"รถถัง" พร้อมทำหน้าที่แลกเดือด "น้องโอ๋"
"รถถัง จิตรเมืองนนท์" อดีตแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) วัย 28 ปี จากพัทลุง ขอวางความเป็นพี่เป็นน้องกับ "น้องโอ๋ ฮาม่ามวยไทย" อดีตแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135–145 ป.) วัย 39 ปี จากสกลนคร ไว้นอกสังเวียน โดยพร้อมทุ่มสุดตัวเพื่อคว้าชัยชนะและกลับขึ้นไปนั่งบัลลังก์มวยไทย รุ่นฟลายเวต ที่ว่างอยู่อีกครั้งในศึกใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ ONE 173: ซุปเปอร์บอน vs มาซาอากิ ที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 16 พ.ย.นี้ ณ สนามอาริอาเกะ อารีนา กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เริ่มเวลา 11.00 น.
ย้อนกลับไปในศึก ONE 169 เมื่อเดือน พ.ย. 67 “รถถัง” ต้องเสียเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต ที่ครองมายาวนานกว่า 5 ปี บนตาชั่งไปแบบช็อกแฟนมวยทั่วโลก ซึ่งแม้เหตุการณ์นั้นจะส่งผลกระทบต่อจิตใจของ “รถถัง” อย่างรุนแรงจากเสียงวิจารณ์ที่ตามมา แต่ “รถถัง” ยังสามารถตั้งสติและกลับมาโฟกัสที่เกมการชกจนสามารถเอาชนะ “จาค็อบ สมิธ” ไปได้อย่างสวยงามด้วยคะแนนเอกฉันท์
ไฟต์ล่าสุดในศึก ONE 172 ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา “รถถัง” กู้ศรัทธาและความเชื่อมั่นจากแฟนมวยทั่วโลกกลับมาได้อีกครั้ง หลังเหยียบตาชั่งผ่านฉลุย ก่อนจะขึ้นสังเวียนไประเบิดฟอร์มหรูด้วยการกดน็อก “ทาเครุ เซกาวา” ซูเปอร์สตาร์เจ้าถิ่นตั้งแต่ยกแรก ในการสู้กันภายใต้กติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต ซูเปอร์ไฟต์ 5 ยก
ไฟต์ที่ 2 ของ “รถถัง” ในปีนี้ จะได้หวนกลับมาชกที่ประเทศญี่ปุ่น อีกครั้ง โดยจะต้องเปิดศึกชิงเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต ที่ว่างกับผู้ท้าชิงอันดับ 3 ของแรงกิงรุ่นนี้อย่าง “น้องโอ๋” ซึ่ง “รถถัง” ยอมรับว่ารู้สึกลำบากใจไม่น้อยที่ต้องขึ้นสังเวียนไปแลกเดือดกับรุ่นพี่คนสนิทรายนี้
“ความรู้สึกแรกตอนรู้ว่าจะต้องชกกับ พี่น้องโอ๋ ยอมรับว่ารู้สึกเศร้านิดหน่อย เพราะผมเคารพและนับถือพี่เขาเหมือนอาจารย์คนหนึ่ง พี่เขาเป็นต้นแบบที่ดีของนักมวยทุกคน มีระเบียบวินัยดีมาก ผมยังไม่ได้ครึ่งของพี่เขาเลย”
“ผมยังเคยพูดเลยว่าใน ONE ผมไม่อยากเจอ พี่น้องโอ๋ เพราะผมเคารพพี่เขามาก ตั้งแต่ช่วงแรกที่ผมเข้ามาชกใน ONE เวลาบินไปแข่งที่ประเทศสิงคโปร์ พี่เขาจะคอยดูแลผมอยู่ตลอด แต่เมื่อผมกับพี่เขาอยู่ในแรงกิงรุ่นนี้ ก็ถึงเวลาที่จะต้องเจอกัน จำใจต้องยอมครับ”
เส้นทางมวยบังคับให้ทั้งคู่ต้องโคจรมาเจอกัน หลังจาก “น้องโอ๋” ตัดสินใจขยับลงมาชกในรุ่นฟลายเวต และโชว์ฟอร์มได้ดีขึ้นทันตาเห็นใน 2 ไฟต์หลัง โดยเฉพาะไฟต์ล่าสุดที่ขนอาวุธหนักไล่ถล่มถอนแค้น “ก้องธรณี ส.สมหมาย” ที่อายุน้อยกว่าถึง 11 ปี ไปด้วยคะแนนเอกฉันท์ ในศึก ONE Fight Night 31 เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งจากผลงานดังกล่าวทำให้ “รถถัง” ทราบดีว่าไฟต์นี้ตนต้องเจองานยากอย่างแน่นอน
“ความเปลี่ยนแปลงของ พี่น้องโอ๋ ตั้งแต่ลงมาชกในรุ่นฟลายเวต คือเรื่องความแข็งแกร่งและแรงปะทะ เขาสามารถทนรับอาวุธคู่ชกได้มากขึ้น และยังสามารถตอบโต้จนคู่ชกอายุน้อยกว่าหมดแรงได้ ต่างจากตอนชกในรุ่นแบนตัมเวตที่มักเสียเปรียบเรื่องแรงปะทะเวลาเจอต่างชาติตัวใหญ่กว่า ซึ่งผมมองว่ารุ่นฟลายเวตเหมาะกับพี่เขาที่สุดแล้วครับ”
“ส่วนเรื่องอายุที่ต่างกัน ผมมองว่าไม่เกี่ยวเลย เพราะสุดท้ายแล้วอยู่ที่การเตรียมร่างกาย การแก้เกม การวางแผน และวันนั้นใครจะพลาดมากกว่าครับ”
แม้จะสนิทสนมกับ “น้องโอ๋” มานานกว่า 10 ปี แต่เมื่อเสียงระฆังดังขึ้น “รถถัง” ขอการันตีพร้อมทิ้งมิตรภาพไว้นอกเวที แล้วเปิดฉากบู๊สุดแรงเหมือนทุกไฟต์ที่ผ่านมา เพื่อคว้าเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต กลับมาพาดบ่าอีกครั้งให้ได้
“ผมดีใจที่ได้รับโอกาสกลับมาชิงเข็มขัดในไฟต์นี้ ผมตั้งใจเต็มที่ เพราะอยากนำเข็มขัดที่เคยเสียไปกลับคืนมา เพื่อให้ทุกคนเรียกผมว่าแชมป์โลกได้อีกครั้ง และเชื่อว่าจะเป็นไฟต์ที่ดีที่สุดของผมกับนักสู้ที่ผมให้ความเคารพครับ”
“ฝากถึงพี่น้องโอ๋ ไฟต์นี้เรามาโชว์แม่ไม้มวยไทยให้ทุกคนเห็นว่าคู่ของเราก็สนุกไม่แพ้ใคร สู้กันให้เต็มที่ ไม่ว่าเกมวันนั้นจะดุเดือดขนาดไหนหรือจบลงอย่างไร แต่มิตรภาพของเรายังเหมือนเดิม ผมยังรักและเคารพพี่ชายเสมอครับ”
