สโมสรตัดสินใจว่าจะยื่นข้อเสนอ แต่ไม่ได้มีอะไรเพิ่มเติมเป็นพิเศษ หลักๆจะเป็นข้อเสนอที่ไม่ได้ต่างไปจากสัญญาฉบับเดิมของทั้งคู่ ด้วยจำนวนเงินเท่ากันหรืออาจน้อยกว่าเดิมที่พวกเขาเคยได้รับ
หาก อาเซนซิโอ กับ เซบายอส ตัดสินใจต่อสัญญาก็นับเป็นเรื่องดี แต่ถ้าปฏิเสธก็ไม่เป็นไร เพราะในสายตาของสโมสรถือว่าทั้ง 2 คนเป็นนักฟุตบอลที่มีประโยชน์ แต่ไม่ได้สำคัญถึงขนาดที่ว่าขาดไม่ได้
แต่มา ณ วันนี้สถานการณ์ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปแล้ว บอร์ดบริหารต้องการต่อสัญญากับทั้ง อาเซนซิโอ และ เซบายอาส อย่างจริงจัง
ตลอดระยะเวลากว่า 3 เดือนที่ผ่านมา ทั้ง อาเซนซิโอ และ เซบายอส แสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถมีส่วนร่วมกับทีม อีกทั้งบทบาทที่มีต่อทีมนั้นก็มีความสำคัญ
แม้ว่าจะอยู่ในฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม แต่ทั้งคู่ก็ยังไม่ใช่ผู้เล่นตัวจริงของทีม และดูเหมือนจะเป็นไปได้ค่อนข้างยากกับทีมอย่าง เรอัล มาดริด ที่มีการแข่งขันสูงลิบ
ทว่าด้วยฟอร์มการเล่นนี้ซึ่งพวกเขามอบให้ทีมตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา กลายเป็นว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อการโรเตชั่นของ คาร์โล อันเชล็อตติ
ตัวอย่างเช่นในเกมล่าสุดกับ เซลต้า บีโก้ ซึ่งลงเล่นหลังเกมหนักกับ เชลซี ที่ทั้งคู่ได้โอกาสลงเล่นเป็นตัวจริง ต่างก็เล่นออกมาได้น่าประทับใจ
เซบายอส จ่ายบอลทะลุช่องให้ วินิซิอุส จูเนียร์ หลุดขึ้นไปทางซ้าย ก่อนลากเลื้อยสุดเส้นหลังแล้วจ่ายย้อนกลับมาให้ อาเซนซิโอ จ่ายเป็นประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 42
ตำแหน่งตัวจริงของ เซบายอส เกมนี้ ช่วยให้ อันเชล็อตติ สามารถพัก ลูก้า โมดริช ไว้ที่ข้างสนาม ก่อนจะลงมายืดเส้นยืดสายในนาทีที่ 81 ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสภาพร่างกายในวัย 37 ของมิดฟิลด์โครแอตอย่างมาก
หรือการออกสตาร์ทตัวจริงของ อาเซนซิโอ ก็ทำให้ อันเชล็อตติ จัดทีมได้อย่างยืดหยุ่นพัก ได้พักทั้ง โรดรีโก้ และ โทนี่ โครส เพราะไม่จำเป็นต้องดัน เฟเด วัลเวร์เด้ ขึ้นไปเล่นกองหน้าฝั่งขวา อีกทั้งผลงานที่ออกมาคือ ลงเล่น 76 นาที ยิง 1 ประตู ซึ่งถือว่าน่าพอใจมากๆ
การมีนักเตะที่ฝีเท้ายอดเยี่ยมขนาดนี้เพื่อใช้ในการหมุนเวียน สำหรับ อันเชล็อตติ หรือสำหรับใครก็ตามที่จะเข้ามาคุม เรอัล มาดริด ในฤดูกาลหน้านับเป็นเรื่องที่ดีเอามากๆ นั่นเป็นเหตุผลที่บอร์ดบริหารตระหนักถึงความสำคัญและพยายามที่ทำให้การต่อสัญญาเกิดขึ้น
ด้านความเคลื่อนของฝั่งนักเตะ รายของ อาเซนซิโอ เคยได้รับข้อเสนอต่อสัญญาจาก เรอัล มาดริด เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่ได้ตอบปฏิเสธไปเนื่องจากมองว่าค่าเหนื่อยนั้นต่ำเกินไป
เรอัล มาดริด ยื่นให้ที่ 4 ล้านยูโรต่อปี ซึ่งน้อยกว่าเดิม 5 แสนยูโร แต่ อาเซนซิโอ ต้องการที่ 6 ล้านยูโรทำให้การเจราจาในครั้งนั้นล้มไป
ไอเดียของ อาเซนซิโอ คือเขาต้องการอยู่กับ เรอัล มาดริด ต่อ แต่ก็คาดหวังความพยายามที่มากกว่านี้จากสโมสร
นอกจากเรื่องของเงินแล้ว ในส่วนของบทบาทของเขาในทีม ก็มีความสำคัญต่อการตัดสินใจเช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่าเขาต้องการลงเล่นมากกว่าเดิม
อาเซนซิโอ เพิ่งจะตัดสินใจยุติการร่วมงานกับ โอราซีโอ กั๊กโยลี่ (เอเยนต์คนแรกของ ลิโอเนล เมสซี่) แล้วหันไปใช้บริการของ เกสตีฟูเต้ (Gestifute) บริษัทเอเยนต์ยักษ์ใหญ่ของ ฮอร์เก้ เมนเดส
ตรงนี้น่าจะทำให้การเจราจามีมิติมากขึ้น ด้วยความช่ำชองของ เมนเดส และทีมงาน หากแผน A ไม่เวิร์ค แผน B หรือแผน C ก็คงจะมีตามมา
สิ่งที่คาดคาดหวังได้ในการเจราจาสัญญาฉบับใหม่ครั้งต่อไประหว่าง อาเซนซิโอ กับ เรอัล มาดริด ก็คือข้อเรียกร้องที่มากขึ้นจากฝั่งนักเตะ
เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไปจากเดือนมกราคมมาก เรอัล มาดริด จะมองค่าเหนื่อย 6 ล้านยูโรแบบเนต (รายได้หลังหักภาษี) อย่างไร เพราะนอกจากเงินก้อนนี้ สโมสรจะต้องจ่ายภาษีอีก 40 % และต้องจ่ายค่าเซ็นสัญญาบวกคอมมิชชั่นให้กับ ฮอร์เก้ เมนเดส ด้วย รวมแล้วเป็นเงินแล้วน่าจะอยู่ราวๆ 12-13 ล้านยูโรในสัญญาปีแรก (หรืออาจน้อยกว่าหากผ่อนจ่าย)
ส่วน เซบายอส เคยให้สัมภาษณ์เมื่อ 22 มีนาคมที่ผ่านมาว่า เขายังไม่ได้พูดคุยกับ เรอัล มาดริด เลย
“ผมยังไม่ได้คุยกับ เรอัล มาดริด เกี่ยวกับการต่อสัญญาเลยตลอดช่วงที่ผ่านมาของฤดูกาลนี้”
“ยังมีอีก 2 เดือนที่น่าสนใจมากๆรออยุ่ข้างหน้า ผมรู้สึกสบายๆ นี่คือช่วงเวลาที่จะต้องเอนเจอยไปกับ 2 เดือนที่เหลืออยู่ของฤดูกาล ถ้าผมเอาแต่คิดถึงเรื่องการต่อสัญญา ผมคิดว่าตัวเองคงคิดผิดแล้ว นี่คือช่วงที่ผมจะต้องสนุกไปกับฟุตบอล ตอนนี้ผมสามารถก้าวไปข้างหน้าขึ้นอีกขั้นสำคัญทีมชาติ นี่คือสิ่งที่ต้องผมต้องทำ”
จากบทสัมภาษณ์ ก็จะเห็นได้ถึงความชัดเจนในความไม่ชัดเจนของ เซบายอส เขายืนยันว่ายังไม่คิด ยังไม่เจราจา ต้องการโฟกัสไปที่การทำผลงานที่เหลือในฤดูกาลนี้ให้ดีก่อนแล้วจึงตัดสินใจ
ให้เดา ผมก็มองว่าเคสของ เซบายอส ก็น่าจะคล้ายๆกับสถานการณ์ของ อาเซนซิโอ แม้เขาจะอยากอยู่กับ เรอัล มาดริด ต่อไป แต่คงไม่ใช่กับ “ราคาเท่าไรก็ได้,เงื่อนไขแบบใดก็ได้”
นอกจากเรื่องค่าตอบแทนแล้ว เชื่อว่า เซบายอส เองก็ต้องการแน่ใจก่อนเซ็นสัญญาด้วยว่าเขาอยู่ในแผนการทำทีมของ อันเชล็อตติ หรือไม่ เป็นส่วนสำคัญในอนาคตหรือเปล่า ?
ที่นี้ก็ขึ้นอยู่กับ เรอัล มาดริด แล้วว่าจะยื่นสัญญาแบบใดให้มิดฟิลด์วัย 26 ปี จะการันตีอนาคตให้ได้แค่ไหน ?
แน่นอนว่าของแบบนี้ต้องคุยกันยาว แต่จะตกลงกันได้หรือไม่ เงื่อนไขทางฟุตบอลอาจไม่ใช่เหตุผลเดียว
แต่ละฝ่ายเองก็มีธงที่ตั้งไว้ เรอัล มาดริด ก็มีตัวเลขในใจ หากทั้งคู่เรียกร้องค่าเหนื่อนที่สูงเกินกว่าที่สโมสรประเมินไว้ ก็อาจจะตกลงกันไม่ได้ ซึ่งในทางฟุตบอลแล้วคงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก เพราะ อาเซนซิโอ กับ เซบายอส คือส่วนเติมเต็มของทีมจริงๆ
แต่อีกมุมนึง ใครเล่าจะอยากเป็นตัวสำรองตลอดไป ใครก็อยากได้รับการยอมรับ อยากมีคุณค่าในสายตาของคนอื่นๆ
จริงมั๊ยครับ ?
เจมส์ ลา ลีกา
