สำหรับ ”โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่” ที่เตรียมอำลาลิเวอร์พูล อย่างเป็นทางการ หลังจากจบฤดูกาลนี้ เป็นการยุติเส้นทางที่แสนยาวนานกว่า 8 ฤดูกาลในถิ่นแอนฟิลด์ ลงอย่างน่าใจหาย
ว่ากันว่าฟีร์มีโน่ คือนักเตะที่แฟนบอลลิเวอร์พูล หลงรักเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากการลงเล่นเพื่อทีม และไม่เห็นแก่ตัวแล้ว เขายังเป็นนักเตะที่มีรอยยิ้มบนใบหน้าเสมอ แม้บางเวลา เขาต้องหลุดไปเป็นตัวสำรองก็ตาม นี่คือทัศนคติที่ยอดเยี่ยมมาก
ช่วงนี้ เราลองไปติดตามวัยเด็กที่แสนยากลำบากของเขากันหน่อย ลองไปดูกันหน่อยว่า จากเด็กที่บ้านฐานะไม่ได้ร่ำรวย สามารถยกตัวเอง และก้าวมาเป็นนักฟุตบอลระดับโลกได้อย่างไร รวมถึงเหตุใด จากเด็กที่เตะฟุตบอลเท้าเปล่าแบบเขา ถึงกลายมาเป็นพรีเซนเตอร์แบรนด์ใหญ่
“เด็กไร้รองเท้า .... สู่นักเตะระดับโลก”
โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เกิด และเติบโตที่มาเซโอ อีกหนึ่งย่านที่เต็มไปด้วยอาชญากรรมของประเทศบราซิล เขาก็เหมือนกับเด็กชาวบราซิเลี่ยน ทั่วไป ที่หลงใหลในกีฬาลูกหนัง ครอบครัวบอกว่า ตอนมีอายุเพียงแค่ 8 ขวบ เขาก็มีลูกฟุตบอลอยู่ในอ้อมกอดไม่ห่างแล้ว
เขาอาศัยอยู่ในบ้านไม้หลังเล็ก ที่ถูกปกป้องแสงแดด และฝน ด้วยหลังคาสังกะสีแบบลูกฟูก โดยมักถูกคุณแม่สั่งห้ามไม่ให้ออกไปเล่นนอกบ้าน เนื่องจากกลัวลูกชายคนนี้ เข้าไปพัวพันกับกลุ่มอันธพาล
อย่างไรก็ตาม เขาชอบแอบออกไปเล่นฟุตบอลเสมอ ด้วยความที่เป็นเด็กฐานะยากจน ทำให้ต้องไล่หวดลูกหนังด้วย “เท้าเปล่า” ซึ่งนั่นก็เพียงพอ สำหรับเด็กที่บ้าบอลอย่างเขา
มาเรีย, คุณแม่ของฟีร์มีโน่ ออกมากล่าวว่า “ฉันไม่ต้องการให้ลูกชายออกไปเล่นฟุตบอลนอกบ้าน เพราะอันตรายแฝงตัวอยู่ในทุกอณูของถนน แต่คนอื่นบอกฉันว่า -ปล่อยเขาไปเล่นเถอะ เขาเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์-”
“ขณะที่ฉันกำลังหลับอยู่ เขามักตื่นนอนแต่เช้าตรู่ เพื่อแอบไปเล่นฟุตบอล !! เขามักย่องให้เงียบที่สุด และกระโดดข้ามกำแพงบ้านไป” คุณแม่บอกถึงความซุกซนของลูกชาย
ความคลั่งไคล้เริ่มผลิดอกออกผล จนกระทั่งอายุ 14 ขวบ ฟีร์มีโน่ มีโอกาสเข้าร่วมทีมเยาวชนของทีมท้องถิ่นอย่าง “คลับ เด เรกาตาส บราซิล” จากความช่วยเหลือของโค้ชคนแรกนามว่าลุยซ์ ทำให้เขาหลุดพ้นชีวิตความเป็นอยู่ในสลัม ที่คราคร่ำไปด้วยสิ่งล่อแหลม
ลุยซ์ กล่าวเสริมว่า “ครอบครัวของเด็กคนนี้ยากจนมากเลยล่ะ ทว่าพวกเขาเต็มไปด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน เขามักเล่นฟุตบอลด้วยเท้าเปล่าเสมอเลย คุณพ่อของเขาก็ตกงาน ตอนที่เขาก้าวมาสู่สโมสรของเราเป็นครั้งแรก”
“เหตุผลเหล่านั้น ผมจึงอาสาเป็นคนออกค่าเดินทาง และค่าใช้จ่าย ในการซื้ออุปกรณ์ฟุตบอล พร้อมกับพาเขาไปแข่งขันด้วย ไม่กี่วินาทีที่ผมเห็นเขาลงเล่น ผมมั่นใจว่าเขาต้องกลายมาเป็นซูเปอร์สตาร์ นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมผมถึงร้องไห้ เมื่อเห็นเขาก้าวไปติดทีมชาติบราซิล” โค้ชทิ้งท้าย
ปัจจุบัน ฟีร์มีโน่ กลายเป็นดาวดังในโลกลูกหนัง ที่ออกมาตามความฝันในลีกยุโรป นอกจากเป็นการพาครอบครัวหลุดพ้นจากความยากจนแล้ว ตัวเขาเองก็ไม่ต้องหลบซ่อนในการเล่นฟุตบอลอีกต่อไป
โดยการมีผู้สนับสนุนด้านรองเท้าสตั๊ด ไม่เพียงทำให้มูลค่าของเขาเพิ่มพูนมากขึ้น แต่ยังเป็นการย้ำเตือนให้เห็นคุณค่าของการฟันฝ่า ตั้งแต่เด็กที่ไม่มีปัญญาหารองเท้ามาสวมใส่
“ผมรักรองเท้าสตั๊ด โดยเฉพาะอาดิดาส เนเมซิซ ผมรักมันตั้งแต่แรกเห็น ซึ่งมันเหมาะกับเท้าผมมากที่สุด นอกจากนี้ ผมยังรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้ง โดยลุ้นระหว่างที่ฤดูกาลกำลังดำเนินไปว่า จะมีรองเท้าสีใหม่แบบไหนออกมาบ้าง”
นี่คือเรื่องราวของเด็กไร้รองเท้า ที่เดินทางสู่พรีเซนเตอร์แบรนด์กีฬาระดับโลกอย่างอาดิดาส
