:::     :::

"อคติ"

วันศุกร์ที่ 16 กันยายน 2565 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
2,570
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
"แพะที่ไม่ใช่แพะ" คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยังคงเป็นเป้าเล่นงานอย่างต่อเนื่อง จากกลุ่มคนที่ไม่ชอบ และมี "อคติ" กับเขาอยู่แล้วตั้งแต่แรก ต่อให้ทำตัวดียังไง ก็จะเจอหาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาด่า หรือด้อยค่าอยู่เสมอไป บทความนี้ก็คงจะช่วยอะไรไม่ได้อยู่แล้ว แค่จะนำเสนอสิ่งที่เรามองเห็นอีกฟากหนึ่งของ"โลก" ที่เรียกว่า Attitude เท่านั้นเอง

"เขา(โรนัลโด้)ใกล้มากๆแล้วนะที่หากว่าเขาฟิตยิ่งกว่านี้ จะยิงประตูเยอะกว่านี้แน่นอน เขาทุ่มเทอย่างมากให้กับแผนการทำทีมนี้ มีส่วนร่วมอย่างเต็มที่อย่างแท้จริง แล้วเรื่องความสัมพันธ์กับสิ่งต่างๆรอบตัว ระหว่างเขากับทีมก็เป็นไปอย่างดี เขาสร้างมันขึ้นมาได้ดีมาก เพราะงั้นแหละผมเลยค่อนข้างแฮปปี้มากในเรื่องนี้"
[@lauriewhitwell]

"โรนัลโด้ต้องการประตูนั้นมากๆ หลายๆครั้งเขาเกือบจะยิงได้มาแล้วในฤดูกาลนี้ แต่เขาต้องการที่จะทำให้ได้จริงๆ เพราะงั้นพวกเราเลยมีความสุขกับเขา แล้วทีมก็อยากจะให้เขายิงได้ และคุณรู้อยู่แล้วว่าถ้าเป็นจุดโทษ โรนัลโด้ยิงสำเร็จแน่นอน"

"ซานโช่ผมพอใจมากๆเลยนะ เป็นอีกลูกแล้วที่เขายิงได้ แถมจริงๆแล้วช่วงปรีซีซั่นเขาก็ยิงมาเยอะแล้วเหมือนกัน ผมว่า3ลูกแล้วมั้งที่ยิงได้ในซีซั่นนี้ เขาทำได้ดี แต่มันยังดียิ่งขึ้นกว่านี้ได้อีกมาก เพราะเขามีทักษะมากมายเลย"

"เริ่มเกมมายากนิดหน่อย คู่แข่งเล่นบอลโคตรจะไดเร็คต์เลย แล้วตามเข้าบอลสองได้ไปหลายครั้งด้วยช่วงนาทีแรกๆ แต่หลังจากผ่านไประยะนึงเราก็เล่นดีขึ้นแล้ว เราเลยบอกได้ว่า ทีมเราสามารถที่จะทำได้ทั้งการเล่นสอดพื้นที่ ใช้แนวลึกในสนามให้เข้ากับเกมของทีมได้ดี แล้วยิงประตูอย่างสุดสวย"


"เรื่องซานโช่แรชฟอร์ดไม่ติดทีมชาติ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับผมล่ะนะ เป็นหน้าที่ของผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ผมคงไปตัดสินใจแทนเขาไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ ซานโช่กับแรชฟอร์ดพวกเขากำลังพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มต้นซีซั่นได้ดี แล้วเดี๋ญวพวกเขาจะดีมากขึ้นไปกว่านี้อีกเยอะ ผมโคตรเชื่อมั่นในเรื่องนี้"

"แนวหลังของเรา ด้วยความที่มี ราฟา วาราน เป็นผู้นำอยู่ตรงนั้น เขาคอยปรับให้ทุกๆคนยืนอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง เขาเข้าคู่กันดีมากๆกับลิช่า มาร์ติเนซ และฟูลแบ็คสองตัวก็ทำงานกันได้อย่างดีเลยกับเกมเจอเชริฟ"


นี่คือสัมภาษณ์หลังเกมของเอริค เทน ฮาก กับทางสื่อแมนยูไนเต็ด รวมถึงนักข่าวระดับtier 1 อย่าง Laurie Whitwell ด้วย ซึ่งไม่จำเป็นต้องแปลภาษาไทยให้เป็นภาษาไทย

สิ่งที่ผมอยากจะสื่อสารแบบไม่ต้องแอ๊บว่า เรื่องที่ผมต่อสู้มาตลอดคือ "อคติ" ที่มีต่อคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตั้งแต่เขาย้ายมา แล้วทีมเล่นกันไม่ดีในปีที่แล้ว แฟนบอลบางส่วนก็โทษว่าเพราะเขาทำให้ทีมเล่นเสีย แล้วเอาสถิติปี 20/21 กับ 21/22 มาเทียบกัน แล้วฟันธงสรุปตีขลุมไปเลยว่า เพราะโด้เข้ามาทีมเลยเล่นแย่ลง

เป็นการหยิบตัวเลขมาตีความได้ "มั่ว" ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา (จากกระทู้ๆหนึ่งที่Soccersuck ยังจำได้ดีจนถึงทุกวันนี้ ยกตัวเลขสถิติมาซะดิบดี แต่ไม่มีcritical thinkingใดๆทั้งสิ้น วิเคราะห์ตีความสรุปไปทั้งอย่างนั้นเลย)



ทั้งๆที่ปัญหาเมื่อปีก่อน มันอยู่ที่ "ระบบการเล่น" อยู่ที่ฟอร์มการเล่นรายตัว ความมั่นใจที่ถดถอยไปทั้งทีม และไม่มีใครมาปลุกเรื่อง Mentailty ของทีมให้ฮึดขึ้นได้

รวมถึงวิธีการทรีทนักเตะแบบผิดๆ เลือกใช้นักเตะลงสนามแบบผิดๆด้วยชุดความคิดที่ไม่ถูกต้องของผู้จัดการทีมทั้งสองราย

แต่ถึงจะอยู่ในทีมสภาพนั้น โรนัลโด้ก็ยังยิงประตูแบกให้ทีมไม่ต้องหล่นลงไปอยู่กลางตารางมากไปกว่านี้ ทั้งที่ทีมเล่นกันได้แค่นี้ ต้องแบกภาระยิงประตูเอง จ่ายให้เพื่อนเพื่อนก็ทำหมูหกพลาดอีกในหลายๆครั้ง วิ่งช่องทำทางอย่างดี เด็กในทีมก็ยิงเองโดยไม่สนใจจะมองตัวจ่ายบอล

ฤดูกาล 2022/23 แน่นอนว่าคริสเตียโน่ พยายามที่จะย้ายทีมเกิดขึ้น อย่างที่เราเห็นได้จากสิ่งที่ชัดที่สุดคือการมายังแคริงตันของ ฮอร์เก้ เมนเดส อันนี้คือไม่ได้เป็นการพบเจอกันธรรมดาแน่ๆ

เมื่อเอเย่นต์มาด้วย ก็คงจะเป็นเรื่องของเจตจำนงที่จะมีการโยกย้ายต้นสังกัด เพื่อการลงเล่นในระดับสูง ผ่านปัญหาที่ยูไนเต็ดไม่ได้ไป UCL รวมถึงเรื่องความกระตือรือร้นของการเสริมทีม ที่ ณ ตอนนั้นแมนยูยังไม่ได้ใครเข้ามาเลย มันอาจจะส่งผลต่อการตัดสินใจของนักเตะได้อยู่แล้ว

การแจ้งลาสโมสรด้วยเหตุผลส่วนตัว จนไม่ได้ไปปรีซีซั่นกับทีม จนถึงตอนนี้ยังไม่มีคำตอบอะไรที่มีใครจะฟันธงได้ 100% ว่ามันคือการแสดงท่าทีว่าอยากย้ายออกจริงๆหรือเปล่า หรือเป็นเรื่องปัญหาครอบครัว ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเห็นชัดมากขึ้นเรื่อยๆ จากที่ปีก่อนเขาถ่ายรูปกับที่บ้าน กับลูกๆตลอดเวลา

ปีนี้คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดูเหมือนจะไม่มีภาพกับครอบครัวเลย อยู่กับการฝึกซ้อมและลงเล่นที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอย่างเดียวเท่านั้น ใครตามไอจีโด้แกตลอดจะรู้ดีว่า มันมีความเปลี่ยนแปลงในนั้นอยู่

ถึงเจ้าตัวจะไม่ได้พูดออกมาให้ใครรู้ แต่มันสังเกตได้ง่าย

รูปเดี่ยวบ่อยมาก

หลังจากที่เมนเดส หาสโมสรให้เขาย้ายทีมไม่ได้สำเร็จ เนื่องจากด้วยหลายๆปัจจัย เช่นอายุ ค่าเหนื่อย การที่ทีมชั้นนำต่างมีกองหน้าประจำทีมอยู่แล้ว บางทีสนใจจะดึงไปเป็นตำนานสโมสร อย่างเช่นนาโปลีเอง ก็มีโอซิมเฮนอยู่ แถมยังเรื่องการเงิน ค่าตัวอีกมากมาย

การย้ายทีมเมื่อไม่เกิดขึ้น โรนัลโด้ก็อยู่กับทีมต่อไปในฤดูกาลนี้ ซึ่งประเด็นซัมเมอร์นี้มันควรจะจบลงที่ตรงนี้แล้ว แต่ก็ยังมีหลายฝ่ายจี้ไม่เลิกว่า โรนัลโด้งอแงบ้าง อะไรบ้าง

ทั้งๆที่เมื่อวันแรก ทันทีที่ทีมกลับมาจากออสเตรเลีย เขาก็เข้าแคริงตันมารายงานตัว และพูดคุยกับเอริค เทน ฮาก ทันที และหลังจากนั้นไม่กี่วัน โรนัลโด้ก็กลับมาซ้อมทีมตามปกติ จนกระทั่งได้ลงปรีซีซั่นช่วงเกมท้าย

ท่าทีและอาการในสนาม กับเพื่อนร่วมทีม กับผู้จัดการทีม ไม่ได้มีอะไรผิดปกติทั้งนั้น แต่ก็ยังมีข่าวพยายามจะแคป ตัดภาพช็อตที่เหมือนจะพูดคุยไม่ตรงกันกับเอริค นำไปเล่นข่าวกันอย่างสนุกสนาน ทั้งๆที่มันก็เป็นการพูดคุยกันแบบธรรมดาในเรื่องฟุตบอล เรื่องการซ้อม การเล่น ที่ก็โต้แย้งกันได้ พูดอธิบายซึ่งกันและกันได้ แบบที่ธรรมดามาก

พยายามกันมากๆ เหนื่อยไหมนักข่าว?

ถ้าใครยังจำได้ จังหวะหลายๆครั้งในเกมก่อนหน้านี้ คริสเตียโน่ลุ้นกับเกมในสนาม ลุ้นเอาใจช่วยเพื่อน ช่วยทีม จากบนม้านั่งสำรองตลอดเวลา ในทุกๆช็อตที่กล้องจับไปยังโรนัลโด้ ไม่มีจังหวะไหนเลยสักครั้งเดียวที่แกทำท่าเหมือนคนเอาแต่ใจตัวเอง และ "ไม่สนใจทีม" ในสนามที่กำลังแข่งอยู่

ผมเชื่อว่า Haters หลายคนคงคาดหวังเรื่องพวกนั้น แต่เสียใจด้วยที่มันไม่มี สิ่งที่พวกเขาจะเอามาตำหนิกันแบบตื้นๆได้ก็คือเรื่องที่นักเตะ "หลายๆคน" กลับบ้านก่อนในเกมสุดท้ายของปรีซีซั่น แต่คนที่ถูกหยิบมาทำข่าวคนเดียว คือคริสเตียโน่

ก็มุกเดิมๆ จ้องจับผิดกันเหมือนเดิม

ภาพที่เพื่อนยิงได้ แล้วโด้ลุกปรบมือ (จริงๆนั่งไม่ติดตั้งแต่ก่อนเพื่อนจะยิงเข้าอีก) มันเป็นเรื่องของความมีส่วนร่วมกับทีม และความมุ่งมั่นทุ่มเทเพื่อทีม (Participation and Commitment) ที่ค่อนข้างชัดอยู่แล้วว่าเขาเป็นมืออาชีพเพียงใด

คนแบบนี้เหรอ ปัญหาของทีม?

และดูเหมือนว่าโด้ก็ท่าทางจะ "รู้ตัวเอง" อยู่แล้วเหมือนกัน ในเรื่องของสภาพร่างกายที่ไม่เหมือนเดิมแล้ว โดยเฉพาะปีนี้ ที่ดูเหมือนว่า ทั้งเพซวิ่ง สปีดต้น จังหวะการสปรินท์ และความแข็งแกร่งในด้านแรงปะทะของร่างกาย โด้ดรอปลงไปเยอะมาก รวมถึงการจบสกอร์ด้วยที่ดูจะช้าไปมาก ช้าไปหนึ่งจังหวะเต็มๆจนไม่มีโอกาสง้างได้ ยิ่งกับเกมพรีเมียร์ลีกที่เพรสซิ่งติดตัว เล่นเกมรับกันอย่างเข้มข้น โด้หาโอกาสไม่ได้เลย จะมีก็คือการขึ้นเทคโหม่งนี่แหละ ที่ยังไม่มีใครชนะพี่แกได้อยู่

เพราะรู้ตัวเองนั่นแหละ พี่แกถึงได้ทำใจเป็นตัวสำรองข้างสนามได้แบบสบายใจ และยิ้มแย้มตลอดเวลา ไม่งั้นนักเตะที่มีความทะเยอทะยานสูงลิบลิ่วอย่างแกจะยอมหรือ? ไม่มีทาง

การที่อยู่ในสถานะแบบนี้และช่วยทีมอย่างเต็มที่ตามบทบาทที่ตัวเองได้รับจากผู้จัดการทีมโดยไม่บ่น แปลว่าแกยอมรับสภาพความเป็นจริงได้ และใช้สิ่งที่ตัวเองมีอยู่ ช่วยทีมเท่าที่เอริค และเพื่อนๆจะต้องการ


แน่นอน มันช่างขัดกันกับสื่อเสี้ยมทั้งหลายเหลือเกิน ที่วันๆก็ปั่นข่าวว่าเขาเป็น Toxic ของทีม เขาทำให้บรรยากาศห้องแต่งตัวเสีย

ในขณะที่เพื่อนร่วมทีมมีแต่คอมเม้นดีๆให้เขามาตลอด แม้กระทั่งนักเตะในทีมอย่างมาร์ติเนซ หรือผู้จัดการอย่างเทน ฮาก ก็เพิ่งออกมากล่าวชื่นชมโรนัลโด้เมื่อคืนนี้

ดูภาพข้างล่างนี้กันอีกครั้ง คงจะรู้ดีว่า คำพูดจากห้องแต่งตัวของจริง มันช่างขัดกับสิ่งที่สื่อเขียนซะเหลือเกิน

"อคติ" คือ ความลำเอียงเพราะเหตุผลต่างๆ ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Bias (ไบแอส) ที่หลายๆคนคุ้นเคย แต่ใช้คำไทยจะเห็นภาพชัดกว่า

อคติมีหลายอย่าง เช่น ฉันทาคติ = ความลําเอียงเพราะรัก โทสาคติ = ความลําเอียงเพราะโกรธ ภยาคติ = ความลําเอียงเพราะกลัว โมหาคติ = ความลําเอียงเพราะเขลา

แน่นอน ผู้เขียนเองก็มีไบแอสตรงนี้เช่นกัน เป็นอคติแบบฉันทาคติ ที่ผมเองก็เขียนด้วยความรักที่มีต่อนักเตะคนนี้ ส่วนเหล่า Haters ของ CR7 ก็คงจะเป็น โมหาคติ, โทสาคติ เป็นหลัก

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แม้เราจะรักนักเตะคนนี้ แต่สิ่งที่ผมยึดถือเช่นกันก็คือ ถ้ารักจริง เราต้องไม่ปกป้องจนกลายเป็นการอวยนักเตะอยู่ด้านเดียว คติพจน์ไทยที่กล่าวว่า "พ่อแม่รังแกฉัน" ยังคงใช้ได้เสมอว่า

ถ้าเรารักใคร เราอย่าปกป้องมากเกินเหตุ ควรจะวิพากษ์พูดคุยกันด้วย "Fact" บนพื้นฐานของ "Rationality : ความเป็นเหตุเป็นผลกัน" จึงจะดีที่สุด

ลูกทำผิด เราจะปกป้องหรือไม่? ไม่

เราจะสอนให้เขารับฟังเหตุและผลว่า เพราะอะไรถึงเป็นแบบนั้น และเขาทำถูกหรือไม่ เพราะถ้าลูกทำผิดแล้วยังปกป้อง นั่นเป็นการเลี้ยงถูกผิดๆที่จะทำให้เขาโตมากลายเป็นคนที่มีพฤติกรรมย่ำแย่ เอาแต่ใจตัวเอง จนอาจจะกลายเป็นพวก "ตรรกะวิบัติ" หรือเหตุผลวิบัติ ที่เขาเรียกว่า Fallacy ด้วย

เพราะฉะนั้น แม้ว่าเราจะรักเขาก็จริง แต่ความรักที่ถูกต้อง จะไม่ปกป้องทั้งนั้นถ้าลูกทำผิด โรนัลโด้ก็เช่นกัน ปัญหาที่โด้มีสถานะที่ไม่เคลียร์อยู่พักนึงกับทีมในช่วงปรีซีซั่น มันก็ทำให้เกิดปัญหาอยู่พอสมควร แต่สุดท้ายเมื่อทุกอย่างเคลียร์ก็จบ โรนัลโด้เองก็รู้ตั้งแต่เนิ่นๆแล้วว่า คงจะไม่มีทีมย้าย ก็มาซ้อมปกติ หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสกับเพื่อนร่วมทีมเหมือนธรรมดา

ที่สำคัญ พอลงสนามไปเป็นตัวสำรอง แกก็เล่นเต็มที่ด้วย ไม่ว่าจะลงน้อยลงมากยังไง ไม่มีคำว่าอายที่ต้องตกเป็นตัวสำรอง ทั้งๆที่ได้ชื่อว่าเป็น "GOAT" ของวงการฟุตบอลด้วยซ้ำ

แอนโทนี่โพสต์ภาพนี้ให้กับหนึ่งในไอดอลฟุตบอลของเขา

ก็เพราะว่าตัวโรนัลโด้ไม่ได้มีวิธีคิดที่เป็น "ตรรกะเพี้ยน" ในตัวเขาไงครับ เพราะถ้าแกมั่นหน้ามั่นโหนก อีโก้เว่อร์แบบผิดๆเช่นนั้น แกไม่มีทางยอมนั่งสำรองแบบเข้าใจโลกเหมือนทุกวันนี้หรอก คงทำท่าไม่พอใจ มีปัญหากับเอริค เทน ฮาก ไปแล้ว

แต่ดูคำสัมภาษณ์ตลอดเวลาของเอริค เทน ฮาก ที่มีต่อโรนัลโด้ มันมีแต่เรื่องที่ดีทั้่งนั้น สบายใจได้ว่าสองคนนี้ไม่มีอะไรกันชัวร์ๆ แถมมีแต่จะเคารพกันและกันด้วยซ้ำ

ขึ้นชื่อว่าความ "อคติ" เมื่อเป็นแล้ว อะไรมันก็บังตาทั้งนั้น ประเด็นที่มีคนพูดเยอะก็คือ เรื่องการโวยวายของโรนัลโด้ ที่ขนาดว่าปีนี้แกยังไม่ได้โวยวายอะไรมากมายเลย ก็ยังโดนตามด่าอยู่

บรูโน่หายไปคนนึงแล้ว เท่าที่เห็นอยู่คือโรนัลโด้ที่ยังโวยวายอยู่..

แต่เป็นการ "โวยวายหงุดหงิดตัวเอง" ล้วนๆซะเป็นส่วนใหญ่แทบจะทุกครั้ง เพราะตัวเองยังทำได้ไม่ดีเหมือนเดิม

อยากรู้เหมือนกันว่า โวยวายตัวเองเนี่ย มันผิดด้วยเหรอ แล้วบางคนมโนไปไกลว่า มันทำให้เพื่อนร่วมทีมอึดอัด เกิดความขุ่นข้องใจ เรานั่งดูอยู่ทุกนัด ไม่ได้มีใครเป็นแบบนั้นเลย ก็มีแต่พวกอคตินี่แหละที่ "มโนไปเอง" ว่าเพื่อนร่วมทีมมีปัญหา

ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าโรนัลโด้วิ่ง off the ball ทำทางอย่างดีจนตำแหน่งตัวเองพร้อมยิงประตู ยืนว่าง แล้วเพื่อนไม่ส่งมาให้ ยิงเอง แบบนี้เขาไม่มีสิทธิ์ไม่พอใจเหรอ

นักบอลทั้งโลก แสดงท่าทางแบบนี้กันทุกคนอยู่แล้ว ทำไมต้องจับจ้องด่าโด้กันอย่างเดียวว่าโวยวาย ทั้งๆที่คนอื่นๆเวลาที่อยู่ตำแหน่งดีๆพร้อมยิงประตู แต่เพื่อนไม่ยอมจ่ายให้ ก็ไม่มีใครพอใจกันทั้งนั้น ต่อให้เป็นนักเตะในทีมแมนยูคนอื่นๆก็เถอะ จะบรูโน่ แรชฟอร์ดเองก็ตาม ก็มีแสดงอาการให้เห็น

ทำไม CR7 โดนเล่นอยู่คนเดียว? ไม่ทราบได้

ในหลายๆจังหวะของเกมพรีเมียร์ลีกที่ผ่านมา โอกาสมีให้เห็นอยู่บ้าง แต่สภาพร่างกายของโรนัลโด้ที่มีเท่านี้ แฟนคลับโด้เองก็ควรจะต้องยอมรับความจริง และเข้าใจเทน ฮากด้วยว่า ในเกมฟุตบอลแบบสมัยใหม่ การเคลื่อนที่ พละกำลัง ไดนามิคในสนาม ที่จะต้องสู้กันด้วยการวิ่งเพรสซิ่ง วิ่งขยับหาตำแหน่ง แก้เพรสกัน เซ็ตบอลกัน หรือเล่น Counter-attack ด้วยความเร็ว

โรนัลโด้ทำแบบนั้นไม่ได้อีกแล้ว ตามสังขารอายุที่มากถึง 37 ปี เล่นได้ขนาดนี้ก็เกินมนุษย์แล้ว

เรื่องที่โด้เล่นในเกมแบบนั้นไม่ได้เต็ม 90 นาที ข้อนี้ FCพรี่โด้เองก็ควรจะต้องเข้าใจ เพราะมันก็ยังมีคน Bias แบบฉันทาคติ ตั้งคำถามอยู่เรื่อยๆว่า เทน ฮาก ทำไมดรอปโด้ เทน ฮากทำไมไม่ใช้ คาเซมิโร่ เทน ฮากทำไมไม่ใช้ ฟานเดอเบค ฯลฯ

เหตุผลในการใช้งาน เอริค เทน ฮาก เขามีในใจอยู่แล้วว่า เกมนั้นๆ คุณสมบัติใดที่นักเตะในสนามมี

ถ้าเอริค ต้องการความเร็วสวนกลับ ผมถามง่ายๆ คุณจะเลือกใครระหว่าง แรชฟอร์ด กับ โรนัลโด้? ผมเลือกแรชอยู่แล้ว

ถ้าเอริค ต้องการร่างกายแข็งแกร่งเข้าไปปะทะ แทคเกิล interceptบอลในแดนกลาง คุณจะเลือกใคร ระหว่าง ฟานเดอเบค กับ แม็คโทมิเนย์ ผมก็เลือกแม็คโทมิเนย์ ทั้งๆที่ผมก็มองว่า ดอนนี่ ฟานเดอเบค เล่นฟุตบอลเก่งกว่าน้องแม็คเยอะ

แต่ถ้า ผจก ต้องการ Physical ลงไปอัดกับคู่ต่อสู้ แล้วร่างกายน้องแม็คดีกว่า แข็งแกร่งกว่า ผมก็เลือกน้องแม็คเหมือนกัน

ทุกอย่างมันเป็นเหตุเป็นผลกันอยู่แล้วในเรื่องการเลือกตัวนักเตะ

ย้อนกลับมาที่โรนัลโด้ ผมกล้าพูดได้ตรงนี้ว่า พวกที่ยังมีปัญหากับท่าทางโวยวายของโรนัลโด้ คือพวก "อคติ" ล้วนๆ เพราะคนเราจะหงุดหงิดและเจ็บใจที่ตัวเองทำไม่ได้เหมือนเดิม ยิงประตูไม่ได้ มันผิดตรงไหน? ที่เขาแสดงออกมามันคือความมุ่งมั่น มันคือ mentality แบบผู้ที่ไม่ยอมแพ้ง่ายๆในสนามเท่านั้น ที่อยากจะชนะ อยากจะทำประตูได้

ส่วนผสมมาจากหลายๆอย่างหลอมรวมเป็นพลังงานที่ดี จาก Winning Mentality + EGO + Commitment + Passion

สี่อย่างนี้ ผสมออกมาเป็นคริสเตียโน่ โรนัลโด้ และส่งเขาขึ้นไปเป็น Greatest Of All Time ไปแล้วแม้จะยังไม่แขวนสตั๊ดในวัย 37 ปี

สิ่งที่ Hater / Hatress เหล่านั้นไม่เคยคิดจะมอง ข่าวไม่เคยเอาไปลง กล้องแทบไม่เคยจับ คือพอจังหวะที่โด้ทำไม่สำเร็จ สิ่งที่เขาแสดงออกมาเสมอๆก็คือ "ขอบคุณเพื่อน" ที่พยายามจะเปิดให้ แต่บอลไปไม่ถึงเขา หรือเขายิงไม่เป็นประตู โด้ขอบคุณเพื่อนอยู่เสมอๆ

ผมถามแค่คำเดียวว่า ถ้าในทีม โด้มันมีพฤติกรรมโวยวาย Toxic จนเพื่อนไม่ชอบขี้หน้าจริงๆ คุณจะดูไม่ออกเลยเหรอว่า เพื่อนไม่เอาโรนัลโด้ มันต้องแสดงออกมาบ้าง

แต่ในทีม เราสัมผัสสิ่งนั้นไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว เมื่อวานที่โด้ยิงได้ เพื่อนก็วิ่งกรูกันเข้ามาดีใจกับเขา


จังหวะที่โด้จ่ายบอลให้แอนโทนี่ยิงไม่สำเร็จ น้องก็เดินไปดึงพี่ลุกขึ้นมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

ทุกอย่างมีแต่พลังงานบวกทั้งนั้น ที่ผู้ชายคนนี้มีให้ทีม ซึ่งมันต่างกับที่สื่อพยายามนำเสนอข่าวกันตลอดเวลา (เพราะข่าวโด้มันขายดีสุดไง นักเตะดัง เป็นเป้าสายตา)

แม้กระทั่งจังหวะประตูแรกของซานโช่เมื่อวานนี้ ที่โรนัลโด้ทำท่าขอบอลจากอีริคเซ่น ก็ยังมีคนบอกว่า "โรนัลโด้อีโก้" อีริคเซ่นโชว์ความเก๋าไม่จ่ายให้ ดูจากภาพเอาเองว่าเกิดอะไรขึ้น



โรนัลโด้แค่ทำท่าทางขอบอลธรรมดา อีริคเซ่นไม่จ่ายไปให้เพราะตรงนั้นมีกองหลังวิ่งตามโด้ออกมาแล้ว จ่ายไปให้ก็น่าจะโดนตัดบอลได้ อีริคเซ่นยั้งรอจังหวะไว้ไม่จ่ายก็ถูกแล้ว คริสเตียนก็พาบอลเคลื่อนที่เพื่อจะหาช่องเปิด จากเป้าสองคนที่เขามี คือ ซานโช่ กับ โรนัลโด้ตรงนั้น

สุดท้ายเป็นสายตาระดับเทพของชายตาเหยี่ยวอีริคเซ่น ที่มองเห็นช่องว่างที่เปิดหักไปให้ซานโช่ ล็อคบอลนิ่มๆเชือดเชริฟไปอย่างสวยงาม ประเด็นที่อยากให้ดูจากจังหวะการทำประตูนี้คือ ปฏิกิริยาของโรนัลโด้ ที่ใครบางคนบอกว่า เขาโวยวายหงุดหงิดเพื่อน

มันมีตรงไหน(วะ)

เพื่อนไม่จ่ายบอลที่โด้ขอ สิ่งที่ตัวแกทำคือ "ขยับตำแหน่งวิ่งทะลุขึ้นหน้าเพื่อจะสร้างทางจ่ายให้เพื่อน" อีริคเซ่นที่อยู่ในจุดโจมตีก็เลือกได้สบายแล้ว 2 ช่องทาง

ขณะที่ถ้าสังเกตดีๆ จังหวะที่ซานโช่ได้บอลในกรอบ โรนัลโด้ที่ขยันและวิ่งเติมขึ้นมา ก็ยังเป็น "อีกหนึ่งทางเลือก" ที่คู่แข่งไม่สามารถผลีผลามเข้าใส่ซานโช่ได้ทันที เพราะถ้าซานโช่ไหลต่อมาให้โด้อีก ก็มีโอกาสยิงเหมือนกัน เมื่อตัวเลือกในกรอบมีสองคน แนวรับเชริฟ ก็โดนเล่นงานตั้งแต่การที่คริสเตียโน่ วิ่งดึงสายตาตัวประกบมา 2-3 คนตรงนั้น ทำให้ซานโช่ ยืนว่างและเหลือพื้นที่ล็อคยิงได้แบบสบายๆ

คนที่เกลียด มันก็หาเรื่องเกลียดและจ้องจับผิดได้ตลอด แม้กระทั่งจังหวะที่ไม่มีอะไรแบบนี้ โรนัลโด้ยังถูกตำหนิเยาะเย้ยได้ว่า เพื่อนไม่จ่าย

โคตรงงใจจริงๆ

อ่ะ ให้ดูด้วยว่า พี่แกก็เข้ามาแสดงความดีใจกับเพื่อนตามปกติในรูปข้างล่างนี้ ไม่มีท่าทางฮึดฮัดว่า ทำไมอีริคเซ่นไม่จ่ายมา

เหมือนที่พวก "อคติ" คิดว่ามันเป็นแบบนั้น

สุดท้ายแล้ว บทความนี้คงช่วยอะไรได้มากมายนัก เพราะคนที่มัน "อคติ" ก็จะยัง "อคติ" อยู่วันยังค่ำ

ต่อให้ใครยกเหตุผลมาสักล้านข้อ เขาก็จะเชื่ออยู่เหมือนเดิม และหาเรื่องอคติกับคริสเตียโน่ได้อยู่ดี

ไม่งั้นจะเรียกว่าอคติเหรอครับ

ที่เขียนมาทั้งหมด ไม่ได้หวังว่าอะไรมันจะดีขึ้น แต่นี่คือการถ่ายทอดเพื่อให้เห็นในเชิงเหตุและผลกันจริงๆจังๆว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นปัญหาของทีมจริงๆเหรอ? ทั้งๆที่แทบทุกวัน มีแต่ปากคำของเพื่อนร่วมทีม ผู้จัดการทีม ออกมาชื่นชมเขารัวๆอยู่ตลอด ไม่มีใครด่าหรือบอกว่าโรนัลโด้เป็นปัญหาในห้องแต่งตัวเลยด้วยซ้ำ

สรุปปัญหามันไม่ได้อยู่ที่โด้หรอกครับ อยู่ที่พวกอคตินี่แหละ ที่แก้ไม่หายก็ปล่อยมันไป ให้มันอคติและอกแตกตายไปกับการที่ต้องทนเห็นโรนัลโด้อยู่ในทีมต่อไปแล้วกัน

ถ้าพวกเขาเหล่านั้นโชคดีหน่อย โด้ก็อาจจะย้ายออกไปช่วงมกราคมก็ได้ ถึงตอนนี้ก็แสดงความยินดีด้วยล่างหน้า

แต่คุณไม่มีทางทำให้นักเตะคนนี้ลบล้างความเป็นสุดยอดดาวเตะที่เก่งที่สุดตลอดกาลคนหนึ่งบนโลกใบนี้แน่นอน

ตำนานนักเตะของโลก ตำนานแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ตำนานเรอัล มาดริด

Cristiano Ronaldo

-ศาลาผี-


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด