:::     :::

การเติบโตของ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์

วันเสาร์ที่ 25 มีนาคม 2566 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
754
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หากเอ่ยถึงชื่อของฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์

นี่คือดาวรุ่งฝีเท้าดี ที่มีอนาคตที่สดใสเฝ้ารออยู่กับลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของเยอร์เก้น คล็อปป์ นี่ถือเป็นนักเตะตัวรุกที่ได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่อง


เส้นทางของเอลเลียตต์ ถูกฉาบมาด้วยพรสวรรค์ตั้งแต่เป็นแข้งเยาวชน อย่างไรก็ตาม มันก็ต้องเสริมมาด้วยความพยายามอย่างหนักหน่วงอีกด้วย ช่วงนี้ เราลองย้อนกลับไปดูเส้นทางลูกหนังของเขากันหน่อย 


ทั้งหมดถูกพูดจากมุมมองของคนที่ใกล้ชิด และเห็นพัฒนาการของเขามาตั้งแต่อายุยังน้อย 

“เขาเป็นเด็กที่ตัวเล็กสุดในสนาม”


สก็อตต์ ชิคเคลเดย์ ย้อนความทรงจำ สมัยที่รับงานคุมทีมคิวพีอาร์ รุ่นยู-11 ผ่านความประทับใจแรกที่มีต่อฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ที่มีฝีเท้าอันโดดเด่นมาก จนสามารถก้าวมาเล่นกับรุ่นที่โตกว่าได้อย่างสบาย


“ตอนนั้น เขาลงเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้าย” ชิคเคลเดย์ เล่าต่อ “เขาเป็นเด็กที่ตัวเล็กสุดในสนามเลย ผมรับคำสั่งให้ดูแลเขา ผมเคยให้คำแนะนำผู้จัดการอะคาเดมี่ ไปว่า บางที เด็กคนนี้ควรเล่นในทีมตามระดับอายุของตัวเอง อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการบอกผมว่า ควรดูเด็กคนนี้ลงฝึกซ้อมเสียก่อน” 


ชิคเคลเดย์ เล่าเหตุการณ์ต่อมาว่า ช่วงของการฝึกซ้อม ทำให้เห็นพรสวรรค์ของเด็กฉายแสงออกมา ตามที่ผู้จัดการอะคาเดมี่บอกเอาไว้จริงๆ 


“ผมไปถึงสนามซ้อม ก่อนเวลาประมาณ 35 นาที เขา และคุณพ่ออยู่ที่นั่นแล้ว เราทดลองการซ้อมแบบ 1 ต่อ 1 และแบบ 2 ต่อ 2 เขาผ่านการฝึกซ้อมอย่างน่าเหลือเชื่อ ผมนี่ถึงกับร้องว้าวออกมาเลย เขาเล่นฟุตบอลได้ดี แต่ทำไมต้องมาเล่นแบ็คซ้ายกันนะ ?”

หลังจากนั้น ชิคเคลเดย์ เป็นคนปรับตำแหน่งของเอลเลียตต์ จากแบ็คซ้าย กลายมาเป็นเล่นสูงขึ้นอีก 


โดยกล่าวต่อว่า “ตอนที่เขาลงสนาม คุณไม่มีทางรู้หรอกว่า เขาเล่นตำแหน่งอะไรกันแน่ ? ในกลุ่มนักเตะอายุน้อย เขาวิ่งไปทั่วสนามเลย เพื่อมองหาลูกฟุตบอล และขับเคลื่อนเกม”


นอกจากฝีเท้าแล้ว สิ่งที่ชิคเคลเดย์ ประทับใจในตัวเอลเลียตต์ นั่นคือทัศนคติ และความเป็นมืออาชีพ ที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่อายุยังน้อย นี่ถือเป็นใบเบิกทาง สู่การเป็นนักเตะอาชีพ 


“เขาเป็นคนแรกที่เดินทางมาถึงสนามซ้อม และกลับบ้านเป็นคนสุดท้ายเสมอ ช่วงเวลา 2 ปีที่เราทำงานร่วมกัน ผมไม่เคยไปถึงการซ้อมก่อนเขาเลย !!! เขาจะไปรอก่อน เพื่อออกวิ่ง หรือทำอะไรบางอย่างกับลูกฟุตบอล เขารักกีฬาประเภทนี้มาก”


“ความคิดของเขามีแค่ฟุตบอล, ฟุตบอล และฟุตบอล เขาซ้อมหนักเหมือนที่ลงแข่งขัน เขามีลูกฟุตบอลอยู่ที่เท้าอยู่เสมอ พ่อของเขาเป็นคนที่คอยผลักดัน และให้กำลังใจ”


“พ่อของเขายังทำงานกับเขานอกสนามซ้อม ถือเป็นคนที่สนับสนุนลูกอย่างเต็มที่ ที่สนามซ้อม และสนามแข่งขัน คุณจะเห็นพ่อของเขาอยู่ที่นั่นเสมอเลย สองพ่อลูกคลั่งไคล้ลูกหนังเอามากๆ”

เพียงเวลาไม่นาน เอลเลียตต์ ย้ายไปร่วมทีมเยาวชนของฟูแล่ม ก่อนจะประเดิมทีมชุดใหญ่ของพลพรรค “เจ้าสัวน้อย” ด้วยวัย 15 ปี รวมถึงการเล่นพรีเมียร์ลีก ครั้งแรก ในวัย 16 ปี ก่อนจะโดนยักษ์ใหญ่ของประเทศอย่างลิเวอร์พูล ซื้อตัวไปร่วมทีม 


ฤดูกาล 2020-21 เขาถูกปล่อยให้แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ทีมระดับเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ยืมตัวไปใช้งาน แน่นอนว่า ทัศนคติการเล่นฟุตบอลของเขานั้น ยังคงเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง 


“เขาเป็นคนที่รับบอลมา และรู้ว่าต้องทำอะไรต่อไป เขาสามารถเข้าไปพื้นที่สุดท้าย และสร้างปัญหาให้กับคู่แข่งได้ ไม่ว่าจะเป็นการผ่านบอล, การเปิดบอลยาว รวมถึงการยิงเอง” 


ชิคเคลเดย์ ทิ้งท้ายถึงเด็กคนที่เขาคอยดูแลที่คิวพีอาร์ จนวันนี้ เติบใหญ่เป็นเด็กหนุ่มวัย 19 ปี ที่ก้าวมาเป็นตัวหลักของลิเวอร์พูล ชุดใหญ่ เป็นผลสำเร็จ 

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด