จริงๆแล้วปัญหาของแมนยูไนเต็ดในเกมที่แพ้เซบีย่า 3-0 มีเหตุผลหลายด้านมากๆที่เกี่ยวเนื่องกับผลการแข่งขันในวันนี้

"การขาดนักเตะตัวหลักของทีม" ก็มีส่วนค่อนข้างเยอะ ตั้งแต่มาร์ติเนซ วาราน รวมถึง บรูโน่ แฟร์นันด์ส ส่งผลกระทบต่อคุณภาพการเล่นของทีมอย่างมาก ทั้งในเรื่องเกมรับและเกมรุก ในด้านเกมรุก วันนี้แมนยูไนเต็ดครองบอลได้ แต่ไม่สามารถสร้างสรรค์เกมในพื้นที่สุดท้ายให้อันตรายได้ ไม่สามารถสร้างโอกาสยิงให้ทีมได้ลุ้นจริงๆจังๆเลย การขาดบรูโน่ส่งผลมาก

ส่วนเรื่องเกมรับ วันนี้ถ้าเรามีมาร์ติเนซ กับ วารานอยู่ ปัญหาที่เป็นความผิดพลาดส่วนบุคคลจะไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เชื่อมั่นว่าเป็นแบบนั้น เพราะตัวเปรียบเทียบมันเห็นชัดเจนมาก

"ปัญหาเรื่อง การเล่นของนักเตะบางคนไม่เหมาะ และไม่สอดคล้องกับปรัชญาของเทน ฮาก"

แมนยูของเทน ฮาก เป็นทีมที่เล่นด้วยการเน้นการครองบอล แต่ตัวเล่นบางคน ไม่เหมาะกับการครองบอล และก่อความผิดพลาดได้เวลาโดนโจมตีจากการเพรสซิ่งขึ้นมาไล่บอล อย่างที่เราเห็นกันจนชาชินว่าปัญหานี้มันไม่จบสิ้นสักที

Possession-based game คือวิธีการเล่นของเทน ฮาก ที่เน้นแนวคิดเรื่องการครองบอล และเซ็ตบอลจากแผงหลังขึ้นไปเป็นหลัก แต่ "หลังบ้าน" ของเราบางคนไม่เข้ากับระบบนี้จริงๆ พูดกันตรงๆก็คือ แฮรี่ แมกไกวร์ ที่มักจะทำเสียหายเวลาโดนเพรสแล้วเสียบอลง่ายๆหน้าปากประตูตัวเองจนทำให้ทีมเสียประตูและทีมพลาดท่าอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นกับฟุตบอลในระดับนี้

รวมถึงนักเตะที่แฟนบอลจำนวนมากรักอย่าง ดาวิด เดเคอา จริงๆก็ต้องยอมรับตามตรงเหมือนกันว่า บอลของเทน ฮาก จำเป็นต้องมีผู้รักษาประตูที่ออกบอลและใช้เท้าเก่งจริงๆ ถ้าคุณยึดมั่นที่จะเล่นบอลในระบบดังกล่าว ยังไงมันก็สำคัญ

การเสียประตูสำคัญในเกมนี้ไปในช่วงที่ไม่ควรเกิดขึ้น ตั้งแต่ต้นครึ่งแรกนาทีที่ 8 จนถึงช่วงต้นครึ่งหลัง ที่ทีมควรจะได้โอกาสลงมาปรับแก้แทคติก ดันเสียประตูที่สองเพิ่ม ทำให้เกมของทีมยากลำบากไปอีก การเสียประตูเร็วส่งผลต่อรูปเกมและสถานการณ์ในสนามมากพอควร เซบีย่าสามารถเล่นตามแทคติกที่ตัวเองวางไว้ได้สะดวกมากกว่าเดิม

ผลกระทบต่อเนื่องกันเป็นลูกโซ่ เริ่มจากความผิดพลาดส่วนตัว ส่งผลให้สถานการณ์ของเกมเป็นรอง ทำให้แทคติกของเซบีย่าได้ทำงานมากขึ้น เกมตกไปเป็นเกมของเขาทั้งหมด สิ่งเหล่านี้ทำให้เราเห็นอีกปัญหาหนึ่ง ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังของนักเตะของเรามานานแล้วเหมือนกัน นั่นคือเรื่อง "สภาพความแข็งแกร่งทางด้านจิตใจ"  (Mentality) ในการรับมือกับสถานการณ์ที่เป็นรอง

เรื่องนี้ถือเป็นปัญหาหนักมากอีกเรื่องหนึ่งของทีม และควรจะต้องรีบแก้ให้ได้ ไม่งั้นทีมก็จะติดลูปภาพเดิมๆแบบนี้ไปเรื่อยๆ

ผู้อ่านอาจจะมีคำถามว่า เกมนี้มันเกี่ยวข้องกับสภาพจิตใจนักเตะในทีมยังไง ทีมพลาดเองก็เท่านั้น เกิดจากการเล่นของนักเตะบางคนอย่างที่เขียนมาไม่ใช่เหรอ? เกิดจากการขาดนักเตะตัวหลักไปไม่ใช่เหรอ? เกี่ยวข้องกับเรื่องจิตใจยังไง

สิ่งเหล่านี้มันสามารถสัมผัส และมองเห็นได้จากการเล่นในสนาม เป็นสิ่งนามธรรมที่ต้องสังเกตเอาจาก performance การเล่นในสนามเอาว่า นักเตะที่เล่นอยู่ ใจสู้หรือไม่สู้มากน้อยแค่ไหน

สภาพจิตใจเป็นยังไงเวลาที่ทีม "ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก"

เรื่องนี้ค่อนข้างชัดมาก

จุดสังเกตง่ายๆก็คือ ให้ดูว่าเวลาทีมเราเล่นกันได้ดี แมตช์ไหนทำเกมได้สุดยอด คุมเกม สร้างเกมรุกยิงใส่คู่ต่อสู้ได้สำเร็จ เกมได้เปรียบและรักษาสถานการณ์ได้ สังเกตดูว่าวันนั้นทีมเราจะเล่นกันได้แข็งแกร่ง ฮึกเหิม และ "มั่นใจ" แบบสุดๆ

ความมั่นใจที่ว่านี้ของทีมเรา มักจะมาพร้อมกับการเล่นในวันที่ทำได้ดีด้วย 

พูดง่ายๆคือ ในสถานการณ์บนสนามที่ไม่ย่ำแย่ หรือบีบคั้นอะไรมาก ทีมมักจะแสดงศักยภาพและคุณภาพในการเล่นได้อย่างแข็งแกร่งดุดัน และมุ่งมั่นอย่างเต็มที่กันทั้งทีมได้

วันที่เกมนำ หรือวันที่ทีมเล่นได้ดี มักจะไม่เจอปัญหาเรื่องจิตใจของทีม นักเตะของเราก็มักจะฮึกเหิมไปตามโมเมนตัมเกมด้วย

จิตใจของนักเตะแปรผันตรงกับสถานการณ์ในสนาม

แต่นั่นแหละครับ ในทางตรงกันข้าม ถ้านัดไหนที่โมเมนตัมเกมมัน "แย่" หรือเป็นรอง ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากจริงๆ สภาพจิตใจและความมั่นใจของทีม ก็จะดรอป และ "ดาวน์" ลงไปอย่างเห็นชัดเจน

พูดง่ายๆว่า ถ้ารูปเกมดี สภาพจิตใจดี เราก็ทำผลงานได้ดีเยี่ยม แต่ถ้าวันไหนเล่นกันได้แย่ ขาดกำลังใจ ไม่มั่นใจ ท้อแท้ และรับมือกับสถานการณ์ที่เป็นรองไม่ได้ เราก็จะยิ่ง "ดาวน์ลงยิ่งขึ้นไปอีก" ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

คือเกมดีจิตใจเราก็ดีไปเลย แต่ถ้าเกมเป็นรองหรือย่ำแย่ สภาพจิตใจในทีมก็ดรอปลงไปมากกว่านั้นอีก

สิ่งที่เป็นตัวอย่างในเรื่องนี้อย่างดี คือในวันที่เกมของเราแย่ และมีแววว่าจะต้องแพ้สูง วันนั้น Mentality ของทีมจะยิ่งดาวน์ลงไปอย่างหนัก ทำให้คู่แข่งยิ่งโขยกซ้ำ บุกซ้ำ กระทำชำเราเพิ่มจนเรามักจะ "โดนถล่มเละ" แบบนี้อยู่บ่อยๆอย่างสิ้นหวัง

เช่นเกมที่แพ้เบรนท์ฟอร์ด 4-0 เมื่อต้นฤดูกาล, เกมแพ้ซิตี้ 6-3 นั่นก็ฮึดไม่ขึ้น, เกมแพ้ลิเวอร์พูล 7-0 เป็นคำตอบที่ชัดที่สุดในเวลาที่ทุกอย่างไม่เป็นใจ ยิ่งโดนยิงเพิ่ม นักเตะในทีมยิ่งห่อเหี่ยวมากขึ้นกว่าเดิม ภาษายุคนี้เรียกว่าปล่อยจอย เราเห็นแบบนั้นบ่อยๆ เกมที่แพ้เยอะนั่นคือใช่เลย 

ปัญหาเวลาที่สถานการณ์เป็นรองมากๆ ทีมมักจะฮึดไม่ขึ้น เหมือนในเกมนี้ ค่อนข้างเชื่อว่า สาเหตุที่ทำให้สภาพจิตใจของทีมเรามันดูจะฮึดไม่ขึ้น น่าจะเป็นเพราะการท้อแท้ และขาดกำลังใจ จากการที่เพื่อนในทีมเล่นผิดพลาด ผลการแข่งขันที่ค่อยๆยากขึ้นเรื่อยๆ จากที่โดนนำเร็วตั้งแต่ 8 นาทีแรกจากลูกที่ไม่ควรโดน ทำให้เกมของทีมเสียเปรียบ ทั้งๆที่เริ่มต้นเกมนี้สกอร์เสมอกันอยู่ด้วยซ้ำ

ครึ่งหลังจากความพยายามที่ไปปรับแก้เกม เปลี่ยนตัวนักเตะหลักลงมา เพื่อจะเรียกลูกฮึดบุกคืนบ้าง กลับโดนยิงซ้ำไปอีกหนึ่งลูกจนระยะห่างเริ่มมากขึ้น กำลังใจและความมั่นใจมันก็ยิ่งลดลง หลังจากที่ทีมพยายามบุกก็ยังทำอะไรไม่ได้ ซ้ำยังโดนเพิ่ม สถานการณ์ตรงนี้ส่งผลกับสภาพจิตใจแน่นอน

ทีมเรารับมือกับการตกเป็นรองไม่ดีเท่าที่ควร นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น

หลังจากที่โดน 2-0 เกมของทีมก็พยายามครองบอลเพื่อจะบุกไปตีตื้น แต่การเล่นมันยังไม่มีคุณภาพพอจะไปเจาะเขาได้ จากการขาดนักเตะคีย์แมนเกมรุกไปหนึ่งคน นี่ก็สะท้อน Squad Depth ของทีมอีก และยิ่งรูปเกมมันไปเข้าทางเซบีย่าเพราะ "สกอร์" อันเกิดจากความผิดพลาดแล้วด้วย ทำให้ในเชิงแทคติก เซบีย่ายิ่งสามารถไปแพ็คเกมให้แน่นได้อย่างปลอดภัยมากกว่าเดิม เพราะนำเยอะมาก เกมเข้าทางเขาหมดทุกอย่าง 

และที่น่าผิดหวังคือ ส่วนตัวผู้เขียนรู้สึกว่า ทีมยังมีความ "กระหาย" ไม่เพียงพอ ซึ่งนี่คือเรื่องของ Mentality เหมือนกัน

ในจังหวะที่ทีมตามอยู่ 2 ลูก มันไม่ได้ห่างถึงขนาดหมดหวัง เราอยากจะเห็นปฏิกิริยาของทีมในการแสดงออกว่า ทีมไม่อยากแพ้ตกรอบ ทีมต้องการทวงประตูคืนมากกว่านี้ แต่การเล่นของเรามันไม่ดุดัน และยังทุ่มเทไม่พอในเรื่องอาการเกลียดความพ่ายแพ้ของทีม เราสัมผัสสิ่งนี้ไม่ได้

แล้วพอยิ่งดันเกม บอลจังหวะสองก็ยิ่งเข้าทางเซบีย่าในการจะเล่นสวนกลับในพื้นที่เปิดด้านหลังของแมนยูไนเต็ดอีก ก็ยิ่งไปกันใหญ่ แล้วก็โดนยิงในลูกที่สาม ตอกย้ำความหละหลวมของเกมรับที่เกิดขึ้น และเป็นความผิดพลาดส่วนตัวของดาวิด เดเคอาอีกหนึ่งรายด้วย

ความกระหายที่ไม่เพียงพอ กำลังใจที่ลดน้อยลงไปจนแทบจะไม่เหลือเพราะสถานการณ์มันทำอะไรไม่ได้ กับเวลาที่ค่อยๆลดลงเรื่อยๆ ความมั่นใจความฮึกเหิมของทีมก็ลดหลั่นลงไปเช่นเดียวกับกำลังใจเหมือนกัน ทุกอย่างนี้มันเป็นปัญหาในเรื่องสภาพจิตใจล้วนอย่างแท้จริง ที่เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของความพ่ายแพ้อย่างหมดรูปในเกมนี้

การนำเสนอปัญหาอย่างเดียวมันไม่เป็นประโยชน์ต่อทีมเราเลย สิ่งที่ทีมต้องการคือ เราจะทำยังไงไม่ให้ปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นมาอีก อย่างแรกสุดเท่าที่พอจะนึกออกคือ ถ้าเราลดปัจจัยที่จะส่งผลต่อการลดความมั่นใจของทีมลงไปได้จะดีมาก

แน่นอน ความผิดพลาดใหญ่ๆแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น วิธีที่ทีมจะแก้ได้คือ หานักเตะที่ตรงกับระบบการเล่น และเหมาะสมกับปรัชญาที่เอริค เทน ฮาก ต้องการเข้ามาเพิ่ม ทั้งเรื่องคุณภาพที่จะมาเพิ่ม Squad Depth ให้ทีม

และเรื่อง "คาแรคเตอร์" ของนักเตะใหม่ที่จะเข้ามา สำคัญมากๆ

สังเกตได้ว่า เรื่อง Mentality ในตัวนักเตะเรา มักจะไม่ค่อยมีกับตัวเล่นใหม่ๆที่เอริค เทน ฮากเข้ามา ทั้งอันโทนี่ คาเซมิโร่ ลิซานโดร มาร์ติเนซ พวกนี้เป็นนักสู้กันหมด เกมที่แพ้เซบีย่า เราสัมผัสได้เลยว่าอันโทนี่มันสู้สุดชีวิตจริงๆ แฟนบอลก็คงจะได้เห็นกันแล้วว่าเขาสำคัญกับทีมยังไงบ้าง

การจะเสริมทัพด้วยนักเตะใหม่ นอกจากเรื่องตำแหน่งการเล่น ความถนัด บทบาท ฝีเท้าในเชิงฟุตบอลแล้วนั้น คาแรคเตอร์ของผู้เล่นก็สำคัญด้วย เราต้องการนักเตะที่มีจิตใจแข็งแกร่งเข้ามาเสริมทีมให้มากที่สุด เพื่อแก้ปัญหาตรงนี้ให้มันดีขึ้น นักเตะที่มีสภาพจิตใจที่เข้มแข็ง จะทำให้ทีมไม่ยุบมากเวลาที่ตกเป็นรอง หรือต้องการแรงฮึดสู้ในสนาม

เกมฟุตบอล "ใจ" สำคัญมากๆไม่แพ้เรื่องแทคติก หรือสกิลทักษะการเล่นเลย ซึ่งตรงนี้มันคือเรื่องของ Mentality แบบเต็มๆ

วิธีแก้ปัญหาต่อมาคือ เอริค เทน ฮาก ควรที่จะปรับ mindset ของนักเตะในทีมให้แข็งแกร่ง และพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ตกเป็นรองมากกว่านี้ จริงอยู่ว่าเกมนัดนี้เราเสียเปรียบเพราะเกมรับพลาด เสียประตูแบบไม่ควรก็จริง แต่เรื่องสภาพจิตใจก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่มันสามารถยกระดับให้ดีกว่านี้ได้

แรงฮึดของทีมยังไม่พอ และในสถานการณ์เป็นรอง ทีมในวันนี้ขาดคนเรียกลูกฮึดอย่างมาก ในยามที่กัปตันทีมก็สร้างความผิดพลาดซะเอง แถมยังกระตุ้นเพื่อนไม่ได้อีก เรื่อง Captaincy การเป็นผู้นำ เป็นกัปตันทีม ส่งผลกับเพื่อนร่วมทีมมากๆ

น่าเสียดายที่นักเตะที่ใจสู้ที่สุดของเราอีกคนอย่าง บรูโน่ แฟร์นันด์ส ไม่อยู่ วันนี้เกมการเล่นของทีมอาจจะดีกว่านี้อีกเยอะ ถ้ามีเขาเป็นผู้นำทีมอยู่ในสนาม ใครจะว่ามันบ่นเยอะพูดเยอะก็ช่าง บรูโน่เป็นนักเตะที่ "เกลียดความพ่ายแพ้เข้าไส้" มากๆ

นั่นแหละครับ สิ่งที่เราอยากได้ นักเตะที่เกลียดความพ่ายแพ้เข้าไส้แบบสุดๆ วันนี้ในขณะที่ทีมกำลังเป็นรองถึงสองลูก เวลาค่อยๆน้อยลงไปเรื่อยๆ เรายังสัมผัสได้ถึงความเอื่อยเฉื่อยในการเล่นที่ยังไม่ทุ่มเทอย่างสุดชีวิตมากพอ เพื่อจะพยายามตีตื้นให้แฟนบอลได้เห็น มันไม่มีเลย เราถึงได้บอกว่า เรื่อง Mentality มันเป็นปัญหาอีกหนึ่งอย่างของความพ่ายแพ้ในวันนี้จริงๆ

Mentality ไม่ได้เป็นปัญหาแค่เกมๆนี้ แต่มันเป็นปัญหาหลักที่อยู่กับทีมชุดนี้มา ยังแก้ไขไม่ได้

และ Mentality ที่ต้องแก้ ก็ไม่ใช่แค่เฉพาะนักเตะบางคนด้วย จริงๆต้องเสริมสร้างความแข็งแกร่งในเรื่องสภาพจิตใจไปด้วยกันทั้งทีมว่า จะต้องฮึดสู้ไปด้วยกันหมด ไม่ใช่หน้าที่ใครคนใดคนหนึ่ง คือแฟนบอลอาจจะเห็นว่า ซานโช่ใจไม่ฮึดสู้พอ แมกไกวร์ เดเคอาโดนแล้วยุบ กระตุ้นเพื่อนไม่ได้ ฯลฯ

เรื่องนี้เป็นปัญหาของต้อง "ทั้งทีม" จริงๆ เพราะเวลามันดาวน์ มันดาวน์ลงทั้งทีม ไม่ได้ดาวน์แค่นักเตะบางคน ข้อนี้เห็นชัด เพราะเวลามันมีปัญหา ก็ไปด้วยกันหมด

ต้องแก้ปัญหาร่วมกันใน ไม่ใช่ปัญหาข้อบกพร่องรายบุคคล

การตกรอบในวันนี้ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ขนาดคอขาดบาดตาย แมนยูไนเต็ดมีเป้าหมายจริงๆอยู่ที่การคว้าโควตา UCL ให้ได้ชัวร์และปลอดภัยที่สุด นั่นคือ priority แรกของซีซั่นนี้

และแมนยูไนเต็ดไม่ใช่ทีมเทพที่จะชนะได้ทุกทีม  เอริค เทน ฮากก็เพิ่งเข้ามาทำทีมได้แค่ฤดูกาลแรก การแพ้ชนะตกรอบเป็นเรื่องธรรมดามากๆ วันนี้เรามาได้แค่นี้ก็คือเราดีไม่พอที่จะผ่านคู่แข่งอย่างเซบีย่าไปได้ ต้องไม่ลืมเรื่องนี้

การแพ้ในวันนี้เป็นเรื่องธรรมดาที่คนเชียร์กีฬาควรยอมรับเรื่องราวปกติของการแข่งขันกีฬาให้ได้ มีแพ้มีชนะ ไม่แปลก แต่นอกเหนือจากแค่เกมๆนี้ การพัฒนาทีมโดยรวมของเรา ควรจะต้องยกระดับในทุกๆเรื่องให้ดีขึ้น ซึ่งทัศนคติ, ชุดความคิด และสภาพจิตใจ ส่งผลต่อคุณภาพของเกมฟุตบอลมากพอสมควร

ถ้าอยากจะประสบความสำเร็จในระดับที่สูงกว่านี้ ถ้าอยากได้ลุ้นแชมป์ลีกกันดีกว่านี้ แมนยูไนเต็ดจะต้องแก้ไขความไม่มั่นคงทางสภาพจิตใจของทีมให้ได้ ไม่เช่นนั้นเราก็จะมีความผิดพลาดแบบนี้อยู่เรื่อยๆไม่จบไม่สิ้น 

หากทีมมีจิตใจที่แข็งแกร่ง มันช่วยในเรื่องเสถียรภาพของฟอร์มการเล่นในทีมได้ ยิ่งกับเกมพรีเมียร์ลีก สภาพจิตใจของทีมถือเป็นสิ่งสำคัญมากพอๆกับการรักษาฟอร์มให้ได้สม่ำเสมอ

วิธีการปรับปรุงให้ทีมของเราดีขึ้น มันไม่ได้จบเพียงแค่เอาเงินไปซื้อนักเตะเก่งๆเข้ามาตามตำแหน่งที่ขาดอย่างเดียว ใช่ว่าได้แฟรงกี้ เดอ ยอง ได้วิคเตอร์ โอซิมเฮนเข้ามาแล้ว ทีมจะคว้าแชมป์ได้เลยทันที มันไม่มีทางเป็นแบบนั้น การพัฒนาการทีมทั้งทางด้านคุณภาพการเล่น ทั้งทางด้านจิตใจของผู้เล่นในทีม จะต้องทำไปควบคู่กัน พร้อมๆกับการเสริมทีมที่ถูกจุด และถูกต้องในเรื่องตัวตนและบุคลิกของนักเตะที่มี "Winning Mentality : จิตใจของผู้ชนะ" แบบเต็มเปี่ยมด้วย 

ในตอนนี้ทีมยังแก้ไม่ได้เลยแบบปุบปับก็ไม่เป็นไร เราเข้าใจ ทุกอย่างต้องใช้เวลาจริงๆ 

ได้แต่หวังว่าในอนาคตทีมจะแก้ไขเรื่องสภาพจิตใจที่ยังแข็งแกร่งไม่พอแบบนี้ให้ได้ ไม่งั้นทีมเราเวลาแพ้ทีก็มักจะแพ้แบบหลุดลุ่ยหมดฟอร์มอย่างนี้บ่อยๆต่อไป ซึ่งมันไม่ดีต่อโมเมนตัมของทีมในการลงแข่งขันทุกๆรายการจริงๆ

เป็นกำลังใจให้ผู้จัดการทีม และชุดนักเตะของเราค่อยๆพัฒนากันต่อไปครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญจริงๆ

สู้ต่อไปนะเอริค พวกเราเข้าใจ และพวกเรารอได้

-ศาลาผี-