นักเตะรายใหม่ที่เพิ่งเซ็นสัญญามาหมาดๆอย่าง "คาเซมิโร่" ได้ให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรกกับสโมสรเรา นับตั้งแต่เขาย้ายมาจากเรอัล มาดริด และเดินทางมาถึงที่นี่เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเขาได้มีให้สัมภาษณ์กับนักข่าวอย่าง Andy Mitten มาแล้วในช่วงก่อนเกมที่แมนยูจะชนะลิเวอร์พูลในคู่มันเดย์ไนท์ที่ผ่านมา จังหวะที่เขาเปิดตัวต่อหน้าแฟนบอลที่โอลด์แทรฟฟอร์ดก่อนเกมจะคิกออฟ
หัวข้อในการสัมภาษณ์พูดถึงความรู้สึกที่เขาได้มาอยู่โอลด์แทรฟฟอร์ด และการได้มีโอกาสมาเยือนที่โรงละครแห่งความฝันก่อนหน้านี้ รวมถึงการที่ต้องปรับตัวเข้ากับฟุตบอลของพรีเมียร์ลีก และเรื่องราวอื่นๆอีกมากมาย
อ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มๆนี้กันได้เลยครับ
ยินดีต้อนรับเข้าสู่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดนะคาร์ลอส รู้สึกยังไงบ้างหลังจากเซ็นสัญญากับสโมสรนี้เรียบร้อยแล้ว
"ครับ ก่อนอื่นขอบคุณมากๆจริงๆครับ คือแทบไม่ต้องสงสัยเลย ผมตื่นเต้นมากจริงๆ ผมได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นเลย ผมสัมผัสได้เลยว่ามีความรักมอบให้จากทุกๆคนมาสู่ผมซึ่งมันสำคัญมากๆเลย สัมผัสความรักมหาศาลมากๆได้ตั้งแต่การมาถึงที่นี่ และผมคิดว่ามันเป็นความท้าทายครั้งใหม่ ผมดีใจอย่างถึงที่สุดจริงๆ มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนตอน18 หรือ 20 ผมตื่นเต้นที่จะได้ก้าวไปข้างหน้า ตื่นเต้นที่จะอยู่กับเพื่อนร่วมทีม จะได้ลงไปเล่นในสนาม มันเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มากๆ ผมดีใจสุดๆครับ"
อะไรเป็น first imprssions ของคุณที่นี่?
"ก็น่าจะเป็นความรักมากมายที่ส่งมาให้ผมจากทุกๆด้าน มันน่ามหัศจรรย์มากๆนะตอนที่ผมมาถึงที่นี่ ผู้คนเป็นมิตรกับผมมากจริงๆ แล้วก็แสดงออกว่าพวกเขาปลาบปลื้มดีใจกันแค่ไหน นี่คือสิ่งที่คนเราอยากจะได้สัมผัสความรู้สึกเช่นนี้ ดังนั้นผมจึงมีความสุขมากๆ ตื่นเต้นนะ และมันเป็นความท้าใหญ่ที่ยิ่งใหญ่ครั้งใหม่สำหรับผม เพราะงั้นแล้วผมจึงอยากจะทำงานให้หนักเพื่อจะทำให้มันสำเร็จให้ได้"
กับ "โรงละครแห่งความฝัน" Old Trafford คุณประทับใจอะไรเป็นสิ่งแรกสำหรับที่สนามนี้
"เรารู้ดีว่าที่นี่มีประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่มาก เป็นสโมสรที่ผ่านเรื่องราวมามากมาย ไม่ใช่แค่ตัวสนาม แต่รวมถึงสโมสรด้วยเช่นกัน ที่นี่ผ่านการคว้าแชมป์ทุกอย่างมาแล้ว ผมอยากจะพบกับเพื่อนร่วมทีม อยากจะช่วยทีม และผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เป็นนักเตะของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดแห่งนี้"
คุณพอจะรู้จักอะไรที่เกี่ยวกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดบ้าง?
"เอาแบบตรงๆเลยก็คือ นี่เป็นการที่ผมได้มาอยู่ที่นี่อีกครั้ง นับตั้งแต่เมื่อ 15ปีที่แล้ว ผมไม่แน่ใจนะว่ามีใครรู้เรื่องนี้บ้างรึเปล่า แต่ผมเคยมาแข่งที่นี่ตอนอายุ 15 นะ ตอนนั้นผมอยู่กับสโมสร São Paulo ซึ่งภาพจำยังชัดเจน แล้วมันก็วนเวียนอยู่ในหัว เมื่อ 15ปีหลังจากนั้นเราได้กลับมาที่นี่ในฐานะนักเตะคนหนึ่งของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ซึ่งก็ไม่เคยคิดเลยว่าฝันอะไรแบบนั้นมันจะเป็นจริงที่ตัวเองจะได้มาเล่นที่นี่ โดยเฉพาะตอนที่ผมได้ลงเตะถ้วย Nike Cup ผมอยากจะมาที่นี่อีกครั้ง"
"ในที่สุดตอนนี้ผมก็ได้กลับมาจริงๆ ผมรู้สึกว่าเป็นมนุษย์บนโลกนี้ที่มีความสุขที่สุดคนหนึ่ง และผมรอที่จะแสดงผลงานในสนามอย่างมากเพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีม และก็ช่วยแมนยูไนเต็ดชนะเกมการแข่งขัน แล้วคว้าถ้วยแชมป์มาให้ได้"
คุณเริ่มได้ยินตอนไหนว่ามันมีความเป็นไปได้ว่าจะมีการซื้อตัวเกิดขึ้น?
"ช่วงจังหวะพูดคุยแรกสุดเลยคือ ผู้อำนวยการของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้มาพูดคุยกับผมอย่างดีมากๆ และนั่นคือสิ่งที่ผมก็ต้องการด้วยผมพอดี พวกเขาแสดงให้เห็นถึงความต้องการที่อยากจะได้ผมไปร่วมทีมมากๆ และผมก็อยากจะแสดงให้เห็นอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งในสนามซ้อม ในเกมการแข่งขัน เพราะว่าความชื่นชมที่พวกเขามอบให้ผมนี่แหละ ถึงเป็นสาเหตุว่าทำไมผมถึงอยากจะลุยแล้วตอนนี้ แทบจะรอการเริ่มต้นไม่ไหวแล้วครับ"
ความรู้สึกแรกตอนที่ได้ยินว่า เป็นแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดที่กำลังจะเกิดขึ้น รู้สึกยังไง
"ก็..เป็นสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ เป็นสโมสรที่ได้แชมป์ลีกมากที่สุด ผมมีความสุขมากๆและอยากจะเริ่มต้นแล้วไวๆ"
การจะได้เล่นในพรีเมียร์ลีกน่าตื่นเต้นไหมสำหรับคุณ?
"โอ้ แน่นอน ผมฝันอยากเล่นในพรีเมียร์ลีกอยู่แล้ว เป็นลีกที่เจ๋งมาก ความเคารพที่นักเตะได้รับจากแฟนฟุตบอล จากนักฟุตบอลที่มอบให้กับแฟนๆ ความเคารพของผู้เล่นต่อผู้ตัดสิน รวมถึงจากอาจารย์กับนักเตะเช่นกัน แล้วก็ Passion ความหลงใหลคลั่งไคล้ต่อสโมสรฟุตบอล ตอนที่ผมเดินทางจากสนามบินมาที่เมืองนี้มันสัมผัสได้เลยว่านี่มันคือเมืองฟุตบอลจริงๆตั้งแต่มองลงมาจากฟ้าบนเครื่องบิน สนามแห่งนี้บ่งบอกในตัวของมันเองอยู่แล้ว ทุกลมหายใจคือฟุตบอล และผมดีใจมากที่ได้มาอยู่ที่นี่ครับ"
สำหรับครอบครัวของคุณ นี่น่าจะเป็นโอกาสที่จะได้พูดคุยภาษาอังกฤษ เรียนภาษาอังกฤษด้วย...
"ใช่ครับ ภรรยาผมพูดอังกฤษอยู่แล้ว ลูกสาววัย 7 ขวบ และก็เจ้าลูกชายตัวเล็กขวบนึงก็เลยพูดภาษาอังกฤษได้เยอะกว่าผมหน่อย ผมต้องขอโทษคุณจากใจ ขอโทษแฟนๆแมนยูด้วยว่าผมยังพูดภาษาอังกฤษกับพวกคุณไม่ได้ แต่ผมอยากเรียนนะ ให้มันเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมของอังกฤษด้วย เรียนเพื่อจะพูดกับเพื่อนๆ คุยกับเพื่อนร่วมทีม สตาฟฟ์ทุกคนในสโมสร และผมอยากแสดงให้เห็นว่าผมได้เข้ามาเป็นคนในครอบครัวเดียวกับพวกเขาแล้ว"
เพื่อนร่วมทีมใหม่คนนึงที่นี่ "เฟร็ด" ...
"อ่า ใช่ ก่อนจะย้ายมาที่นี่ผมได้คุยกับเฟร็ดด้วย เขาเป็นเพื่อนที่ผมชอบเล่นด้วยกันในทีมชาติ เล่นร่วมกันมาหลายๆนัด เป็นเวลานานหลายปีแล้ว ผมรู้จักเขาเป็นอย่างดี เขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมมาก เพราะงั้นแหละทำไมเขาถึงได้เล่นให้แมนยูไนเต็ด รวมถึงทีมชาติบราซิลด้วยไงซึ่งมันยากมากที่จะติดทีมเหล่านี้ได้ ผมเลยมีความสัมพันธ์เป็นพิเศษกับเขา และแน่นอนว่าเขาเป็นนักเตะที่เก่งจริงๆ เพราะงั้นเขาถึงได้มาเล่นอยู่กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไง"
ในมุมมองคุณ ทำไมเฟร็ดถึงเป็นนักเตะที่ดี?
"เฟร็ดมีคุณภาพมากมายนะ ผมคิดว่าเขาเป็นผู้เล่นที่เคลื่อนที่ได้ดีมากๆ เขาขยับตลอดเวลา จ่ายบอลได้ดี เขายิงสวยๆได้ด้วย เล่นได้ทั้งสองเท้า เขาเป็นยอดนักเตะนะ ต้องบอกอีกครั้งว่า เพราะแบบนี้แหละเขาถึงได้ติดทีมชาติบราซิล แถมเป็นนักเตะคนสำคัญกับที่สโมสรนี้ด้วย ผมคิดว่าเขาจะช่วยผมได้เยอะในฐานะเป็นบราซิลเลียนเหมือนกัน ผมว่าเขาจะช่วยผมได้เยอะมากที่นี่ ไม่ต้องสงสัยว่ามันจำเป็นสำหรับผมมากแค่ไหนที่มีคนบราซิลคนอื่นๆอยู่ที่นี่อีกคน"
อดีตเพื่อนร่วมทีมเก่าสองคนของคุณก็อยู่ที่นี่ด้วย : คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แล้วก็ ราฟา วาราน สิ่งนี้ช่วยให้เห็นว่าขุมกำลังของเรามีทั้งความสามารถและประสบการณ์ของนักเตะในทีมนี้ใช่ไหม?
"ใช่ครับ พวกเขาคือสองคนที่ผมปลื้มมากที่ได้ลงเล่นเคียงข้างกันมา ถ้าให้พูดถึงคริสเตียโน่นะ ยาวได้ทั้งวันแหละ เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์กีฬาฟุตบอลนะ ย้อนกลับไปดูสมัยเขาอยู่เรอัล มาดริด ผมคิดว่าเราอยู่ด้วยกันมา 7 ปีเลยล่ะ เพราะงั้นเป็นเกียรติมากๆที่จะได้มาลงเล่นร่วมกันอีกครั้งกับนักเตะเหล่านี้"
"แต่ไม่ใช่แค่พวกเขาสองคนนี้นะ ผมรอที่จะได้เล่นร่วมกับเพื่อนร่วมทีมใหม่ๆคนอื่นๆของผมด้วย ผมอยากจะช่วยเขา แล้วเขาก็จะช่วยผมด้วยไม่ต่างกัน แทบจะบอกไม่ถูกว่าตื่นเต้นแค่ไหนที่ได้อยู่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดนะครับ"
ได้คุยกับคริสเตียโน่ กับ ราฟาเอลบ้างรึยัง?
"คุยแล้วครับ ได้คุยกับราฟาแล้ว เขาบอกผมว่าเขามีความสุขมากนะ ครอบครัวของเขาก็แฮปปี้ที่แมนเชสเตอร์นี้ แล้วผมรู้สึกว่าแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมีโคตรกองหลังอย่างเขาอยู่ ส่วนที่เรารู้ๆกันดีอยู่แล้ว คริสเตียโน่ในฐานะหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล ผมคิดว่าเขาต้องการจะประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นไปอีกเรื่อยๆ"
มีนักเตะแมนยูไนเต็ดคนไหนไหมที่คุณอยากจะได้เล่นด้วยกัน อยู่ด้วยกันในห้องแต่งตัวมากๆ?
"ผมรู้ว่ามีนักเตะที่เก่งกาจมากมายอยู่ที่นี่ มันยากที่จะให้บอกรายชื่อมา เพราะมันหลายคนเลย แต่ผมอยากจะเล่นร่วมกับพวกเขาทุกคนนั่นแหละ ผมรู้ว่าพวกเขาเป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์มาก นักเตะที่ทำงานหนัก และผมก็จะเป็นอีกคนหนึ่งในบรรดาผู้เล่นเหล่านั้น ผมอยากจะช่วยเหลือเพื่อนๆ ผมหวังว่าพวกเขาก็จะช่วยผมด้วยเหมือนกัน เราอยากจะพาประวัติศาสตร์อันสวยงามของที่นี่ให้ก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆกันต่อไป"
คุณได้เล่นในสนามที่ดีที่สุดในโลกมาแล้วอย่าง Maracanã สุดยอดสเตเดี้ยมในเซาเปาโล ที่บราซิล, เบอร์นาเบว, คัมป์นู และตอนนี้ที่อังกฤษ คุณตั้งความคาดหวังอะไรเอาไว้บ้าง? ที่นี่คนเข้ามาชมเกมเต็มสนามมา30กว่าปีแล้ว...
"ก็ยิ่งพอผมได้เห็นความยิ่งใหญ่ของสนามเต็มๆแบบนี้ผมยิ่งเสียดายที่ไม่ได้ลงเล่นในเกมสำคัญสุดๆเหมือนวันนี้ เพราะฉะนั้นสิ่งแรกที่ผมอยากจะบอกก็คือ ผมจะอยู่เคียงข้างพวกเขาในสนาม แล้วเราจะชนะไปด้วยกัน ผมคิดว่าที่นี่เป็นสนามที่สวยมาก บรรยากาศเอยอะไรเลย มันมีความหมายมากๆจริงๆ เพราะงั้นผมจึงตื่นเต้นมากที่จะได้เล่นที่นี่ ไม่รู้จะอธิบายยังไงดีเลยว่ามีความสุขขนาดไหน"
"ผมคิดว่าแฟนๆสำคัญสุดๆสำหรับเราเช่นกันในการที่จะช่วยเหลือส่งกำลังใจให้เราคว้าชัยชนะให้ได้ ซึ่งถ้าเก็บชัยไปได้เรื่อยๆเราก็มีโอกาสคว้าแชมป์ได้"
ที่นี่เป็นเมืองแห่งฟุตบอลเลย
"ใช่ ที่นี่เป็นประเทศแห่งฟุตบอลแท้ๆเลย ยิ่งกว่าแค่เมือง ผมรู้สึกว่าที่นี่เป็นประเทศชาติแห่งลูกหนังจริงๆนะ และสิ่งที่ผมชอบอังกฤษมากที่สุดก็คือเรื่องที่แฟนบอลให้ความเคารพนักฟุตบอลนี่แหละ สิ่งนั้นสำคัญที่สุดเลย"
คุณจะอธิบายตัวเองในฐานะมิดฟิลด์ยังไง?
"ข้อนี้ยากนะ ผมคิดว่าผมคงจะเป็นนักฟุตบอลที่ชื่นชอบการเล่นที่ทุ่มเททำงานหนักมั้ง เป็นนักเตะที่จะทุ่มเทสุดชีวิตในสนาม แต่ไม่ใช่แค่ 90 นาทีในการแข่งขันนะ ในสนามซ้อมผมก็เต็มที่เหมือนกันซึ่งสำหรับผมมันสำคัญมากๆ คุณซ้อมเหมือนคุณลงเล่นจริงๆ และผมไม่ได้ใส่ใจว่าสกอร์จะเป็นยังไง หรือเกิดอะไรขึ้นในสนาม เพราะทุกๆคนก็อยากจะให้ทีมชนะการแข่งขัน มันจะต้องชนะในการซ้อมด้วย เรียนรู้ในการฝึกซ้อม"
"ผมเป็นนักฟุตบอลที่เวลากลับบ้านไปแล้วอยากรู้สึกสบายใจว่า ผมได้ไปทำงานของตัวเองมาอย่างเต็มที่แล้ว นั่นเป็นปรัชญาของผม เป็นความคิดและความรู้สึกของผม และตอนนี้ในหัวมีแต่เรื่องที่จะทุ่มเททุกๆสิ่งทุกๆอย่างให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด"
ถ้าเป็นแบบนั้น แปลว่าสำหรับคุณ การซ้อมจะต้องสำคัญและเข้มข้นพอๆกับเวลาลงแข่งจริงเลยไหม?
"อ่ะ อันนี้แน่นอน สำหรับผมจะต้องซ้อมให้เหมือนแข่งจริง และผมรู้สึกว่านั่นแหละคือกุญแจสำคัญที่จะทำให้เราชนะในเกมและคว้าแชมป์ได้ ต้องซ้อมให้หนักสุดๆเท่าที่ซ้อมไหวเพื่อเล่นให้มีคุณภาพมากที่สุด ให้ร่างกายแข็งแกร่ง และมุ่งมั่นอย่างเต็มที่"
คุณได้เคยลงเล่นเจอแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอยู่ครั้งหนึ่งในแมตช์ Super Cup แต่คุณได้เจอซิตี้ ลิเวอร์พูล สเปอร์ส เชลซีมาหลายครั้งมาก เจอมาแล้วรู้สึกยังไงเกี่ยวกับฟุตบอลพรีเมียร์ลีกบ้าง
"ผมคิดว่าฟุตบอลอังกฤษเป็นอะไรที่ใช้พละกำลังร่างกายมากๆ เพราะงั้นไม่ต้องสงสัยอะไรเลย โหดมากแน่นอน แต่สิ่งที่ผมชอบมากที่สุดก็คือเหล่านักเตะ กรรมการ แฟนบอล แล้วที่นี่ก็เล่นกันดูบอลกันแบบแฟร์ๆนะ ไม่ว่าจะใช้ร่างกายสู้กันหนักแค่ไหน แน่นอนว่ามันมีเกมที่ต้องเจอกับการชน ปะทะกันก็จริง แต่ความแฟร์ที่เกิดขึ้นในลีกที่นี่ท่ามกลางเกมหนักๆเหล่านั้นมันเป็นสิ่งที่สวยงามมาก"
"เรารู้กันดีว่าที่นี่การแข่งขันสูงมาก ไม่ว่าจะเล่นเกมเหย้าหรือเกมเยือน ทุกเกมมันยากหมด ทุกทีมพอๆกันทั้งนั้น ผมคิดว่ามันไม่ใช่แค่ว่า ทีมไหนเป็นทีมระดับUCL ระดับยูโรปาลีก คือท็อปทีมก็แพ้บ๊วยกันได้ทั้งนั้น ลีกนี้มันเป็นแบบนี้แหละ มันดีมากๆที่มีการแข่งขันกันขนาดนั้น แล้วผมนี่ตื่นเต้นที่สุดจริงๆที่จะได้เล่นในลีกนี้"
ทุ่มเท100%ในทุกเกมเลยสินะ?
"120%ทุกเกมครับ"
สุดท้ายนี้มีอะไรจะบอกแฟนๆไหม?
"ครับ ผมตื่นเต้นมากๆนะที่ได้มาอยู่ที่ โคตรตื่นเต้นสุดๆ ผมประทับใจความรักจากผู้คนที่มอบให้กับผมจากวันแรก นับตั้งแต่สนามบินเลย ทุกๆคนจริงๆ ผมดีใจมากๆและผมก็มั่นใจว่าผมจะทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างไม่ใช่แค่ตอนลงแข่ง แต่จะทุ่มเทตั้งแต่ตอนซ้อมด้วย และอยากให้คุณเชื่อมั่นในตัวผมเหมือนกับนักเตะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคนอื่นๆ"
"ผมอยากจะพาทีมชนะและคว้าแชมป์ให้ได้เหมือนนักเตะทุกๆคน ผมรอคอยและตื่นเต้นมากๆ ตอนนี้สิ่งสำคัญคือการที่จะต้องทำงานหนักและแสดงให้ทุกๆคนได้เห็นว่าผมทำอะไรให้เขาได้บ้างในฐานะนักเตะคนหนึ่ง"
-Carlos Henrique Casimiro-
References
