ลิเวอร์พูล

    หงส์แดงไม่แพ้มา 22 นัดติดต่อกันในพรีเมียร์ลีกที่แอนฟิลด์แล้ว ตั้งแต่ที่พ่าย คริสตัล พาเลซ 1-2 เมื่อเมษายน 2017 (ชนะ 14 เสมอ 8)

    เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมันจะยังไม่มี เดยัน ลอฟเรน ที่ยังต้องพักอีกสักระยะ ส่วน อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน นั้นเจ็บยาวมาตั้งแต่ปลายซีซั่นก่อนแล้ว

    เกมนี้มีโอกาสมากเหลือเกินที่พวกเขาจะยึด 11 ตัวจริงเหมือนเดิมเป็นนัดที่ 3 ติดต่อกัน โดยมี โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ เป็นตัวชูโรงในแนวรุก

    ไบรท์ตัน

    เดอะ ซีกัลล์ส คว้าชัยได้ 2 จาก 11 นัดหลังสุดในพรีเมีย์ลีก ซึ่งทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นจากการเล่นในบ้าน โดยเป็นการพบ แมนฯ ยูไนเต็ด ทั้งหมด (เสมอ 3 แพ้ 6)

    กุนซือ คริส ฮิวจ์ตัน อาจต้องส่ง ลีออน บาโลกุน ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงครั้งแรก เนื่องจาก ลูอิส ดังค์ เซนเตอร์ฮาล์ฟตัวหลักนั้นเจ็บข้อเท้ามาจากเกมก่อน และยังไม่แน่ว่าจะฟิตกลับมาทันหรือไม่

    นอกจากนี้ก็ยังไม่มี บรูโน่ ซัลตอร์ กัปตันทีมที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่า, โฮเซ่ อิซเกียร์โด้ ยังไม่ฟิต และ ฟลอริน อันโดเน่ กองหน้าตัวใหม่ซึ่งมีปัญหาที่โคนขาหนีบอยู่

    11 ตัวจริงตามคาด

    ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อาลิสซอน เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน - เจมส์ มิลเนอร์, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, นาบี เกอิต้า - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่

    ไบรท์ตัน (4-4-1-1) : แม็ทธิว ไรอัน - มาร์ติน มอนโตย่า, เชน ดัฟฟี่, ลีออน บาโลกุน, กาเอต็อง บง - อ็องโตนี่ น็อคการ์ต, เดล สตีเฟ่นส์, ดาวี่ ปร็อปเปอร์, ซอลลี่ มาร์ช - ปาสกาล โกรสส์ - เกล็นน์ มาร์รี่ย์

    ผู้ตัดสิน : คริส คาวานาฟ

    ไบรท์ตัน กำลังมั่นใจ ดังนั้นนัดนี้พวกเขาไม่กลัวหงส์แดงแน่ แต่นั่นอาจเป็นดาบสองคม เนื่องจากแนวรุกของ ลิเวอร์พูล จัดจ้านมาก ยิ่งจังหวะสวนกลับอันตรายสุดขีด ขุมกำลังก็แกร่งลงตัวทั่วแผ่น เชื่อว่าด้วยเกรดบอลที่เหนือกว่ามากโขจะทำให้เจ้าบ้านเดินหน้าเอาชนะได้ไม่ยากเลย สกอร์มีโอกาสไหลไปไกลด้วย

    ผลที่คาด

    ลิเวอร์พูล ชนะ ไบรท์ตัน 3-0