:::     :::

ศึกชิงตั๋วใบสุดท้ายสู่ไทยลีก

วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม 2566 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
480
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 2 รอบเพลย์ออฟ โดยในเกมชิงตั๋วเลื่อนชั้นใบสุดท้ายนั้น จะเป็นการพบกันระหว่างทีมม้ามืดอย่าง คัสตอม ยูไนเต็ด กับทีมเจ้าบุญทุ่มอย่าง อุทัยธานี เอฟซี

ซึ่งก่อนที่จะไปว่ากันถึงรายละเอียดในเกมนี้ ขอพาทุกท่านไปย้อนความทรงจำกันก่อนว่า กว่าที่ทั้งคู่จะฝ่าฟันมาถึงในรอบนี้ได้นั้น เส้นทางและอุปสรรคของทั้งสองทีมจะเป็นอย่างไรบ้าง

เริ่มกันที่ทีมเจ้าบุญทุ่มอย่างอุทัยธานี เอฟซี กันก่อนเลย


ต้องบอกว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายสำหรับอดีตแชมป์ไทยลีก 3 เมื่้อฤดูกาล 2021-2022 เพราะมีการเปลี่ยนผู้บริหารจาก "บอสเบนซ์" ธนาชัย ปั้นงาม กลับไปเป็น "บิ๊กพี" อธิปัตย์ นุชนาฎ ส่งผลให้บรรดาสตาฟฟ์โค้ชชุดเก่าโดยเฉพาะ "น้าเทิด" เทิดศักดิ์ ใจมั่น ไม่ได้รับการต่อสัญญาให้คุมทีมต่อในซีซั่นนี้ และเปลี่ยนไปใช้บริการของ "คสช" สมชาย มากมูล แทน

แน่นอนว่าในเรื่องของตัวผู้เล่นนั้น แกนหลักจากชุดแชมป์ลีกล่างก็ทยอยย้ายออกกันไปเกินครึ่ง ทั้งดัสกร ทองเหลา, วัฒนา พลายนุ่ม, ชิโกซี่ เอ็มบ้า, วัชรกร มะโนวร, ณรงค์ จันทร์เสวก หรือมงคล ทศไกร แต่ก็ถูกแทนที่ด้วยดาวเตะอย่าง เคนโตะ นากาซากิ, วัฒนา กล่อมจิต, เนติพงษ์ แสนมะฮุง, มูฮำหมัดนาเซ กอและ, นรากร นุ่มจันทร์สกุล ฯลฯ

สำหรับผลงานในฤดูกาลปกติ ต้องบอกว่าทัพ "ช้างป่าห้วยขาแข้ง" เริ่มต้นฤดูกาลได้ไม่ดีนัก แม้จะเปิดหัวด้วยชัยชนะเหนืออุดรธานี เอฟซี แต่ผลงานระหว่างทางก็มีแต่ทรงกับทรุด จึงทำให้ทีมต้องแยกทางกับเฮดโค้ชอย่างสมชาย มากมูล ในช่วงกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา พร้อมดันให้ "โค้ชโด" ภัทรพล นาประเสริฐ ขึ้นมาเป็นหัวเรือใหญ่แทน 


และแน่นอนว่าด้วยกระแสของแฟนบอลที่เรียกร้องกันเข้ามาอย่างมากมาย ก็ทำให้สโมสรตัดสินใจเรียกคนหนุ่มไฟแรงอย่าง "บอสเบนซ์" ธนาชัย ปั้นงาม กลับมาบริหารทีมอีกครั้ง พร้อมกับนักเตะเก่าที่คุ้นเคยอย่างณรงค์ จันทร์เสวก, วัชรกร มะโนวร ก็ถูกดึงกลับมาช่วยทีมอีกครั้งเช่นกัน

ซึ่งนั่นก็ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะหลังจากนั้น ทีมเดินหน้าเก็บคะแนนได้อย่างต่อเนื่อง จนมีลุ้นเลื่อนชั้นแบบอัตโนมัติในนัดสุดท้าย และถ้าเทียบสกอร์แบบเรียลไทม์แล้ว พวกเขาเคยก้าวไปถึงตำแหน่งแชมป์ลีกเลยด้วยซ้ำ แต่ก็อย่างที่เราทราบกัน เมื่อนครปฐมและตราดไม่พลาด อุทัยธานีจึงจบแค่เพียงอันดับ 3 ต้องมาเตะเพลย์ออฟอย่างน่าเสียดาย


ซึ่งในรอบเพลย์ออฟ ด่านแรกที่พวกเขาต้องเจอก็คือทีมอันดับ 6 อย่างสุพรรณบุรี เอฟซี แม้จะออกไปพ่ายมาก่อนในนัดแรกด้วยสกอร์ 2-3 แต่เมื่อกลับมาเล่นเป็นเจ้าบ้านแล้ว พวกเขาถล่มคืนด้วยสกอร์ 3-1 รวมผล 2 นัด ชนะ 5-4 ผ่านเข้าสู่นัดชิงชนะเลิศได้สำเร็จ 

ข้ามไปที่ฝั่งของทีมม้ามืดอย่างคัสตอม ยูไนเต็ด กันบ้าง

ว่ากันตามตรง นี่คือทีมม้ามืดอย่างแท้จริง โอเคว่าการได้แรงซัพพอร์ตจาก "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ นายใหญ่แห่งการท่าเรือ ที่ยื่นมือมาช่วยในเรื่องของตัวนักเตะและงบประมาณนั้น จะทำให้ทีมดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดก็จริง แต่ส่วนหนึ่งแล้ว เราก็ต้องยกเครดิตให้กับ "เซอร์เด็จ" จเด็จ มีลาภ ด้วยเช่นกัน เพราะเขาปรุงแต่งทีมจนมีความกลมกล่อม และกลายเป็นทีมที่แพ้ยากแบบไม่น่าเชื่อ 


หนึ่งสิ่งที่เห็นได้ชัดเลยคือการเรียกฟอร์มเก่งของไดซูเกะ ซากาอิ มิดฟิลด์ชาวญี่ปุ่นให้กลายเป็นดาวซัลโวของทีมที่จำนวน 10 ประตู พร้อมกับปั้นวอนเดอร์คิดอย่างพชร ชัยณรงค์ ให้กลายเป็นดาวซัลโวคนไทยด้วยจำนวน 8 ประตูเช่นกัน

ขณะที่ผลงานระหว่างซีซั่น แม้จะเริ่มต้นด้วยการบุกไปแพ้สุพรรณบุรีในเกมเปิดฤดูกาล แต่หลังจากนั้นทีม "สิงห์นายด่าน" ก็กลายเป็นสิงห์ติดปีกได้อย่างไม่น่าเชื่อ พวกเขาเดินหน้าโกยแต้มมาได้เรื่อยๆ จนกลายเป็น 1 ใน 4 ทีม ที่ได้ลุ้นแชมป์ลีกจนถึงนัดสุดท้าย ก่อนจบอันดับที่ 4 ในท้ายที่สุด

ส่วนผลงานในรอบเพลย์ออฟนั้น คัสตอมฯ ต้องเจอกับทีมอันดับ 5 อย่างเชียงใหม่ ยูไนเต็ด และแม้จะบุกไปแพ้ก่อนในนัดแรกด้วยสกอร์ 1-2 แต่เมื่อกลับมาเล่นในถิ่นลาดกระบัง 54 แล้ว พวกเขาก็ไม่ทำให้แฟนๆ ต้องผิดหวัง เมื่อเอาชนะเชียงใหม่ฯ ไปด้วยสกอร์ 1-0 ซึ่งผลรวม 2 นัด แม้จะเสมอกัน 2-2 แต่คัสตอมก็ได้สิทธิ์เข้าชิงด้วยกฎประตูทีมเยือนนั่นเอง


สำหรับเกมนัดชิงชนะเลิศนั้น เชื่อว่าคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าจะทำการแข่งขันกัน 2 นัดแบบเหย้า-เยือน และใช้กฏอเวย์โกลเหมือนเดิม โดยก่อนการแข่งขันในนัดแรก ก็มีข่าวที่ไม่สู้ดีนักของทางฝั่งคัสตอมหลุดออกมา เมื่อทีมส่งใบอนุญาตสโมสร (คลับ ไลเซนซิ่ง) เพียงแค่ระดับไทยลีก 2 เท่านั้น ซึ่งเมื่อเป็นแบบนี้ ต่อให้พวกเขาจะชนะอุทัยธานี ก็จะไม่มีผลอะไร และอุทัยฯ จะกลายเป็นทีมสุดท้ายที่จะได้เลื่อนชั้นตามนครปฐมและตราดไป

อย่างที่เราทราบกันดีว่าวงการฟุตบอลไทยมักมีความไม่แน่นอนอยู่เสมอ แม้จะมีการยืนยันแบบนี้ออกมาจากทางบริษัทไทยลีกก็ตาม แต่ฝั่งคัสตอมเองก็ออกมาให้ข่าวว่าจะขออุทธรณ์เช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่าทางฝั่งของอุทัยธานี ก็ยืนยันว่าจะเล่นอย่างเต็มที่ และจะเป็นผู้ชนะให้ได้ เพื่อไม่ให้มีปัญหาหรือข้อครหาตามมาในภายหลัง ทำให้การแข่งขันในนัดแรกที่พึ่งจบลงไปนั้น เป็นเกมคุณภาพสมศักดิ์ศรีกับที่เป็นนัดชิงชนะเลิศจริงๆ 


ว่าแล้วก็ต้องขอปรบมือดังๆ ให้กับทั้ง 2 ทีม ที่ใส่กันหมดแบบไม่มีกั๊ก ทำให้แฟนบอลได้ชมเกมที่สนุก ตื่นเต้น และเร้าใจ สำหรับเรื่องของผลสกอร์นั้น ก็เป็นทางฝั่งของอุทัยธานีที่ได้เปรียบค่อนข้างเยอะ เพราะเป็นฝ่ายบุกมาชนะคัสตอมไปก่อนด้วยสกอร์ 2-1 เตรียมกลับไปเล่นนัดที่ 2 ในบ้านของตัวเองพร้อมอเวย์โกลถึง 2 ประตู กุมตั๋วเลื่อนชั้นไว้ในมือของตัวเองอย่างน้อยครึ่งใบแล้ว

ส่วนการแข่งขันในนัดที่ 2 จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม 2566 ที่สนามกีฬา จ.อุทัยธานี โดยจะเริ่มคิกออฟในเวลา 18.00 น. มองแบบผิวเผินแล้ว อุทัยธานีอาจจะมีโอกาสมากกว่าก็จริง แต่เชื่อว่าทางผู้มาเยือนอย่างคัสตอม ก็คงสู้แบบถวายหัวเช่นกัน

และไม่ว่าใครจะได้เลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 1 ก็ตาม เชื่อเหลือเกินว่าแฟนบอลไทยคงจะจดจำคู่ชิงชนะเลิศในปีนี้ไปอีกนาน ก็อย่างที่บอกไปนั่นแหละครับ เพราะทั้งสองทีมสู้กันได้อย่างดุเดือดสมศักดิ์ศรีกับที่เป็นนัดชิงชนะเลิศจริงๆ 


90 นาทีสุดท้ายต่อจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นคัสตอม ยูไนเต็ด หรืออุทัยธานี เอฟซี ก็อยากขอบคุณอีกครั้งที่ทำให้แฟนบอลได้ดูเกมการแข่งขันที่สนุก 

ขอให้ทั้งสองทีมโชคดีกับการแข่งขันในนัดสุดท้ายครับ...


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด