:::     :::

จากเด็กอ้วนสู่ยอดนักเตะ'อีสโก้'

วันพฤหัสบดีที่ 09 พฤศจิกายน 2560 คอลัมน์ ลูกหนังนอกกรอบ โดย JOKE
4,228
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
อีสโก้ อาลาร์กอน ว่าที่ยอดนักเตะคนต่อไปของ เรอัล มาดริด และทีมชาติสเปน

    อันเดรส อีเนียสต้า คนใหม่...
    ซีเนดีน ซีดาน คนต่อไป...
    นั่นคือเสียงยกย่องชื่นชม อีสโก้ อาลาร์กอน ยอดแข้งคนต่อไปของวงการลูกหนังเมืองกระทิง

    'เขาจะเป็นนักเตะคนสำคัญที่สุดคนต่อไปของฟุตบอลสเปน'อีเกร์ กาซียาส อดีตนายทวารทีมชาติสเปนกล่าวชมรุ่นน้อง
    ขณะที่ เซร์คิโอ รามอส กัปตันทีมชุดขาวคนปัจจุบันตั้งชื่อเล่นให้หนุ่มอีสโก้ว่า'นักมายากล'ตามรอยสักบนแขนของเขา


    ฟรานซิสโก้ โรมัน อาลาร์กอน หรือ อีสโก้ เกิดที่เมืองเบนาลมาเดน่าในมาลาก้าเมื่อวันที่ 21 เมษายน 1992 เขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งใน'ลา โรซาเลด้า'ตั้งแต่อายุ 5 ขวบก่อนคว้าแชมป์แรกในระดับจังหวัด
    ผ่านมาเกือบ 3 ทศวรรษ 'อีสโก้'กอบโกยความสำเร็จเป็นว่าเล่นทั้ง ลา ลีกาม แชมเปี้ยนส์ลีก, โกปา เดล เรย์, สแปนิช ซูเปอร์ คัพ, ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ, ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ กับ แชมป์ยุโรปชุดยู-21
    อีสโก้ กำลังจะกลับมาสู่จุดเริ่มต้นของเขาอีกครั้ง เมื่อ สเปน จะลงเตะอุ่นเครื่องกับ คอสตาริกา ในวันเสาร์นี้บนสังเวียน'ลา โรซาเลด้า'ของเมืองมาลาก้า
    ย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อน 'อีสโก้'เป็นเด็กอ้วนขี้อาย แต่มีทักษะการเล่นฟุตบอลเป็นเลิศ ครอบครัวของเขายังช่วยผลักดันให้พัฒนาฝีเท้าเพื่อก้าวเข้าสู่วงการอาชีพจนกระทั่งกลายเป็นนักเตะที่ขาดไม่ได้ของ เรอัล มาดริด และ ทัพ'ลา โรฆา'ในปัจจุบัน


    อีสโก้ อาลาร์กอน เติบโตขึ้นมาพร้อมกับ การ์ลอส อันโตนิโอ พี่ชายของเขาที่มีอายุมากกว่า 7 ปี แต่ชีวิตค้าแข้งไม่ประสบความสำเร็จเหมือนน้องชายเท่านั้น 'สองพี่น้องมีรูปแบบการเล่นคล้ายคลึงกัน แต่ที่ผ่านมา อันโตนิโอ การ์ลอส ไม่ค่อยมีโชคและเขาก็อยู่แต่ในมาลาก้าเท่านั้น'เพื่อนอีสโก้ย้อนความหลัง
    บ้านของหนุ่มอีสโก้อยู่ที่ 'อาร์โรโย่ เด มา เมล'เมืองที่มีลมหายใจเป็นฟุตบอล พ่อของเขาซึ่งเป็นช่างเทคนิคบำรุงรักษาที่ท่าเรือมีส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันลูกชายทั้งสองคนก้าวเข้าสู่ทีมเยาวชนของมาลาก้า
    'เขาเป็นเหมือนปรากฎการณ์จากที่เห็นเขาเล่นฟุตบอลตั้งแต่ยังเด็ก วันนี้แนวคิดในการเล่นฟุตบอลของเขายังเหมือนเดิม สนุกสนาน มีความสุขและเขาแสดงให้เห็นเสมอ'
    ตอนอายุ 13 ปี บาเลนเซียมองเห็นศักยภาพของเจ้าหนูอีสโก้ขณะที่เล่นกับทีมแคว้นอันดาลูเซียจนกระทั่งต้องย้ายออกมาจาก อัตเลติโก เบนาเมล เพื่อเข้าสู่ทีมเยาวชนของบาเลนเซีย ซึ่งมันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับเขาที่ต้องออกมาจากบ้านเกิด
    'พรสวรรค์เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความสำเร็จ ส่วนที่เหลือคือการทำงานและการเสียสละ'นั่นคือคติประจำใจของอีสโก้ซึ่งมีส่วนทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในยอดนักเตะของวงการลูกหนังเมืองกระทิงในปัจจุบันและอนาคต   
    'ครอบครัวมีส่วนผลักดันอย่างมากและแม่ของเขา (เจนนี่ ซูอาเรซ) ต้องเดินทางไปเมืองบาเลนเซียเพื่ออยู่กับเขาเพราะลูกชายมีภาวะซึมเศร้าเล็กน้อยเนื่องจากเขาคิดว่ามันไม่เหมาะกับเขา เขากินอะไรไม่ค่อยได้และไม่มีความสุขนักกับการใช้ชีวิตในเมืองบาเลนเซีย'
    'ช่วงปีหลังๆในบาเลนเซีย เขาหนีเข้าไปแอบในตู้เสื้อผ้าเพราะไม่ต้องการไปโรงเรียน'เพื่อนบ้านของครอบครัวอีสโก้เปิดเผย


    หนุ่มอีสโก้เริ่มปรับตัวได้ดีขึ้นตามลำดับจากการช่วยเหลือของเพื่อนๆ เขาเปิดตัวครั้งแรกกับบาเลนเซียจากการลงเล่นรายการ โกปา เดล เรย์ ด้วยวัย 18 ปีและทำสองประตูในเกมดังกล่าวซึ่งช่วยเรียกรอยยิ้มของเขากลับมาอีกครั้ง
    มันเป็นการเผชิญหน้ากับ โลโกรนเญส เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2010 ซึ่งทีมค้างคาวกดทีมเยือนขาดลอย 4-1 จากการทำสองประตูของอีสโก้ ก่อนที่เขาจะได้โอกาสลงประเดิมเวทีลีกาในอีก 3 วันต่อมา โดยลงเล่นแทน อาริตซ์ อาดูริซ ช่วง 20 นาทีสุดท้ายของเกมเปิดรังเมสตาย่าทุบ เคตาเฟ่ 2-0
    ช่วงกลางเดือนกรกฎาคมหลังมีส่วนช่วยทีมเยาวชนบาเลนเซียเลื่อนชั้นกลับมาเล่น เซกุนด้า เบ จากการยิง 15 ประตู หนุ่มอีสโก้ย้ายกลับบ้านเกิดหลังการเซ็นสัญญา 5 ปีกับมาลาก้า เขาประเดิมยิงประตูแรกกับต้นสังกัดใหม่ในเกมชนะ ราซิ่ง ซานตานเดร์ 3-1 เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2011


    อีสโก้ ทำสถิติลงเล่น 32 นัด ยิง 5 ประตูและมีส่วนช่วยมาลาก้าทำอันดับไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร
    มาลาก้า ประเดิมเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่มเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2012 อีสโก้ โชว์ฟอร์มโดดเด่นด้วยการเหมายิงคนเดียว 2 ประตูในเกมชนะ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก 3-0 พร้อมซิวรางวัล'แมน ออฟ เดอะ แมตช์'จากเกมดังกล่าว
    อีสโก้ ยังยิงอีกหนึ่งประตูในเกมพลิกล็อกล้ม เรอัล มาดริด 3-2 เมื่อวันที่ 22 ธันวาคมปีเดียวกัน ซึ่งเป็นการเอาชนะอาคันตุกะจากเมืองหลวงครั้งแรกในรอบ 29 ปี จากนั้นอีกไม่นาน อีสโก้ สอยรางวัล'โกลเด้น บอย'หลังเอาชนะทั้ง สเตฟาน เอล ชาราวี กับ ติโบต์ กูร์กตัวส์
    จากความโดดเด่นของ อีสโก้ ส่งผลให้ เรอัล มาดริด ยอมทุ่มเงิน 35 ล้านยูโรเพื่อซื้อสัญญานักเตะในช่วงซัมเมอร์ปี 2013 ซึ่งเป็นผู้เล่นคนแรกที่ทีมชุดขาวยุค คาร์โล อันเชล็อตติ ดึงมาร่วมทีม


    อีสโก้ ปรับตัวเข้ากับการใช้ชีวิตในนครหลวงแบบเรียบง่าย ช่วงวันว่างเขาจะไม่หยุดนิ่งด้วยการใช้เวลาปั่นจักรยานออกกำลังกาย อีสโก้จะดูแลร่างกายเป็นอย่างดีโดยเฉพาะเรื่องอาหารการกินที่หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมัน เขายังใช้เวลาว่างบางส่วนอยู่กับ อีสกีโต้ หรือ อีสโก้ จูเนียร์ ลูกชายวัย 3 ขวบที่เกิดกับอดีตแฟน บิคตอเรีย กัลเดรอน


   

ทั้งคู่เพิ่งตัดสัมพันธ์สวาทในช่วงปีที่ผ่านมา ก่อนจะมีข่าวว่าอีสโก้จะเริ่มต้นปลูกต้นรักครั้งใหม่กับ ซาร่า ซาลาโม่ นักแสดงสาวโดยติดต่อกันผ่านอินสตาแกรมและมีคนตาดีเห็นทั้งคู่อยู่ด้วยกันในโรงละคร แต่ยังไม่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเท่านั้น


    อีสโก้ เพิ่งต่อสัญญากับ เรอัล มาดริด ไปจนถึงปี 2022  เขาจะเป็นผู้เล่นคนสำคัญมากสำหรับ เรอัล มาดริด และทีมชาติสเปนทั้งปัจจุบันและอนาคต


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด