เชลซี

สิงห์บลูส์ เอาชนะได้ตลอด 5 ครั้งหลังสุดในเอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ ตั้งแต่ที่แพ้ เอฟเวอร์ตัน ในปี 2015-16 โดยพวกเขาผ่านเข้ารอบตัดเชือกรายการนี้ได้ 5 จาก 7 ครั้งหลังสุด

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ จะได้ เบน ชิลเวลล์ พร้อมเป็นตัวเลือกเผชิญหน้าทีมเก่า หลังบาดเจ็บเข่าไปเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ด้าน เบอนัวต์ บาเดียชิล ที่เจ็บโคนขาหนีบมีลุ้นกลับมามีส่วนร่วมได้ในเกมนี้

สำหรับ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ จะติดโทษแบน ขณะที่ เชซาเร่ คาซาเด ติดคัพไท ส่วน เวสเล่ย์ โฟฟาน่า, รีซ เจมส์, เลสลี่ย์ อูโกชุควู, ลีวาย โคลวิลล์, โรมีโอ ลาเวีย และ คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู ยังชวดเหมือนเดิม

เลสเตอร์

พลพรรค จิ้งจอก แพ้ 5 จาก 6 ครั้งหลังสุดในเอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ เว้นเพียงครั้งล่าสุดในปี 2020-21 ซึ่งพวกเขาไปถึงแชมป์รายการนี้

เอ็นโซ่ มาเรสก้า กุนซือชาวอิตาเลี่ยน จะไม่มี เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าดาวซัลโวของทีม ซึ่งทำไป 8 ประตู จาก 8 นัดหลังสุดที่ลงสนาม หลังมีปัญหาบาดเจ็บเล็กน้อย

นอกจากนี้ ริคาร์โด้ เปเรยร่า และ เดนนิส ปราต ก็ยังไม่พร้อมเนื่องจากบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า และน่าจะกลับมาไม่ได้จนกว่าจะผ่านช่วงเบรกทีมชาติ

11 ตัวจริงตามคาด

เชลซี (4-2-3-1) : โรเบิร์ต ซานเชซ - มาโล กุสโต้, อักเซล ดิซาซี่, เทรโวห์ ชาโลบาห์, มาร์ก กูกูเรย่า - มอยเสส ไกเซโด้, คอเนอร์ กัลลาเกอร์ - ราฮีม สเตอร์ลิง, โคล พาลเมอร์, มิไคโล มูดริค - นิโกลัส แจ็คสัน

เลสเตอร์ (4-2-3-1) : แมดส์ เฮอร์มันเซ่น - ฮัมซ่า เชาดูรี่, เวาต์ ฟาส, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, เจมส์ จัสติน - แฮร์รี่ วิงค์ส, เคียร์แนน ดูว์สบิวรี่-ฮอลล์ - อับดุล ฟาตาวู, ยูนุส อัคกุน, สเตฟี่ มาวิดิดี้ - แพตสัน ดาก้า

ผู้ตัดสิน : แอนดี้ แมดลี่ย์

เชลซี ฟอร์มในรังยังไว้ใจได้ แม้ เลสเตอร์ จะมีผลงานยอดเยี่ยมในแชมเปี้ยนชิพ แต่การขาด วาร์ดี้ น่าจะส่งผลกระทบไม่น้อยเลย มองว่า สิงห์บลูส์ ยังดูดีกว่า และมีดีพอจะเอาชนะแบบยิงขาดไหว

ผลที่คาด

เชลซี ชนะ เลสเตอร์ 3-1