"นาดากะ" นักสู้ฝีมือครบเครื่อง วัย 24 ปี จากญี่ปุ่น ยอมรับการเจอกับ "หนุ่มสุรินทร์ ช.เกตุวีณา" จอมบู๊หมัดคม วัย 30 ปี จากศรีสะเกษ ในชั่วโมงนี้ไม่ใช่งานง่าย ชี้โอกาสคว้าเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นอะตอมเวต (105-115 ป.) เส้นแรกในประวัติศาสตร์ พร้อมพลิกออกได้ทุกหน้า ในศึกครั้งยิ่งใหญ่ ONE 173: ซุปเปอร์บอน vs มาซาอากิ ที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 16 พ.ย. 68 ณ สนาม อาริอาเกะ อารีนา กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เริ่มเวลา 11.00 น.
การปรากฏตัวของ “นาดากะ” ใน ONE สร้างความสนใจให้แฟนมวยทั่วโลกอย่างล้นหลาม หลังตลอดหลายปีที่ผ่านมาเจ้าตัวเดินหน้าทำผลงานยอดเยี่ยมต่อเนื่อง กวาดแชมป์มวยไทยจากสถาบันใหญ่มาแล้วแทบทุกเวที โดยประเดิมด้วยการปิดเกมน็อกเอาต์ยก 3 “รักษ์ เอราวัณ” ในศึก ONE 172 เมื่อช่วงต้นปีนี้ ก่อนเซ็นสัญญาเป็นนักกีฬา ONE อย่างเต็มตัว
จากนั้น “นาดากะ” ยังคงโชว์ออกอาวุธสุดเฉียบคมเอาชนะคะแนนเอกฉันท์ “บันลือโลก ศิษย์วัชรชัย” ในศึก ONE ลุมพินี 114 เมื่อเดือน มิ.ย. 68 และล่าสุดเอาชนะทีเคโอยก 3 “ฮามาดา อัซมานี” จากโมร็อกโก ในศึก ONE ลุมพินี 122 เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้ปัจจุบันครองสถิติชนะต่อเนื่องมากถึง 39 ไฟต์
กลับมารอบนี้ “นาดากะ” ได้โอกาสตอกย้ำความยิ่งใหญ่ต่อหน้าแฟนมวยในบ้านเกิด ในฐานะหนึ่งในสุดยอดนักมวยไทยแห่งยุค โดยเจ้าตัวพร้อมวัดแกร่งกับคู่ชกฟอร์มแรงอย่าง “หนุ่มสุรินทร์” ในศึกสำคัญที่มีเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นอะตอมเวต เป็นเดิมพัน
“หนุ่มสุรินทร์ เป็นคนที่ชกด้วยสมอง รู้จักวางแผน และคำนวณทุกจังหวะ นอกเหนือจากพื้นฐานมวยไทยที่แน่นมากแล้ว เขายังมีเทคนิคการออกหมัดที่ดีด้วย นั่นคือสิ่งที่ผมต้องระวังที่สุด”
แม้จะสะสมประสบการณ์ในการชกมวยไทยมาอย่างโชกโชน แต่ “นาดากะ” มองว่าการต้องมาชิงบัลลังก์กับ “หนุ่มสุรินทร์” อาจไม่ใช่งานง่ายอย่างที่หลายคนคิด เพราะตัวแทนจากไทยฟอร์มร้อนแรงไม่น้อยหน้ากัน โดยเฉพาะผลงานล่าสุดที่เขาหักปากเซียนเอาชนะคะแนนเอกฉันท์ “ทรงชัยน้อย เกียรติทรงฤทธิ์” ในศึก ONE ลุมพินี 122 ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่าจะเป็นคู่ชิงของเขาในครั้งนี้
“หนุ่มสุรินทร์ ให้สัมภาษณ์หลังเอาชนะ ทรงชัยน้อย ว่า มองเห็นจุดอ่อนของอีกฝ่ายและใช้จุดแข็งของตัวเองเข้าโจมตี ซึ่งเขาพูดแบบเดียวกันนี้ก่อนเจอกับผมด้วย ผมเชื่อว่าเขาคงศึกษาวิธีการชกมาอย่างละเอียด และมีแผนรับมือเรียบร้อยแล้ว นั่นคือสิ่งที่ทำให้เขาน่ากลัว ผมรู้สึกว่าสงครามจิตวิทยาเริ่มก่อนขึ้นเวทีแล้วครับ”
งานนี้ “นาดากะ” เชื่อว่าเกมการต่อสู้กับ “หนุ่มสุรินทร์” จะเป็นไปอย่างสนุกสูสี เพราะแต่ละฝ่ายต่างมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน โดยอาจต้องออกแรงเหนื่อยเพื่อคว้าชัยชนะไฟต์ที่ 40 ติดต่อกัน และก้าวขึ้นไปยืนสู่จุดสูงสุดของอาชีพ
“แผนการชกที่เราวางไว้เป็นแค่พื้นฐาน เมื่อขึ้นไปยืนบนเวที ผมต้องใช้ไหวพริบและสัญชาตญาณในการชก ปรับเกมไปตามจังหวะและสถานการณ์ของไฟต์ตลอดเวลา”
“งานนี้ถือเป็นไฟต์ยากสำหรับทางผมเหมือนกัน เกมอาจพลิกไปมาทุกยก แต่ผมมีเป้าหมายที่ต้องการคว้าเข็มขัด ONE ดังนั้นผมจะทุ่มเททุกอย่างทั้งหมดที่มี เพื่อขึ้นไปครองบัลลังก์ให้ได้ครับ”
นอกจากนี้ “นาดากะ” ยังได้ตอกย้ำว่าการมีชื่อเป็นแชมป์ในองค์กรศิลปะการต่อสู้ระดับโลกอย่าง ONE นั้นมีความหมายมากแค่ไหน หากสามารถบรรลุฝันคว้าเข็มขัดเส้นนี้มาครองได้ เจ้าตัวอยากป้องกันตำแหน่งระดับโลกให้นานที่สุด เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้นักชกสายเลือดใหม่ของญี่ปุ่นและเผยแพร่มวยไทยไปทั่วโลก
“เมื่อมองจากเส้นทางอาชีพ ผมพยายามตั้งเป้าหมายใหม่อยู่เสมอ และมองว่า วัน แชมเปียนชิพ คือองค์กรที่โดดเด่นที่สุดจริง ๆ ที่นี่รวมสุดยอดนักมวยยืนและนักสู้ MMA จากทั่วโลก มาชิงชัยกัน เพื่อเกียรติยศและเข็มขัดแชมป์ มันคือเวทีที่สมบูรณ์แบบ สำหรับผมที่จะพิสูจน์สิ่งที่ฝึกฝนและเรียนรู้มาตลอด”
“สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือไฟต์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ผมต้องการคว้าแชมป์โลกคนแรกของรุ่นนี้ให้ได้ มีแรงผลักดันและความมุ่งมั่นเต็มร้อยที่จะทำให้สำเร็จ หลังจากคว้าเข็มขัดเส้นนี้มาครอง ผมอยากเห็นการชิงแชมป์เกิดขึ้นที่ญี่ปุ่น และหวังว่าจะได้ป้องกันตำแหน่งในต่างประเทศด้วย เพื่อพิสูจน์ว่าไม่ได้เก่งแค่ในบ้านครับ”
