:::     :::

ความหวังแห่งสาลิกาดง บรูโน่ กิมาไรส์

วันอังคารที่ 25 เมษายน 2566 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
1,537
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เป็นฟันเฟืองสำคัญของนิวคาสเซิ่ล

สำหรับ บรูโน่ กิมาไรส์ ดาวเตะทีมชาติบราซิล ที่ช่วยให้ทัพ “สาลิกาดง” เกาะกลุ่มบนของตารางคะแนน ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ พร้อมกับมีโอกาส คว้าโควต้าไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า 


เหมือนกับเด็กบราซิเลี่ยนทั่วไป บรูโน่ กิมาไรส์ เกิดมาในครอบครัวที่ไม่ได้มีฐานะเพียบพร้อม โดยต้องปากกัดตีนถีบ กว่าจะได้กลายมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ที่เป็นโอกาสพลิกชีวิตครอบครัวเหมือนทุกวันนี้ แน่นอนว่า แรงผลักดัน และแรงบันดาลใจสำคัญของเขา นั่นคือ “คุณพ่อ” นั่นเอง

บรูโน่ กิมาไรส์  เกิด และเติบโตที่ ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล เขาเกิดในครอบครัวชนชั้นแรงงาน ที่พยายามเก็บเงินให้มาก เพื่อเติมเต็มความฝันลูกชายคนนี้ ในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ


"ผู้คนมักมองว่า นี่เป็นตัวเลขที่แปลกของนักฟุตบอล แต่สำหรับผมแล้ว หมายเลข 39 มีความพิเศษ .... ไม่ซิ มันพิเศษมากๆ" เขากล่าวต่อ


"หมายเลข 39 มอบทุกอย่างให้กับชีวิตของผม ถือเป็นหมายเลขที่นำพาผมมาที่นิวคาสเซิ่ล พร้อมกับเป็นหมายเลขที่มอบอาหาร, เสื้อผ้า และจ่ายเงินค่ารถบัส บนระยะทางที่ยาวนาน 3 ชั่วโมง เพื่อไล่ตามความฝัน"


"39 คือหมายเลขรถแท็กซี่ของคุณพ่อ ที่ขับอยู่ในริโอ เดอ จาเนโร" เขาบอกถึงแรงบันดาลใจสำคัญ


"คุณแม่ของผมทำงานที่ร้านมอเตอร์ไซค์ แน่นอนว่า คุณพ่อของผมเป็นคนขับรถแท็กซี่ นี่เป็นชีวิตที่ยากลำบากมาก คุณต้องทำงานทั้งวันทั้งคืน อย่างไรก็ตาม รถแท็กซี่สีเหลืองคันนั้น เป็นยานพาหนะที่หล่อเลี้ยงความฝันของผมเสมอมา"

บรูโน่ กิมาไรส์ กล่าวต่อว่า “คุณพ่อออกจากบ้าน และขับรถแท็กซี่ทุกวัน วันเดียวที่ผมจะเห็นหน้าท่าน นั่นคือวันเสาร์ เพราะท่านจะหยุด เพื่อเดินทางมาชมผมลงแข่งขันฟุตบอล ท่านคือฮีโร่ของผมเลย ผมไม่อยากทำให้ท่านต้องผิดหวัง"


"ตอนที่ผมอายุ 15 ผมมีโอกาสย้ายไปเล่นที่ทีมเยาวชนของอูแด็กซ์ เซา เปาโล มันเป็นโอกาสครั้งสำคัญ กระนั้น ผมต้องจากครอบครัว และออกไปใช้ชีวิตเพียงลำพัง ผมไม่มีวันลืมช่วงเวลาเหล่านั้น ในวันที่คุณพ่อขับรถแท็กซี่สีเหลือง มุ่งหน้าสู่เซา เปาโล โดยใช้เวลานานถึง 5 ชั่วโมง"


"ทุกสุดสัปดาห์ คุณพ่อจะขับรถแท็กซี่ ที่ติดตัวเลข 39 เพื่อเดินทางมาดูผม เป็นเวลา 3 ปีเต็ม ที่ผมต้องดิ้นรนอย่างหนักในอะคาเดมี่ ตอนที่ผมอายุ 17 ปี ผมยังไม่ได้รับสัญญานักเตะอาชีพด้วยซ้ำไป ดังนั้น ผมจึงวางแผนเอาไว้ว่า ผมอาจต้องเบนเข็ม เพื่อไปเป็นคนขับรถแท็กซี่เหมือนกับคุณพ่อ"


"การขับรถแท็กซี่ อาจทำให้ผมมีรายได้เพียงเดือนละ 400 เรียล ผมต้องทำแบบนั้น หากไม่ได้รับสัญญาเป็นแข้งอาชีพ เมื่ออายุครบ 18 ปี ในใจตอนนั้นคือ ผมไม่อยากทำให้พ่อแม่ผิดหวัง"


"สุดท้าย ชีวิตคนเราก็เหมือนกับรถไฟเหาะตีลังกา !!! ช่วงเวลาเพียงแค่ 4 ปี เปลี่ยนจากผมที่ต้องเป็นคนขับรถแท็กซี่ จนกลายมาเป็นนักเตะตัวยืมของแอตเลติโก้ พาราเนนเซ่ พร้อมกับคว้าแชมป์ซูดาเมริกาน่า"


"จากนั้น ผมย้ายไปเล่นกับโอลิมปิก ลียง และลงเล่นศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ ก่อนย้ายมาเล่นกับนิวคาสเซิ่ล เป็นการเติมเต็มความฝันสูงสุด นั่นคือการลงเล่นในพรีเมียร์ลีก"

สำหรับเสื้อเบอร์ 39 มีความสำคัญต่อบรูโน่ กิมาไรส์ เป็นอย่างมาก ในการเล่นกับทีมแอตเลติโก้ พาราเนนเซ่, โอลิมปิก ลียง และนิวคาสเซิ่ล เขาเลือกสวมเสื้อเบอร์นี้มาตลอด นอกจากนี้ เขายังสักตัวเลข 39 เอาไว้ที่น่องขวาอีกด้วย


"สำหรับผมแล้ว ฟุตบอลเต็มไปด้วยมนต์ขลัง คุณพ่อของผมที่ขับรถแท็กซี่แบบหามรุ่งหามค่ำ เพื่อให้ผมได้มีอาหารรับประทาน"


"ตอนนี้ ท่านกลับได้มาเดินในเมืองนิวคาสเซิ่ล ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปครึ่งโลก ผู้คนต่างอยากถ่ายรูปกับท่าน เพราะคุณพ่อคือตำนานตัวจริงแห่งหมายเลข 39"


ผลสุดท้าย รถแท็กซี่เบอร์ 39 คันนั้น ส่งลูกชายสู่ความฝันเป็นที่เรียบร้อย ในการเป็นนักเตะทีมชาติบราซิล ชุดใหญ่ ที่ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด