัวจริงให้กับทีมระดับรองๆได้แล้ว ทั้งๆที่อายุยังน้อย และเพิ่งพาวิลล่าเลื่อนชั้นมาหมาดๆ / โจเอล เปเรร่า โกลเด็กหนุ่มอนาคตไกลผู้มีแววอย่างยิ่งยวด และก้านที่ยาวขนาดนี้เชื่อเลยว่า เขาจะโด่งดังในอนาคตแน่ๆเพราะร่างกายเหมาะมาก

จอช แฮรอป (Josh Harrop) ชายหนุ่มที่มีแววอีกคน และระเบิดตาข่ายนัดเดบิวต์ของเจ้าตัว และเป็นนัดเดียวด้วยกับเกมส่งท้ายที่โอลด์แทรฟฟอร์ด และยิงใส่พาเลซ เชื่อว่าหลายคนจะยังจำเขาได้แม้เจ้าตัวจะเลือกย้ายทีมไปหาอนาคตให้ตัวเองทันทีก็ตาม (ย้ายไปเปรสตันนอร์ทเอ็นด์ ตอนนี้เจ็บยาวอยู่) / เดมิทรี่ มิทเชล แบ็คซ้ายและตัวรุกที่มีทรงผมเป็นเห็ด เคยมีลุ้นจะได้ขึ้นมาช่วยชุดใหญ่อยู่พักหนึ่งในยุคก่อนหน้านี้ แต่สุดท้ายแล้วก็ยังไม่ได้ขึ้นมา แต่ถือเป็นตัวที่มีแววดีมากๆตัวนึง

แฮรอปเจ้าของตำนาน เดบิวต์ปุ๊บยิงปั๊บ ย้ายแป๊ป!!

สก็อต แม็คโทมิเนย์ .. คนนี้แน่นอนว่า อยู่กับอะคาเดมี่เรามานานแล้ว และช่วงเวลาที่บัตต์กุมบังเหียนคุมอะคาเดมี่ ก็เป็นเขานี่แหละที่ถูกปั้นและบัตต์ก็ส่งเจ้าหนูนี่มาให้ได้เกิดกับยุคโจเซ่ มูรินโญ่ในที่สุด เมื่อช่วงเวลาเหมาะสม และเด็กมันสุกงอมพอดี กับร่างกายแข็งแกร่ง การจ่ายบอลที่ยอดเยี่ยมที่อะคาเดมี่ของเราสร้างเด็กคนนี้ขึ้นมา นี่คือเลือดเนื้อเชื้อไขจากสเต็มเซลล์ของแมนยูและนิคกี้บัตต์แท้ๆเลย

6คนนี้คือตัวอย่างของเด็กที่เริ่มถูกปั้นและมีชื่อเสียงขึ้นมาตั้งแต่ปี2016ที่บัตต์เป็นหัวหน้าฝ่ายอะคาเดมี่ให้กับทีมเรา ดังนั้นการที่เราสามารถ "สร้างนักเตะของตัวเองได้" เอามาไว้ใช้งานจริงในทีมเรา เป็นเด็กที่พัฒนาเอง มีสายเลือดเด็กท้องถิ่น และมีDNAของสโมสรเราอยู่เต็มตัว  รู้ว่าคาแรคเตอร์ทีมคืออะไร รู้ว่าสโมสรต้องการอะไร และรู้ว่า "แฟนแมนยู" รักทีมขนาดไหน เด็กท้องถิ่นเหล่านี้คือสิ่งที่มีจิตวิญญาณเหล่านี้ทั้งแท่ง ดังนั้นการปั้นเด็กก็ถือว่าเป็นการ "รักษาจิตวิญญาณและตัวตนของสโมสร" อย่างเต็มภาคภูมิ และสำคัญเป็นอย่างยิ่งชนิดที่เรียกว่า ขาดไม่ได้เลย

เป็นหนึ่งในเอกลักษณ์โดดเด่นของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมาทุกยุคทุกสมัย


นิคกี้ บัตต์ ก็คือชายผู้ซึ่งปลุกปั้นเด็กเหล่านี้มาหลายรุ่นแล้ว จนกระทั่งถึงเด็กยุคปัจจุบัน เราก็ยังมี มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ปั้นขึ้นมาเพียวๆ รวมถึง เมสัน กรีนวู้ด กองหน้าที่มีอันตรายรอบตัวและสามารถจู่โจมได้จากทุกจุดในสนาม มีเซนส์บอลที่ยอดเยี่ยมและการยิงประตูระดับเพชรฆาตอีกคนหนึ่ง แทบจะเป็นร่างทรงเดียวกับRVPเน้นๆ แถมไม่ได้เก่งแค่การยิงเข้าข้อเท้าซ้าย เพราะเด็กคนนี้ยิงได้ทั้งสองเท้า  และนี่คืออีกหนึ่งความภูมิใจของอะคาเดมี่จริงๆ

ในส่วนของการแต๊บเด็กมาปั้นต่อ ยุคของบัตต์ก็ยังมีมาเช่นเคยคล้ายๆกับช่วงก่อนหน้านี้หลายปี ตาฮิธ ชง ก็คืออีกหนึ่งเด็กที่มีแววที่อะคาเดมี่ดึงตัวมา และก็เป็นยุคของนิคกี้บัตต์อีกเช่นกัน เด็กคนนี้ย้ายมาจากเฟเยนูร์ดในปี2016 และก็อยู่ในอะคาเดมี่ที่บัตต์ปั้นมาตลอดเช่นกัน  ผ่านมาสามปี ตอนนี้ ตาฮิธ ชง เริ่มดูเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว โดยเฉพาะสองนัดปรีซีซั่นหลังสุดนี่ ทุกคนจะเห็นได้ดีว่า เด็กคนนี้พัฒนาการสุดยอด

คอมโบนรก ครอสตีนซ้าย+ชาร์จกลางประตู กับไอ้เด็กนรกคู่หูแดนหน้าสองคนนี้

จะเห็นได้ว่า ทั้งหมดนี้คือผลงานล้วนๆจากโปรดิวเซอร์จอมปั้นเด็กมือทองอย่าง นิคกี้ บัตต์  อดีตมิดฟิลด์ตัวรับขาโหดอีกคนของทีมที่ ไม่ว่าใครหน้าไหน "บัตต์ก็พร้อมบวก" เสมอ ดีกรีความโหดแทบจะเรียกได้ว่าถอดแบบรอย คีนมาไม่ต่างกันเลย นี่คือฮาร์ดแมนตัวจริง และไม่น่าเชื่อว่า คนอย่างแกกลับทำหน้าที่พัฒนานักเตะในเชิงฟุตบอลได้อย่างดีเยี่ยมมากๆ จนในที่สุด ผลงานสร้างเด็กที่ดีเยี่ยมมาตลอดสามปีที่ผ่านมา และมีผลผลิตที่ "เป็นชิ้นเป็นอัน" แบบสุดๆอย่างที่เกริ่นเอามาไว้มากมายเหล่านี้

ปี2019 เดือนนี้เองล่าสุด บัตต์ก็ได้เลื่อนขั้นขึ้นมาอีกระดับโดยการเป็น "หัวหน้าของทีมพัฒนานักเตะชุดใหญ่" เลยทีเดียวซึ่งนั่นก็คือเขาจะขึ้นมาทำงานต่อตรงกับเพื่อนสนิทของเขาอย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ในทีมชุดใหญ่เลย โดยที่จะรายงานให้กับโอเล่ในการดึงเอาเหล่าyoungerในสโมสร ขึ้นมาส่งต่อสู่ทีมใหญ่โดยตรง และบทบาทหน้าที่กับชุดใหญ่จะมากขึ้น เพราะว่าตำแหน่งพัฒนาเด็กๆอะคาเดมี่อายุน้อยนั้น ถูกส่งหน้าที่ต่อโดย Nick Cox ทำหน้าที่นี้แทนแล้ว ซึ่งนี่คือการทำการ "แก้ไขโครงสร้างของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดครั้งใหญ่" อีกครั้ง


นี่คืออีกหนึ่งหน้ากระดาษประวัติศาสตร์ของสโมสรที่น่าภาคภูมิใจของการพัฒนานักเตะดาวรุ่งของเราในการแก้ไขโครงสร้างของระบบอะคาเดมี่เราอีกครั้งเมื่อประกาศการเปลี่ยนแปลงสองอย่าง นั่นก็คือ การโปรโมทนิคกี้ บัตต์ ไปสู่ตำแหน่งใหม่ที่เป็น Head of First Team Development ก็คือหัวหน้าที่จะพัฒนาทีมชุดใหญ่ให้เรานั่นแหละอย่างที่กล่าวไปแล้ว

เขาจะทำงานใกล้ชิดโดยตรงกับผู้จัดการทีมเลย รวมถึงสต๊าฟทีมชุดใหญ่ด้วยเพื่อความต่อเนื่องและแข็งแกร่งของการเชื่อมต่อหรือสายสัมพันธ์ในสโมสรระหว่างชุดใหญ่กับอะคาเดมี่ (ซึ่งอันนี้เราทำมาตลอดอยู่แล้วตั้งแต่ยุคป๋า อย่างที่ทราบกันดีว่า เด็กๆเราจะได้ร่วมซ้อมกับซุปเปอร์สตาร์ชุดใหญ่ในทีมเสมอๆ) เพื่อที่จะสร้างเส้นทางนักฟุตบอลที่ราบรื่นสำหรับเด็กๆอายุน้อยที่จะก้าวไปสู่เลเวลต่อๆไป  บัตต์จะเป็นผู้มีส่วนร่วมสำคัญคนหนึ่งในทุกการตัดสินใจสำคัญๆของฝ่ายอะคาเดมี่ และก็จะเป็นส่วนหนึ่งของบอร์ดฝ่ายเทคนิคที่จะเพิ่มมิติความเป็นผู้นำทางฟุตบอลมากขึ้นอีกด้วย


ส่วนอีกคนหนึ่งก็คือ Nick Cox ที่จะมาเป็นHead of Academyแทนตำแหน่งเดิมของบัตต์ ก็จะทำหน้าที่ดูแลฟูลโปรแกรมของอะคาเดมี่แบบเต็มๆ และก็ดูแลทั้งการCoaching (โปรแกรมฝึกซ้อม) และเซอร์วิสการดำเนินงานต่างๆซึ่งรวมถึงวิทยาศาสตร์การกีฬา การศึกษาพัฒนาและวิเคราะห์ ในตำแหน่งของเขาจะทำงานต่อเนื่องและใกล้ชิดกับนิคกี้บัตต์ และจะรายงานแก่ John Murthough ซึ่งเป็น Head of Football Development อีกทีนึง
 
Ed Woodward ผู้ซึ่งเป็น Executive Vice Chairman ของแมนยูไนเต็ดกล่าวไว้ว่า "การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะก่อให้เกิดการทำงานที่ยอดเยี่ยม และผลลัพธ์ดังที่เราเห็นในหลายๆสิบปีที่ผ่านมาจากระบบอะคาเดมี่ของทีม และช่วยให้เรารักษาประเพณีที่ภาคภูมิใจอันนี้ของทีมได้อย่างต่อเนื่องของการผลิตนักเตะระดับโลก ที่สามารถเล่นในทีมชุดใหญ่และโชว์ความยอดเยี่ยมให้เราเห็นได้"

ส่วนทางนิคกี้ บัตต์ กล่าวว่า "แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอยู่ในDNAของผม และนี่คือช่วงเวลาที่น่าภูมิใจของผมมากๆที่ได้รับตำแหน่งใหม่ ผมหลงใหลในการเพาะบ่มพัฒนา และฝึกฝนเหล่าพรสวรรค์เด็กๆที่เรามี ให้กลายเป็นนักเตะชั้นนำที่สโมสรแห่งนี้  ภายใต้การนำของโอเล่ ด้วยวิสัยทัศน์ของพวกเราจะทำให้มั่นใจได้ว่าเราจะยังคงสร้างสภาพแวดล้อมที่ถูกต้องที่สุดเพื่อให้เหล่านักเตะดาวรุ่งของพวกเราได้เติบโตต่อไป"

ก็มาดิวะ

นิค คอกซ์กล่าวไว้ว่า "หลังจากใช้เวลามากกว่า20ปีในการทำงานสนับสนุนการพัฒนาเหล่าเด็กๆทั้งหลาย มันเป็นความภูมิใจมากๆที่ได้ถูกขอให้มาทำหน้าที่เป็นหัวเรือใหญ่นำฝ่ายอะคาเดมี่ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ตามธรรมเนียมของเรามักจะมีผู้นำที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่โดดเด่น ซึ่งจะทำให้เหล่านักฟุตบอลอายุน้อยสามารถก้าวหน้าเติบโตได้  การเปลี่ยนแปลงในวันนี้จึงเป็นการเสริมโครงสร้างที่ยอดเยี่ยมซึ่งเรามีอยู่ต่อๆไป เพื่อที่จะพัฒนาศักยภาพของเหล่านักเตะอายุน้อยให้ถึงขีดสุด"

ทั้งหมดนี้คือเส้นทางและผลงานทั้งหมดที่ผ่านมาของนิคกี้ บัตต์ ชายผู้ซึ่งลำพังอยู่เฉยๆ พี่แกก็เป็นตำนานสโมสรในฐานะ The Class of '92 เหล่าตำนานอมตะผู้คว้ามาแล้วทุกแชมป์ และสร้างตำนานทริปเปิ้ลแชมป์อันยิ่งใหญ่มาตลอดสองทศวรรษของยุค90และต้น2000s  แต่แม้กระทั่งแขวนสตั๊ดไปแล้ว บัตต์ได้แสดงให้เห็นถึงการเป็น "ตำนานสโมสรที่แท้จริง" คนหนึ่ง เมื่อเขายังคงรักและมีแมนยูไนเต็ดอยู่ในสายเลือดของความเป็นแมนคูเนี่ยน และเป็นหนึ่งคนที่มีเลือดและ DNAของแมนยู เข้มข้นชัดเจนที่สุด

เขารู้ดีว่า อะไรคือตัวตนที่สำคัญที่สุดของสโมสรเรา


คนๆนี้ ยังคงสร้างและผลิตเหล่านักเตะดาวรุ่งท้องถิ่น และเยาวชนต่างๆให้ขึ้นมาเป็นกำลังของสโมสรอย่างไม่หยุดยั้ง เป็นผู้ที่สร้างอนาคตให้กับสโมสร และฝังเอาDNAเข้มข้นที่มี ให้กับเหล่านักเตะใหม่ๆพวกนี้ ให้ไม่ลืม "รากเหง้า" ของสโมสรที่จะทำให้พวกเราประสบความสำเร็จดังเช่นในวันวานได้

มีนิคกี้บัตต์อยู่ ก็เหมือนมีขุมพลังอนันต์ที่จะสร้างนักเตะแมนยูออกมาได้อีกหลายร้อย หลายพันชีวิตอีกนับจากนี้ไปเป็นสิบๆรุ่น เปรียบเสมือนStemcellไร้ที่สิ้นสุด ที่จะแบ่งแยกหน่อเนื้ออ่อน ออกมาได้เรื่อยๆไม่มีวันหมด

เขาคือ "ปีศาจ"  ผู้ที่อยู่เพื่อ "ให้กำเนิดปีศาจ"

ชายผู้ทำให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด จะยังคงเป็นแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไปตลอดกาล

ตำนานหมายเลข8 .. Nicky Butt

-ศาลาผี-

source : https://www.manutd.com/en/news/detail/new-roles-for-nicky-butt-nick-cox-in-man-utd-academy-restructure

https://bleacherreport.com/articles/2715158-ranking-the-201617-manchester-united-academy-graduates-on-their-potential#slide6

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด