สำหรับ อิรฟาน ดอเลาะ ที่อาจหอบสตั๊ดไปเก็บเลเวลกับ ลำพูน วอริเออร์ ในฤดูกาลหน้าด้วยรูปแบบยืมตัว

การเดินทางครั้งนี้น่าจะดีสำหรับ “ปัง” เองด้วย เพราะเขาเองก็อายุ 22 ปีแล้ว ซึ่งเป็นรอยต่อการก้าวข้ามความเป็น “นักเตะดาวรุ่ง”

ต้นสังกัดอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อาจจะมีสภาพแวดล้อมลูกหนังทุกอย่างที่ช่วยให้เขาพัฒนาเป็นผู้เล่นที่ดี

แต่ช่วงอายุนี้เป็นวัยที่นักฟุตบอลต้องการมีเกมลงเล่นสม่ำเสมอ เพื่อยกระดับและพัฒนาฝีเท้าตัวเองให้มากกว่าเดิม

ซึ่งหากเป็นที่ ช้าง อารีนา เขาอาจไม่ได้รับโอกาสนั้น

อิรฟาน เองก็รู้ดีแก่ใจ การแย่งตัวจริงในรัง “ปราสาทสายฟ้า” ไม่ใช่เรื่องง่าย ในแผงมิดฟิลด์ มีผู้เล่นรุ่นพี่มากมายตำแหน่งเดียวกันที่มากประสบการณ์กว่ายืนขวางอยู่

ไม่ว่าจะเป็น ธีราทร บุญมาทัน, โกรัน เคาซิช, พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี, รัตนากร ใหม่คามิ รวมถึงแข้งป้ายแดงที่เตรียมจะเข้ามาเพิ่มอย่าง ลีออน เจมส์

จริง ๆ ผลลัพธ์ในฤดูกาลที่ผ่านมาก็ตอบได้ดี “ปัง” ได้รับโอกาสลงสนามในไทยลีกไปเพียง 5 เกมเท่านั้น และมีเวลาเล่นรวมแค่เพียง 87 นาที โดยมีถึง 15 เกม ที่เขาทำได้เพียงแต่นั่งดูเพื่อนลงเล่นบนม้านั่งสำรอง

ทำให้การออกไปสร้างเสริมประสบการณ์ฟุตบอล อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ซึ่ง บุรีรัมย์ เองก็น่าจะเห็นด้วย และต้องการปล่อยยืมตัวอยู่แล้ว เพื่อให้เด็กได้มีโอกาสในการลงเล่นมากขึ้น

เพราะหากนักฟุตบอลไม่มีเกมเล่น การพัฒนาย่อมไม่เกิด

นอกจากนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ “ปัง” ถูกปล่อยในรูปแบบยืมตัว ก่อนหน้านี้เขาเองก็เคยไปเล่นให้ อุทัยธานี มาแล้ว ครั้งนี้จึงไม่น่าจะมีปัญหา

แต่การไป ลำพูน ครั้งนี้ ซึ่งเป็นทีมระดับไทยลีกเหมือนกัน อาจจะทำให้ “ปัง” ได้รับโอกาสลงเล่นมากยิ่งขึ้น เพราะเมื่อเทียบเคียงดีกรี ระดับฝีเท้าผู้เล่นที่นั่นแล้ว ไม่ได้ตึงเท่ากับ บุรีรัมย์

ยิ่ง “ราชันโคขาว” มีโค้ชอย่าง อเล็กซานเดร กามา คุมทีมอยู่ ยิ่งน่าจะช่วยในแง่การปรับตัว และโอกาสลงสนามของเขามากขึ้น เพราะเคยทำงานด้วยกันมาที่ บุรีรัมย์ ช่วงหนึ่ง เฮดโค้ชบราซิเลียนน่าจะมีตำราใช้เด็กคนนี้เป็นอย่างดี

เรื่องสไตล์การเล่น “ปัง” เองน่าจะตอบโจทย์อยู่แล้ว เพราะเป็นกองกลางสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นวิชั่นการออกบอลสั้น-ยาว คุมจังหวะเกมทั้งรุก-รับ จ่ายบอลได้เนียนตา และฉลาดในการเล่นในหลาย ๆ จังหวะ

สิ่งเหล่านี้เขาอาจไม่ได้โชว์ให้เห็นที่ บุรีรัมย์ แต่กับทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่เขาเป็นแกนหลักในทีม เชื่อว่าหลายคนได้เห็นฝีเท้าเขาแล้ว ซึ่งเผลอ ๆ เจ้าตัวทำได้ดีกว่านักเตะบางคนที่มีเกมให้ลงเล่นกับสโมสรอย่างสม่ำเสมอด้วยซ้ำ

ดีลนี้ไม่มีใคร “เสียหาย” เลย บุรีรัมย์ ได้ปล่อยเด็กที่ไม่ได้ใช้งานให้ไปมีเกมลงเล่น สะสมเลเวล พัฒนาฝีเท้า หากทำได้ดี ก็รับกลับมาเป็นกำลังสำคัญให้ทีมได้ต่อในอนาคต

ส่วน ลำพูน ก็ได้ดาวรุ่งดีกรีทีมชาติเข้ามาช่วยขันแผงมิดฟิลด์ เพิ่มตัวเลือกในแดนกลางให้มีมิติมากขึ้นในฤดูกาลที่จะถึง

วิน ๆ ทั้งสองฝ่าย