:::     :::

"คิม มิน ฮยอค" ภูผาหินปราสาทคนใหม่

วันอังคารที่ 30 พฤษภาคม 2566 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
910
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หนึ่งในดีลที่ทำการตรวจร่างกาย พร้อมกับเซ็นสัญญาล่วงหน้าไปแล้วของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นั่นก็คือ ปราการหลังดีกรีทีมชาติเกาหลีใต้อย่าง "คิม มิน ฮยอค" ในโควตาเอเชีย และเป็นแข้งโสมขาวรายที่ 10 ในถิ่น "ปราสาทสายฟ้า"

อย่างไรก็ดี เพื่อทำความรู้จักกับแนวรับรายนี้ให้มากขึ้นกว่าเดิม เพราะเชื่อว่าแฟนบอลกำลังตั้งตารอคอยที่จะยลเพลแข้งของเขาใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2023/24 ซึ่ง บุรีรัมย์ ได้กลับไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตลอดจนเป็นอีก 1 แข้งที่จะใช้สำหรับภารกิจป้องกันทุกแชมป์ในไทย

เซนเตอร์ฮาล์ฟรายนี้ ที่เคยอยู่ในชุดเอาชนะทีมชาติไทย ในรอบรองชนะเลิศ เอเชียน เกมส์ 2014 จนเข้าไปคว้าเหรียญทองนั้น จะมีความน่าสนใจมากขนาดไหน ขอเชิญรับชมกันได้เลย


เพื่อนร่วมรุ่น “ซน เฮือง มิน”  

ผ่านโปรแกรมการฝึกพิเศษของสมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้ ซึ่งได้ไปเรียนรู้ศาสตร์ลูกหนังกับ ฮัมบูร์ก สโมสรชื่อดังในลีกเยอรมัน ในรุ่นเดียวกับ ซน เฮือง มิน กองหน้าตีนจรวดของ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ จนปัจจุบันกองหน้าของ  “ไก่เดือยทอง” ได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์ของวงการฟุตบอลไปแล้ว

หากไปดูในอินสตาแกรมของ คิม มิน ฮยอค และ ซน เฮือง มิน จะพบว่าพวกเขาทั้งสองคน ยังฟอลโล่วไอจีกัน เรียกว่ามิตรภาพไม่เคยจางหายไป แถมปราการหลังรายนี้ยังเคยก้าวไปติดทีมชาติเกาหลีใต้ ยู 17 และ ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี มาแล้ว

ก่อนที่ปี 2015 ซึ่งเวลานั้นเขาได้เทิร์นโปรอาชีพกับ ซางัน โทสุ ใน เจ ลีก ไปแล้ว ทำให้เขาได้ติดทีมชาติเกาหลีใต้ ชุดใหญ่ ในทัวร์นาเมนต์ อีเอเอฟเอฟ อีสต์ เอเชียน คัพ พร้อมกับช่วยพาทีมคว้าแชมป์มาครอง ซึ่งทีมชุดนั้นมีแข้งอย่าง คิม ซึง กยู นายด่านที่ต่อมาอีก 3 ปี จะมาเป็นเพื่อนร่วมทีม ธีราทร บุญมาทัน ในทีม วิสเซล โกเบ


พา “ชนบุค” คว้าแชมป์ เค ลีก

6 ก.ค.2021 ชนบุค ฮุนได มอเตอร์ส ทีมแชมป์เคลีก 8 สมัย ได้ทำการเปิดตัว ศศลักษณ์ ไหประโคน แบ็คซ้ายตัวเก่งของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการ ท่ามกลางการจับตามองของสื่อมวลชนประเทศเกาหลีใต้ ภายใต้สัญญายืมตัวพร้อมออปชั่นซื้อขาด

จากนั้นในวันที่ 7 ก.ค.2021 หรืออีก 1 เดือนต่อมา “เจ้าพี” ได้โอกาสจาก คิม ซัง ซิก กุนซือชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส เวลานั้น ประเดิมสนามเล่น เค ลีก ครั้งแรก ก่อนจบเกมเอาชนะ แดกู เอฟซี  2-1 โดยวันนั้น คิม มิน ฮยอค ก็ลงเล่นในสนามพร้อมกับแบ็คซ้ายตัวยืมจาก “ปราสาทสายฟ้า” อีกด้วย

จบซีซั่นด้วยการเป็นแชมป์ เค ลีก 2021 และ “เจ้าพี” ก็ถ่ายรูปอัพในอินสตาแกรมก่อนกลับไทย แสดงให้เห็นมิตรภาพที่มีต่อกันตั้งแต่อยู่ในแดนโสมแล้ว ฉะนั้นการมาร่วมงานครั้งนี้ คงจะต้องฝากฝังแบ็คซ้ายเบอร์ 2 ที่จะต้องช่วยคอยดูแลยามอยู่ทั้งในและนอกสนาม


ผ่านเวทีเอเชีย ซัด “โก๋อุ้ม” มาแล้ว

แม้เขาจะเดบิวต์การเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับ ซางัน โทสุ ระดับ เจ ลีก เมื่อปี 2014-2018 แต่จากนั้นในปี 2019 เขาก็กลับมาเล่นในลีกบ้านเกิดกับชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส และได้เล่นใศึกน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม โดยเจอกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อีกด้วย

ซึ่งการเจอกันเกมแรก “ปราสาทสายฟ้า” เปิดบ้านเอาชนะไป 1-0 จากการยิงของ สุภโชค สารชาติ ก่อนเสมอกันในนัดที่สอง 0-0 แต่มาถึงในปี 2020 พวกเขากลับมาเล่นในรายการนี้ โดยเป็นสนามกลางที่ประเทศกาตาร์ ซึ่งเป็นช่วงที่มีโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างหนักไปทั่วโลก

โดยมี 2 เกมที่เขาต้องพบกับ โยโกฮามา เอฟ มารินอส ซึ่งโดนแชมป์ เจ ลีก 2019 สอนเชิงชนะไปทั้งสองเกม และเกมที่ 2 นั่นเองที่ ธีราทร บุญมาทัน จัดการยิงลูกไฟแบบสุดสวย จนได้รับชัยชนะขาดลอย และประตูนี้ถูกโหวตจากแฟนบอลสูงถึง 45.75% ให้คว้ารางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2020 รอบแบ่งกลุ่ม ไปครองอีกด้วย


ตัวแทนชั้นดีของ “เรบิน ซูลาก้า”

หลายคนอาจจะมีความกังวลในการที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อาจต้องแยกทางกับ เรบิน ซูลาก้า แล้วเอาตัว คิม มิน ฮยอค เข้ามา เนื่องจากที่ผ่านมาเขาเคยมีปัญหาบาดเจ็บรบกวน จนได้รับโอกาสลงสนามอย่างจำกัดให้กับ ซองนัม เอฟซี ในปี 2022 อย่างไรก็ตามเขาได้เดินทางมาตรวจร่างกายกับ "ปราสาทสายฟ้า"  ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา

ซึ่งผลการตรวจร่างกายของปราการหลังทีมชาติเกาหลีใต้ ก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด นั่นทำให้เชื่อมั่นได้ว่าเจ้าของส่วนสูง 187 เซนติเมตร จะสลัดอาการบาดเจ็บที่เคยเกิดขึ้นมาหายเป็นปลิดทิ้งแล้ว และไม่มีปัญหาในการเล่นให้กับ “ปราสาทสายฟ้า”

อย่างไรก็ตามด้วยมาตรฐานที่ เรบิน ซูลาก้า สร้างเอาไว้ ในการมีส่วนช่วยให้ทีมคว้า 3 แชมป์ในเมืองไทย 2 ปีติดต่อกัน (แม้ว่าท้ายซีซั่นไทยลีก กับสองนัดชิงชนะเลิศ ลีก คัพ กับ เอฟเอ คัพ จะไม่ได้ลงสนาม) ก็น่าสนใจว่า คิม มิน ฮยอค จะรับแรงกดดันจากผลงานระดับชิ้นโบแดงของเซนเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติอิรักได้ขนาดไหน


จากนี้ไปสาวก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คงจะต้องจับตาดูการเข้ามาของเขา ว่าด้วยประสบการณ์ในการเป็นแชมป์ เค ลีก 3 สมัยกับ ชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ รวมทั้งผ่านเวที เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก มาแล้ว 19 แมตช์ จะสามารถยกระดับเกมรับของ “ปราสาทสายฟ้า” ได้มากอย่างที่คาดหวังไว้ได้หรือไม่


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด