ขณะที่รอบเพลย์ออฟเพื่อหาทีมสุดท้ายที่จะได้เลื่อนชั้น ต้องบอกว่าน่าดูเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการเจอกันของ 4 ทีมหัวตารางอย่างอุทัยธานี เอฟซี, คัสตอมส์ ยูไนเต็ด, เชียงใหม่ ยูไนเต็ด และสุพรรณบุรี เอฟซี โดยจะมีเพียงแค่ทีมเดียวเท่านั้น ที่จะได้ไปลีกสูงสุดต่อจากนครปฐมและตราด

ส่วนทีมที่ตกชั้นนั้น ก็ถือว่าน่าใจหายไม่น้อยเช่นกัน เพราะราชประชา หนึ่งในทีมเก่าแก่ของวงการลูกหนังไทย ต้องลงไปเริ่มต้นใหม่ในไทยลีก 3 จากการจบในอันดับที่ 16 ส่วนอีกสองทีมที่เหลือ คือระนอง ยูไนเต็ด และอุดรธานี เอฟซี ที่จบรองบ๊วยและบ๊วยตามลำดับ

นั่นคือบทสรุปทั้งหมดของศึกไทยลีก 2 ในปีนี้ หลังจากเซิ้งแข้งกันมาทั้งหมด 34 นัด และก่อนที่จะไปสนุกกันต่อในรอบเพลย์ออฟ เราขอพาทุกท่านไปพบกับ 11 ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลที่ได้คัดเลือกมาฝากกัน ส่วนจะมีใครและมาจากทีมไหนบ้างนั้น ไปร่วมลุ้นกันได้เลย

นายด่านร่างใหญ่ชาวประจวบคีรีขันธ์ คือผู้เล่นเพียงคนเดียวของนครปฐม ยูไนเต็ด ที่ลงสนามครบทั้ง 34 นัด ก่อนเก็บไปได้ทั้งหมด 17 คลีนชีท เป็นอันดับ 1 ในบรรดาผู้รักษาประตูด้วยกัน และนั่นคือส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทีมเป็นแชมป์ลีก พร้อมกับสถิติเสียประตูน้อยที่สุดใน 18 ทีมที่เข้าแข่งขัน

"เจ้าต๋อง" ลงสนามช่วยทีมไปทั้งหมด 31 นัด และยิงได้ 1 ประตู นี่คือแบ็คสมัยใหม่ที่น่าจับตามองมากๆ แม้รูปร่างจะไม่สูงใหญ่ แต่ก็ถูกทดแทนด้วยความขยัน และด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดันแบบไม่เกรงใจใคร ก็ทำให้เขากลายเป็นขวัญใจแฟนบอลอุทัยธานีไปโดยปริยาย แน่นอนว่าเราจะได้ชมฟอร์มของเขาต่อในรอบเพลย์ออฟอย่างแน่นอน

สร้างประวัติศาสตร์พาตราดเลื่อนชั้นได้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว สำหรับกองหลังสัญชาติญี่ปุ่นรายนี้ และแม้อายุอานามจะมากขึ้นทุกวัน แต่มันก็ถูกทดแทนด้วยเชิงบอลที่ยอดเยี่ยม และที่สำคัญ เขายังจารึกชื่อตัวเองเป็นนักเตะที่อายุเยอะที่สุด ที่สามารถทำประตูได้ในศึกไทยลีก 2 อีกด้วย (40 ปี 361 วัน ในเกมที่เจออุทัยธานี เอฟซี)

ลงสนามไปทั้งหมด 30 นัด และยิงช่วยทีมไปทั้งหมด 5 ประตู จากตำแหน่งกองหลัง ก่อนได้ฉลองแชมป์ไทยลีก 2 ในท้ายที่สุด และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการที่นครปฐมเสียประตูน้อยที่สุดในลีก ส่วนหนึ่งแล้วต้องยกความดีความชอบให้กับแนวรับสัญชาติอิหร่านรายนี้ด้วยเช่นกัน

การเล่นเกมรับเป็นจุดเด่นที่ต้องยกนิ้วให้จริงๆ สำหรับแบ็คซ้ายรายนี้ และแม้จะอายุใกล้แตะหลักสี่แล้ว แต่เขามีสถิติที่น่าทึ่งมากๆ เพราะลงสนามช่วยทีมไปทั้งหมด 32 จาก 34 นัดในฤดูกาลนี้ และไม่เคยถูกเปลี่ยนตัวออกเลยแม้แต่เพียงนัดเดียว (2,880 นาทีเต็ม) !!!

ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณให้มากความสำหรับปีกจอมลากเลื้อยชาวบราซิลรายนี้ ผลงาน 13 ประตู จาก 26 นัดที่ลงสนามบ่งบอกคุณภาพในตัวเองอยู่แล้ว และโดยเฉพาะลูกที่ 12 และ 13 ที่ยิงได้นั้น ยังเป็นประตูที่ช่วยให้ตราดคว้าตั๋วไทยลีกแบบอัตโนมัติทันทีอีกด้วย

เป็นอีกคนที่รักษาฟอร์มการเล่นได้อย่างคงเส้นคงวา สำหรับไดสึเกะ ซากาอิ โดยเขาลงสนามไปทั้งหมด 34 นัด (มากที่สุดในทีม) ยิงได้ 10 ประตู พาทีมที่ต้องหนีตกชั้นทุกปีอย่างคัสตอมส์ฯ เข้ารอบเพลย์ออฟได้แบบเหนือความคาดหมาย

ยังคงยอดเยี่ยมเสมอเมื่อลงสนามบัญชาเกมให้กับ "ช้างขาวจ้าวเกาะ" สำหรับกัปตันทีมร่างเล็กรายนี้ และในที่สุด เขาก็ช่วยทีมลบความผิดหวังจากฤดูกาลก่อนลงได้สำเร็จ ด้วยการเลื่อนชั้นแบบอัตโนมัติ กับผลงาน 31 นัด ยิงได้ 2 ประตู

สตาร์ทีมชาติพม่าเป็นอีกหนึ่งส่วนผสมสำคัญที่ช่วยให้ "สิงห์นายด่าน" ทะลุสู่รอบเพลย์ออฟได้อย่างเหนือความคาดหมาย โดยในฤดูกาลนี้ เจ้าตัวลงสนามไปทั้งหมด 29 นัด และทำไปถึง 8 ประตู (3 กับอุดรธานี และ 5 กับคัสตอมส์) และมีโอกาสเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 2 ตามรอยเพื่อนร่วมชาติอย่างหม่อง หม่อง ลวิน ที่เคยทำไว้กับลำพูน วอริเออร์ ในฤดูกาลที่แล้ว

เลือกต่อสัญญาในวินาทีสุดท้ายกับอุทัยธานี เอฟซี สำหรับเพชรฆาตชาวบราซิลรายนี้ ก่อนสานต่อความยอดเยี่ยมจากฤดูกาลก่อนได้อย่างลงตัว ด้วยการเป็นดาวซัลโวของลีกที่จำนวน 28 ประตู ทิ้งห่างอันดับที่ 2 ถึง 10 ลูก ซึ่งหลังจากนี้ก็ต้องมาดูกันว่าในรอบเพลย์ออฟ เขาจะช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันได้หรือไม่

แม้จะไม่สามารถช่วยให้ต้นสังกัดอย่างอยุธยา ยูไนเต็ด ผ่านเข้าสู่รอบเพลย์ออฟได้สำเร็จ แต่ 18 ประตูที่เขายิงให้กับทีม ก็เพียงพอที่จะได้รับตำแหน่งรองดาวซัลโวประจำฤดูกาลไปครอบครอง และเชื่อเหลือเกินว่าตอนนี้ หัวกระไดบ้านของศูนย์หน้าชาวบราซิลรายนี้ คงไม่แห้งอย่างแน่นอน

เป็นตำแหน่งที่เลือกยากมากจริงๆ เพราะ "โค้ชธง" ธงชัย สุขโกกี ที่พานครปฐม ยูไนเต็ด เป็นแชมป์ ก็จัดว่าคู่ควร แต่เราขอเลือกหาญณรงค์ ชุณหะคุณากร ให้เป็นโค้ชยอดเยี่ยม เพราะการออกจากร่มเงาของสมชาย ชวยบุญชุม นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สำหรับ "โค้ชหาญ" แล้ว เขาทำมันได้เป็นอย่างดี 

แม้จะจบอันดับที่ 11 เมื่อผ่านเลกแรก แต่ในเลกที่สองนั้น "โค้ชหาญ" พาทีมไล่เก็บชัยชนะได้อย่างต่อเนื่อง จนจบอันดับที่ 2 ของตารางคะแนน พร้อมคว้าตั๋วเลื่อนชั้นแบบอัตโนมัติได้สำเร็จ ลบล้างความผิดหวังจากฤดูกาลก่อนลงได้อย่างหมดจด และเชื่อเหลือเกินว่ายังไง "โค้ชหาญ" ก็น่าจะได้อยู่สู้ต่อในลีกสูงสุดอย่างแน่นอน

ทั้งหมดนี้ก็คือทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล 2022-2023 ของศึกไทยลีก 2 ที่เราได้เลือกมาฝาก หวังว่าจะถูกใจแฟนๆ ไม่มากก็น้อย และถึงแม้ฤดูกาลปกติจะจบลงแล้ว ก็ยังเหลือรอบเพลย์ออฟให้ได้ลุ้นกันต่อ