:::     :::

Sweeper Keeper / Positional Play / และปัญหาการออกบอลของดีนกับเด

วันจันทร์ที่ 19 กันยายน 2565 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
6,284
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
บทความนี้จะทำให้คุณได้รู้จักกับผู้รักษาประตูแบบ "Sweeper Keeper" อย่างถึงกึ๋น และผลดีของโกลสายนี้ ที่มีต่อระบบฟุตบอลสมัยใหม่ โดยเฉพาะบอลของเป๊ปและเทน ฮาก ที่มีจุดร่วมของปรัชญา Positional Play อยู่ ซึ่งปัญหาการเตะออกบอล จ่ายบอล ของดีน และ เดเคอา จำเป็นต้องได้รับการแก้ไข ถ้าจะอยู่ในเกมของเอริค เทน ฮาก

ต้องบอกว่าฟุตบอลยุคปัจจุบันนี้ เป็น Modern Football ที่ใช้เรื่องของการเคลื่อนที่ พละกำลัง การขยับหาตำแหน่ง และการครอบครองบอลอย่างเป็นระบบมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเราจะสังเกตได้ชัดว่า ผู้รักษาประตูที่เหมาะกับ "บอลระบบ" ยุคนี้นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นผู้รักษาประตูที่ใช้เท้าเก่งๆ ออกมาตัดบอล เล่นนอกกรอบได้ และจ่ายบอลได้ดี

หลายๆคนพอจะรู้จักกันแล้วจากสิ่งที่เรียกว่า "Sweeper Keeper" โกลที่เล่นกึ่งๆเป็นกองหลังสวีปเปอร์ตัวสุดท้ายของทีม ซึ่งยกตัวอย่างได้ง่ายมากๆ จากการเล่นของ Manuel Neuer ซึ่งถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของผู้รักษาประตูที่เล่นในรูปแบบ Sweeper Keeper (ย่อ : SK) ได้สมบูรณ์แบบ ครบทุกมิติ และทำได้ยอดเยี่ยม

โกลสาย SK อธิบายเบื้องต้นก็คือ เป็นโกลที่จะต้องมีสกิลทักษะของนักเตะ outfield อยู่ในตัวมากพอสมควร (เป็นนักเตะเอาท์ฟิลด์คนที่11 ก็ว่าได้) และจะต้องเป็นนักเตะที่ชัวร์มากๆในการเล่นและการตัดสินใจ เพราะการมีโกลสาย SK อยู่ในทีม ก็เป็นเหมือนดาบสองคมเหมือนกัน เพราะหากว่าตัวเล่นตำแหน่งนี้ เป็นบุคคลที่ฝีมือไม่ถึง ตัดสินใจแย่ สกิลทักษะไม่ดี

Sweeper Keeper จะกลายเป็นจุดอ่อนใหญ่หลวงที่ทำให้ทีมพังได้ง่ายมากๆ เพราะการเล่นที่มีความเสี่ยงสูง

ทั้งการดันขึ้นมาเล่นร่วมกับเพื่อนในพื้นที่สูงออกมาจากกรอบเขตโทษ ยืนคุมแนวหลัง Defensive Line อีกที ซึ่งมีส่วนกับการเล่นของแผงกองหลังเยอะมากพอสมควร นักเตะกองหลังเองก็จะต้องสื่อสาร และเข้าใจกันอย่างดีกับโกล Sweeper Keeper ด้วย ไม่งั้นก็เละเทะเพราะไม่เข้าใจการตัดสินใจซึ่งกันและกัน

เห็นไหมครับว่า เสี่ยงมาก และเคสที่น่ายกมาเป็นตัวอย่างสุดๆก็คือ เคลาดิโอ บราโว่ ตามคลิปข้างล่างนี้เลยว่า เวลาโกลสายนี้มือไม่ถึง เล่นพลาดบ่อย มันอันตรายสุดๆยังไง


ทางเว็บไซต์ Topgoalkeeping ที่มีข้อมูลความรู้เกี่ยวกับตำแหน่งนี้อย่างละเอียด ได้ระบุคุณสมบัติที่โกลสาย Sweeper Keeper จะต้องมีติดตัว ดังต่อไปนี้

-มีความมั่นใจในการเล่นบอลด้วยเท้า

-จ่ายบอล วางบอลแม่น

-สมาธิต้องดีจัดๆ

-กล้าปะทะ ไม่กลัวเจ็บ เพราะต้องพุ่งเข้าไปบวกคู่แข่งบ่อยมาก (ถ้ากลัวเจ็บจะทำให้เข้าบอลไม่สุด)

-จังหวะสกัดบอลต้องดีเยี่ยม

-การตัดสินใจจะออกบอลบุกเร็ว หรือดึงเกมช้า

-ต้องใช้หัวในโหม่งบอลทิ้งให้ปลอดภัยได้ด้วย (เวลาพุ่งออกมาแล้วต้องจัดการบอลกลางอากาศ โดยใช้มือไม่ได้)

-อ่านเกม กะจังหวะออกมานอกกรอบได้แม่นยำ (เช่น อ่านดักลูกแทงทะลุที่เป็น Through Balls, จังหวะดวล 1-1นอกกรอบเขตโทษ)

"Sweeper Keeper ผู้มาก่อนกาล" ในตำนาน

การใช้โกลประเภท Sweeper Keeper แม้ดูเหมือนว่าจะเจ๋งมากและทำให้ทีมได้เปรียบสุดๆ แต่ขณะเดียวกัน มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียในตัวของการเล่นแบบนี้

เหรียญมีสองด้านเสมอ สวีปเปอร์คีปเปอร์ก็เช่นกัน

-ข้อดีของการมีโกลSK

ทำให้ทีมสามารถดันเกมขึ้นสูงได้สบาย เพราะมีโกลคอยดูแลรักษาพื้นที่ว่างด้านหลัง ซึ่งส่วนมากก็จะขึ้นมาถึงแค่เส้นครึ่งสนาม (สูงกว่านั้นไม่ได้แล้วสิ โดนยิงไกลกันพอดี -*-)

แนวคิดตรงนี้ที่ใช้โกลขึ้นมาคอยคุมพื้นที่สูงด้วย จะยิ่งทำให้ทีมสามารถ "ปลดปล่อย" นักเตะกองหลังของทีม ให้สามารถเติมเกมรุกเพิ่มขึ้นอย่างดุดันได้ มากกว่าจะต้องยืนต่ำอย่างเดียวเพื่อระวังหลังเผื่อโดนสวนกลับ

เราจะมีโกล SK คอยเป็นตัวที่มีโอกาสจะตัดบอลประเภทลูกแทงทะลุช่อง หรือวางยาวหลุดเดี่ยวขึ้นมาได้อย่างดี ซึ่งอลิซง เบ็คเกอร์ และ เอแดร์ซอน ของ ลิเวอร์พูล แมนซิตี้ แสดงให้เห็นอยู่ทุกเกมว่า ลูกที่คู่แข่งวางยาวหลุดกองหลังขึ้นมา หลายๆครั้งใช้ไม่ได้ผลกับพวกเขา เพราะเจอโกลอ่านออกมาตัดถึงบอลก่อนหมด

นอกจากนี้ ทีมที่ใช้ระบบที่ค่อยๆเซ็ตบอลเพื่อขึ้นเกมไปข้างหน้าซึ่งต้องมีตัวเลือกการจ่ายบอลมากๆในแดนกลาง ตัวเล่น Sweeper Keeper นอกจากจะเป็น option จ่ายบอลให้เพื่อนแล้ว ก็ยังสามารถช่วยให้นักเตะตัวอื่นๆวิ่งเติมขึ้นหน้าได้ด้วย ไม่แปลกที่เป๊ป กวาร์ดิโอล่าจะชอบผู้รักษาประตูสไตล์นี้ เพราะบอลของเป๊ปจะครองบอลไว้กับทีมค่อนข้างมาก และเล่นเพรสซิ่งสูงที่นักเตะต้องดันขึ้นไปเพรสแดนคู่แข่ง

ดังนั้นคู่แข่งที่เจอลูกทีมเป๊ปในสนามก็มักจะถอยต่ำและจะต้องวิ่งไล่บอล Possession ของเป๊ปตลอดเวลา รวมถึงจะต้องพยายามเคลียร์บอลยาวออกมาให้พ้นแดนอันตราย สุดท้ายแล้ว Sweeper Keeper ก็จะเป็นคนที่เก็บบอลยาวที่ถูกเตะสาดออกมาเหล่านั้น แล้วก็มอบให้ทีมเอาไปบุกต่อ

คู่แข่งที่ด้อยกว่าทีมของมิสเตอร์กวาร์ดิโอล่า มักจะต้องเจอกับพลังแห่ง "ลูปนรกที่ไม่มีวันไปถึงความจริง" เสมอไป!

-ข้อเสียของการใช้โกลSK

นี่คือข้อดีของการมี Sweeper Keeper แต่.. ข้อเสียก็มีเหมือนกัน นั่นก็คือ การที่โกลสไตล์นี้มักจะขึ้นมายืนสูงในสนาม จะทำให้ "ประตู" เปิดพื้นที่และมุมกว้างมากๆ ถ้าคู่แข่งจ่ายทะลุช่องหรือวิ่งหลุดไลน์กองหลังขึ้นมาได้ ผู้รักษาประตูที่เจอสถานการณ์นี้ในสนามจะไม่สามารถ "เล่นพลาด" ได้เลยแม้แต่เพียงนิดเดียว เพราะถ้าพลาด โอกาสเสียประตูสูง ถ้า Sweeper Keeper คนดังกล่าวเหม่อ ไม่มีความเร็ว หรือเข้าบอลไม่แม่น

กลยุทธ์ทั้งหมดของทีมจะพังทันที เพราะโกลSKหลุดตำแหน่ง พื้นที่ด้านหลังจะโล่งทันที ซึ่งแน่นอนว่า Defensive Line แนวกองหลังของทีมเราที่ดันขึ้นไปเล่นเพรสซิ่งสูง จะหมดปัญญาถอยลงมาช่วยได้ทันเวลาอย่างแน่นอน

ในยุคนี้เราอาจจะไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า ผู้รักษาประตูสาย Sweeper Keeper บนโลกนี้ ใครเก่งที่สุด ยามที่นอยเออร์ซึ่งเป็นต้นแบบคนนึงของโกลSKเริ่มอายุมากขึ้นแล้ว และมีสองผู้รักษาประตูของทีมที่เป็นเต้ยอยู่ในช่วงนี้ นั่นก็คือ เอแดร์ซอน และ อลิซง เบ็คเกอร์

อย่างที่กล่าวไปด้านบนแล้วว่า สกิลทักษะของพวกโกลกึ่งสวีปเปอร์พวกนี้มีอะไรบ้าง ดังนั้นจุดเด่นในภาคการเล่นโดยรวมของผู้รักษาประตูสไตล์แบบนี้คือ

1. มีความเป็นกึ่งกองหลังสวีปเปอร์ตัวสุดท้าย ที่จะไม่ยืนเฝ้าปากประตูอย่างเดียว แต่จะออกมาเล่นนอกกรอบบ่อยครั้ง ทั้งอ่านเกมออกมาตัดบอลที่คู่แข่งวิ่งทะลุจากการวางบอลฆ่าแนวแผงหลังของทีม โกลสายSKก็จะออกมาเล่นเหมือนเป็นกองหลังที่ห้อยตัวสุดท้าย

คลิปข้างล่างนี่ก็เป็นตำนานของ Sweeper Keeper เมืองไทยอย่างพี่ตี๋ นอยเออร์



2. เมื่อเป็นผู้รักษาประตูกึ่งกองหลัง การเล่นบอลด้วยเท้าจะต้องดีเป็นพิเศษ เนื่องจากว่าต้องออกมานอกกรอบเขตโทษบ่อยๆ ผู้รักษาประตูก็จะใช้มือไม่ได้ (แหงล่ะ) เมื่อการเล่นเป็นเหมือนกองหลังตัวนึง สกิลทักษะที่โกลสายนี้จะต้องมีติดตัวไว้ดีที่สุด นอกจากการอ่านเกม สปีดต้นความเร็วในการ "ตอบสนอง" และ "ตัดสินใจ" ต่อเพลย์นั้นๆ (ว่าคุณจะออกหรือไม่ออก) อันนี้คือโคตรสำคัญมากๆ

แต่ถ้าไม่มีสกิลการเล่นบอลด้วยเท้าที่ดี โกลคนนั้นอาจจะเหวอและกลายเป็นจุดอ่อนที่ออกมาพลาด แล้วเป็นเป้าให้คู่ต่อสู้เข้าไปยิงง่ายๆ จนอาจจะทำลายความมั่นใจเพื่อนร่วมทีมด้วยถ้าเป็นงั้นบ่อยๆ

หากเล่นบอลด้วยเท้าไม่เก่งจริงๆ ก็ยืนเฝ้าที่เส้นปากประตูยังจะดีซะกว่าออกมานอกกรอบเลย แล้วค่อยใช้วิธีอ่านจังหวะ ออกมาแค่ "บีบมุมยิงของคู่แข่ง" อย่างที่แฟนบอลรุ่นเก่าๆจะคุ้นเคยวิธีแบบนี้กันดี ซึ่งมันคือสกิลแบบผู้รักษาประตูที่ไม่ได้เล่น Sweeper Keeper และเฝ้าประตูบนเส้นมากกว่า

Peter Schmeichel โกลหมายเลขหนึ่งในดวงใจตลอดกาลของผู้เขียน

3. โกลที่ใช้เท้าเก่งๆ มักจะมีประโยชน์เหมือนเป็น "กองหลังตัวที่5" ของทีมเสมอ เวลาเล่นเซ็ตบอลจากแดนหลัง (play out of defense) เพราะสมมติว่า ถ้าคู่แข่งวิ่งขึ้นมา"เพรสซิ่ง" สักประมาณ 5 คน บีบแบ็คโฟร์ของคุณ(4) รวมถึงกลางต่ำของคุณด้วย(1)

เท่ากับว่า นักเตะของคุณ 5 คน จะถูกคู่แข่ง 5 คนบีบหมดเกลี้ยง

แต่ถ้าคุณมี "ผู้รักษาประตู" สามารถเล่นกับบอลได้อีกคน เท่ากับว่า คุณจะเหนือกว่าและได้เปรียบคู่แข่งทันที เพราะจะกลายเป็นการต่อสู้ "6 ต่อ 5"

เราจะมีตัวว่าง "หนึ่งคน" เพื่อจ่ายบอลหนีการโดนเพรสสูงได้อยู่เสมอ

แต่นี่ก็โหดเกิ้นนนน

ซึ่งหนทางการเอาชนะ High Pressing โดยการมี Sweeper Keeper สร้างความแตกต่าง และทำให้มีตัวครองบอลเยอะกว่าคู่แข่งตลอดเวลานั้น ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของวิธีเล่นในเชิง "แนวคิด" (Conceptual Tactics) ก็คือการทำให้ทีม "สร้างความเหนือกว่า" คู่แข่งให้ได้ตลอดเวลา ด้วยวิธีคิดของฟุตบอล "Positional Play"

มันคือการเล่นฟุตบอลที่ใช้ความเข้าใจเกมร่วมกันทั้งทีม ในการรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองซึ่งต้องขยับตำแหน่งเพื่อสร้างความได้เปรียบให้เหนือกว่าคู่ต่อสู้ให้ได้

การสร้างความได้เปรียบคู่แข่งจาก Positional Play จะต้องทำให้เราเหนือกว่าเขาให้ได้ทั้งในเรื่องจำนวนผู้เล่น ทั้งในเรื่องตำแหน่งการยืน ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้ สามารถสร้างได้ผ่านการติวเข้ม ฝึกซ้อม และอธิบายให้นักเตะเข้าใจ "คอนเซปต์" การเล่นในสนามร่วมกันทั้งทีม

ยิ่งเข้าใจมากเท่าไหร่ยิ่งดี

เพราะนักเตะจะยิ่งไม่ต้องใช้เวลาคิดในการเล่นเยอะมากนัก และเอาตัวรอด สร้างทรงทีมอันสุดยอดเกิดขึ้นมาได้ เหมือนสิ่งที่เป๊ป กวาร์ดิโอลาร์ทำอยู่ทุกวันนี้


มันไม่ใช่เรื่องว่า จะต้องเล่นบอลแบบ Tiki-Taka เหมือนบาร์ซ่า เหมือนเป๊ป แต่สิ่งสำคัญกว่าที่ซ้อนอยู่ด้านหลังนั้น ก็คือปรัชญาของฟุตบอล "Positional Play" ซึ่งปรับใช้ได้กับบอลหลายระบบ รวมถึง "Total Football สมัยใหม่" แบบของเอริค เทน ฮาก เรื่องฟุตบอล "Pass and Move" ที่เล่นเกมรุก ก็มีคอนเซปต์ของ Positional Play อยู่ในนั้น

ซึ่งเมื่อสกิลการใช้เท้าเตะบอล ออกบอล และ จ่ายบอล เป็นสกิลที่สำคัญมากๆของ Sweeper Keeper และฟุตบอลสมัยใหม่ที่มีปรัชญา Positional Play ซ่อนอยู่เบื้องหลังเยอะ โดยเฉพาะบอลแบบเป๊ป และบอลของเทน ฮาก ที่มีจุดร่วมกันอยู่ ทำให้เรื่องของคุณภาพในการจ่ายบอล คุณภาพในการเตะออกบอลมาของผู้รักษาประตูในยุคนี้ "โคตรสำคัญ" จริงๆ

และก็อย่างที่ทราบ อลิซง เบ็คเกอร์ และ เอแดร์ซอน ที่ได้ชื่อว่าเป็น SK ที่ดีที่สุดอีกสองคนในยุคนี้ ก็ดันมีสถิติการจ่ายบอลอันยอดเยี่ยมและดีที่สุดของลีกจริงๆ จากภาพข้างล่างนี้ที่เป็นสถิติของฤดูกาล 2021/22

ภาพนี้ คือตัวอย่างสถิติในเชิง "แผนที่การจ่ายบอล" (Passing Map) ของทั้งสองคนนี้ในพรีเมียร์ลีกจากฤดูกาล 2021/22 หรือปีที่แล้วนี่เอง ข้อมูลในภาพนี้ใช้ Data กับ ภาพอธิบายจาก VIZ APP คัดมาเฉพาะสองผู้รักษาประตูที่แฟนบอลน่าจะเข้าใจตรงกันว่า เป็นโกล Sweeper Keeper สมัยใหม่ทั้งคู่

เส้นสีแดง คือการจ่ายบอลที่ "ไม่สำเร็จ" ส่วนเส้นสีขาว คือการจ่ายบอลสำเร็จ ดูง่ายๆว่า ถ้าเส้นแดงเยอะ ถี่ แปลว่าออกบอลไม่ค่อยแม่นยำ ส่วนถ้าเส้นขาวเยอะ แปลว่าอัตราสำเร็จของการออกบอล ทำได้แม่นยำและสำเร็จในปริมาณที่มากกว่า

สถิติก็ตามภาพ Ederson คือเทพสุดเรื่องการจ่ายบอล เตะออกบอล อัตราการจ่ายบอลสำเร็จในซีซั่นก่อน ตามสถิติจาก VIZ APP โดย @FTBLNL สูงถึง 90% และวางบอลยาวสำเร็จเยอะถึง 62.68%

Alisson ไม่ได้ด้อยกว่ากันมากนัก Pass Complete เฉลี่ยตก87.25% เตะออกบอลยาวสำเร็จ 53.59% (เส้นยาว) ก็ยังถือว่าจ่ายยาวสำเร็จอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากอยู่ดี ออกบอลยาว 2 ครั้ง ตรงเป้า 1 ครั้ง ก็ยอดมากแล้ว

ถ้านำสถิติดังกล่าวมาเทียบกับโกลอื่นๆจาก Big Six ในซีซั่นก่อน รวมถึง "David de Gea" ด้วยเพื่อให้เห็นความแตกต่างกัน งานนี้ใครออกบอลห่วย รับรองว่า "แดงเถือกแน่นอน"

น้องเดของเรา ซึ่งแฟนผีรู้ๆกันดีว่าแกเตะออกบอลห่วยมาก ก็ตามนั้นแหละ แต่ก็มีคนที่ "แดง" ใกล้ๆกับเดเคอาเหมือนกัน ดังภาพๆนี้

จากภาพข้างบนนี้ ไม่ต้องสนใจสองคนบนสุดที่เทพอยู่แล้ว ที่น่าดูก็คือ ดาวิด เดเคอา กับ อารอน แรมสเดล มีสถิติที่ไม่ค่อยดีพอๆกัน โดยการวางบอลสำเร็จ เดเคอามี Long Pass Completion แค่ 39.28% ส่วนแรมสเดล หนักกว่า อยู่ที่ 32.29% เท่านั้นเอง ส่วนอัตราการจ่ายบอลสำเร็จรวม เดเคอาอยู่ที่ 73.38% แต่แรมสเดล 67.63% ต่ำสุดในบรรดาโกล Big Six เลย

สถิติรวม แรมสเดลแย่จริงแหละ เพราะจาก fbREFอีกแหล่งก็ยืนยันที่ค่ารวมของแรมสเดล 68.2% กับเดเคอา 70.9% จริงๆ

Data ตรงนี้แม้จะมีความเหลื่อมกันจากหลายๆฐานข้อมูล แต่ก็ถือว่าพอจะเห็นภาพรวมเรื่อง "ตัวเลข" ได้ใกล้เคียงความเป็นจริง เพราะสถิติจาก Whoscored แรมสเดล จ่ายบอลสำเร็จ เฉี่ยแค่ 62.6% เอง ส่วนเดเคอาจ่ายบอลเฉลี่ยสำเร็จ 68.9% (whoscoredโหดร้ายกับเจ้าแรมมากๆ ฮา)

คำถามคือ "ความแดงเถือก" ในแผนภาพเตะออกบอลนี้ ของ อารอน แรมสเดล และ ดาวิด เดเคอา รวมถึงสถิติจ่ายบอลสำเร็จที่ค่อนข้างน้อย แปลว่าพวกเขาจ่ายบอลแย่มากเลยใช่หรือไม่

"ไม่"

ศาลาผีเขียนในคอลัมน์เสมอว่า อย่าเอาพวกตัวเลข "อ้ัตราความสำเร็จ" (Completion Percentage) ต่างๆ มาฟันธงว่า นักเตะดังกล่าวมีสกิลการเล่นตามตัวเลขเหล่านั้นอย่างตรงตัวเป๊ะๆ บางครั้งต้องตีความกันให้ดีว่า เพราะอะไร ตัวเลขมันถึงมาก น้อย ด้วยการดูค่าสถิติแวดล้อมประกอบบริบทของการพิจารณาด้วย

ลองดูสถิติการจ่ายบอลของผู้รักษาประตูในBig 6 ที่จ่ายบอลถึง "พื้นที่ Final Third" ของคู่แข่งกันดู จากข้อมูลนี้

จะเห็นว่า อัตราจ่ายบอลสำเร็จโดยรวมของเดเคอา กับ แรมสเดล ต่ำก็จริง แต่ให้ดูที่ อารอน แรมสเดลว่า เขามีปริมาณการเตะออกบอลยาว (มากกว่า30หลา) เยอะกว่าคนอื่นๆมาก เรียกง่ายๆว่าแรมมันชอบออกบอลยาวให้ทีมบ่อยสุดๆ แล้วดูสถิติที่น่าเหลือเชื่อของตัวเลข 1/3 ที่ตีกรอบสีแดงอันที่สองไว้ นั่นคือ จำนวนการจ่ายบอลเข้า Final Third คู่แข่ง (ไม่นับลูกเซ็ตพีซ) ของผู้รักษาประตูทั้ง 6 คน

ตัวเลขของแรมสเดล ที่จ่ายบอลเข้า Final Third คู่แข่ง เยอะกว่าคนอื่นมากๆ

เขามีค่าสถิติสูงที่สุดในบรรดา 6 คนนี้เลย ทำได้มากถึง "28 ครั้ง" รองลงมาคือ อูโก้ ญอริส (16) และ อลิซง เบ็คเกอร์ (13) นั่นเอง แถมด้วยสถิติ Progressive Pass ที่เป็นการจ่ายบอลขึ้นหน้า เข้าสู่ฝั่งคู่แข่งในกรอบเขตโทษสำเร็จ ที่ไม่รวมการเปิดบอลจ่ายจากพื้นที่ 40% ของสนามที่เป็นแดนหลังของทีม แรมสเดล กับ เอแดร์ซอน ทำ Progressive Pass สำเร็จกันคนละครั้งในเกมรุก

นอกจากนี้เรื่อง Pass Types (ชนิดลูกจ่าย) แรมสเดล จ่ายบอลลักษณะของ "ลูกเตะยาว" ที่ยาวและไกลมากกว่าระยะ40หลา มากเป็นอันดับสองของโกลBig Six เป็นรองอลิซง ที่จ่ายบอลยาวเกิน40หลาถึง 37 ครั้ง ส่วนแรมสเดล จ่ายยาวใกล้เคียงกันที่ 35 ครั้ง เยอะมากจริงๆเมื่อเทียบกับคนอื่น แม้จะเปิดแล้ว "ออกนอกสนาม" เยอะกว่าคนอื่นเช่นกันสำหรับแรม ที่ 46 ครั้ง

แต่ที่นำมาอธิบายนี้ ก็เพื่อจะบอกว่า "Pass Completion Percentage" การจ่ายบอลสำเร็จที่อัตราสำเร็จต่ำมากๆของแรมสเดล ส่วนใหญ่เป็นเพราะว่าพี่แกเปิดแต่ "บอลยาว" ล้วนๆเน้นๆนั่นเอง ทำให้โอกาสสำเร็จมันน้อย

เห็นไหมครับว่า ตัวเลข 67.63% ในรูป Pass Map ที่ต่ำที่สุดในบรรดา 6 คนนั้น ก็ใช่ว่าแรมสเดลจะจ่ายบอลห่วยกว่าคนอื่นๆถึงขนาดกู่ไม่กลับขนาดนั้น เพราะมันคือบอลยาวนั่นเอง จะสำเร็จน้อยก็ไม่แปลกอะไรเลย

ทั้งหมดนั้นคือการเปรียบเทียบความสามารถของผู้รักษาประตูยุคปัจจุบัน ที่จะเห็นกันชัดๆว่า โกลสาย Sweeper Keeper สร้างการจ่ายบอล ครองบอลให้กับทีมได้อย่างชัดเจนมากๆ ซึ่งมันส่งผลให้รูปเกมของทีมดี ครองบอลเหนียวแน่นด้วย

ถ้าออกบอลเก่งๆ ทีมได้ประโยชน์เยอะ

แต่สิ่งที่กำลังจะพูดต่อจากนี้ก็คือ เรื่องของ "การออกบอล" เป็นปัญหาของผู้รักษาประตูที่มีสัญญากับสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดทั้งสองคนเลย ทั้งคนที่ยังอยู่ และคนที่ปล่อยยืมตัวออกไปน็อตติ้งแฮมฟอเรสต์

ใช่ครับ.. ดาวิด เดเคอา กับ ดีน เฮนเดอร์สัน

จากการสังเกตและดูฟอร์มการเล่นตลอดว่า พวกเขาจ่ายบอลให้เพื่อนไม่ได้เปรียบเลย โดยเฉพาะการวางบอลออกมาจากแดนหลัง ผ่านเกมพรีเมียร์ลีกที่เล่นกันมาพอสมควรแล้วในฤดูกาล 2022/23 นี้ ซึ่งพอจะเห็นได้ว่ามันยังไม่ดีพอ

ขอแยกพูดถึงข้อดีในเรื่องของ "ฟอร์มการเล่นโดยรวม" ในด้านอื่นๆ ที่ไม่ใช่การจ่ายบอล ออกบอลในสนามของทั้งคู่ โดยรวมฟอร์มของการ "เซฟประตู" ถือว่าโอเค จะบอกว่าใครเด่นกว่าใครก็คงจะยากหน่อย เพราะดีโน่อยู่กับทีมที่การเล่นมีช่องโหว่ และโดนบุกโจมตีใส่อยู่บ่อยครั้ง จนต้องเซฟพัลวันเป็นเรื่องธรรมดาในทุกๆนัด

ส่วน ดาวิด เดเคอา หลังจากที่ทีมได้แบ็คโฟร์ชุดหลัก 4 คน ที่เข้าขาทำผลงานกันได้อย่างดีอย่าง "โลวาเนเซีย" ดาโลต์ วาราน มาร์ติเนซ มาลาเซีย ที่ฟอร์มวง Passion 4 Project เล่นเกมรับกันแบบถวายหัวด้วยแพชชั่นที่เต็มเปี่ยมโคตรๆ ทำให้งานของเดเคอา ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ก็ยังมีโดนส่องอยู่บ่อยๆ ยังดีว่าแกยังโชว์ฟอร์มได้ดี เช่นเกมเจอเลสเตอร์ เดเคอาก็กดอัลติ "เดฟเซฟ" บินไปใช้สันมือทุบฟรีคิกของเจมส์ แมดดิสัน ออกไปอย่างสวยงาม

ลูกเซฟนี้ เดเคอา อุทิศให้คุณย่าของเขาด้วย

เรื่องการเซฟลูกยิง สองคนนี้ทำได้ดีทั้งคู่ ส่วนดีโน่ ที่โดนไป 6-0 แต่ละลูกที่โดนก็ต้องบอกว่าหมดปัญญาจริงๆ และมันไม่ใช่ว่าเขารั่ว แต่ "ฮาลันด์และผองเพื่อน" มันโหดขึ้นไปห้อยอยู่ห่างๆ ณ ที่ว่างของชั้นบรรยากาศ Stratosphere แล้ว

ฟอเรสต์ที่ยังปรับตัวกับพรีเมียร์ลีกอยู่ก็เลยเจอรับน้องไปอิ่มแปล้ แค่นั้นเอง

แต่จุดที่ดูเหมือนจะเป็นปัญหา และข้อด้อยในด้านการเล่นของทั้งคู่ คือเรื่องของการวางบอลยาวนั่นเอง ที่ทั้ง ดีน เฮนเดอร์สัน และ ดาวิด เดเคอา "มีปัญหามาก" และยังต้องปรับปรุงตัวเองอีกเยอะ เพื่อให้การเล่นของแมนยูไนเต็ดมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ความสามารถการเตะออกบอลจากหน้าปากประตูที่เป็นการวางบอลยาวออกมา หรือทักษะการ Kicking ของผู้รักษาประตู (ไม่รวมเรื่องของการจ่ายบอลสั้นระยะใกล้กับเพื่อนร่วมทีม) เป็นเรื่องเตะออกบอลยาวจากหน้าปากประตูล้วนๆ

เราได้เห็นปัญหาเรื่องการออกบอลยาวจากผู้รักษาประตูสองคนของเรา ทั้งในเกมก่อนๆ ที่แมนยูไนเต็ดบุกไปชนะเลสเตอร์ 0-1 รวมถึงฟอร์มการเล่นของ "ดีโน่" ในเกมที่ฟอเรสต์แพ้แมนเชสเตอร์ซิตี้ 6-0

จริงอยู่ ซิตี้เก่ง ไม่เถียง แต่การเล่นในสนาม ดีนก็เผยจุดอ่อนเรื่องการออกบอลพลาดจนอาจนำไปสู่การเสียประตูให้เห็นเยอะ

บอลยาวมีปัญหาทั้งคู่


เริ่มต้นที่ดีน เฮนเดอร์สันก่อน แฟนบอลทุกคนน่าจะรู้แล้วว่า น้องดีนเป็นผู้รักษาประตูสาย Sweeper Keeper เป็นโกลยุคใหม่ที่มีการออกจากกรอบ มาเล่นบอลร่วมกับทีมมากขึ้น วิ่งออกมาสกัดบอลเหมือนเป็นสวีปเปอร์คนสุดท้าย มากกว่าแค่ยืนปักหลักอยู่หน้าเส้นปากประตู

ทักษะความกล้า ร่างกาย และการอ่านออกมาตัดบอลโด่งของดีน เฮนเดอร์สัน ถือว่าทำได้ดี และแตกต่างจากเดเคอาชัดเจน ซึ่งน้องเดไม่สามารถเล่นแบบนี้ให้มีประสิทธิภาพได้(มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว) การพุ่งออกมานอกกรอบเขตโทษเพื่อสกัดบอลที่กองหน้าคู่แข่งหลุดเดี่ยวทะลุแผงหลังของทีมมา น้องดีนก็ rush out ออกมาได้ดีเช่นกัน

การเป็นโกลสาย SK ไม่มีเรื่องอะไรมีปัญหา แต่เรื่องของการ "ออกบอลยาว" มาจากหน้าประตู เวลาที่โดนคู่แข่งขึ้นมาเพรสซิ่งสูงใส่ ดีน เฮนเดอร์สัน ออกบอลยังไม่แม่นยำเท่าที่ควร


การจ่ายบอลสั้นที่เป็นลูก Passing ต่อบอล ทำเกมกับกองหลัง ก็ยังไม่ได้ถือว่าโดดเด่นอะไรมาก เพราะแน่นอนว่า Standard ที่ยูไนเต็ดต้องการ เราอยากได้โกลที่เล่นบอลกับเท้าเก่งๆ เหมือนที่ซิตี้มีเอแดร์ซอน และ ลิเวอร์พูลมีอลิซง เบ็คเกอร์ ถ้าเป็นไปได้เอริคก็คงอยากได้แบบนั้น เพราะเขาต้องการบอลที่เซ็ตกันตั้งแต่แดนหลัง

ดีน เฮนเดอร์สัน ยังเตะบอล จ่ายบอลไม่แม่นขนาดนั้น


ปัญหาคือ เมื่อน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เจอ High Pressing ของแมนซิตี้เล่นงาน ทำให้ดีโน่จำเป็นต้องวางบอลระยะกลาง และระยะยาว โด่งออกมาเพื่อหนีเพรสของซิตี้ก่อน และสิ่งที่เราเห็นชัดเจนก็คือ เขาออกบอลพลาดหลายครั้งพอสมควร ทีมไม่ได้เปรียบจากบอลยาว และเห็นช็อตพลาดใหญ่ๆที่ออกบอลมาแล้วทำให้ทีมโดนบุกจนเสียประตูด้วย เพราะ Kicking ออกมาไม่แม่นนั่นเอง ทั้งน้ำหนักและทิศทาง

ย้ำอีกครั้งว่า ดีน เป็นโกลสาย Sweeper Keeper ก็จริง สกิลด้านอื่นๆของโกลยุคใหม่มีครบหมด แถมการเซฟจุดโทษก็เข้าขั้นเซียนอีกคน จากการเซฟได้ทั้งเดแคลน ไรซ์ แถมหยุดกองหน้าระดับท็อปของโลกอย่าง แฮรี่ เคน มาแบบเนี้ยบๆ


แต่เรื่องเดียวที่เป็นจุดอ่อนซึ่งยังไม่เต็มของดีน เฮนเดอร์สัน ในการเป็นSK ก็คือการออกบอลนั่นเอง คือพาร์ทที่ยังเป็นปัญหา และจุดอ่อนของเขาอยู่ จากการโดนจี้เรื่องนี้จากทีมที่เล่นเพรสสูงพุ่งเข้าใส่เขาและกองหลัง จุดอ่อนของดีนออกมาให้เห็นชัดเจน

ซึ่งจริงๆแล้วนี่คือเรื่องที่ควรดีใจมากกว่า ที่ได้เห็นจุดอ่อนของเขา เพราะจะได้พัฒนากันได้จากจุดบกพร่องที่มี ไม่ใช่ไปดูถูกซ้ำเติมน้องว่ากระจอก ฝีมือ Overrated ซึ่งถ้าโอเวอร์เรทจริงคงไม่เซฟพัลวันให้ฟอเรสต์ได้ขนาดนี้แน่ๆ


เราไม่ได้เขียนเรื่องนี้มาเพื่อตำหนิ บ่น ก่นด่า หรือวิพากษ์วิจารณ์เลย นั่นไม่ใช่ความตั้งใจของผู้เขียน แต่มันเป็นเรื่องดีที่ว่า เมื่อรู้ว่าปัญหาของตัวเองคืออะไร ยังขาดตกบกพร่องอะไรอยู่ เราก็จะได้รู้จุดที่ต้องปรับปรุง และสามารถจะพัฒนาเรื่องนั้นให้มันไม่เป็นปัญหาได้

ถ้าสักวันนึง ดีน เฮนเดอร์สัน กลับมายูไนเต็ดในฐานะตัวแทนเดเคอา และเป็น Sweeper Keeper ให้กับเอริค เทน ฮาก ที่ปรัชญาการเล่นของเขาเน้นการทำเกม เซ็ตบอลจากแดนหลังเป็นหลักอยู่แล้ว ดีน เฮนเดอร์สัน จะต้องฝึกอีกเยอะมากในการ Passing รวมถึง Kicking เพื่อให้ทีมเล่นเกมครองบอลและ Build-up จากแผงกองหลังได้ดีกว่านี้

หวังว่าน้องจะอัพเกรดตัวเองมากขึ้นกว่านี้ และยังได้อยู่กับเราต่อไป เพราะศักยภาพน้องสูงมากจริงๆ เชียร์กันต่อไปสำหรับดีน เฮนเดอร์สัน

ส่วนเดเคอาเอง ก็มีปัญหาเรื่องนี้มานานแล้ว และดูน่าจะหนักกว่าน้องดีนเยอะ เนื่องจากเดเคอา เป็นคนเดียวในบทความนี้เลยที่เล่นในสไตล์ผู้รักษาประตูแบบยืนปักหลักเซฟบนเส้นแบบโกลโบราณ ในสไตล์ "Shot Stopper" ที่เน้นปักหลัก ใช้ปฏิกิริยาระดับอิมพัลส์เทพ พุ่งเซฟลูกปาฏิหาริย์ มากกว่าที่จะพุ่งออกมาจากกรอบ เล่นบอลด้วยเท้าเก่งๆ หรือแม้แต่พุ่งออกมาปัดลูกโด่ง ซึ่งเรื่องนี้มีปัญหากว่าน้องดีนเยอะ อย่างน้อยๆดีโน่ก็กล้าออกมาชกบอล ตัดบอลบ้าง

นี่เป็นปัญหาที่เป็นจุดอ่อนเดเคอา อย่างแท้จริงมานานแล้ว

สถิติข้างล่างนี้ จะเป็นตัวบ่งบอกที่ชัดเจนว่า ทั้งดีน และ เด มีปัญหาเรื่องการเตะออกบอลยาวอย่างรุนแรง ด้วยตัวเลขที่ไม่ต้องอธิบายอะไรกันมาก ให้ดูค่าสำคัญๆตามที่ขีดเส้นแดงไฮไลต์ไว้นี้ จากสถิติในภาคการจ่ายบอล ของเดเคอา กับ ดีโน่ เมื่อเทียบกับโกลคนอื่นๆใน Big 6

ข้างบนสุด จะเห็นเลยว่าที่ตีกรอบไว้คือ อัตราการจ่ายบอลยาวสำเร็จ เดเคอาต่ำสุดๆ ที่ 38.7% รองลงมาคือดีน 41.8% ซึ่ง attempts การพยายามเปิดบอลยาวถือว่าสูงสุดสองคนเหมือนกันในตัวเลือก 6 รายนี้ (119 ครั้ง 194 ครั้งตามลำดับ ซึ่งของน้องดีน ต้องเตะบอลยาวเยอะมาก เกือบๆ 200 ครั้งกับฟอเรสต์จาก 7 เกมปีนี้ -*-)

คำถามที่หลายๆคนสงสัยคือ ด้วย "ปริมาณ" การเตะยาวที่เยอะของทั้งสองคน ดีน กับ เด โอกาสสำเร็จมันก็ต้องมี%น้อยกว่าคนอื่น ที่จ่ายในปริมาณน้อยกว่าอยู่แล้วสิ (ตัวหารน้อยไง) จะบอกแบบนี้ก็ถูกเหมือนกัน แต่ถูกแค่ส่วนเดียว

ให้ดูตารางล่าง Pass Types ที่วงกรอบ Press ไว้คือจำนวนการจ่ายบอลที่โกลแต่ละคนต้องจ่ายจากสถานการณ์โดน "เพรสซิ่ง" เข้าใส่ จะเห็นชัดว่า ดีน เจอเพรสถึงตัวบ่อยมาก และต้องออกบอลจากจังหวะโดนเพรสมากสุดถึง 28 ครั้ง แล้วบอลออกนอกสนามเยอะสุด ถึง 14 ครั้งด้วยกัน

ใช่ อาจเป็นเพราะทีมของดีน เฮนเดอร์สันด้วย ที่เล่นแย่ทำให้เขาต้องโดนบีบ และจ่ายเสียบ่อยๆ ข้อนี้ถูกต้อง100%

แต่จะให้ดูเทียบกับ "Hugo Lloris" ก็ต้องจ่ายบอลจากจังหวะโดนเพรส มากถึง 27 ครั้งเหมือนกัน แต่เตะบอลพลาดออกนอกสนามแค่ 5 ครั้ง แถมบอลยาวของพี่แกก็ Success ราวๆ 60% เลยทีเดียว

เทียบกับดีนที่โดนเพรสเยอะพอๆกัน แต่จ่ายยาวสำเร็จแค่ราว 42% สกิลมันต่างกันเยอะมากจริงๆ

ที่น่าตกใจคือ จากข้อมูลตารางด้านบน เดเคอา ต้องจ่ายบอลจากจังหวะโดนเพรสแค่ 9 ครั้งเท่านั้น แต่เตะออกนอกสนามถึง 8 ครั้ง (รองดีนคนเดียว) แถมอัตราวางยาวสำเร็จแค่ 38.7% ต่ำสุดแล้ว เพราะแม้แต่แรมสเดล สถิติปีนี้ยังออกบอลยาวแม่นกว่าเดเคอาเลย เพียงแค่ว่าแรมสเดลจ่ายบอลสั้นมีพลาดด้วย พลาดอยู่คนเดียว (87.5%) แถมจ่ายบอลออกนอกสนาม 8 ครั้งเท่าเดเคอา

แรมสเดลก็ไม่เบานะเนี่ย (ฮา) แต่เอาจริงๆ ที่น่าห่วงกว่าเยอะมาก คือ "ดาวิด เดเคอา" นี่แหละ

แล้วน้องเด ก็เฝ้าเสาให้ทีมเราด้วย

สิ่งที่ "ศาลาผี" ต้องการจะพูดในบทความนี้ คือการชี้ให้เห็นว่า การเตะออกบอลยาวของทั้งดีน เฮนเดอร์สัน และ ดาวิด เดเคอา "มีปัญหาจริง" จากการดูการเล่นในสนามด้วยตาตัวเองอย่างชัดเจน และใช้สถิติตัวเลขมาวิเคราะห์ประกอบ ก็ไม่หนีความจริงที่เราตั้งข้อสังเกตไว้ และหาตัวเลขมาพิสูจน์ hypothesis ที่ตั้งข้อสันนิษฐานเอาไว้ได้สำเร็จ (ว่าน้องกุสองคนเตะออกบอลห่วยกันจริงๆไม่ได้มโน)

แต่ไม่ได้หมายความว่า ดีโน่ กับ เดเคอา ไร้ประโยชน์กับทีม และเป็นโกลกระจอกฝีมือแย่ เหมือนที่แฟนบอลสาย Toxic ขยันด่าและดูถูกนักเตะตัวเองซะเหลือเกิน

บทความนี้แค่ชี้ให้เห็นว่า มันเป็นจุดอ่อนเรื่องนี้ แต่ทั้งดีน และ เดเคอา ยังคง "เซฟพัลวัน" เปิดร่างนีโอ กดอัลติคัมภีร์หยุดกระสุนกันอย่างสนุกสนานทุกนัดโดยเฉพาะดีน ส่วนเด ก็มีช็อตสำคัญๆให้เซฟบ่อยครั้ง ไม่งั้นทีมอาจจะเน่าได้

เขียนมาถึงตรงนี้ หวังว่าผู้อ่านจะแยกแยะออกจริงๆว่า มันไม่ใช่บทความตำหนิ หรือชี้ว่า สองคนนี้เล่นอ่อนขนาดนั้น เปล่าเลย เราแค่ชี้แจงบทวิเคราะห์และ Fact ให้ได้เห็นเท่านั้นเองว่ามันเป็นจุดอ่อนที่ต้องแก้ และถ้าเล่นบอลด้วยเท้าดีขึ้น จ่ายบอล เปิดบอลแม่นขึ้น มันจะมีประโยชน์ต่อฟุตบอลเชิงคอนเซปต์ของ "Positional Play" ซึ่งเหมาะกับโกลสไตล์ Sweeper Keeper ที่สุด ซึ่งมันคือฟุตบอลของ "Erik ten Hag" ของเรานั่นเอง มันถึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องปรับปรุงให้ได้

Dean Henderson คือโกลรุ่นใหม่ที่เป็นผลิตผลของอะคาเดมี่ยูไนเต็ดแท้ๆ และอาจเป็นอนาคตของทีมเราในระยะยาว

David de Gea คือซีเนียร์ว่าที่ตำนานผู้รักษาประตูของเรา ที่ลงเล่นด้วยเกียรติยศ สมศักดิ์ศรีนักเตะแมนยูทุกๆครั้ง

เป็นกำลังใจให้ทั้งดีน และ เด เหมือนเดิมครับ รักน้องทั้งคู่นะ แก้ไขจุดอ่อนเร็วๆล่ะ พวกพี่จะรอ

#BELIEVE

-ศาลาผี-

References

https://fbref.com/en/stathead/player_comparison.cgi?request=1&sum=0&comp_type=by_type&dom_lg=1&spec_comps=big_5&player_id1=466fb2c5&p1yrfrom=2021-2022&player_id2=7ba6d84e&p2yrfrom=2021-2022

https://www.whoscored.com/Players/79554/History/David-de-Gea

https://i.redd.it/7xsoewsyk8o91.jpg

https://topgoalkeeping.com/sweeper-keeper-defensive-goalkeeper-explained/

https://www.whoscored.com/Players/316858/History/Aaron-Ramsdale

https://www.whoscored.com/Players/79554/History/David-de-Gea

https://fbref.com/en/stathead/player_comparison.cgi?request=1&sum=0&comp_type=by_type&dom_lg=1&spec_comps=big_5&player_id1=466fb2c5&p1yrfrom=2021-2022&player_id2=7ba6d84e&p2yrfrom=2021-2022&player_id3=3bb7b8b4&p3yrfrom=2021-2022&player_id4=7a2e46a8&p4yrfrom=2021-2022&player_id5=8f62b6ee&p5yrfrom=2021-2022&player_id6=33887998&p6yrfrom=2021-2022

https://fbref.com/en/stathead/player_comparison.cgi?request=1&sum=0&comp_type=by_type&dom_lg=1&spec_comps=big_5&player_id1=7ba6d84e&p1yrfrom=2022-2023&player_id2=e5a76dfe&p2yrfrom=2022-2023&player_id3=466fb2c5&p3yrfrom=2022-2023&player_id4=7a2e46a8&p4yrfrom=2022-2023&player_id5=3bb7b8b4&p5yrfrom=2022-2023&player_id6=8f62b6ee&p6yrfrom=2022-2023

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด