:::     :::

ขอบคุณ ลาก่อน และขอให้โชคดี

วันพฤหัสบดีที่ 20 เมษายน 2566 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
443
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
นับเป็นข่าวใหญ่ต้อนรับเทศกาลสงกรานต์เลยก็ว่าได้ สำหรับการประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนสโมสรชลบุรี เอฟซี ของ "โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ ที่เป็นการรับผิดชอบต่อผลงานในช่วงหลัง แม้ฝ่ายบริหารจะให้โอกาสทำทีมต่อจนจบฤดูกาลก็ตาม

การลาออกในครั้งนี้ ก็ทำให้ชลบุรี เอฟซี ทำการแต่งตั้งอดีตลูกหม้ออย่างอดุล หละโสะ เข้ามาทำทีมในอีก 4 นัดที่เหลือเป็นที่เรียบร้อย และถือเป็นการสิ้นสุดระยะเวลา 1,500 กว่าวันของ "โค้ชเตี้ย" กับทัพ "ฉลามชล" ในตำแหน่งเฮดโค้ชทันที 

สาเหตุหลักที่ทำให้กุนซือปากตะไกรรายนี้สละตำแหน่ง ก็คงมาจากการที่ทีมไม่ชนะใครในลีกถึง 8 นัดติดต่อกันนั่นแหละ 

แม้จะไม่ได้แชมป์ติดมือเลยสักรายการตลอดการคุมทีมกับชลบุรี เอฟซี รวมถึงมีกระแสขับไล่จากแฟนบอลอยู่บ้างในช่วงหลัง แต่เชื่อเถอะว่ายังมีแฟนบอลจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่เสียดายเฮดโค้ชรายนี้


นั่นเพราะคุณประโยชน์ที่ "โค้ชเตี้ย" เคยทำไว้ให้กับทีมนั้น มีมากมายเหลือเกิน ไล่ตั้งแต่การให้โอกาสบรรดาฉลามวัยทีนได้ออกมาแหวกว่ายบนลีกสูงสุด 

พวกนักเตะดาวรุ่งอย่าง ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์, ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว, ทรงชัย ทองฉ่ำ, พิทักษ์ พิมแป้, บุคฆอรี เหล็มดี ฯลฯ ล้วนถูกตัดสายสะดือในยุคของ "โค้ชเตี้ย" ทั้งสิ้น 

ซึ่งใน 2 รายแรกนั้น สามารถก้าวไปติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ และอยู่ในชุดที่ได้แชมป์อาเซียนครั้งล่าสุดเป็นที่เรียบร้อย


จึงไม่แปลกที่พวกเขาจะออกมาโพสต์ขอบคุณกุนซือรายนี้ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของตัวเอง โดยเฉพาะ "เจ้านาย" ฉัตรมงคล ที่ถึงกับบอกว่า "นี่คือบุคคลที่พาผมมาถึงจุดนี้ พวกคุณจำไว้"

การดึงศักยภาพนักเตะ ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องยกนิ้วให้เช่นกัน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเลยก็คือกฤษดา กาแมน ที่ถูกปรับจูนจนโดดเด่นมากๆ ในช่วง 2-3 ปีหลัง และพัฒนาตัวเองจนกลายเป็นตัวหลักของทั้งสโมสรและทีมชาติไทยชุดใหญ่ไปแล้วเช่นกัน

หรือจะเป็นการดึงบรรดานักเตะตัวเก๋าอย่าง ธีรเทพ วิโนทัย, ดัสกร ทองเหลา, สมปอง สอเหลบ ฯลฯ มาร่วมงานกัน แม้จะเป็นช่วงระยะเวลาเพียงสั้นๆ แต่ก็สร้างความประทับใจให้กับแฟนๆ ในตอนนั้นได้อย่างมากมาย 


อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องบอกว่า "โค้ชเตี้ย" ทำได้ยอดเยี่ยมมากๆ คือเรื่องของจิตวิทยา ถ้าได้ตามดูการให้สัมภาษณ์หรือบรรยากาศหลังจบการแข่งขันในแต่ละครั้ง จะเห็นได้เลยว่าเขาจะปกป้องลูกทีมตลอด และไม่มีสักครั้งที่เขาจะออกมาด่าลูกทีมผ่านสื่อ

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเลยคือเมื่อคราวที่ชลบุรี เอฟซี แพ้ให้กับเชียงราย ยูไนเต็ด ในการดวลจุดโทษของศึกฟุตบอลช้าง เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ เมื่อฤดูกาล 2020-2021 

ตอนนั้น เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ยิงจุดโทษไม่เข้า และทำให้ทีมแพ้ไปในท้ายที่สุด ก็เป็น "โค้ชเตี้ย" นี่แหละ ที่เข้าไปปลอบแบบได้ใจ 

"มึงทำได้ มึงสู้ได้ ยืนหยัดให้ได้น้อง ชีวิตแม่งไม่ได้อยู่แค่นี้ ไม่เป็นไร" คิดภาพตัวเองตอนเป็นนักเตะแล้วมีลูกพี่แบบนี้ ยังไงก็วิ่งสู้แบบถวายหัวแน่นอน


นี่เป็นเพียงแค่ 3 เรื่องเท่านั้น ที่ยกตัวอย่างให้ได้เห็นภาพ แล้วก็อย่างที่บอกไปในตอนต้น ถึงแม้ฝ่ายบริหารจะให้โอกาสทำทีมจนจบฤดูกาลก็ตาม แต่ยี่ห้อสะสม พบประเสริฐ แล้ว เขาพิจารณาตัวเองทันที โดยไม่ต้องรอให้ครบโปรแกรม

ไม่รู้เหมือนกันว่าสโมสรใหม่ของ "โค้ชเตี้ย" จะเป็นทีมไหน เพราะจริงๆ แล้ว ชลบุรี เอฟซี ยังให้เขาอยู่ในตำแหน่งที่ปรึกษาของสโมสร แต่เชื่อเถอะว่าคนเคยเป็นโค้ช ยังไงก็ต้องกลับไปทำหน้าที่โค้ชนั่นแหละ

และไม่ว่าคุณจะเกลียดหรือจะรักเขาก็ตาม แต่ต้องยอมรับกันตามตรงว่านี่คือผู้ชายที่ควรค่าแก่การติดตามเป็นอย่างยิ่ง เพราะเขามักทำอะไรที่เราไม่คาดคิดอยู่เสมอ


ขอบคุณตลอดช่วงเวลาที่เข้ามาสร้างสีสันให้กับชลบุรี เอฟซี ขอบคุณที่ทำให้ทีมชาติไทยมีทรัพยากรนักเตะให้เลือกใช้เพิ่มขึ้น

ลาก่อน และขอให้โชคดีกับสโมสรใหม่นะครับ "โค้ชเตี้ย"


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด