ทัศนคติเป็นเรื่องสำคัญ
ศักยภาพของ "ปืนใหญ่" และ "สิงห์บลูส์" ไม่ต่างกันมาก ผลงานในฤดูกาลก็มีสูสีใกล้เคียง และเป้าหมายที่เหลือก็เหมือนกันคือติดพื้นที่ท็อปโฟร์ให้ได้
สถานการณ์ก่อนลงสนาม อาร์เซน่อลกดดันกว่าเพราะเพิ่งพลาดท่าพ่ายต่อเวสต์แฮม หากแพ้หากอาร์เซน่อลแพ้อีกต่อเชลซี โอกาสลุ้น 4 อันดับแรกคงเลือนรางเพราะจะถูกทิ้งห่างมากถึง 9 คะแนน
ในทางทฤษฎี ยังสามารถลุ้นได้กับ 9 คะแนนที่ตามหลัง แต่ในทางปฏิบัติถือว่ายากมากเพราะไม่ใช่เพียงต้องไล่ให้ทันเชลซี แต่ ''ตาอยู่'' อย่างแมนฯ ยูไนเต็ด ก็แรงไม่หยุดและพร้อมแซงอาร์เซน่อลทุกเมื่อ
อาร์เซน่อลจึงพลาดอีกไม่ได้ และต้องปรบมือให้ อูไน เอเมรี่ และลูกทีมทุกคนที่ทำได้สำเร็จกับการเก็บชัยชนะที่ต้องการ และบีบช่องว่างกับเชลซีเหลือ 3 คะแนน กลับมาลุ้นพื้นที่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เต็มตัวเหมือนเดิม
จุดน่าสนใจอันดับแรกคือการจัดทัพอาร์เซน่อลที่ปรับมาเล่นหลัง 4 อีกครั้งด้วยการให้ โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ ยืนเซนเตอร์ร่วมกับ โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส และมี เอคตอร์ เบเยริน กับ เซอัด โคลาซินัช เป็นแบ็ก 2 ข้าง ชโคดราน มุสตาฟี่ หลุดไปในระบบนี้
ตรงกลางเติม ลูกัส ตอร์เรยร่า กลับมาเป็นตัวจริงร่วมกับ กรานิต ชาคา และ มัตเตโอ เกนดูซี่ แถมยังเรียก อารอน แรมซี่ย์ ออกสตาร์ตเช่นกัน
เอเมรี่เลือกวางแท็กติกในระบบ ''ไดมอนด์'' โดยมี ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง กับ อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ เป็นคู่กองหน้า
เมซุต โอซิล กลับมาแล้วแต่มีชื่อเป็นเพียงสำรอง เช่นเดียวกับ เอนสลี่ย์ เมทแลนด์-ไนล์ส กับ อเล็กซ์ อิโวบี้ ที่สัปดาห์ก่อนเป็นตัวจริง
ตอร์เรยร่า, ชาคา และ เกนดูซี่ เคยเล่นตรงกลางร่วมกันมาแล้วหลายนัด แต่ไม่ค่อยลงตัวเพราะยืนตำแหน่งระนาบด้วยกัน ขณะที่ตัวรุกใช้ อเล็กซ์ อิโวบี้ ซึ่งยังไม่ได้มีศักยภาพมากนักในการเป็นจอมทัพ การทำเกมรุกโดยเฉพาะการเจาะตรงกลางจึงไม่อันตรายเท่าที่ควร
แต่พอปรับให้แรมซี่ย์มาอยู่บนสุดในระบบเหลี่ยมเพชร ชาคายืนต่ำสุด ตอร์เรยร่า และเกนดูซี่ คอยประคองด้านข้างขวา-ซ้าย การเล่นของอาร์เซน่อลไหลลื่นมากขึ้น
แรมซี่ย์สามารถสร้างสรรค์เกมได้เพราะเล่นเกมรุกอยู่แล้ว อีกทั้งมีความขยัน และวิ่งเชื่อมเกมระหว่างตรงกลางกับข้างหน้าได้ตลอด
การมีกองหน้าที่ดี ช่วยทีมได้เสมอ
อาร์เซน่อลชุดนี้ไม่มีปีกธรรมชาติ ที่ผ่านมาเอเมรี่พยายามขึ้นเกมรุกริมเส้นบ่อยครั้งด้วยการให้ อเล็กซ์ อิโวบี้, เฮนริค มคิทาร์ยาน หรือ เมซุต โอซิล ถ่างออกไปเล่น โอบาเมย็องเองก็ไม่เว้น
อิโวบี้กับโอบาเมย็องลุยด้านกว้างได้ แต่ก็ไม่ใช่ผู้เล่นแนวที่ลากถึงสุดเส้นหลังแล้วตบกลับมา การเล่นในแบบนี้จึงไม่มีทางไปแตะระดับสูงแบบแมนฯ ซิตี้ได้เพราะศักยภาพของนักเตะไม่ใช่แนวนั้น
แต่การเน้นเจาะตรงกลางเหมือนนัดล่าสุด อาร์เซน่อลทำได้ดีมากกว่าเพราะเรื่องของเกมรับก็มีทั้งตอร์เรยร่ากับเกนดูซี่คอยป้องกัน ชาคาที่ถูกวางบทบาทให้เป็นตัวเปิดบอลจากแนวลึก เพิ่มมิติในการบุกนอกเหนือกจากแรมซี่ย์ที่เป็นตัวหลัก
ตรงกลางของอาร์เซน่อลจึงสู้กับเชลซีสนุกและทำได้ดีกว่าด้วยในการดวลกับ จอร์จินโญ่, เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และ มาเตโอ โควาซิช
ครึ่งแรกอาร์เซน่อลเล่นดีกว่าชัดเจนเพราะไล่เพรสซิ่งตั้งแต่เสียงนกหวีดเริ่มเกม โอบาเมย็อง กับ ลากาแซตต์ ช่วยกันไล่ปิดเกมรุกเชลซีตั้งแต่ข้างบน และหลายต่อหลายครั้งก็ตามมาสกัดในแดนตัวเอง (หวิดเสียจุดโทษหมือนกันตอนสกัดอาซาร์ในเขตโทษ)
เชลซีจึงออกบอลลำบากเพราะต่อบอลบนพื้นแทบไม่ได้ อาร์เซน่อลเก็บกินหมด ต้องอาศัยการวางยาวของ ดาวิด ลุยซ์ ซึ่งอันตรายทีเดียวและเกือบแอสซิสต์ให้เปโดรทำประตูเหมือนสัปดาห์ก่อน
รูปเกมของอาร์เซน่อลออกมาดูดีและมีประสิทธิภาพ ทุกคนช่วยกันเล่นและตื่นตัวอย่างมาก เป็นทัศนคติที่ต่างจากวันพ่ายขุนค้อนชัดเจน เรื่องหัวจิตหัวใจกลับมารวมกันเป็นหนึ่งอีกครั้ง
นี่คือจุดที่แม้แต่ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ยังบอกหลังเกมว่าลูกทีมของเขาแพ้จริงๆ เพราะทัศนคติและความมุ่งมั่นสำหรับนัดนี้สู้ทางอาร์เซน่อลไม่ได้
"หลายครั้งคุณอาจตกที่นั่งลำบากแต่เราควรต้องตอบสนองต่อความลำบากเหล่านั้นได้ดีกว่าที่เราทำในวันนี้มาก มันคือการเล่นที่เรารับไม่ได้จริงๆ มันเหมือนเกมกับท็อตแน่มเลย"
"เราเชื่อว่าเราน่าจะก้าวพ้นอุปสรรคนั้นได้แต่หลายครั้งดูเหมือนเราจะมีปัญหามากในการเตรียมตัวเองให้พร้อมสำหรับเกมเหล่านี้ แพ้เฉยๆ การต้องพ่ายแพ้แบบนี้เป็นสิ่งที่ผมไม่ชอบ"
โอกาสลุ้นประตูของปืนใหญ่จึงมาอย่างต่อเนื่อง มีพลาดเป้าไปบ้าง แต่ก็ได้ 2 ประตูขึ้นนำใน 45 นาทีแรกซึ่งสำคัญอย่างมากกับเกมใหญ่แบบนี้
ครึ่งหลัง เกมรุกอาร์เซน่อลดร็อปลงไป แต่นั่นเพราะสถานการณ์บีบให้เชลซีต้องบุกมากขึ้นเนื่องจากไม่ต้องการแพ้เช่นกัน
ปืนใหญ่กลับมาเล่นได้ยอดเยี่ยมอีกครั้ง
โอกาสของเชลซีถือว่ามีไม่น้อยแต่ขาดความแม่นยำเพราะโดนไล่บีบเร็ว ทำให้ตลอดทั้งเกมยิงเข้ากรอบเพียงครั้งเดียว ชนเสาอีกครั้ง ที่เหลือยิงทิ้งยิงขว้าง
เกมรับอาร์เซน่อลเป็นอีกจุดที่ทำผลงานได้ดีมาก คู่เซนเตอร์แบ็ก ''กอส-โซคราติส'' เล่นได้แข็งแกร่ง ตัดบอลได้แม่นยำ และแทบไม่มีข้อผิดพลาด
ฤดูกาลนี้ อาร์เซน่อลมีปัญหาเกมรับต่อเนื่องจนเสียไปแล้ว 32 ประตู แต่นัดนี้คือนัดที่เกมรับทำได้ดีสุดนับตั้งแต่เอเมรี่เข้ามาและเก็บคลีนชีตนัดที่ 4 ได้สำเร็จ
ความเฉียบคมในการทำประตูคือจุดที่เป็นปัญหามากสุดของเชลซีในนัดนี้และในช่วง 2-3 เดือนหลังที่ อัลบาโร่ โมราต้า กับ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ฝากผีฝากไข้ไม่ได้
ซาร์รี่จึงต้องเลือกให้ เอแด็น อาซาร์ เล่นหน้าเป้า และเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมกุนซือชาวอิตาเลียนถึงต้องการ กอนซาโล่ อิกวาอิน อย่างมาก
การมีกองหน้าธรรมชาติที่มีคุณภาพ สามารถสร้างโอกาสและความแตกต่างให้เกิดขึ้นได้เหมือนเช่นลากาแซตต์ทำให้เห็นในนัดนี้
เอเมรี่พาทีมกลับมาแก้ตัวสำเร็จและได้เห็นผู้เล่นอย่างแรมซี่ย์สามารถช่วยทีมได้ในช่วงที่เขายังไม่เชื่อมั่นในตัว เมซุต โอซิล
น่าเสียดายอย่างยิ่งสำหรับอาร์เซน่อลที่หนึ่งในผู้เล่นซึ่งผลงานดีสุดนัดนี้ไม่ได้อยู่ในแผนสำหรับอนาคตของสโมสร และกำลังจะย้ายออกไปแบบไร้ค่าตัว
ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรื่องภายในของอาร์เซน่อล แต่การที่ต้องเสียนักเตะอย่างแรมซี่ย์ออกไปแบบนี้ก็นับเป็นความล้มเหลวอีกครั้งของฝ่ายบริหารที่จัดการเรื่องสัญญานักเตะได้อ่อนหัดและไร้ชั้นเชิง
ส่วนกรณีของโอซิล ก็ต้องตามลุ้นกันต่อว่าจะกลับมามีบทบาทในทีมของเอเมรี่ได้มากเพียงใดหลังนัดนี้ก็ยังไม่ได้เล่นอีกนัดเพราะจังหวะไม่เป็นใจ
เอคตอร์ เบเยริน ได้รับบาดเจ็บช่วงท้าย โควตาสำรองคนที่ 3 จึงต้องเลือกผู้เล่นเกมรับอย่าง โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ หลังจาก 2 คนแรกเป็น อเล็กซ์ อิโวบี้ กับ เมทแลนด์-ไนล์ส ไปแล้ว
ยิ่งเห็นการเล่นนัดล่าสุดที่ทุกคนช่วยกันวิ่ง ช่วยกันไล่ ยิ่งมองภาพลำบากว่า โอซิล จะทำแบบนี้อย่างที่เอเมรี่ต้องการได้หรือไม่
การจัดการกับผู้เล่นอย่าง โอซิล และการรักษาฟอร์มการเล่นให้ได้แบบนัดล่าสุดโดยเฉพาะนัดเยือนคือโจทย์ที่สำคัญของเอเมรี่ในช่วงที่เหลือของฤดูกาล
นัดนี้ทำได้ดี สมควรได้รับเสียงชื่นชมทั้งโค้ชและนักเตะ ส่วนเรื่องเดียวที่น่าห่วงคืออาการเจ็บของเบเยรินนั่นแหละ ดูแล้วหนักทีเดียว มีโอกาสพักยาวทั้งฤดูกาลได้เลย
ปืนใหญ่เสียหายมากทีเดียวเมื่อ เบเยริน บาดเจ็บหนัก
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT