ยุสซูฟา มูโกโก้ กองหน้าดาวรุ่งวัย 18 ปี ตัดสินใจลงหลักปักฐานต่อไปกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วยการเซ็นสัญญาใหม่จนถึงช่วงซัมเมอร์ปี 2026 หลังการเจรจายืดเยื้อมาเป็นเวลานานจนกระทั่งลุล่วงในที่สุด 

'ไม่มีความลับใดที่ผมรู้สึกดีที่ เบเฟาเบ ผมเล่นในทีมเยาวชนในการเล่นฟุตบอลอาชีพที่นี่ และตอนนี้ผมพร้อมจะก้าวต่อไปในการพัฒนาร่วมกับสโมสร ผมรู้สึก ความไว้วางใจจากสตาฟฟ์โค้ช และผมมีสภาพแวดล้อมที่นี่ ซึ่งผมสามารถพัฒนาได้อย่างสมบูรณ์แบบ'

'แน่นอนว่าผมรู้สึกเป็นเกียรติจากความสนใจของสโมสรอื่นๆ แต่ท้ายที่สุดมันคือการตัดสินใจของหัวใจ แฟนๆสนับสนุนผมมาตลอด และผมอยากจะตอบแทนพวกเขาและสโมสร'

ส่วน เซบาสเตียน เคห์ล ผู้อำนวยการกีฬาของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กล่าวเสริมว่า 'ยุสซูฟา เป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม ซึ่งเราฝึกในตัวเอง และเรายังมองเห็นศักยภาพในการพัฒนาได้อีกมาก ดังนั้นผมจึงมีความสุขที่เราสามารถโน้มน้าวใน ยุสซูฟา ได้ก่อนเริ่มครึ่งหลังของฤดูกาล ซึ่งสำคัญมากสำหรับเรา เขามีโอกาสดีที่สุดที่ เบเฟาเบ และเส้นทางของเขายังอีกยาวไกล' 

'มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเราที่จะต้องสามารถสรุปการเจรจาในสัปดาห์นี้ เพื่อให้ทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยุสซูฟา สามารถเริ่มต้นฟุตบอลปี 2023 อย่างสงบสุขและโฟกัสไปที่ความท้าทายด้านกีฬาอย่างเต็มที่' 

ก่อนอื่น, คุณแปลกใจหรือไม่ที่มีชื่อติดทีมชาติเยอรมนีชุดลุยศึกฟุตบอลโลกครั้งล่าสุด?

มูโกโก้ : ' (ใช่) มันน่าประหลาดใจ ผมได้รับโทรศัพท์ในเย็นวันหนึ่งจากโค้ช ฮันซี่ ฟลิค เขาบอกว่าผมอยู่ในนั้น! ผมบอกว่าเจ๋ง! ผมไม่สามารถปิดบังมันจากเพื่อนๆของผม วันต่อมามันก็ออกทีวีแล้ว ผมมองเห็นชื่อของผม นั่นคือไฮไลท์ของผมในปี 2022'

คุณถูกเปลี่ยนตัวลงสนามในเกมประเดิมรอบแบ่งกลุ่มกับ ญี่ปุ่น มันเป็นอย่างไรบ้าง?

มูโกโก้ : 'มันเยี่ยมมาก ผมหวังว่าเราจะพลิกเกมได้ แต่น่าเสียดายที่เราแพ้ อย่างไรก็ตาม ผมจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ มันประเมินค่าไม่ได้'

การพ่ายแพ้ต่อญี่ปุ่นทำให้ประสบการณ์ของคุณแย่ลงเล็กน้อยหรือไม่?

มูโกโก้ : 'ผมแค่อยากได้ 3 คะแนน แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น มันยังคงเจ๋งที่ได้อยู่กับเด็กๆที่ฟุตบอลโลก มีนักเตะเพียงไม่กี่คนที่พูดแบบนั้นได้ ดังนั้นมีผมมีความสุขกับเรื่องนี้ มันน่าเสียดายที่เราตกรอบหลังเกมที่ 3 แต่ผมมีความสุขกับประสบการณ์, การฝึกซ้อม และช่วงเวลาที่นั่น ในที่สุดผมก็ได้พบกับบางคน มันเป็นวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน เพราะแคแร็กเตอร์ของแต่ละคนแตกต่างกันมาก  (ประสบการณ์นั้น) ทำให้ผมก้าวไปข้างหน้าอย่างแน่นอน'

คุณบาดเจ็บไปนานเมื่อฤดูกาลที่แล้ว นั่นทำให้คุณกลับมาได้มากแค่ไหน?

มูโกโก้ : 'ไม่, ตอนแรกมันยากที่จะยอมรับ แต่หลังจากนั้นก็เห็นได้ชัดว่ามีการบาดเจ็บเกิดขึ้น ในทีมเยาวชน ผมไม่เคยได้รับบาดเจ็บหนัก ผมทำงานด้วยตัวเองและเรียนรู้มากมายเกี่ยวกับเวลาที่ลงเล่นน้อยเนื่องจากการบาดเจ็บ ผมมีความสุขที่ผมผ่านมันไปได้ เพราะมันแสดงให้เห็นว่าคุณสามารถแข็งแกร่งได้แค่ไหนในฐานะนักเตะหรือในฐานะคนๆหนึ่ง ผมมีความสุขที่ได้ลงเล่นมากขึ้นในช่วงนี้ ทำประตูและแอสซิสต์'

เมื่อพูดถึงการทำประตู คุณบอกอะไรได้บ้างเกี่ยวกับชัยชนะที่่น่าทึ่งของคุณและการฉลองที่ตามมาในศึกไรน์ดาร์บี้กับ ชาลเก้ ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา?

มูโกโก้ : 'บอกตามตรง ผมค่อนข้างโกรธ เพราะผมต้องการออกสตาร์ทในเกมดาร์บี้ แม้แต่ในทีมเยาวชน เรารู้เกี่ยวกับดาร์บี้ เกมดาร์บี้เป็นไฮไลท์ ตอนที่ผมทำประตู ผมปลดปล่อยทุกอย่างออกมา อารมณ์ร่วม, ความโกรธและความสุขที่ผมมีในท้องของผม ทุกอย่างเข้าด้วยกัน ผมจะไม่ลืมประตูนั้น บางครั้งที่ผมไปดู ยูทู้ป และดูการทำประตูของผม เพราะมันให้ความคิดด้านบวกแก่คุณ คุณได้รับความมั่นใจเช่นนี้'

คุณจำบรรยากาศในสนามวันนั้นอย่างไรบ้าง?

มูโกโก้ : 'สนามกำลังสั่นสะเทือน ผมคิดว่าทุกคนมีความหวังและรอการทำประตูนั้น ผมยังคงมีความสุขมากที่ทำประตูสำเร็จ ผมเห็นแล้วว่าสนามดังสั่น ทั้งโค้ชม นักเตะ, แฟนบอล ผมคิดว่าทุกคนที่บ้านบนโซฟาของพวกเขาก็ปะทุเช่นเดียวกัน วันนั้น ผมไม่ได้นอนด้วยซ้ำ ผมเข้าไปในเมือง มันเต็มไปด้วยผู้คน มันสนุกมาก ผู้คนกำลังเมา คุณสามารถเห็นความหมายของเกมดาร์บี้อย่างแท้จริง ผมไปกับเพื่อนๆผม ผมต้องการหาอาหารและผมต้องผ่านเมือง ผมเห็นผู้คนและคิดว่า 'ว้าว นี่คือ ดอร์ทมุนด์!''

จากนั้นการทำประตูของคุณในเกมเสมอ บาเยิร์น มิวนิค 2-2 คุณบอกเล่าถึงความรู้สึกของการทำประตูนั้นอย่างไร? 

มูโกโก้ : '(นีโก้) ชล็อตเทอร์เบ็ค ได้บอลและผมมองเห็นเขาต้องการเพื่อนร่วมทีม ดังนั้นผมจึงเข้ามา และจากนั้น (การผ่านบอลจาก) โทนี่ (อ็องโตนี่ โมแดสต์) บอกตามตรง มันยากเพราะสัมผัสแรกของผมยังไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการ แต่ถ้าคุณยิงจากกรอบเขตโทษ มันสามารถเข้าไปได้ ตอนที่มันเข้าประตู ผมคิดกับตัวเองว่า 'เราสามารถพลิกเกมได้' ตอนนั้นแฟนๆอยู่ที่นั่น สนามเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งอีกครั้ง ผมมีรูปถ่ายที่บ้านด้วย ประตูนั้นและประตูกับ ชาลเก้ เป็นความทรงจำ'

คุณมีปฏิกิริยาอย่างไรหลังจบเกม จากการตามหลัง 0-2 ก่อนเกมจะลงเอยด้วยการเสมอ 2-2

มูโกโก้ : 'ผมแทบบ้า ผมเหนื่อยล้าและเป็นตะคริวที่ขาทั้งสองข้าง แต่เมื่อเราอยู่ในการแข่งขัน ผมไม่ได้สังเกตมันด้วยซ้ำ'

ประตูเหล่านั้นสำคัญแค่ไหนในเกมกับ ชาลเก้ และ บาเยิร์น มิวนิค ในแง่ของการให้กำลังใจคุณ?

มูโกโก้ : 'มันทำให้คุณมีแรงผลักดันอย่างมาก เพราะคุณคิดกับตัวเองว่าคุณสามารถแข่งขันได้ และคุณรู้สึกถึงสถานะที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงในสนาม คุณไม่กลัวที่จะทำผิดพลาด ถ้าคุณทำ คุณจะรู้ว่ามีชายอีก 10 คนอยู่ข้างหลังคุณที่สามารถแก้ไขได้ มันทำให้คุณมีความมั่นใจ แม้แต่เพื่อทีมเพราะเราต่อสู้เพื่อกันและกันนั่นเอง ผมคิดว่าตอนนี้ผมได้มาถึงบุนเดสลีกาแล้ว มันใช้เวลานาน แต่ตอนนี้ผมอยู่ที่นั่นแล้ว'

ชีวิตภายใต้สตาฟฟ์โค้ช เดเฟาเบ เป็นอย่างไร?

มูโกโก้ : 'เก็ปปี้ (ผู้ช่วยโค้ช เซบาสเตียน เก็บเพิร์ต) รู้จุดแข็งของผม และ (เฮดโค้ช) เอดิน แทร์ซิช ต้องการดึงสิ่งดีที่สุดออกมาจากตัวผม นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาเข้มงวดกับผม แต่ผมเข้าใจ ผมคิดว่าถ้าพวกเขาดีกับผมและคอยบอกผมว่า 'คุณเยี่ยมมาก! คุณเยี่ยมมาก!' ผมจะผ่อนคลายและพูดว่า 'สตาฟฟ์โค้ชระกผม' ถ้ามันยาก นักเตะจะชอบเพราะคุณรู้ว่าเมื่อสถานการณ์ลำบาก คุณสามารถพึ่งพาพวกเขาได้' 

คุณคิดว่าคุณจะเริ่มต้นได้เร็วกว่านี้ในแง่ของเส้นทางอาชีพค้าแข้งบนเวทีบุนเดสลีกาของคุณหรือไม่?

มูโกโก้ : 'ใช่, แต่ผมไม่คิดว่ามมันจะยากขนาดนี้ ในอะคาเดมี่ คุณผ่านเข้ามาและคิดกับตัวเองว่า 'เมื่อผมไปถึงที่นั่น มันจะดีขึ้นเอง' แต่คุณต้องทำให้ตัวเองมั่นคง เพราะที่นั่นมีผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในธุรกิจมาอย่างยาวนาน ผมไม่คิดว่าคจะมีใครพูดว่า 'ผมจะมอบตำแหน่งของผมให้คุณ' ทุกคนต่อสู้เพื่อตำแหน่งของพวกเขา มันใช้เวลานาน แต่ผมยังรู้สึกว่าผมต้องการเวลาเพื่อทำความคุ้นเคย เพื่อให้ร่างกายคุ้นชินกับมัน ในเกมที่เผชิญหน้ากับเซนเตอร์แบ็กระดับท็อป ผมคิดว่าผมทำได้ดีมาก แม้ว่าผมจะตัวเล็ก แต่ผมก็ยังเอาตัวเข้าแลก หลังจากนั้น ตอนนี้ผมรู้ว่าคุณต้องการอะไรในบุนเดสลีกา, แชมเปี้ยนส์ลีก, เดเอฟเบ โพคาล เพื่อความอยู่รอด'

ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการตระหนักว่ากองหลังในบุนเดสลีกาและแชมเปี้ยนส์ลีกถูกสร้างขึ้นแตกต่างกันหรือไม่?

มูโกโก้ : 'นั่นคือจุดที่ทำให้ผมรู้ว่าผมตัวเล็กแค่ไหน เซนเตอร์แบ็กบางคนตัวใหญ่มาก คุณต้องเรียนรู้วิธีใช้ร่างกายของคุณให้ดีขึ้น ผมทำอย่างนั้นกับ เอดิน และ เก็ปปี้ วิธีใช้ร่างกายของผมและตัวเลือกของผมคืออะไรและวิธีรับลูกบอล เกม (แชมเปี้ยนส์รอบแบ่งกลุ่ม) ที่ เซบีย่า แสดงให้ผมเห็นว่าผมทำอะไรได้บ้าง นั่นคือช่วงเวลาของผม ผมก็อยู่ที่นั่นทันที ทุกอย่างก็มาเอง'

เมื่อ เซบาสเตียง อัลแลร์ กลับมาฟิตอีกครั้ง คุณมีการแข่งขันครั้งใหม่ คุณชื่นชมวิธีที่เขาต่อสู้กับอาการป่วยหรือไม่?

มูโกโก้ : 'ใช่, แน่นอน หากคุณนึกถึงสิ่งที่เขาได้ผ่านมา และตอนนี้เขาอยู่ในสนาม ผมเคารพอย่างสูงว่าเขาเอาชนะได้อย่างไร วิธีที่เขาสู้ ผมยังได้พูดคุยกับเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาบอกว่าเขาเสียสละมาก ตอนนี้ เมื่อมองไปที่เขา ผมบอกเขาว่าคุณจะเห็นว่าคุณฟิตขึ้นมาแค่ไหน ผมหวังว่าเราจะได้ลงสนามด้วยกันในสักวันหนึ่ง'

คุณคิดว่าคุณจะช่วยเสริมกันและกันหรือไม่?

มูโกโก้ : 'ใช่, ผมคิดว่าการรวมกันจะทำงานได้ดี เอดิน จะต้องคิด การตัดสินใจไม่ใช่ของผมหรือของ เซ็ป ท้ายที่สุดแล้ว ผมจะมีความสุขถ้าเขาเล่นหรือเราทั้งคู่เล่นหรือเป็นแค่ผมคนเดียว ทีมต้องมาเป็นอันดับแรก'

สุดท้าย ใครคือฮีโร่ในวัยเด็กของคุณในฐานะนักเตะ?

มูโกโก้ : 'ตอนที่ผมเริ่มดูฟุตบอล มันคือ (ซามูแอล) เอโต้ เขาเป็นสตาร์ เขาเป็นผู้เล่นหมายเลข 9 ทุกคนมองมาที่เขาและอยากเป็นเหมือนเขา'