แต่กับการที่อุตส่าห์นำมาจนถึงช่วง 5 นาทีสุดท้ายแล้วมาโดนฉกแต้มจากมือไป 2 คะแนนเป็นเรื่องน่าเสียดายมากกว่า

    ความน่าสนใจสำหรับเกมที่ ลิเวอร์พูล เสมอ เชลซี 1-1 ก็ไม่ได้มีอะไรมาก นอกเสียจากการเป็นทีมใหญ่ที่มาพบกันเอง มันเลยเรียกแขกได้

    แต่สิ่งที่น่าสนใจมันเกิดขึ้นหลังจากหมด 90 นาทีต่างหาก

    ถามว่าเดอะ ค็อป ควรพอใจไหมสำหรับหนึ่งคะแนนในเกมนี้

    โอเค! ก็รับได้เลยแหละ

    ลองดูผลงานในซีซั่นนี้สิ หงส์แดงกระท่อนกระแท่นมาตั้งแต่เปิดซีซั่น จากที่ไม่เคยแพ้ให้กับบิ๊กซิกซ์เมื่อปีก่อน ฤดูกาลนี้โดนทั้ง แมนฯ ซิตี้ กับ สเปอร์ส ยำใหญ่จนกลับบ้านไม่ถูก

    เห็นสภาพแล้วแทบเอาเท้าก่ายหน้าผากกันเลยทีเดียว

    เทียบกับปีก่อน ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนแบบนี้ ลิเวอร์พูลยังอยู่ในสารบบลุ้นแชมป์อยู่เลย แทบจะถูกยกให้เป็นเต็งเบอร์ต้นเลยด้วยซ้ำ

    เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่แฟนๆ เคยบูชา ชาบู กลับกลายเป็นคนแปลกหน้าขึ้นไปทุกวัน จนในโลกโซเชียลเริ่มมีกระแส Klopp Out ออกมาให้เห็นเรื่อยๆ

    พูดถึงกุนซือเยอรมัน อันที่จริงด้วยลักษณะการทำงาน นี่แหละคือคนที่ใช่สำหรับ ลิเวอร์พูล มากที่สุดในตอนนี้แล้ว

    สร้างทีมแบบมีรากฐาน ไม่ใช่พวกผู้จัดการทีมที่เน้นใช้เงินมือเติบสักเท่าไหร่

    เอ่อ... เพราะลิเวอร์พูลไม่มีให้ใช่ต่างหาก

    แต่บางทีการทำงานของ คล็อปป์ ก็ดูจะมั่นใจในตัวเองมากจนเกินไป

    เกินไปจนกระทั่งส่งผลเสียมากกว่าผลดีในบางครั้ง

^{ฟีร์มีโน่กับมาเน่ถูกพักในเกมพบเชลซี}

    อย่างเกมกับ เชลซี นายใหญ่เมืองเบียร์ปรับทีมจากชุดดีที่สุดของหงส์แดงไป 3 ตำแหน่ง เขากระโดดถีบ แดเนียล สเตอร์ริดจ์, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และ เจมส์ มิลเนอร์ ลงสนาม

    พร้อมกับเอา โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่ และ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ออกไปพัก

    ในรายของ โฌแอล มาติป ที่แทน เดยัน ลอฟเรน ไม่นับ เพราะถ้ากองหลังแคเมอรูนฟิตเมื่อไหร่ เขาก็เป็นเซนเตอร์แบ็กเบอร์หนึ่งของทีมอยู่แล้ว

    ถามว่ามันมีเหตุผลอะไรที่จะต้องพัก ฟีร์มีโน่, มาเน่ แล้วก็ ไวนัลดุม ในเกมนี้

    จะตอบให้ ก็เพราะกลางสัปดาห์นี้พรีเมียร์ลีกมีคิวแข่งขันอีก โดย ลิเวอร์พูล จะไปเยือน สโต๊ค ในวันพุธ

    แน่นอน การไปเล่นที่สนามเบ็ท365 สเตเดี้ยม ปะทะทีมของ มาร์ค ฮิวจ์ส ไม่ใช่งานง่ายอยู่แล้ว

    แต่มันก็น่าจะง่ายกว่าเจอ เชลซี ของ อันโตนิโอ คอนเต้ รึเปล่า

^{เหตุดราม่าระหว่างคล็อปป์กับมาเน่}

    หลังจบเกมเราจึงได้เห็นดราม่าเล็กๆ ระหว่าง เจเค กับ มาเน่ ที่มีปากเสียงกัน

    แม้ล่าสุด คล็อปป์ จะออกมาบอกว่าเขาตำหนิดาวเตะเซเนกัลที่ยืนตำแหน่งผิดพลาดเท่านั้น

^{ก่อนเกมคล็อปป์ไปปลอบหลังมาเน่รู้ว่าไม่ได้เป็นตัวจริง}

    แต่ถามว่า มาเน่ มีคิดไหมว่าทำไมตัวเองถึงไม่ได้เป็นตัวจริง มันต้องมีคิดแน่นอนแหละ เพราะก่อนเกมดังกล่าว สีหน้า ท่าทางของปีกกาฬทวีปรายนี้บูดเบี้ยวเป็นตูดลิงแบบชัดเจน

    ชัดจน คล็อปป์ ต้องเรียกมากอดคอปลอบใจกันเลยทีเดียว

    ส่วน สเตอร์ริดจ์ ที่ลงยืนกองหน้าตัวเป้าแทน ฟีร์มีโน่ ไม่ต้องพูดถึง ไร้ประโยชน์สุดๆ หากจะบอกว่าหมดสภาพไปแล้วยังได้

^{ซาลาห์ยิงอีกแล้วจนนำดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก}

    หากไม่มีลูกฟลุคๆ ของ วิลเลี่ยน ที่ย้อยเสียบใต้คานชนิดที่ ซิมง มิโญเลต์ งงเป็นไก่ตาแตก ลิเวอร์พูลก็คงจะเก็บชัยชนะได้จากประตูของดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และการตัดสินใจของ คล็อปป์ ที่เลือกโรเตชั่นทีมก็คงจะได้รับการเชิดชู

    แต่ในเมื่อมันไม่ได้เป็นแบบนี้ คราวนี้เลยเกิดคำถามขึ้นตามมา

    คล็อปป์ ดื้อดึงกับแนวทางความคิดของเขามากเกินไปรึเปล่า?

    ถามผม ผมก็ไม่สามารถบอกได้หรอกว่า สิ่งที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ทำในตอนนี้มันถูกไหม

    ที่แน่ๆ ก็คือ หากค่ำคืนวันพุธนี้ หงส์แดงบุกไปเก็บชัยเหนือเดอะ พ็อตเตอร์ส ได้สวยๆ มันก็คงจะไม่มีปัญหา

    แต่หากดันไม่ได้สามแต้มดังหวัง

    สิ่งที่คล็อป์ดื้อดึงวางหมากโรเตชั่นในเกมสำคัญนัดที่แล้วก็คงสูญเปล่า