เจ้าตัวยังอยู่กับ การท่าเรือ เอฟซี เหมือนเดิม เพียงแต่ “บทบาท” เขาอาจพบตัวเองบนม้านั่งสำรองเป็นส่วนใหญ่

จากวันที่เป็น “ความหวัง” ของสาวกสิงห์เจ้าท่า เวลาล่วงผ่านมาจนใกล้จะจบฤดูกาล แต่แข้งวัย 22 ปี ยังไม่สามารถผลิตผลงานที่น่าประทับใจ หรือเป็นชิ้นอันได้เลย นับตั้งแต่ย้ายมาจาก อ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด ในอังกฤษ

ไม่ว่า การท่าเรือ จะเปลี่ยนกุนซือไปกี่คน ไล่ตั้งแต่ สก็อตต์ คูเปอร์, แม็ตต์ ฮอลแลนด์ จนมาถึง โชคทวี พรหมรัตน์ & สุรพงษ์ คงเทพ เบน เดวิส ยังไม่สามารถเอาชนะใจโค้ชได้เหมือนเดิม

16 เกมรวมทุกรายการ เจ้าตัวลงเล่นไปเพียง 571 นาที ส่วนผลงานนะเหรอ 0 ประตู 0 แอสซิสต์ ไม่มีแม้แต่ช็อตหวือหวา หรือจังหวะที่เข้าไปอยู่ในใจแฟนสิงห์เจ้าท่าได้เลย

ซึ่งไม่แปลกที่เขาจะถูกตั้งคำถามว่า อาจไม่ดีพอสำหรับ การท่าเรือ

ไม่กี่วันที่ผ่านมา ผู้เขียนเหลือบไปเห็นบทสัมภาษณ์ของ พี่บี บางปะกง คนข่าวกีฬาวัยเก๋า ที่เปิดบทเผยสัมภาษณ์ของ คุณสัมฤทธิ์ ธนะกาญจนสุทธิ์ ผู้บริหาร อ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด ถึงประเด็นของ เบน เดวิส พอดี

รายละเอียดค่อนข้างน่าสนใจตรงที่ เบน เดวิส จะหมดสัญญายืมตัวกับ การท่าเรือ ในเดือนหน้านี้ (31 พฤษภาคม)

แน่นอนว่า การท่าเรือ ไม่น่าบ้าจี้ยืมตัวต่อ เพราะผลงานเขาเป็นที่แจ่มชัดแล้วว่า ไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองไม่ถิ่น แพม สเตเดียม ได้ แต่ครั้นจะโยนกลับไปอังกฤษเหมือนเก่า ก็ถูกตั้งคำถามอีกว่าจะไหวหรือไม่ ?

เพราะขนาดในไทยลีก เขายังแทบไม่ได้ลงเล่นเป็นตัวหลักเลย ขืนกลับไปคงถูก “ดองเค็ม” ไม่มีเกมลงเล่นตามเดิมนั่นแหละ 

คุณสัมฤทธิ์ เองก็ยอมรับแบบตรง ๆ ว่า คงเป็นเรื่องยาก ที่จะดึง เบน เดวิส กลับไปค้าแข้งยุโรปในตอนนี้ เพราะจุดประสงค์ที่ อ็อกซ์ฟอร์ด ปล่อยเจ้าตัวมาเล่นในเมืองไทย คือต้องการให้เรียกความมั่นใจและมีแมตช์ลงเล่น แต่ 1 ปีที่ผ่านมา เขาแทบจะไม่ค่อยได้รับโอกาสเท่าที่ควร

หนทางที่ดีสุดของ เบน เดวิส คือ การหาบ้านหลังใหม่ บ้านที่สามารถตอบโจทย์เข้ากับสไตล์เขา รวมถึงมีเวทีให้เขาใช้ลงเล่นได้สม่ำเสมอ

คุณสัมฤทธิ์ ยังยืนยันเพิ่มว่า ถ้าสโมสรใดที่สนใจก็ติดต่อมาที่ตนได้เลย เพราะ เบน เดวิส ไม่มีเอเยนต์ส่วนตัว สามารถเจรจากับใครก็ได้ เรื่องค่าเหนือยนั้นไม่ใช่ปัญหา เอาที่ทุกฝ่ายพอใจ ขอให้เขาได้มีโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงสม่ำเสมออันดับแรกก่อนเป็นพอ

ในมุมผู้เขียน ยังเชื่อว่า เบน เดวิส ดีพอที่จะค้าแข้งในไทยลีก เพียงแต่เขาเองต้องหาบ้านที่เหมาะสมกับตัวเองให้เจอ และพัฒนาตัวเองมากกว่านี้ ทั้งแพสชั่น การปรับตัว รวมถึงการใช้ชีวิตในเมืองไทย

หากเขากลับมาเป็น เบน เดวิส คนเดิมได้ นอกจากจะเป็นการช่วยเรียกความมั่นใจให้ตัวเองแล้ว ประตูการกลับไปยุโรปของเขาก็ยังคงเปิดรับอยู่ ด้วยอายุอานามที่ยังไม่มากจนเกินไป

ซึ่งรวมถึงประตูคืนสู่ทีมชาติไทยด้วย

การตัดสินใจครั้งนี้ของ เบน เดวิส จึงค่อนข้างสำคัญ

เพราะมันอาจกำหนด “อนาคต” ในชีวิตค้าแข้งเขาจากนี้ได้เลย