ยูเครน

เซอร์เก เรบรอฟ เทรนเนอร์ต้องเสียกัปตันทีม และดาวซัลโวสูงสุดอันดับสองอย่าง อังเดร ยาร์โมเลนโก้ ซึ่งหมายความว่าสถิติการทำประตูสูงสุดในนามทีมชาติของ อังเดร เชฟเชนโก้ ยังไม่สั่นคลอน

วิคเตอร์ ซีกานคอฟ ก็ยังต้องพักเหมือนเดิม โดยตัวรุก คิโรน่า คาดว่าจะใช้เวลาหนึ่งเดือนจากอาการบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ขณะที่ อังเดร ลูนิน ผู้รักษาประตู เรอัล มาดริด ก็จะพลาดเกมนี้จากอาการบาดเจ็บที่หลัง

การขาดหายไปของ ซีกานคอฟ และ ยาร์โมเลนโก้ ดูเหมือนจะเป็นการรับประกันว่า มิไคโล มูดริค จะได้ออกสตาร์ท หลังทำประตูแรกให้กับ เชลซี ได้แล้ว แต่ดาวเตะวัย 22 ปี ยังยิงไม่ได้เลยจากการลงเล่น 13 นัดให้ทีมชาติชุดใหญ่

มาซิโดเนียเหนือ

ในทำนองเดียวกัน มาซิโดเนียเหนือ ก็จะไม่มีกัปตันทีมของพวกเขาอย่าง สเตฟาน ริสตอฟสกี้ ที่ไม่ได้ติดทีมชาติมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน หลังมีปัญหากับ บลาโกย่า มิเลฟสกี้ เทรนเนอร์ของทีม

อิลิยา เนสโตรอฟสกี้ กองหน้า อัสโคลี่ ไม่มีชื่อติดธง แต่ยังมี อเล็กซานดาร์ ทรายคอฟสกี้ อยู่ กระนั้นเขาก็ทำประตูให้ทีมชาติไม่ได้มาตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2022 และไม่ได้เล่นเลยแม้แต่นาทีเดียวในเกมกับ อิตาลี และ มอลตา เมื่อเดือนก่อน

ผลก็คือ เอลิฟ เอลมาส ถูกใช้งานเป็นฟอลส์ไนน์ โดยมี โบยาน มิยอฟสกี้ และ มิลาน ริสตอฟสกี้ ต้องแย่งตำแหน่งตัวจริงกัน

11 ตัวจริงตามคาด

ยูเครน (4-3-3) : จอร์จี้ บุชชาน - ยูคิม โคโนเปลีย, อิลลิยา ซาบาร์นยี่, เซอร์เก คริฟตอฟ, วิตาลี่ มิโคเลนโก้ - โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้, ทาราส สเตปาเนนโก้, จอร์จี้ ซูดาคอฟ - รุสลัน มาลินอฟสกี้, อาร์เต็ม ดอฟบิค, มิไคโล มูดริค

มาซิโดเนียเหนือ (3-4-1-2) : ดัมยาน ซิชคอฟสกี้ - โยวาน มาเนฟ, วิซาร์ มุสลิยู, นิโกล่า เซราฟิมอฟ - โบยาน ดิมอสกี้, อิสนิค อลิมี่, อาริยาน อเดมี่, เอซกิยาน อลิออสกี้ - เอนิส บาร์ดี้ - โบยาน มิยอฟสกี้, เอลิฟ เอลมาส

ผู้ตัดสิน : สลาฟโก้ วินชิช (สโลวีเนีย)

สนาม : อีเพ็ต อารีน่า, ปราก, สาธารณรัฐเช็ก (สนามกลาง)

มาซิโดเนียเหนือ เพิ่งคืนฟอร์มในเกมล่าสุด แต่ ยูเครน ชุดนี้ผลงานก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน เรียกได้ว่าตัวทีเด็ดมีอยู่เกือบทุกพื้นที่ของสนาม เชื่อว่าจะเป็น ยูเครน ที่ทำได้ดีกว่า และคงบดเอาชนะได้ในที่สุด

ผลที่คาด

ยูเครน ชนะ มาซิโดเนียเหนือ 2-1