:::     :::

ปราการเหล็กแห่งปีศาจแดง "เนมานย่า วิดิช"

วันอังคารที่ 23 พฤษภาคม 2566 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
730
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หากเอ่ยถึงชื่อของปราการหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

หนึ่งคนที่ติดอยู่ในความทรงจำของใครหลายคน นั่นคือ เนมานย่า วิดิช ปราการหลังพันธุ์แกร่งจากเซอร์เบีย นี่คือนักเตะที่ทุ่มเทแบบเต็มร้อย และยอมทำทุกอย่าง เพื่อให้ทีม “ปีศาจแดง” เก็บชัยชนะมาครอง ว่ากันว่า การจับคู่กับริโอ เฟอร์ดินานด์ ถือเป็นคู่กองหลังที่ดีที่สุดคู่หนึ่งในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก เลยทีเดียว


ช่วงนี้ เราลองไปย้อนวันวานกับวิดิช กันหน่อย เกี่ยวกับความหมายในการเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รสมถึงสไตล์การเล่นส่วนตัวที่ทำให้เขากลายเป็นที่ยอมรับ และเป็นที่รักของแฟนบอล “ปีศาจแดง”

“ผมผ่านการจมูกหัก, ข้อมือหัก, แขนหัก และหัวร้างข้างแตก”


วิดิช เล่าประสบการณ์การเล่นฟุตบอลของตัวเอง ผ่านความทรงจำที่ย้ายมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงตลาดซื้อขายหน้าหนาวของปี 2006 พร้อมกับความเคลือบแคลงความสามารถ โดยเฉพาะกับเพื่อนร่วมทีม


พอล สโคลส์ ตำนานของ “ปีศาจแดง” เคยกล่าวถึงวิดิช เอาไว้ว่า การย้ายทีมมาในครั้งนั้น ถือเป็นเรื่องน่าประหลาดใจ ซึ่งน้อยคนนักที่จะคิดว่า เขาจะก้าวมาประสบความสำเร็จกับทีม จากการที่เป็นปราการหลังที่ไม่ค่อยแข็งแกร่ง รวมไปถึงรูปร่างที่ค่อนข้างบาง และเสียเปรียบเวลาเข้าปะทะ 


อย่างไรก็ตาม วิดิช ใช้ความพยายาม ความมุ่งมั่นในการพิสูจน์ตัวเอง ผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก โดยที่มีโรงยิมของสโมสรเป็นสถานที่เพาะบ่ม จนกลายเป็นภาพที่ชินตาของผู้ใกล้ชิด ทั้งการยกน้ำหนัก และเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ทำให้เขาสามารถดวลกับแนวรุกฝ่ายตรงข้ามได้ดีมากขึ้น 


“ประสบการณ์ที่น่าเจ็บปวดที่สุดเหรอ ? คือการกระทบกระเทือนที่ศีรษะ ไม่ใช่เรื่องสนุกเลยล่ะ” วิดิช กล่าวต่อ 


“หากคุณเล่นภายใต้สีเสื้อของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คุณต้องจริงจัง และรักษาสมาธิ ผมเป็นกองหลัง หน้าที่ของผมคือการหยุดยั้ง ไม่ให้อีกฝ่ายเข้ามายิงประตูได้ หากผมผิดพลาด ผู้คนจะจดจำการเสียประตูในครั้งนั้น ดังนั้น ผมต้องมีสมาธิอย่างเต็มที่”

แม้จะเป็นนักเตะที่ถูกจัดอยู่ในประเภทดุดัน และแข็งกร้าว อย่างไรก็ตาม ก่อนการลงสนามแต่ละครั้ง วิดิช ไม่ใช่คนที่ชอบปลุกเร้าความฮึกเหิมเท่าไร่ 


โดยกล่าวว่า “นักเตะบางคนนั้น ชอบฟังเพลงกระตุ้นก่อนลงสนามแข่งขัน แต่ผมชอบที่จะอยู่คนเดียว โดยอยู่กับความคิดของตัวเอง ผมชอบโฟกัสไปที่การแข่งขัน และคู่แข่งที่กำลังเจอ มันเกิดขึ้นเป็นธรรมชาติ”


วิดิช เพิ่มเติมสไตล์การเล่นของตัวเองว่า “อย่างที่บอกไป ผมเป็นกองหลัง และผมรักการป้องกัน นั่นคือสิ่งที่ผมทำได้ดีที่สุด ผมเสียบสกัด, เสียบสกัด และเสียบสกัด นี่คือแนวทางการพัฒนาเส้นทางลูกหนังของผม และนี่คือสิ่งที่ผู้จัดการทีมต้องการ”


“จริงอยู่ ผมเป็นคนเล่นหนัก กระนั้น ผมไม่ใช่นักเตะที่ชอบจะเล่นสกปรก ผมไม่ใช่นักฆ่า เหมือนกับที่แฟนบอลแต่งเพลงให้ ผมไม่อยากทำให้ใครต้องบาดเจ็บ ผมแค่ต้องการชัยชนะ ผมทำในสิ่งที่ผมควรทำ”

วิดิช ทิ้งท้ายถึงมุมมองส่วนตัว ในการเล่นตำแหน่งกองหลังว่า “เมื่อคุณก้าวมาเล่นฟุตบอลระดับนี้ ผ่านการเล่นให้กับสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คุณต้องสนุกกับการเล่นฟุตบอลให้มากที่สุดเท่าที่สามารถทำได้”


“อย่างไรก็ตาม มันเกี่ยวข้องกับการคว้าแชมป์ด้วย ตอนเป็นเด็ก ผมสนุกกับการเล่นฟุตบอล ผมสามารถกระชากบอลหลบคู่แข่ง แต่พอโตขึ้น ความรับผิดชอบก็มากขึ้น มันกลายเป็นงานมากกว่าความสนุก แต่ผมไม่ชอบปริปากบ่นอะไร เพราะผมยังคงมีความสนุกกับมันอยู่”


ผลสุดท้าย วิดิช อำลาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบไม่มีอะไรต้องติดค้าง และไม่มีอะไรต้องเสียใจ เขาทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างใส่ลงไปในเป็นแนวรับ พาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 5 สมัย, ลีก คัพ 3 สมัย รวมถึงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ สโมสรโลก อย่างละ 1 สมัย 



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด