"ยูเครน มีนักเตะที่มีความสามารถ" อังเดร เชฟเชนโก้
นอกจากจะเป็นดาวยิงระดับแถวหน้าของยุโรปแล้ว ในช่วงที่อยู่ในฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุด เขายังเป็นนักเตะที่ใครก็อยากได้ไปล่าตาข่ายให้
ปัจจุบันในวัย 42 ปี เจ้าตัวหันมารับงานคุมทีมชาติบ้านเกิดอย่างทีมชาติยูเครน พร้อมกับเก็บเกี่ยวประสบการณ์ และแนวทางการเป็นโค้ชอยู่ด้วย
ช่วงนี้เจ้าตัวจะมาบอกถึงอนาคตการคุมทีมชาติยูเครน พร้อมกับเป้าหมายที่วางเอาไว้ นั่นคือการผ่านเข้าไปเล่นในศึกยูโร 2020 รอบสุดท้าย
ก่อนที่จะเข้าเรื่องทีมชาติยูเครน งานประกาศรางวัลฟีฟ่า ฟุตบอล อวอร์ดส ที่ผ่านมา คุณโหวตเลือกลูก้า โมดริช และดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ทำไมคุณถึงคิดว่าสองคนนี้ควรเป็นผู้ชนะ ?
"ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ทำผลงานได้เป็นอย่างดีกับการคุมทีมชาติฝรั่งเศส มันไม่ใช่แค่ปีนี้ การพาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 คือผลของการทำงานหนักมาเป็นระยะเวลาหลายปี มันเป็นความสำเร็จที่ควรค่าแก่การยอมรับ"
"ขณะที่ลูก้า โมดริช ก็มีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมกับสโมสรเรอัล มาดริด ผมเคยเจอเขาในฐานะที่ยังเป็นนักเตะ และเจอตอนผมเป็นโค้ชแล้วเช่นเดียวกัน เขาเป็นคนที่เข้าใจเกมเป็นอย่างดี และพร้อมที่จะปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง"
"ความสำเร็จของโมดริช ในช่วงปีนี้ ถือว่าน่าประทับใจมาก ทั้งการคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 ฤดูกาลติดต่อกัน รวมไปถึงการได้ตำแหน่งรองแชมป์ฟุตบอลโลก ทั้งสองรางวัลนั้น เขาควรได้รับมันแล้ว"
คุณรับตำแหน่งโค้ชทีมชาติยูเครน ตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม 2016 คุณมีความเห็นอย่างไร เกี่ยวกับช่วงเวลาที่คุณรับหน้าที่นี้ ?
"ผมเข้ามารับงานในช่วงเวลาที่ยากลำบาก หลังจากความผิดหวังในศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ทั้งเรื่องของสื่อ และก็ตัวผู้เล่น ทุกอย่างได้เข้ามากระทบเรา"
"การทำงานต้องเริ่มตั้งแต่การปฏิรูปในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก และเปลี่ยนแปลงความต้องการของเรา มันเกิดขึ้นในระยะเวลาอันสั้น มันจึงเป็นเรื่องยากพอสมควร"
"เราเริ่มสร้างทีมขึ้นมาใหม่ ตามหลักของการเน้นครองบอล สำหรับยูเครน มันถือเป็นเรื่องผิดปกติ มันยากต่อการเปลี่ยนแปลงระบบการเล่นอย่างรวดเร็ว"
"เราเริ่มต้นกระบวนการปรับปรุงทีม และเรียกนักเตะหน้าใหม่กว่า 20 คนมาติดทีมชาติ ตอนนี้ทีมกำลังเข้าสู่ความสมดุลแล้ว เรามีศักยภาพมากขึ้นกว่าที่เห็น"
มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง ?
"เราได้รวบรวมกระดูกสันหลังของทีม ด้วยการผสมผู้เล่นที่มีประสบการณ์ และกลุ่มดาวรุ่งเข้าไว้ด้วยกัน ปัญหาของเราคือ ผู้เล่นยังไม่ค่อยเข้ากัน"
"อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณการรวมกลุ่มกัน และลงเล่นเกมกระชับมิตร เราจึงมีความเข้าใจภายในทีมมากยิ่งขึ้น โดยฟุตบอลยูเครน เพิ่งฟื้นตัวขึ้นมา"
"ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในปีนี้สโมสรของประเทศเราอย่างลีกสูงสุด จะเติบโตขึ้น และผู้เล่นจะออกไปค้าแข้งต่างประเทศมากกว่านี้"
ทีมชาติยูเครน ไม่สามารถผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย มันเกิดอะไรขึ้น ?
"4 ทีมที่มีความสามารถเท่าเทียมกัน ต่างกระจุกตัวในกลุ่มของเรา ทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันยูโร 2016 ไม่ว่าจะเป็นทีมชาติตุรกี, โครเอเชีย, ยูเครน และไอซ์แลนด์"
"เราต่อสู้ และพยายามก้าวไปติดอันดับ 2 ของกลุ่ม เรามีโอกาสในการแข่งขันทุกเกม แต่ต้องบอกว่า ศักยภาพของเราไม่สามารถทำแบบนั้นได้"
ทีมชาติยูเครน เตรียมเข้าร่วมการแข่งขันฟีฟ่า ยู-20 เวิลด์ คัพ ในช่วงปีหน้า คุณคิดว่าดาวรุ่งกลุ่มนี้ มีโอกาสก้าวมาร่วมงานกับทีมชุดใหญ่ในอนาคตหรือไม่ ?
"เราทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีมเยาวชนในทุกระดับชั้น แน่นอนว่า เราจับตามองผู้เล่นทีมชาติยูเครน ยู-20 อยู่ด้วย ผู้เล่นกลุ่มนี้จะก้าวมาติดทีมชาติชุดใหญ่ในอีก 1-2 ปี"
"อย่างที่ผมบอกไป ระหว่างที่ผมเป็นโค้ชทีมชาติยูเครน ผมทำการเปิดโอกาสให้นักเตะหน้าใหม่เปิดตัวไปแล้วกว่า 20 คน"
ทีมชาติยูเครน กระโดดขึ้นมา 6 อันดับ จากการจัดอันดับของฟีฟ่าล่าสุด โดยปัจจุบันอยู่อันดับที่ 29 คุณคิดว่าทีมจะสามารถประสบความสำเร็จในอนาคตได้อย่างไร ?
"งานของเราเฉพาะเจาะจงมาก สำหรับการทำผลงานในเนชั่นแนล ลีก และยูโร 2020 รอบคัดเลือก เป้าหมายของเราคือการผ่านเข้าไปเล่นยูโร 2020 รอบสุดท้ายให้ได้ นี่คือสิ่งที่เรามุ่งเน้นเป็นอย่างมาก"
ทีมชาติยูเครน ของคุณเต็มไปด้วยผู้เล่นอายุน้อย และมีความสามารถ มันยากต่อการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ หลังจากที่ผู้เล่นอายุมากเลิกเล่นทีมชาติไป ?
"มันต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งปีครึ่ง และกระบวนการนี้ยังไม่แล้วเสร็จ อนาคตยังเป็นเรื่องของนักเตะหนุ่มเสมอ สำหรับโค้ชแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องมีคนร่วมด้วย เรามีผู้เล่นที่มีความสามารถหลายคน พวกเขามีศักยภาพสูง"
คุณคิดว่า ในอนาคตจะก้าวไปคุมทีมสโมสรบ้างหรือไม่ ?
"ตอนนี้ ผมมุ่งสมาธิเกี่ยวกับทีมชาติยูเครน เท่านั้น ผมยังเพิ่งเริ่มต้นเส้นทางการเป็นโค้ช อนาคตเราจะได้เห็นกัน"