:::     :::

เบื้องหลังความสำเร็จ "มาร์ติน โอเดการ์ด"

วันจันทร์ที่ 24 เมษายน 2566 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
1,293
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ย้ายมาร่วมทีมอาร์เซน่อล แบบยืมตัว ในตลาดหน้าหนาวเดือนมกราคม ฤดูกาล 2020-21

สำหรับมาร์ติน โอเดการ์ด ก่อนจะเซ็นสัญญาแบบถาวรในอีกฤดูกาลต่อมา หลังจากนั้น จอมทัพทีมชาตินอร์เวย์ สามารถพัฒนาฟอร์มการเล่นอย่างยอดเยี่ยม จนกลายเป็นกำลังสำคัญในแดนกลางของทีม


นอกจากนี้ ความเป็นผู้นำของเขา ทำให้เขาถูกรับเลือกให้เป็นกัปตันทีมของเดอะ กันเนอร์ส อีกด้วย โดยพร้อมพาทีมลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก ในช่วงโค้งสุดท้ายของซีซั่น


อย่างไรก็ตาม กว่าจะก้าวมาอยู่ตรงจุดนี้ของเขา ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แม้จะเป็นนักเตะที่ดังมาตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ก็ต้องผ่านการพิสูจน์ตัวเอง เหมือนเช่นนักฟุตบอลระดับโลกคนอื่น

“ฟุตบอลคือลมหายใจของเขา”


ยอสตีน โฟล ผู้อำนวยการฟุตบอลของทีมสตรอมส์ก็อดเซท ออกมาย้อนความทรงจำถึงมาร์ติน โอเดการ์ด ที่เติบโตกับอะคาเดมี่ จนก้าวขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ โดยถือเป็นเพชรเม็ดงามแห่งวงการฟุตบอลนอร์เวย์ 


“ชีวิตของเขาเกี่ยวพันกับฟุตบอล 24 ชั่วโมง” โฟล เสริมต่อไปว่า เขาเป็นนักเตะที่แบกอายุ รวมถึงฝึกซ้อม และลงเล่นกับเด็กที่โตกว่าเสมอ 


“เขามาที่สโมสร พร้อมกับลูกฟุตบอล และอาหารกลางวันที่บรรจุในกล่อง คุณพ่อจะมาส่งเขาในตอนเช้า และมารับในตอนเย็น เขาจะนั่งรอ กระทั่งกลุ่มเด็กผู้ชายที่โตกว่าจะมาถึง เขาจะร่วมเล่นกับพวกเขาเหล่านั้น พรสวรรค์ของเขาเหนือกว่าคนทั่วไป นั่นเป็นสิ่งที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน เขาเป็นเด็กเงียบๆ ที่รอแต่การเล่นฟุตบอลเท่านั้น เขาเก่งเกินอายุของตัวเองไปแล้ว” 


สำหรับ โอเดการ์ด ลงซ้อมกับทีมชุดใหญ่ของสตรอมส์ก็อดเซท ด้วยวัย 13 ปีเท่านั้น และประเดิมสนามในฟุตบอลลีกอาชีพเป็นครั้งแรกในชีวิต ด้วยวัย 15 ปี 118 วัน 


โฟล กล่าวว่า “ตอนที่เขาเล่นให้ทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรก แฟนบอลในสนามถึงกับตื่นเต้นมาก โดยเฉพาะเมื่อลูกฟุตบอลอยู่ที่เท้าของเขา บรรยากาศช่างน่าเหลือเชื่อมาก” 

หลังสร้างเรื่องราว ด้วยการลงเล่นลีกสูงสุดของนอร์เวย์ ทำให้โอเดการ์ด ได้รับสัญญาการเป็นนักฟุตบอลอาชีพทันที เนื่องจากลีกมีกฎข้อบังคับว่า ห้ามนักเตะอายุต่ำกว่า 15 ปี ลงสนามมากกว่า 3 นัดต่อฤดูกาล โดยวันที่เซ็นสัญญาอาชีพ โฟล ก็อยู่ในห้องนั้นด้วย 


“วันที่เขาเดินทางมากรอกเอกสารที่สำนักงานของสโมสร เขาไม่สามารถนั่งนิ่งๆได้เลย เขาเคลื่อนไหวไปมาในห้องประชุม พร้อมกับมีลูกฟุตบอลอยู่ที่เท้า เขามองไปที่กระดาษสัญญา สิ่งหนึ่งที่เขาให้ความสำคัญ ไม่ใช่เรื่องของเงินทองที่จะได้รับ แต่สิ่งที่เขาสนใจคือ เขาสามารถฝึกซ้อมเมื่อไหร่ก็ได้ ตามที่ใจต้องการ นั่นคือสิ่งสำคัญ” 


“1 ชั่วโมงหลังจากเซ็นสัญญา มันเป็นเวลา 5 โมงเย็นแล้ว ทุกคนกลับบ้านไปหมด เรามีห้องฟิตเนสอยู่ที่ชั้น 2 ผมได้ยินเสียงเพลงเบาๆ ผมตัดสินใจเดินขึ้นไปข้างบน ก่อนจะเห็นภาพที่เขากำลังฟิตซ้อมร่างกาย พร้อมกับเปิดเพลงฟังไปด้วย”


ผลสุดท้าย โอเดการ์ด ลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ของสตรอมส์ก็อดเซท เพียงแค่ 25 เกมเท่านั้น พร้อมกับทำผลงาน 5 ประตู บวกกับ 6 แอสซิสต์ พรสวรรค์ที่เด่นชัด เปรียบเหมือนกับประตูที่เปิดต้อนรับสโมสรยักษ์ใหญ่


“เขาต้องย้ายทีมแล้ว” โฟล อธิบายถึงสถานการณ์ “ตามปกติแล้ว เราจะมีนักเตะอยู่ในทีมชุดใหญ่ ก่อนจะขายพวกเขาออกไปจากทีม เรามุ่งเน้นไปที่จุดนั้น เรื่องของการปั้นนักเตะ และขายออกไป เรามักขายออกไปให้กับบรรดาทีมในยุโรป”


“อย่างไรก็ตาม เขาก้าวผ่านระดับได้เร็วมาก สโมสรใหญ่เกือบทั้งยุโรป ต่างเคยเดินทางมาที่สโมสรของเรา มักยากกับเรามาก เมื่อทีมอย่างเรอัล มาดริด, บาเยิร์น มิวนิค และสโมสรดังๆ มาที่นี่ และเฝ้ามองฝีเท้าของเขา”

เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, อาร์เซน่อล และโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ นี่คือตัวอย่างสโมสรที่ส่งสารเรียนเชิญเขา และครอบครัว เพื่อไปเยี่ยมชมสโมสร พร้อมกับโน้มน้าวให้ย้ายมาร่วมทีม ผลสุดท้าย กลายเป็นทัพ “ราชันชุดขาว” ที่ได้ลายเซ็นเขาไปครอง 


ช่วง 6 ปีที่เรอัล มาดริด เขาต้องถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับหลายสโมสร ไม่ว่าจะเป็น ฮีเรนวีน, วิเทสส์ อาร์เน่ม, เรอัล โซเซียดาด และอาร์เซน่อล ก่อนจะเป็นพลพรรค “เดอะ กันเนอร์ส” ที่ซื้อขาดมาร่วมทีม 


“ร่างกายของเขายังขาดความแข็งแกร่งอีกนิดหน่อย พรีเมียร์ลีก คือลีกที่ยากสุดในโลก ผมเคยสงสัยว่ามันเป็นทางเลือกที่ถูกต้องหรือไม่ ในการย้ายไปร่วมทีมอาร์เซน่อล อย่างไรก็ตาม เขากลับพัฒนาขึ้นมากเลย”


โฟล กล่าวทิ้งท้ายถึง โอเดการ์ด

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด