เฉพาะประเด็นเรื่องของดาวิด เดเคอา วันนี้ เราพูดกันตรงๆแบบไม่ปกป้องก็คือ แกเซฟพลาดจริงๆ และความผิดพลาดวันนี้ก็ส่งผลลัพธ์หนักจนมีส่วนทำให้เกิดเป็นความพ่ายแพ้ของทีม แต่ก็ไม่ใช่เพราะเดเคอาคนเดียวที่ทำให้แพ้ "ทีม" ก็ต้องรับผิดชอบร่วมด้วย
พลังงานการเล่นของทีมที่ดูไม่เต็มที่, สปิริต แพชชั่น ความกระหายชัยชนะในเกมนี้ที่ยังรู้สึกว่าไม่เพียงพอ, รูปแบบของแทคติก การจัดแผนของ "เอริค เทน ฮาก" ก็ต้องรับผิดชอบ และนักเตะส่วนอื่นๆของสนาม เช่นแนวรุก ที่ไม่สามารถยิงประตูคืนมาให้ทีมได้เลยก็ต้องรับผิดชอบร่วมเช่นกัน
เดเคอาพลาดจริงๆและส่งผลให้ทีมแพ้ แต่คนที่ต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่เดเคอาคนเดียว ทั้งทีมมีส่วนด้วยกันหมด
คิดง่ายๆว่าจังหวะที่ต้องตัดบอลให้ได้ก่อนยิง กองหลังก็ต้องรับผิดชอบด้วยเหมือนกัน
สื่อต่างประเทศกำลังนำเรื่องนี้มาพูดคุยกันว่า "เดเคอา ยังดีพอสำหรับแมนยูไนเต็ดหรือไม่?"
หลายคนเห็นคืนนี้แล้วก็คงคิดว่า เดเคอาหมดแล้ว เล่นในระดับสูงไม่ได้แล้ว หรือดีไม่พอสำหรับแมนยูไนเต็ดแล้วใช่ไหม
คำตอบในตอนนี้คือ ไม่ได้เป็นแบบนั้น ฟอร์มการแบกทีมด้วยลูกเซฟที่ผ่านมาไม่ได้ ซึ่งนั่นคือมาตรฐานของการเป็น GK Shot-Stopper จริงๆของเขา
ส่วนลูกยิงหมูหกลูกนี้เป็นความผิดพลาด ไม่ใช่ standard การเล่นของเดเคอาในปีนี้ เพราะถ้าเล่นได้แค่นี้จริงๆ คำตอบคือ ไม่ไหว
แต่มันไม่ใช่แบบนั้น
แม้หลายคนจะรักเดเคอา แต่เราก็ไม่มีปัญหาเลยถ้าจะมีการเปลี่ยนโกลใหม่ หากมี GK สาย Sweeper Keeper ที่เป็นตัวเล่นบอลด้วยเท้าเก่งๆอย่าง Raya เข้ามา มองในเรื่องปรัชญาการเล่นของทีมก็เป็นเรื่องที่ดีมาก แต่ถ้าจะใช้เดเคอาต่อ อย่างน้อยปีหน้าต้องมีโกลเก่งๆเข้ามาเบียดแย่งตำแหน่งบ้างก็จะดีไม่น้อย
อย่าให้น้าเดอยู่ในเซฟโซนมากเกินไป
ท่ามกลางกระแสข่าวที่รายงานมาล่าสุดว่า การเจรจาสัญญาใหม่ระหว่างแมนยูไนเต็ด กับ เดเคอา ยังเป็นไปในทิศทางที่ดีอยู่ [@MikeKeegan_DM]
ขณะที่คำวิพากษ์วิจารณ์จากกูรูต่างๆก็มีเรื่อยๆ ล่าสุดปีเตอร์ เคราช์ ออกมาบอกว่า
"เขาเป็นผู้รักษาประตูระดับท็อปมานานหลายปี แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่าเขามักสร้างความผิดพลาดสำคัญในเกมใหญ่ๆ ถ้าตอนนี้อยู่ในระหว่างการต่อรองสัญญาอยู่ เกิดความผิดพลาดแบบนี้ขึ้นมันช่วยอะไรไม่ได้เลย"
ริโอ เฟอร์ดินานด์ ก็พูดถึงเดเคอาเช่นกันว่า "ในภาคของ Shot-stopping วันนี้เขาสร้างความผิดพลาดเกิดขึ้น ซึ่งเป็นจุดที่ผมไม่เคยตั้งข้อสงสัยเขาเลย ดังนั้นก็น่าคิดว่า เขายังเป็นนักฟุตบอลที่ดีพอจะเล่นให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดหรือเปล่า?"
ต่อคำถามที่ว่า "อนาคตของเขาจะเป็นยังไงต่อไป" คำตอบอยู่ที่มุมมองเรื่อง "วิธีการเล่น" ของเดเคอา มากกว่าเรื่อง "ความผิดพลาด"
เพราะความผิดพลาด มันมีทุกคน
นัดก่อนก็ลุค ชอว์ นัดนี้ก็เดเคอา เรื่องความผิดพลาดเป็นจุดที่นักเตะทุกคนในแผงเกมรับมีโอกาสเจอมากกว่าตำแหน่งอื่นๆอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่สองคนนี้ คนอื่นๆอย่าง วานบิสซาก้า ดาโลต์ แมกไกวร์ มาลาเซีย ทุกคนก็เคยพลาดกันมาแล้วทั้งหมด เรื่องการต่อสัญญาและอนาคตของเขา จึงไม่น่าจะนำเอาความผิดพลาดที่ว่านี้ มาเป็น"หลัก"ในการพิจารณาอนาคต แค่เป็นองค์ประกอบอีกส่วนหนึ่งเท่านั้น
แต่วิธีการเล่นต่างหากที่สำคัญกว่า อยู่ที่ความคิดของเทน ฮาก ล้วนๆแล้วว่า เขามองการเล่นของเดเคอาเอาไว้ยังไง
จากคำให้สัมภาษณ์ล่าสุด เอริคพูดเอาไว้เองเลยดังนี้ว่า "We want him to stay and we want him to extend his contract."
"เราต้องการให้เขาอยู่ต่อ และเราอยากให้เขาต่อสัญญาใหม่"
เทน ฮาก ไม่ได้ลงอารมณ์ หรือพูดอะไรในแนวที่โยนความผิดให้เดเคอาเลยแม้แต่นิดเดียว นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น และเพื่อนร่วมทีมของเขาก็เช่นกัน
ยังไงก็ตาม ถึงผู้จัดการทีมจะพูดเช่นนี้ แต่มันก็จะมีคำถามต่อสไตล์การเล่นของเดเคอาอยู่เหมือนเดิม เพราะปรัชญาของบอสเน้นการขึ้นเกมและเซ็ตบอล build-up จากแผงหลัง เราต้องรอดูว่า เอริค เทน ฮาก ให้น้ำหนัก เรื่องสไตล์การเล่นของผู้รักษาประตูด้วยเท้า เทียบกับ ความสามารถในการเซฟป้องกันประตูไว้ยังไงบ้าง
เรื่องนี้จะชัดเจนก็ต่อเมื่อผ่านซัมเมอร์นี้เท่านั้น
ถ้าเขาให้น้ำหนักเรื่องนี้เยอะ มันจะมีการนำเข้าผู้รักษาประตูคนใหม่เข้ามาแน่นอน เพราะส่งผลกับทีมเยอะในฟุตบอลสมัยนี้ที่เล่นเพรสซิ่งสูง บีบกันยันกองหลังยันโกลทุกจังหวะ
แต่ถ้าซัมเมอร์นี้ไม่มีGKใหม่เข้ามา เทน ฮาก อาจจะมองว่ายังพอจะใช้งานเขาไปได้ ตามระยะเวลาของการเล่นในระดับสูงที่ยังพอไหวอยู่ ซึ่งก็น่าจะได้อีก 2-3 ปี
โดยรวมแล้ววันนี้น้าเดถือว่าพลาดหนักจริงๆ มันพลาดลูกที่ไม่ควรพลาด (ลูกยากกว่านี้ดันเซฟได้ซะยังงั้น) สีหน้าเดฟก็บ่งบอกว่าผิดหวังกับตัวเองสุดๆ และคงรู้สึกแย่ที่เป็นเหตุทำให้ทีมแพ้ แต่อย่างหนึ่งที่ผมเชื่อว่า ทุกอย่างมันคงจะต่างจากกระแสข้างนอกแน่นอนก็คือ "ทีม" ของเรา
เพื่อนๆในทีมจะเข้าไปด่าซ้ำเดเคอา หรือนำเรื่องฟอร์มของเขามาวิพากษ์วิจารณ์หรือไม่ ผมคิดว่าเพื่อนร่วมทีมเข้าใจ และคงให้กำลังใจแกพอสมควร
คริสเตียน เอริคเซ่น พูดถึงเดเคอาหลังเกมเอาไว้อย่างน่าฟังดังนี้ว่า
"สิ่งนี้มันไม่ได้พรากอะไรไปจากที่เขาทำมาทั้งซีซั่น เขาคือหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เรามาถึงจุดนี้ได้ ทุกคนย่อมมีวันที่อาจจะทำพลาดหรือไม่พลาดเลยก็ได้"
ก่อนที่เราจะพูดกันถึงปีหน้า สิ่งที่สำคัญกว่าเรื่องที่ยังมาไม่ถึง และยังไม่เป็นจริงในเวลานี้คือ ช่วงเวลาที่เหลือ เรายังเหลืออยู่ 4 เกมแบบ "หลังชนฝา" ที่ต่อจากนี้ไม่เหลือพื้นที่ให้แมนยูพลาดแล้ว
เราจะทำยังไงให้ทีมฮึด และเรียกสปิริทกลับมาได้?
เราจะทำยังไงให้ทีมกลับมาเก็บสามแต้ม รักษาระยะห่างในพื้นที่Top4ต่อไป?
เรื่องเหล่านี้สำคัญกว่า ซึ่งห้องแต่งตัวของทีม คือความหวังสุดท้ายที่จะเรียกพลังเหล่านี้กลับมาได้
ผมเชื่อว่าเพื่อนร่วมทีมไม่มีใครเดินไปด่าเดเคอาซ้ำหรอกครับ ทุกคนเข้าใจ
พลาดไปแล้วเกมนี้ เกมหน้าก็ช่วยๆกันใหม่ก็พอ
ฟุตบอลมันเป็นกีฬาที่ต้องช่วยกัน 11 คน ไม่ใช่ให้นักเตะคนเดียวแบกทีม ถ้าจะไปก็ต้องไปพร้อมกันเป็นทีม เชื่อว่าถ้าแมนยูจะล้มเหลวจริงๆ ก็แปลว่าทีมเราไม่ดีพอที่จะไปเล่นใน UCL เท่านั้นเอง ซึ่งยังไม่ถึงจุดนั้น
4 เกมข้างหน้าคือตัวตัดสิน วันนี้ยังไม่ใช่ที่ตายของ David de Gea และท็อปโฟร์ของ Manchester United
-ศาลาผี-
