:::     :::

อีกกี่แต้มแมนยูถึงจะปลอดภัยในท็อปโฟร์

วันเสาร์ที่ 29 เมษายน 2566 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
8,402
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
คำนวณคะแนนให้เห็นกันแบบจะจะว่า แมนยูไนเต็ดจะต้องใช้อีกกี่คะแนน ถึงจะติดท็อปโฟร์ได้ชัวร์ๆ ผลที่ออกมาถือว่าชัดเจน และปีศาจแดงมีโอกาสทำสำเร็จพอสมควร เหตุผลต่างๆอยู่ในบทความวิเคราะห์ฉบับนี้แล้ว

พรีเมียร์ลีกกำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำคะแนนเพื่อช่วงชิงพื้นที่ต่างๆให้ได้ ตามเป้าหมายของแต่ละสโมสร

บางสโมสรกำลังลุ้นแชมป์กันอยู่อย่างคู่คี่ 

บางสโมสรกำลังลุ้นพื้นที่ท็อปโฟร์เพื่อจะเอาโควตาไปยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก

บางสโมสรกำลังลุ้นหนีตายจากการเป็นทีมตกชั้นสามอันดับสุดท้าย

และบางสโมสรก็ไม่ได้ลุ้นอะไรทั้งนั้นเพราะอยู่ในพื้นที่เซฟโซนกลางตาราง เอาแค่ประคองตัวไปให้จบซีซั่น

สำหรับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด อยู่ในแบบที่สอง ที่กำลังลุ้นพื้นที่ท็อปโฟร์เพื่อการไปเล่น UCL ฤดูกาลหน้า ซึ่งนี่คือเป้าหมายหลักของซีซั่นนี้ ที่เริ่มตั้งต้นกันใหม่กับผู้จัดการทีมคนใหม่ในปีนี้อย่าง เอริค เทน ฮาก นี่คือเป้าหมายเบื้องต้น หลังจากที่ทีมหลุดจากตำแหน่งท็อปโฟร์เมื่อปีที่ผ่านมา และต้องลงไปเล่นยูโรปาลีกแทน ซึ่งเป็นสิ่งที่แฟนบอลและสโมสรเองก็ไม่ได้ต้องการในสิ่งนี้ เพราะมันไม่ใช่ที่ของแมนยูไนเต็ดเลยแม้แต่น้อย

แต่คำถามที่หลายๆคนอยากรู้ และถามกันมาบ่อยก็คือ "ท็อปโฟร์อีกกี่แต้มดี" แมนยูถึงจะได้ไปเตะUCLแบบชัวร์ๆ เราจะมาดูกันวันนี้ว่า เส้นทางข้างหน้าของแมนยู และทีมคู่แข่ง ยากง่ายแตกต่างกันอย่างไร และการติดท็อปโฟร์ ควรจะต้องมีคะแนนสักเท่าไหร่

เรามาดูกันที่ประเด็นแรก "คะแนนเฉลี่ยของทีมที่ติดท็อปโฟร์" ก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งเมื่อย้อนกลับไปดูตั้งแต่ประวัติศาสตร์ตั้งต้นของการเปลี่ยนเป็นพรีเมียร์ลีกในปัจจุบัน เมื่อฤดูกาล 1992/93 ทีมอันดับ 4 คือแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ที่เก็บไป "71 แต้ม" มากกว่าอันดับห้าอย่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด อยู่ราว 8 แต้ม

ปีต่อมาเป็นอาร์เซนอล ที่ได้อันดับ 4 ไปด้วยคะแนนเท่ากับทีมเดิมเลยคือ 71 แต้มเหมือนกุหลาบไฟเลย ส่วนลีดส์ในอันดับ 5 ที่อยู่นอกท็อปโฟร์มีคะแนน 70 แต้ม แพ้ไปแค่คะแนนเดียวเท่านั้น จนกระทั่งปีถัดไป ก็ยังเป็นลีดส์เจ้าเดิม ที่ได้อันดับ 5 ของพรีเมียร์ลีก สามฤดูกาลติดต่อกัน โดยปีนั้นอันดับสี่คือ "ลิเวอร์พูล" ที่ได้ไป 74 คะแนน ลีดส์ก็ยังแพ้แค่แต้มเดียวอยู่ดี (73)

นั่นคือช่วงแรกๆของพรีเมียร์ลีกในสมัยนั้น

ในยุคปัจจุบันเมื่อหลายปีที่ผ่านมา คะแนนในการรักษาอันดับ 4 นั้นสูงกว่าในอดีตเล็กน้อย โดยตัวอย่างที่เห็นชัดคืออาร์เซนอล ที่ได้คะแนนถึง 75 แต้มในฤดูกาล 2016/17 ก็ยังทำได้ดีที่สุดแค่อันดับ 5 เท่านั้นเอง (โดยปีนั้นลิเวอร์พูลติดท็อปโฟร์ต้องมีคะแนนถึง 76 แต้ม

ซึ่ง 75 คะแนนของอาร์เซนอลในรอบนี้คือ "คะแนนที่สูงที่ยังได้แค่จบนอกท็อปโฟร์" ซึ่ง 25 ซีซั่นก่อนนั้น รวมถึง 3 จาก 4 ฤดูกาลหลังจากนั้นด้วย คะแนน 75 แต้มแบบนี้ดีพอที่จะไปแชมเปี้ยนส์ลีกได้แล้ว ถือว่าซีซั่นนั้นอาร์เซนอลดวงกุดจริงๆ

คะแนนสูงสุด และต่ำสุด ที่เคยมีมาในตำแหน่งท็อปโฟร์

ในฤดูกาล 2003/04 ลิเวอร์พูลติดท็อปโฟร์ได้ด้วยคะแนนเพียงแค่ 60 แต้ม ซึ่งเป็นสถิติต่ำสุด (ดูในรูปจะเห็นชัดเจน) เพราะอันดับห้าเองอย่างนิวคาสเซิลในปีนี้มีแค่ 56 แต้มเท่านั้นเอง ซึ่งถ้าพูดกันตามทฤษฎีจริงๆ ปีนั้นได้แค่ 57 แต้ม ก็ติดท็อปโฟร์ได้แล้ว

ส่วนอีกด้านหนึ่ง แต้มสูงสุดของท็อปโฟร์ที่เคยมีคนได้ คือ 79 แต้ม ทำโดยอาร์เซนอลเช่นกัน เกิดขึ้นในฤดูกาล 2013/14 ปีที่แมนซิตี้เป็นแชมป์ ซึ่ง 79 แต้มของทีมไอ้ปืนใหญ่เพื่อติดอันดับสี่ มากกว่าอันดับห้าในปีนั้นอย่าง เอฟเวอร์ตันถึง 7 คะแนน (72 แต้ม) ดังนั้นเอาจริงๆ 73 คะแนนก็เพียงพอแล้วสำหรับรักษาพื้นที่UCLไว้

ซึ่งเมื่อทำการเฉลี่ยคะแนนในทุกซีซั่นแล้ว ผลปรากฏว่า คะแนน "71.5 แต้ม" เป็นคะแนนที่หากทำได้ก็ถือว่าพื้นที่ท็อปโฟร์จะปลอดภัย หากคิดเป็นแต้มกลมๆก็คือ ทำให้ได้ราว "72 คะแนน" ถึงจะปลอดภัยนั่นเอง (โดยเฉลี่ยแล้ว ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับปีนั้นๆด้วย แต่ปกติจะเป็นแต้มเท่านี้)

แต่โดยรวมแล้ว ดูจากแนวโน้มคะแนนอันดับ4ในพรีเมียร์ลีกในภาพนี้แล้ว เทรนด์ของคะแนนก็ดูจะสูงขึ้นกว่าในอดีตจริงๆ (เส้นเทรนด์ไลน์สุดท้ายแล้วเฉลี่ยจบที่ 70+ แต่สมัยก่อนคะแนนของท็อปโฟร์เฉลี่ยต่ำกว่านี้ ดูจากตำแหน่งของเส้นแล้ว ยุคก่อนๆก็น่าจะเฉลี่ย 67-68 แต้มเพื่อจะจบท็อปโฟร์)

ซึ่งแนวโน้มตรงนี้ก็น่าจะแปรผันไปตามคะแนนของทีมแชมป์ด้วยจริงๆ อย่างที่เรารู้ๆกันว่า แมนเชสเตอร์ซิตี้ เซ็ตมาตรฐานทีมแชมป์ไว้สูงลิบลิ่ว ก็ไม่แปลกที่อันดับ 4 จะต้องยกระดับตามไปด้วย

ทีนี้มาว่ากันถึงพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2022/23 ในปีนี้กันบ้างว่า แมนยูไนเต็ดควรจะต้องได้คะแนนสักกี่แต้ม ถึงจะมากพอให้จบในโควตาท็อปโฟร์ได้สำเร็จ

ถ้ามองจากคะแนนเฉลี่ย ก็ชัดเจนว่ามันคือ 72 คะแนน ลองคิดโดยพื้นฐานจากจุดนี้ก่อน ปัจจุบันแมนยูมีอยู่ 60 คะแนน จากการเตะ 31 เกม เท่ากับว่าปีศาจแดงควรจะต้องเก็บอีกสักประมาณ "12 แต้ม" จากเกมที่เหลืออีก 7 นัด ถึงจะอยู่รอดปลอดภัยในท็อปโฟร์เบื้องต้น (หากคำนวณจากสถิติค่าเฉลี่ยแบบคร่าวๆ)

4 จาก 7 นัด ถือว่าไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่าย พูดตรงๆคือแมนยูยังต้องเน้นให้เด็ดขาดที่สุดในช่วงท้ายของซีซั่นนี้ ทุกเกมจะต้องเป็นนัดชิงหมด ไม่ใช่แค่เกมกับแมนซิตี้ เพราะเป้าหมายหลักที่สำคัญกว่าบอลรอบชิงเอฟเอคัพ คือ "ท็อปโฟร์พรีเมียร์ลีก"

จัดลำดับความสำคัญให้ดีๆ ดังนั้น "รอบชิงที่แท้จริง" ของแมนยูไม่ใช่เกมเจอแมนซิตี้นะครับ นั่นคือแมตช์โบนัส รอบชิงของจริง คือ "7 เกมข้างหน้า" ต่างหาก

และ 7 ด่านสุดท้ายของปีศาจแดงมีดังต่อไปนี้

แอสตัน วิลล่า (เหย้า)

ไบรท์ตัน (เยือน)

เวสต์แฮม (เยือน)

วูล์ฟแฮมพ์ตัน (เหย้า)

บอร์นมัธ (เยือน)

เชลซี (เหย้า)

ฟูแล่ม (เหย้า)

เป็นเกมเหย้าซะ 4 แมตช์ เกมเยือนอีก 3 แมตช์ ซึ่งเอาอย่างง่ายที่สุด คาดการณ์แบบตรงๆได้เลยว่า 4 นัด (12 คะแนน) ที่แมนยูจำเป็นต้องได้ คือ 4 นัดที่เล่นในบ้านนี่แหละ ที่จะต้องเอาให้ชัวร์ที่สุดในการเก็บสามแต้มเต็ม เพราะฟอร์มในบ้านของแมนยูไนเต็ดค่อนข้างดีมากในยุคเทน ฮาก

ถ้าจะเก็บแต้ม คาดหวังจากโอลด์แทรฟฟอร์ดที่กลายเป็นป้อมปราการของเราดีกว่า ส่วนเกมเยือนเหรอ อย่าให้พูดถึง! (ฮา)

ลองคาดการณ์เล่นๆ ตามฟอร์มทีม, มาตรฐาน และ โอกาสในการเก็บคะแนนแต่ละนัดของเรา ถ้าให้ลองคิดคร่าวๆแบบที่ไม่เข้าข้างตัวเอง เอาแบบ "Worst Case Scenario" ของแมนยูไปเลย ผลของคะแนนจาก 7 เกมข้างหน้า น่าจะเป็นดังนี้

แอสตัน วิลล่า (เหย้า) : ชนะ = 3 คะแนน

ไบรท์ตัน (เยือน) : แพ้ = 0 คะแนน

เวสต์แฮม (เยือน) : แพ้ = 0 คะแนน

วูล์ฟแฮมพ์ตัน (เหย้า) : ชนะ = 3 คะแนน

บอร์นมัธ (เยือน) : เสมอ = 1 คะแนน

เชลซี (เหย้า) : ชนะ = 3 คะแนน

ฟูแล่ม (เหย้า) : ชนะ = 3 คะแนน

3+0+0+3+1+3+3 = "13 แต้ม"

เท่ากับว่า แมนยูไนเต็ดปีนี้น่าจะจบฤดูกาลด้วยคะแนนราวๆ 60+13 = "73 คะแนน" ซึ่งตามทฤษฎีที่เราพูดคุยกันมาในบทความนี้ ก็ถือว่า "ปลอดภัย" พอสมควร

แต่คู่แข่งล่ะ?

ลองมาดูกันเล่นๆว่า แต่ละทีมเหลือโปรแกรมยากง่ายมากน้อยแตกต่างกันยังไง ไล่เรียงทุกทีมที่มีศักยภาพจะท้าชิงอันดับ4กับแมนยูในปีนี้

1. นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด

เหย้า เซาธ์แธมพ์ตัน = 3
เหย้า อาร์เซนอล = 1
เยือน ลีดส์ ยูไนเต็ด = 3
เหย้า ไบรท์ตัน = 3
เหย้า เลสเตอร์ซิตี้ = 3
เยือน เชลซี = 3
นิวคาสเซิล น่าจะได้คะแนนราวๆนี้ คือ 62+3+1+3+3+3+3 = "77 คะแนน" ดูทรงน่าจะเก็บอันดับ 3 พรีเมียร์ลีกในปีนี้ไปได้ คะแนนอาจจะดูเยอะเว่อร์ไปนิดนึง อันนี้คิดให้แบบ Best Case Scenario ให้เลย คะแนนแม็กซ์สุดของนิวน่าจะได้เท่านี้ แต่ถ้าจะมีสะดุด ก็อาจจะสะดุดเสมอได้สักสองนัด จากที่ชนะห้านัดในลิสต์นี้ คะแนนของนิวก็จะหายไป 4 แต้ม ก็ยังเท่ากับ "73 คะแนน" สำหรับนิวคาสเซิลดูแล้วยังไงก็แบเบอร์เป็นอีกทีมที่ติดท็อปโฟร์ชัวร์ๆ

2. ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์

เยือน ลิเวอร์พูล = 0
เหย้า คริสตัล พาเลซ = 3 
เยือน แอสตัน วิลล่า = 0
เหย้า เบรนท์ฟอร์ด = 1
เยือน ลีดส์ ยูไนเต็ด = 3
เหย้า เวสต์แฮม = 1
ท็อตแน่มน่าจะมีคะแนน 54+3+1+3+1 = 62 คะแนน อันนี้คิดคะแนนแบบให้เกียรติไก่เดือยทองมากแล้ว ในความเป็นจริงพวกเขาอาจจะได้แต้มน้อยกว่านี้เสียอีก เพราะฟอร์มเป๋พอสมควร เมื่อรวมคะแนนแล้วยังไงท็อตแน่มก็อยู่ห่างไกลมากที่จะมาท้าชิงแมนยูไนเต็ดในการคว้าท็อปโฟร์ เพราะตอนนี้แมนยูก็ปาเข้าไป 60 แล้ว
พูดกันตรงๆคือ ตัดไก่ออกจากสารบบแย่งท็อปโฟร์ได้เลย

3. แอสตัน วิลล่า

เยือน แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด = 0
เยือน วูล์ฟแฮมพ์ตัน = 3
เหย้า ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ = 3
เยือน ลิเวอร์พูล = 0
เหย้า ไบรท์ตัน = 1

วิลล่าโปรแกรมค่อนข้างหนัก คะแนนที่น่าจะได้คือ 54+3+3+1 = 61 คะแนน ซึ่งก็แทบจะไม่ต่างจาก สเปอร์ส เลย เพราะสองทีมนี้เตะมากกว่าทีมอื่นๆไป 1-2 นัด วิลล่าดูเหมือนจะฟอร์มแรงจริง แต่มากสุดพวกเขาก็น่าจะได้แค่ไม่เกินอันดับ 5-6 แน่ๆ 

4. ลิเวอร์พูล

เหย้า ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ = 3
เหย้า ฟูแล่ม = 3
เหย้า เบรนท์ฟอร์ด = 3
เยือน เลสเตอร์ซิตี้ = 3
เหย้า แอสตัน วิลล่า = 3
เยือน เซาธ์แธมพ์ตัน = 3

เราให้เกียรติลิเวอร์พูลด้วยการคิด Best Case Scenario ซึ่งก็น่าจะเป็นคะแนนจริงที่พวกเขาได้ หลังจากนี้ลิเวอร์พูลอาจจะชนะรวด 6 เกมสุดท้าย ดังนั้นคะแนนเมื่อจบซีซั่นของลิเวอร์พูลคือ 53+3+3+3+3+3+3 = "71 คะแนน" นี่คือคะแนนสูงสุดที่ลิเวอร์พูลอาจจะได้

ซึ่งในความเป็นจริง ฟุตบอลไม่ใช่บัญญัติไตรยางศ์ ไม่ใช่คณิตศาสตร์ที่จะมาคำนวณแบบนี้ได้เป๊ะๆ อาจจะมีสะดุดเสมอสัก 1-2 เกม เราตีให้เป็น 1 เกมแล้วกัน คะแนนจริงของลิเวอร์พูลก็น่าจะประมาณ 69 แต้ม ถือเป็นคะแนนที่สูงที่สุดแล้วสำหรับการจะเป็นอันดับ 5 ของตาราง แต่มันก็ยังตกขอบของทีมที่จะติดท็อปโฟร์อยู่ดี

ลิเวอร์พูลจะจบอันดับ 5 ในปีนี้ แล้วได้ไปยูโรปาลีกในฤดูกาลหน้า

ดังนั้นอันดับในตารางพรีเมียร์ลีกปีนี้ จากการคาดเดาคะแนนแบบคร่าวๆ เมื่อดูจากโปรแกรมการแข่งขันแล้ว ก็จะเป็นแบบนี้

1. แมนเชสเตอร์ซิตี้ : 92 

2. อาร์เซนอล : 87

3. นิวคาสเซิล : 73-77

4. แมนยูไนเต็ด : 73

5. ลิเวอร์พูล : 69-71

6. ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ : 62

7. แอสตัน วิลล่า : 61

นอกจาก ลิเวอร์พูล สเปอร์ส และ วิลล่าแล้ว จริงๆยังมี "ไบรท์ตัน" อีกหนึ่งทีมที่เราไม่ได้หยิบมาคำนวณด้วย เพราะคะแนนอยู่อันดับ 8 มี 49 แต้ม หลังจากดูโปรแกรมไบรท์ตันแล้วพบว่าพวกเขาได้เล่นในบ้านหลายเกมพอสมควร มีโปรแกรมดังนี้

เหย้า วูล์ฟแฮมพ์ตัน
เหย้า แมนยูไนเต็ด
เหย้า เอฟเวอร์ตัน
เยือน อาร์เซนอล
เยือน นิวคาสเซิล
เหย้า เซาธ์แธมพ์ตัน
เหย้า แมนซิตี้
เยือน แอสตัน วิลล่า

ถึงแม้เกมจะุเยอะ แต่แมตช์หนักๆมีเพียบ สังเกตเกมเจอ แมนยู อาร์เซนอล นิวคาสเซิล แมนซิตี้ ก็จะเห็นชัดเจนว่า เกมเหล่านี้โอกาสที่ทีมนกนางนวลจะแพ้ก็มีโอกาสสูง เต็มที่ไบรท์ตันอาจจะได้อีกราวๆ 10 คะแนน พวกเขาก็อาจจะมีคะแนนตอนจบซีซั่นราวๆ 49+10 = 59 เท่านั้น ก็น่าจะยังอยู่ต่ำกว่าวิลล่าอยู่ดี เลยไม่ได้นำมาคำนวณด้วย

หรือถ้าฟอร์มดีสุดๆจริงๆ คะแนนก็จะอยู่แถวๆสเปอร์ส วิลล่านั่นแหละครับ 60-62 คะแนน ซึ่งมันไม่พอสำหรับท็อปโฟร์อยู่แล้ว ไบรท์ตันจึงไม่น่าจะมีลุ้นอะไรกับท็อปโฟร์แบบจริงๆจังๆ

จุดสำคัญของบทความนี้คือ อันดับ 5-7 วัดแค่กับผู้ไล่ตามของเราทั้งสามทีมนอกท็อปโฟร์อย่าง ลิเวอร์พูล / สเปอร์ส / วิลล่า คะแนนสูงสุดที่พวกเขาจะได้ อยู่ที่สโมสรลิเวอร์พูลที่แม็กซ์สุดแค่ "71 คะแนน" เท่านั้น ขนาดว่าให้พวกพรี่ๆชนะทุกเกม นั่นคือแต้มสูงสุดของพวกเขา

ดังนั้น คะแนนปลอดภัยของซีซั่น 2022/23 ของแมนยูไนเต็ด ก็เป็นไปตามค่าเฉลี่ยท็อปโฟร์ของทุกซีซั่นจริงๆ นั่นก็คือ 72 แต้มจริงๆ 

ฉะนั้นแล้ว ในปีนี้คะแนนที่แมนยูต้องทำให้ได้หลังจากนี้ก็คือ "12 แต้ม" (60 + 12 = 72) ถ้าได้ 12 จากทั้งหมด 7 เกม ก็จะปลอดภัยแบบ 100% แน่นอน กับโอกาสอีก 7 นัดที่เหลือ ถ้าอยากทำเป้าหมายให้สำเร็จ เริ่มจากอาทิตย์นี้แมนยูควรจะต้องเก็บจากวิลล่าให้ได้ 3 แต้มแบบอย่าพลาด แล้ว 6 เกมที่เหลือขออีก 9 คะแนน 

ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ได้ยากเกินกว่าที่แมนยูไนเต็ดฤดูกาลนี้จะทำได้ ถ้าเราทุ่มเทสุดชีวิตเหมือนทุกแมตช์เป็นรอบชิง ด้วยศักยภาพของทีม ด้วย process การพัฒนาทีม แมนยูไนเต็ดมีดีพอที่จะทำแต้มให้ถึงเป้าหมายตามนี้ได้

ดังนั้น พวกเราแฟนผีก็ช่วยๆกันส่งแรงใจ เชียร์ทีมให้ทำสำเร็จในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลนี้นะครับ เมื่อดูจากเส้นทางที่ผ่านมาของเรา มันไม่ใช่โจทย์ที่เป็นไปไม่ได้หรอก ทีมปัจจุบันของเราจะต้องทำได้แน่ๆ

เราเชื่อ 

#BELIEVE

-ศาลาผี-

Reference

https://www.101greatgoals.com/news/how-many-points-will-be-needed-four-fourth-place-in-the-premier-league/


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด