หลังคณะผู้บริหาร การท่าเรือ เอฟซี ตัดสินใจยกเลิกสัญญา โชคทวี พรหมรัตน์ อย่างสายฟ้าแลบ พร้อมดัน จเด็จ มีลาภ เฮดโค้ชคู่บุญ กลับมาบังคับหัวเรือต่ออีกคำรบ

“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ แถลงสั้น ๆ ถึงข่าวดังกล่าว พร้อมบอก “โค้ชโชค” ขอบคุณที่ครั้งหนึ่งเคยผูกพัน ได้ร่วมทางการจนสุดหนทาง

บทอำลาคล้ายการ “จบกันด้วยดี” ไม่มีอะไรข้องแวะต่อกัน เหมือนเวลาดาราเกาเหลาหรือ "เตียงหัก" แล้วออกมาสู้แสงแฟลชต่อหน้าสื่อ

แล้วเหตุใดถึงต้องแยกทางกับ โชคทวี ?

ว่ากันที่ผลงาน การท่าเรือ ออกสตาร์ท 4 เกมแรก ด้วยผลงาน ชนะ 3 เสมอ 1 รั้งอันดับ 3 ของลีก ฉะนั้นหากจะปลดด้วยเรื่องนี้ ตีตกไปได้เลย เพราะตารางคะแนนฟ้องอยู่ว่า โชคทวี ไม่ได้สอบตกกับการคุมทัพ “สิงห์เจ้าท่า”

เรื่องการลดภาระค่าใช้จ่ายตามที่สโมสรอ้าง แม้ช่วงนี้ลีกจะปิดหนีโควิด-19 และการปฏิบัติตามกฎหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้หลายสโมสรต้องจ่ายค่าเหนื่อยให้นักเตะโดยไม่มีแมตช์แข่งขัน แต่เศรษฐีคลองเตยอย่าง การท่าเรือ ที่กว้านคว้าซุป’ตาร์มาเสริมทีมมากมาย วันดีคืนดีจะมา “ถังแตก” กะทันหัน จนต้องแยกทางโค้ชเลยเป็นเหตุผลไม่เมกเซนส์เท่าไหร่นัก เพราะอย่างไรคุณเองต้องใช้เงินจ้างทีมงานใหม่อยู่ดี

อย่าลืมนะว่า ช่วงวิกฤตโควิด-19 บริษัทประกัน เกือบทุกเจ้ายอดบวกอย่างถล่มทลาย

ส่วนกรณี “รอยร้าว” ในบ้าน ช่วงต้นฤดูกาลที่เคยมีข่าวหลุดออกมาระหว่างผู้เล่นคนหนึ่ง กับ โชคทวี ทว่าประเด็นนี้ก็เหมือน “เคลียร์ใจ” กันเรียบร้อยแล้ว

คือหากนับกัน “เรื่องฟุตบอล” เพียว ๆ เราไม่เห็นสิ่งใดที่จะเป็น “ปัจจัย” ให้แยกทางกับโค้ชโชคเลย นอกเหนือจากเรื่อง “ภายใน” ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนผ่านตำแหน่ง และอาจยังไม่หลุดมานอกบ้านให้สาธารณชนรับรู้ ซึ่งมีเปอร์เซ็นต์สูงที่จะเป็นประเด็นนี้

อย่างไรก็ตามหลังจากข่าวออกมาไม่นาน โชคทวี ได้ออกมาเปิดใจในเรื่องดังกล่าวว่า สาเหตุดังกล่าวไม่ได้เกิดจากการทะเลาะ หรือมีปัญหากับนักเตะ เพราะหลายคนในทีมเจ้าตัวก็รู้จักมักจี่ดี ตั้งแต่สมัยร่วมงานกันตอนทีมชาติไทย

แต่ปัญหาเกิดจากการ “ขัดใจ” ผู้ใหญ่ในทีม เพราะยอมรับว่าตนเองเป็นคนเอานักเตะเป็นหลัก ตนรู้ว่าใครเล่นได้หรือไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะมีโค้ชไว้ทำไม หรือหากเลือกไปแล้วไม่ดี ทีมแพ้ ตนในฐานะกุนซือก็ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว ซึ่งคิดว่านี่คือประเด็นสำคัญ ที่ทำให้ตนเองถูกปลดออกจากตำแหน่ง

สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือการ “แทรกแซง” งานของกุนซือ ไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการฟุตบอลไทย เพียงแต่หากเป็นดังที่ “โค้ชโชค” เล่ามา ก็น่าสงสัยตรงที่ว่าเหตุใดจึงมาแทรกแซง ในเมื่อผลงานการท่าเรือโมงยามปัจจุบัน ไม่ได้แย่ หรือสะเปะสะปะออกนอกเส้นทาง

ไม่ว่าจะจริงกี่เปอร์เซ็นต์ แต่ โชคทวี ได้ทิ้ง “ระเบิดตูมใหญ่” ตอบสิ่งที่หลายคนสงสัยแบบตรงไปตรงมา หลังเดินออกจากคลองเตย

อยู่ที่ทางฝั่งบอร์ดบริหาร “สิงห์เจ้าท่า” ว่าจะตอบสังคม-แฟนบอลเช่นไร แบบที่ไม่ใช่พลอตเดิม ๆ อย่าง “จบกันด้วยดี”

เพราะหาก “จบกันด้วยดี” แล้วจะ “จบกันทำไม”