:::     :::

ก้าวต่อไปของ 'ศุภณัฏฐ์'

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ย้อนกลับไปไม่กี่วันก่อน ยาเช็ค คูลิก แมวมองชื่อดัง และเว็บไซต์ฟุตบอลที่รวบรวมข้อมูล สถิติ ของดาวรุ่งทั่วโลกระดับโลก ประกาศชื่อ 10 นักเตะที่เข้าข่ายน่าจับตามอง

ซึ่งปรากฏว่ามีชื่อของ “แบงค์” ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ดาวยิง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด วัย 20 ปี ติดโผเป็น 1 ใน 10 เข้ามาด้วย

โดยแมวมองดังกล่าวระบุว่า “แบงค์” เป็นหนึ่งในแข้งวันเดอร์คิดที่น่าจับตามองคนหนึ่งในยุคนี้ และมีสไตล์การเล่น เหมือน เออร์วิง โลซาโน กองหน้าทีมชาติเม็กซิโก ของ นาโปลี

โดยมีการเปิดเผยเพิ่มเติมว่า สิ่งที่มีในตัว ศุภณัฏฐ์ คือความเร็ว การจบสกอร์ดี เลี้ยงบอลดี มีเทคนิค คอนโทรลบอล การเคลื่อนที่ รวมถึงไหวพริบ

ถัดมาไม่กี่วัน มีรายงานจากสื่อไทยต่างประโคมข่าวว่า ศุภณัฏฐ์ ได้สัญญากับ เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมดังจากพรีเมียร์ลีก ซึ่งรอหลังจากจบฤดูกาลไทยลีกกับ “ปราสาทสายฟ้า” แล้วจะเดินทางทันที

ก่อนหน้านี้ ศุภณัฏฐ์ ได้มีโอกาสได้ไปร่วมฝึกซ้อมฟุตบอลที่อังกฤษมา 2 หนแล้ว โดยได้ไปลงซ้อมกับทีม เลสเตอร์ U-23 ซึ่งเจ้าตัวในวัย 20 สามารถเล่นได้ และสร้างความแตกต่าง มีความโดดเด่นกว่าแข้งจิ้งจอกในรุ่นราวคราวเดียวกัน ข้อนี้ได้รับการยืนยันจากทาง เลสเตอร์ ซิตี้ และ เนวิน ชิดชอบ




อย่างไรก็ตามเจ้าตัวจะได้ไปเริ่มต้นกับ โอเอซ ลูเวิน ทีมในลีกสูงสุดของเบลเยี่ยม ซึ่งมีเจ้าของเป็นคนไทยเหมือนกันก่อน

ถามว่าในเมื่อจะเซ็นสัญญากับ เลสเตอร์ แล้วทำไมถึงต้องบินไปค้าแข้งที่เบลเยี่ยมก่อน คำตอบคือ “เวิร์คเพอร์มิท” หรือ ใบอนุญาตทำงาน

การเข้าไปเป็นนักเตะในพรีเมียร์ลีก ไม่ใช่คุณไปแล้วจะได้เล่นเลย ไม่ว่าจะเป็นคนเก่งฟ้าประทานแค่ไหน ทุกคนต้องผ่านเกณฑ์ที่ทางประเทศเขากำหนดไว้ให้

ไม่ว่าจะเป็นอันดับโลกของทีมชาตินักเตะคนนั้น ๆ ผลงานกับต้นสังกัดล่าสุดก่อนมาอังกฤษ

สำหรับเกณฑ์อันดับโลกหากทีมชาติใดมีแรงกิ้งที่ต่ำกว่าอันดับ 50 (ทีมชาติไทย 114) ผู้เล่นคนนั้นจะต้องมีการลงเล่นทีมชาติขั้นต่ำอยู่ที่ 70 เปอร์เซ็นต์ ถึงจะได้คะแนนประเมิน

เกณฑ์ข้อต่อมาที่ถูกพิจารณาคือ ผลงานกับต้นสังกัดล่าสุด ซึ่งจากมาตรฐานของไทยลีกแล้ว ก็อยู่ในระดับท้าย ๆ ที่อังกฤษประเมินไว้




ทำให้ไม่ว่าจะทำเช่นไร ศุภณัฏฐ์ ก็ไม่มีทางที่จะกระโดดไปเล่นในพรีเมียร์ลีกได้ทันที แม้ทาง เลสเตอร์ ซิตี้ ต้องการจะเซ็นสัญญากับเขาแค่ไหนก็ตาม

นั่นคือสาเหตุที่ ศุภณัฏฐ์ จะต้องไปเริ่มต้นกับ โอเอซ ลูเวิน ซึ่งเคสนี้ไม่ได้ต่างอะไรจาก คาโอรุ มิโตมะ ที่ย้ายจาก คาวาซากิ ฟรอนตาเล ไป ไบรท์ตัน แต่เมื่อคะแนนประเมินไม่ผ่านเกณฑ์ที่อังกฤษตั้งไว้ เขาจึงต้องไปเริ่มต้นในเบลเยี่ยมกับ อูนิโอน แซงต์ กิลลัวส์ ทีมพันธมิตรของ ไบรท์ตันเสียก่อน

แม้จะยังไม่มีการยืนยันอย่างทางการว่า ศุภณัฏฐ์ จะได้ไปเล่นในทีมชุดใหญ่ หรือทีมเยาวชนของสโมสร แต่ขวบวัยของ “แบงค์” เวลานี้อยู่ในช่วงพอเหมาะพอเจาะ ที่จะไปเริ่มเก็บเลเวลในยุโรป เป็นช่วงของการพัฒนาฝีเท้ามากที่สุด

หากปล่อยช้ากว่านี้บางทีอาจจะไม่ทันเวลา เพราะเขาต้องไปเริ่มต้นนับ 1 ใหม่ที่เวทีที่แวดล้อมลูกหนังต่างออกไป

เพราะสิ่งที่เจ้าตัวต้องเจอมีทั้งการสื่อสาร สภาพอากาศ การปรับตัวเข้ากับเพื่อนร่วมทีม รวมถึงสภาพร่างกาย อย่างน้อยการไปต่างแดนไว น่าจะส่งผลดีมากกว่า

อีกทั้งการไปครั้งนี้เป้าหมายหลักคือ การไต่เต้าเพื่อเข้าสู่ทีมชุดใหญ่ให้ได้ และลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการขอเวิร์คเพอร์มิท เล่นในพรีเมียร์ลีกต่อไป

คนอย่าง เนวิน ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเขี้ยวและละเอียดยิบในการปล่อยนักเตะไปต่างแดน แต่ในรายของ ศุภณัฏฐ์ ที่เขาเลี้ยงดูปูเสื่อไม่ต่างจากพ่อคนที่ 2 มาตั้งแต่ยังเด็ก เห็นหน้าค่าตากันทุกวันในสนามซ้อม ย่อมรู้อยู่แก่ใจว่าลูกชายคนนี้ดีพอที่จะโบยบินออกจากบ้านอีสานใต้ได้หรือยัง

การเดินทางสู่ยุโรปของ ศุภณัฏฐ์ จึงเป็นก้าวที่สำคัญในการออกจากเซฟโซน

ส่วนจะทำมันได้ดีแค่ไหน อยู่ที่ 2 เท้า โอกาส และหัวจิตหัวใจของ ศุภณัฏฐ์


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด