:::     :::

เปิดกรุตำนานหลอน ตอน "เสื้ออาถรรพ์" ไขปริศนาฆาตกรรมในสนามปิดตาย

วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม 2562 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
5,106
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หลอนไม่หลอนแค่ไหน ก็ชนิดที่เรียกว่า ใส่ยังไงก็แพ้ ยิ่งใส่ยิ่งแพ้ และถ้าไม่หยุดใส่ สงสัยทีมได้ไปหนีตกชั้นเป็นแน่ ของเค้าแรงจริงๆ!

แฟนๆหลายๆคนคงจะเคยได้ยินเรื่องราวที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เปลี่ยนเสื้อที่ใช้ลงเล่น ในระหว่างตอนพักครึ่งเกมกับเซาท์แธมตันมาแล้วในปี 1996 ซึ่งเปลี่ยนจากเสื้อเยือนสีเทา ไปใช้เสื้อเยือนลายฟ้าสลับขาวในครึ่งหลัง  แต่รู้กันหรือไม่ว่า เหตุผลที่แท้จริงของเรื่องนี้คืออะไรกันแน่

แกรี่ เนวิลล์ ได้พูดเอาไว้เมื่อปีก่อน ซึ่งเขาเองก็เล่นอยู่ในวันนั้นด้วยเมื่อ23ปีที่แล้วได้เปิดเผยว่า เหตุผลที่เราเลือกที่จะทิ้งเสื้อเทาของเรานั้น แท้จริงมันอิงโดยยึดหลักการวิจัยทางวิทยาศาสตร์มากกว่า

ครึ่งแรกยังใส่กันอยู่ และโดนระเบิดถังขี้เละเทะไม่มีชิ้นดีไป3-0

"ผู้จัดการทีมหยิบมันขึ้นมา เขาโคตรจะเกลียดไอ้เสื้อตัวนี้เลย แต่จริงๆแล้วมันเป็นเหตุผลเชิงวิทยาศาสตร์อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้"

"ผู้คนในทุกวันนี้มักจะหยิบเอาเรื่องนี้มาเป็นมุกตลกขำๆเล่ากันว่า เป็นเพราะพวกเราแพ้รัวๆ เกิดจากไอ้นั่น เกิดจากไอ้นี่ก็ว่ากันไป แต่เซอร์อเล็กซ์ที่ได้จ้างโปรเฟสเซอร์มาจากมหาวิทยาลัยLiverpool ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการมองเห็นเข้ามา ชื่อGail Stevenson ที่จะเข้ามาสองครั้งต่อสัปดาห์"

"และคุณก็รู้ว่าผู้คนพูดถึงกันยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ใส่แล้วไม่ฟิต เรียกความคมกลับมาไม่ได้บ้างล่ะ เขาและหล่อนไม่เชื่อเรื่องพวกนี้เลยว่ามันจะเกี่ยวกับเรื่องความสามารถทางกายภาพ ซึ่งเรื่องทางนี้ คุณสามารถที่จะทำงานให้หนักขึ้นได้เพื่อที่จะกลับมาจากอาการบาดเจ็บ  เมื่อพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว เดี๋ยวคุณก็ฟิตเองแหละ"

"ส่วนเรื่องความคมนั้นมันเป็นเรื่องของการตื่นตัว และวิสัยทัศน์การเล่น  มันเกี่ยวกับว่าคุณจะเร็วแค่ไหนที่จะเห็นเพื่อนร่วมทีมของคุณในสนาม ดังนั้นเมื่อบอลมาถึงคุณ และคุณเล่นได้ดีแล้ว คุณจะรู้ก่อนทันทีเลยว่า จะต้องจ่ายต่อไปที่ไหน ก่อนที่จะทันคิดเสียอีก มันไม่ใช่เรื่องทางร่างกาย มันเป็นเรื่องของการรับรู้ต่างหาก"

ป๋าจะไม่ทน บอกไอ้เสื้อสัปดนจงเอาไปทิ้ง แล้วเอาเสื้อเชฟฟิลด์เว้นส์เดย์มาใส่แทนซะ!!!!

"เกลนำการฝึกฝนดวงตา และฝึกการตื่นตัวเข้ามาให้กับเรา โดยเกี่ยวกับพวกเรื่องกล้ามเนื้อดวงตา เธอบอกว่า คุณหยุดใช้กล้ามเนื้อดวงตาก็ในตอนที่คุณบาดเจ็บ ซึ่งในเรื่องเซนส์ของฟุตบอลคุณไม่จำเป็นต้องมองนู่นนี่รอบๆตลอดเวลา คุณไม่ต้องเห็นภาพพวกนั้นตลอดตอนคุณได้บอล  ซึ่งเธอแจ้งเรื่องนี้กับเซอร์อเล็กซ์อย่างจริงจังว่ามันมีรายละเอียดต่างๆพวกนี้ที่เราต้องทำอยู่   แบบว่าให้ลองจินตนาการดูว่ามีผู้คนจำนวนมากเลยด้านหลังคุณ และมันก็จะมีสีที่คุณสามารถมองเห็นได้ก่อนอย่างรวดเร็วกว่าสีอื่นๆ ที่มันโดดเด่นขึ้นมา"

"เรื่องนี้มันชัดเจนอยู่แล้ว  เหตุผลที่คนเราที่ต้องใส่เสื้อสีเหลืองสว่างๆบนทางด่วน ก็เพราะว่า ผู้คนที่ผ่านไปมาจะได้มองเห็นมันไง  และเขาเหล่านั้นไม่มีทางใส่สีเทาเดินอยู่บนทางด่วนแน่ๆล่ะ(สีมันกลืน)  เพราะเรื่องนี้แหละ เธอจึงบอกกับพวกเขาว่า นี่มันไม่ถูกต้องแล้วล่ะ ผู้เล่นของเราไม่สามารถมองเห็นเสื้อสีเทานี่ได้เร็ว เวลามีคนอยู่ใกล้ๆตรงนั้นแน่นอน"

"เคสนี้มันเกิดขึ้นและมีการหยิบยกประเด็นขึ้นมาคุยกันเป็นเดือนๆก่อนหน้าแล้ว จริงๆเขาจะไม่เอาไอ้ชุดนี้ตั้งแต่สองเดือนที่แล้วละ เขาไม่เอาเลยพูดง่ายๆ  ผู้เชี่ยวชาญด้านการมองเห็นจึงเริ่มทำงานกับสายการผลิตเสื้อแข่งของเราว่าทำยังไงให้เสื้อพวกเรามันเด่นและเห็นง่ายที่สุด  มันเป็นในเชิงวิทยาศาสตร์หน่อยๆอยู่เบื้องหลังเรื่องที่ว่านี้ มากกว่าจะเป็นเรื่องเหตุเพราะว่า เราไม่ชอบมันเพราะมันทำให้เราแพ้"

แพ้ไม่แพ้ก็ไม่เกี่ยว พี่เบ็คกูใส่อะไรก็หล่อเหมือนเดิม อาถรรพ์ทำอะไรเฮียไม่ได้จริงๆ

เกมนั้นมันก็กลายเป็นตำนานไปเลยจนถึงบัดนี้ แมนยูไนเต็ดที่กำลังเข้าฝักนั้น เจองานยากลำบากกับทีมที่กำลังดิ้นรนหนีตกชั้นอย่างเซาท์แธมตัน และโดนกระซวกไปถึง 3-0 เมื่อจบครึ่งแรก ซึ่งจากนั้นก็ได้ถูกบอกให้เปลี่ยนเสื้อในที่สุด

ครึ่งหลังเรากลับมา และการเปลี่ยนเสื้อก็ช่วยให้มันดีขึ้นจริงๆเพราะว่า เฉพาะในครึ่งหลังที่เอาเสื้ออื่นใส่ลงไปแทน (ลายฟ้าสลับขาว) เฉพาะครึ่งนั้นเราชนะ1-0 (นับด้วยเหรอฟะ) แต่มันก็ไม่พอสำหรับทั้งเกม และเราก็แพ้ไป 3-1 ต่อหน้าแฟนบอลเซาท์แธมตัน คาสนามThe Dell ช่วงยามบ่ายอันพิลึกกึกกือจริงๆวันนั้นในแดนใต้

ถึงแม้ว่าเราจะผิดหวังต่อเกมกับเซาท์ในวันนั้น แต่พลพรรคปีศาจแดงก็รวมพลังกันชนะสามเกมสุดท้าย จนได้แชมป์พรีเมียร์ลีก แซงนิวคาสเซิลได้สำเร็จในที่สุด

....

เป็นไง อาถรรพ์ไหมล่ะมึง!!! (ศาลาผีกล่าวเอาไว้นอกบทความ)

นายแบบเบอร์หนึ่งของเสื้ออาถรรพ์ เป็นใครไม่ได้นอกจากตาคนนี้แหละ

จากบทความด้านบนแบบexclusive ของเว็บสโมสรเราจากฝีมือไมเคิล แพลนท์เจ้าเดิม บทความนี้ผมเชื่อว่า หลายๆคนอาจจะรู้แค่ว่า เสื้อสีเทานี้มันเป็นตำนานที่ใส่แล้วทีมแพ้รัวๆ แพ้อย่างเดียว จนกระทั่งทีมต้องเลิกใช้ แถมป๋าสั่งถอดเปลี่ยนระหว่างเกมเลย ก็อย่างที่บทความนี้เล่าไว้ มันคือเกมเยือนเซาท์ในฤดูกาล 1995/19996 ซึ่งสุดท้ายแล้ว หลังจากที่คิงเคฟ คีวิน คีแกน โดนเกมไซโคจาก SAF เอาซะหลุดหัวร้อนออกอากาศจนกลายเป็นวลีเด็ดไปแล้ว หลังจากนั้นนิวคาสเซิลเสียศูนย์ และกลายเป็นแมนยูไนเต็ดที่แซงเข้าป้ายได้ในที่สุด นั่นก็คือฤดูกาลเดียวกันกับที่เราตัดสินใจเลิกใช้เสื้อเยือนสีเทานี้กลางคันนั่นแหละ

หลายคนอาจจะรู้แค่ว่า นี่คือ "เสื้ออาถรรพ์" ของทีมเราที่ใส่ยังไงก็แพ้ แพ้รวด4นัด หลังจากนั้นมาแมนยูแทบไม่เคยทำเสื้อเยือนสีเทาเลย (มีปีก่อนตอนยุคน้ามูปี2 เป็น3rd kit ปี2017/18 ก็นั่นแหละ ผลงานก็ไม่ได้ดีเด่อะไร ว่าวแชมป์ด้วย แสดงว่าสีเทานี่ แม้แต่เอาทรินิตี้ของสโมสรมาขึ้นบนเสื้อยังเอาไม่อยู่ ฮาา)  ถ้าที่เล่าๆฟังๆกันมามันก็มีแค่นั้น  แต่ในความเป็นจริง บทความนี้ก็ได้เปิดเผยเบื้องลึกพอสมควรว่า มันไม่ได้เป็นเหตุที่ ตัดสินใจกันหน้างานวันนั้นอย่างเดียวว่า เล่นไม่ดีแล้วเลิกใช้มันเลยในนัดนั้น

"มันมีความพยายามที่จะเลิกใช้ชุดสีเทามาก่อนหน้านัดนั้นแล้ว"

"Alex Ferguson ไม่ถูกใจสิ่งนี้"

อย่างที่บทความกล่าวเอาไว้ว่า เราได้จ้างspecialistเข้ามาช่วยดูแลเรื่องตรงนี้ให้ และมันก็เป็นเรื่องทางวิทยาศาสตร์เสียส่วนใหญ่ด้วย มากกว่าความเชื่อเรื่องที่ว่า "อาถรรพ์" หรือ "ใส่ตัวนี้แล้วแพ้" เสียอีก มันคือเรื่องของการที่ทำให้นักฟุตบอลทีมเราเห็นสีได้ช้าลง เห็นเพื่อนร่วมทีมได้ช้าลงกว่าสีอื่นที่เด่นกว่า ประสาทสัมผัสเรากว่าจะมองเห็นสีเทา มันช้ากว่าสีอื่นแน่ๆอย่างที่เค้าเปรียบเปรยเรื่องคนงานทางด่วนที่ใส่เสื้อสีแปร๋นๆนั่นแหละ

และทั้งหมดนี้คือเรื่องราวไขปริศนาคดีฆาตกรรมคาสนามThe Dell ที่แท้จริงว่า มันไม่ได้เกิดจากอาถรรพ์ หรือการตัดสินใจปุบปับเพื่อจะลบล้างเรื่องที่ว่าเราใส่แล้วไม่แพ้เลย  มันเป็นเรื่องของการใช้งานต่างหาก ซึ่งก็จริงเพราะหลังจากนั้นการเล่นก็ยอดเยี่ยมเหมือนเดิมจนกลับมาคว้าแชมป์ลีกได้นั่นเอง

คิดเอาเองว่าป๋าไม่ชอบมันขนาดว่าสั่งเปลี่ยนกลางเกมเลย

ส่วน ทางด้านของนักสะสม เหล่าcollectorทั้งหลายที่ชอบเสื้อแมนยูนั้น ต้องบอกว่า เสื้อสีเทาตัวนี้มีเสน่ห์มากๆในแง่ของการสะสม เพราะแต่ละรุ่นตัวเด่นๆก็จะมีชื่อเรียกต่างกัน เช่น ลายสนามโอลด์แทรฟฟอร์ด เสื้อเขียวเหลือง เสื้อตัดอ้อย ชุดสามแชมป์ ชุดผ้าเช็ดตัว ฯลฯ แต่ตัวนี้ชื่อโดดๆของมันที่คนเก็บเสื้อรู้จักกันดีคือ "เสื้ออาถรรพ์" นี่ละ

ใครว่าไงไม่รู้นะ แต่ผมโคตรชอบ และแฟนผีที่ชอบเสื้อแมนยูก็ควรจะมีตัวนี้เก็บไว้ในครอบครองสักตัวจะเจ๋งมาก

แต่อย่าเอามันมาใช้เลย ป๋าขอ!!!!!!

-ศาลาผี-


source : https://www.manutd.com/en/news/detail/why-man-utd-ditched-the-grey-kit-against-southampton-in-1996

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด