แมน : เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาทางสโมสรการท่าเรือ เขาประกาศแยกทางกับ "โค้ชโชค" โชคทวี พรหมรัตน์ เบื้องหลังในการพูดคุยกันเท่าที่ผมได้ข้อมูลมา ในวันนั้นการประชุมก็จะมีทาง "มาดามแป้ง" คุณนวลพรรณ ล่ำซำ, พี่เอ สามีของคุณแป้ง คือ พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ เศวตนันทน์ แล้วก็มีสตาฟฟ์ 3 คนคือ โค้ชโชค, "โค้ชอู๊ด" สราวุฒิ ตรีพันธ์ แล้วก็ "โค้ชเปิ้ล" วรพรรณ ตุ่นต้น ก็ไปนั่งคุยกันเพื่อจะตกลงแยกทาง เหตุผลที่ระบุก็เป็นเรื่องของการจัดการ, เรื่องผลงาน แล้วก็การประหยัดงบประมาณการทำทีมในช่วงที่มีเหตุการณ์ โควิด-19 แต่ว่าหลังจากการแยกทางปั๊บเนี่ย ก็มีสื่อมวลชนโทรหาโค้ชโชค แล้วซึ่งโค้ชโชคเองก็ระบายออกมาค่อนข้างจะร้อนแรงหน่อย และพาดพิงไปถึงการแทรกแซงการทำทีมของมาดามแป้ง มันเลยกลายเป็นประเด็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทั้งๆ ที่ทีมชนะ 3 เสมอ 1 ในไทยลีกยังไม่แพ้ใคร หรือว่าเงินการจ้างโค้ชทำทีม "โค้ชโชค" ได้เงินเดือนประมาณ 3 แสน แต่ว่าในสังคมฟุตบอลไทยในไทยลีก โค้ชไทยที่ได้เงินเดือนประมาณ 3 แสน ก็ไม่ใช่จะหาได้ง่ายๆ ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องของการประหยัด อ๊ะ ตรงนี้ก็เลยอยากจะคุยกับพี่หมอเมา ในฐานะที่เคยเป็นโค้ชฟุตบอลมาก่อน ทั้งกับสโมสรและทีมชาติ อยู่ในวงการมาหลายสิบปี เรื่องของการแทรกแซง จริงๆ แล้วมันรุนแรงร้ายแรงเกินกว่าที่โค้ชจะรับได้ขนาดนั้นเลยจริงหรือเปล่า

หมอเมา : คือที่แมนพูดมาเนี่ย ที่ผมได้ยินก็แทบคนละเรื่องกันเลยนะ เรื่องแรกคนเจรจาไม่ใช่ตามนี้นะ คุณแป้งไม่อยู่นะ คือผมว่าข้อเท็จจริงเป็นยังไงเนี่ยอย่าไปสนใจเลย เรื่องนี้พูดไปแล้วผมใช้คำว่าต่างคนต่างมีเหตุผลแล้วกันนะครับ ในเมื่อไม่มีความสุขกับการที่จะทำงานร่วมกัน วิธีการแยกจากกันมันจะแยกแบบไหน แยกแบบเข้าใจกันหรือว่าแยกแบบว่าแตกหัก ผมมีประสบการณ์มาตอนสมัยผมเนี่ยเลือกผิดกับการที่เป็นหมอฟัน แล้วก็อยากเป็นโค้ชฟุตบอล เดินทางไปอบรมกลับมาเมืองไทย ผมใช้ชีวิตกับการเป็นโค้ชฟุตบอล 15 ปี ผมว่าไม่มีโค้ชคนไหนในเมืองไทยที่พบกับเหตุการณ์ต่างๆ มากมายเท่ากับผม ถามว่าเรื่องของโชคทวี พรหมรัตน์ เนี่ย ถ้าผมมีโอกาสพูดคุยกัน ผมคงจะบอกเตือนน้องว่า ไม่ควรที่ออกมาให้สัมภาษณ์หรือพูดคุย เพราะว่าอะไร การสาดน้ำใส่กันนะ มันไม่มีใครที่จะบอกได้ว่า สิ่งที่คุณสาดน้ำใส่กัน อันไหนถูกอันไหนผิด ทุกคนเห็นใจ แต่ิสิ่งที่เกิดขึ้นคือคุณเปียกทั้งคู่ เรื่องนี้ผมบอกได้ว่ามันมีประเด็นมาตั้งนานแล้วล่ะ ไอเรื่องที่ว่าทางคนจ่ายเงินก็คือมาดามแป้ง กับคนรับเงินคือคุณโชคทวี ในระหว่างที่ตอนเริ่มต้นของการทำเนี่ย ถ้าตอนนั้นใครติดตามข่าว จริงๆ แล้วมาดามแป้งเองก็ไม่ได้ต้องการที่จะเอาโค้ชโชคทวีมาเป็นโค้ชถาวร แต่มันมีประเด็นปัญหาที่อยากจะหาคนมาทำทีมชั่วคราว เผอิญระหว่างที่ทำทีมชั่วคราว ผลงานดี มันก็เลยต่อเนื่องกันมา ทีนี้ถามว่าการทำทีมใหญ่ๆ อย่างการท่าเรือฯ เนี่ย เงินเดือนสูงระดับ 3 แสน ใครๆ ก็อยากทำ เพราะฉะนั้นในระหว่างที่คุณทำเนี่ย คุณอยู่ทีมใหญ่แรงกดดันมันมีสูง 

แมน : ครับ

หมอเมา : ผมยกตัวอย่างให้ฟังนะ มูรินโญ่ ตอนอยู่ปอร์โต้ ตอนนั้นต้นทุนบารมีทำทีม 3 แชมป์ ย้ายจากปอร์โต้ไปอยู่เชลซี โอ้โหทุกคนตอนนั้น มูรินโญ่ จะทำอะไรได้หมด ออกจากเชลซีไปอยู่อินเตอร์ก็ได้แชมป์ จากอินเตอร์มาอยู่ เรอัล มาดริด ก็ได้แชมป์ ชั่วโมงนี้ล่ะ จากเดิมทำทีมใหญ่ๆ มาอยู่แมนฯยูฯ ล้มเหลว ตอนนี้ต้องมาทำทีมสเปอร์ส ล้มเหลวอีก ต้นทุนต่ำแล้ว ไม่เหมือนตอนมาจากปอร์โต้ใหม่ๆ แต่ก่อนพูดอะไรทุกคนฟัง เดี๋ยวนี้ขอโทษนะ พูดอะไร พูดง่ายๆ ว่าเก้าอี้ยังไม่แข็งแรง ผมบอกได้เลยว่าโค้ชไทยไม่มีปากไม่มีเสียงอยู่นาน แต่ถ้าคุณเนี่ยนะครับ คำว่าคุณเก่ง คุณไม่ฟังคนจ่ายเงิน ชีวิตลำบาก ผมบอกได้เลย คุณจะเก่งแค่ไหน แต่ถ้าคุณกล้าหาญมากกับการที่จะพูดถึงเรื่องนู้นเรื่องนี้ ถ้าคุณบอกว่าคุณมีจุดยืน มีอุดมการณ์ อุดมคติ เวลาคนจ่ายเงินพูดอะไร คุณบอกอันนี้ไม่ถูก ชีวิตบอกได้เลยว่า จบชีวิตไอ้เสือร้ายในระยะเวลาอันสั้นๆ 

แมน : คือจะใช้คำว่ายอมหักไม่ยอมงอไม่ได้นะครับ

หมอเมา : ไม่มีล่ะครับ ทั้งหักทั้งงออยู่ไม่ได้ นะ มีอย่างเดียวเวลาจัดตัวเขาพูดยังไง แล้วมันก็เป็นไทป์ของคนจ่ายเงินอยู่แล้ว คนจ่ายเงินเนี่ยส่วนใหญ่แล้วหูเบา

แมน : คือชอบฟังคนรอบตัว

หมอเมา : ไม่ค่อยฟังคนที่แบบว่าคุณเลือกมาหรอก แล้วคนข้างๆ เนี่ยก็อยากที่จะแซะ แซะเพราะอะไร เพราะอยากได้เงินเดือน อยากทำแทน นี่คือประเด็นหลักเลยแมน ไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องอื่นหรอกครับ

แมน : อันนี้คือเนื้อๆ เลยนะครับ

หมอเมา : เนี่ยที่ผ่านมา พอทีมชนะ เห็นมั้ยผมบอกแล้วว่าเนี่ยมันต้องเป็นอย่างนี้ๆๆ พอบอลแพ้ขึ้นมา เห็นมั้ยเฮดโค้ชไม่ฟังเพราะอย่างนั้น ดื้อไม่โน่นนี่ แล้วก็คนที่เป็นเจ้าของเงินนะ ร้อยทั้งร้อย 90 คน หูเบา เอ้าอยากรู้อะไรอีก

แมน : คือผมว่าไม่ใช่แค่ฟุตบอลนะ บริษัททั่วไปก็เป็นนะครับ

หมอเมา : คือไม่ต้องอะ เอาฟุตบอลเนี่ยแหละ เราพูดถึงโชคทวี

แมน : 555 คือต่อให้เก่งแค่ไหน แต่ว่ามันก็ต้องอยู่กับคนจ่ายเงินให้ได้

หมอเมา : โอ้โห ขอโทษนะ ผมเนี่ยมีประสบการณ์ ผมสร้างทีมสินธนามาตั้งแต่วันแรกนะครับ จากเดิมไม่มีอะไร ต้องไปเอาเด็กจากอัสสัมชัญ, เด็กสวนกุหลาบ, เด็กวัดสุทธิ, เด็กเทพศิรินทร์, เด็กกรุงเทพคริสเตียน  ยอมแพ้ 3 ปีถึง 5 ปี ผมบอกเจ้าของทีมว่าเราเนี่ยต้องใช้เวลานะครับ หลังจากนั้นมาทำนู่นทำนี่ พอมาได้แชมป์แรก เอฟเอ คัพ หลังจากนั้นคนเก่งเยอะ โอ๊ย หมอเมาไม่ได้ทำอะไรเลย เย็นมาก็ไม่ได้ทำ ผมนี่อยู่ในสนามตั้งแต่ 4 โมงเย็นถึง 2 ทุ่ม ซ้อมชุดใหญ่เสร็จ สมัยก่อนผมจะซ้อมจะมีชุดใหญ่เป็นชุดเก่ง, ชุดกลาง แล้วก็ชุดเด็ก ชุดใหญ่อย่างพวกที่ผมทำก็เนี่ย ธนัญชัย (บริบาล), เดชา (เกื้อหนุน) พวกนี้เป็นชุดใหญ่ ผมต้องไปดึงนักเตะเก่าๆ ที่เก่งๆ อย่าง อนันต์ พันแสง

แมน : มีอย่างพี่ใหม่ สันติ ไชยเผือก, เสกสรรค์ ปิตุรัตน์

หมอเมา : สันตินี่เป็นเด็กรุ่นจิ๋วผม หมดรุ่น ธนัญชัย, เดชา รุ่นต่อมาก็พวก สบโชค จิตการุณ, เชี่ยวชาญ แพรขุนทด ที่ขึ้นมา แล้วก็ "เจ้าใหม่" (สันติ) เนี่ยอีกรุ่นนึงเป็นรุ่นหลัง หลังจากเจ้าใหม่ก็ยังมี นิเวส ศิริวงศ์ อีก คือเราจะทำทีมมันต้องเป็นอย่างเนี้ย ผมไม่ใช่ว่าผมเก่ง แต่ผมเนี่ยตัดสินใจเลิกรายได้เดือนนึงเป็นแสน เพื่อไปรับเงินเดือนทำเป็นโค้ช ผมบอกได้เลย ตอนที่ผมทำงาน บีอีซี เทโร เงินไม่มากสุด ตอนที่ราชประชาจ้างผมเนี่ยเงินเดือนมากสุด เงินเดือนหลักหมื่น ถามว่าผมเนี่ยผมอยู่สินธนา ทำไมผมออก ผมบอกว่าออกเพราะเจ้าของทีมให้ออก ผมต้องใช้คำว่ามุมมองเรื่องฟุตบอลไม่เหมือนกัน แต่จริงๆ แล้วเนี่ยเขาไล่ออก เพราะเขามีความรู้สึกว่าสิ่งที่ผมทำทั้งหมดคนอื่นสามารถทำได้ นี่ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้น

แมน : ก็แล้วแต่คนจ้าง ว่าพอใจที่จะจ้างเรารึเปล่า

หมอเมา : ราชประชา ตอนที่ผมไปทำ มรว.เจตจันทร์ ประวิตร ตอนนี้ท่านเสียชีวิตแล้ว ท่านเป็นนายที่ผมเรียกว่านาย ภรรยาท่านคือ มล.สุปรียา ผมไปทำคนที่อยู่ใกล้ชิดท่านเห็น แต่ถามว่านักบอลเก่าของราชประชาไม่มีใครชอบ เพ็ญพัฒน์ (วงษ์สวรรค์ นักเตะชาวกัมพูชา) นี่โอ๊ย หมอเมานี่ไม่มีอะไร Nothing ผมเนี่ยไปซ้อมทุกเย็น ศุกร์เย็นไปอยู่ที่ ราชประชา สปอร์ต ชูเล่ มรว.เจตจันทร์ ประวิตร ขับรถคาร์ทมาดูทุกศุกร์-เสาร์ รู้ว่าผมทำอะไร วันที่ผมไปลา ทีมราชประชาตกชั้น ผมบอกผมอยู่ไม่ได้ หม่อมเจตกับคุณหญิงสุปรียาท่านเลี้ยงอาหารเย็นผมแล้วผมไปลาออก ท่านบอกผมว่าหมอเมาไม่จำเป็นต้องลาออกเลย ลาออกทำไม ผมบอกผมรับผิดชอบต่อผลงานในเมื่อผมทำทีมแพ้ผมก็ต้องลาออก เนี่ยทุกวันนี้ผมก็ยังเรียกท่านว่านาย ลูกท่านทั้ง "หม่อมเป๊ป" (พล.ท.ม.ล.สุปรีดี ประวิตร) ทั้งผู้ว่าฯกระบี่ (พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี ประวิตร) เจอหน้าผมก็ยังยกมือไหว้

แมน : ครับ

หมอเมา : ผมไปอยู่บีอีซี เทโร ตอนนั้น อ.วิจิตร (เกตุแก้ว), คุณวรวีร์ (มะกูดี) ให้ผมไปอยู่ผมก็อยู่ แต่ปีสุดท้ายทำเสร็จแล้ว เป็นความพอใจที่เราสองฝ่ายตกลงใจที่จะเลิกทำ ผมหมดไฟ บีอีซี เทโร อยากได้โค้ชใหม่ เพราะว่าโค้ชอย่างหมอเมา โค้ชอย่างธรรมวิทย์ ศิริธรรม เป็นโค้ชที่ปกครองยาก ไม่ชอบไม่ถูกกับนสพ. คนนสพ.ไม่ชอบอยู่ไม่ได้ เนี่ยผมยกตัวอย่างให้ฟัง แต่พอผมยุติแล้ว อย่างโชคทวีไม่มีอะไรมาก คนจ่ายเงินไม่พอใจไม่แฮปปี้ แค่นั้นเอง แล้วทะเลาะกันด้วยการออกมาต่างคนต่างพูด ต้นทุนโชคทวีต่ำกว่าเยอะ เพราะฉะนั้นผมบอกได้เลยว่าอย่างที่น้องแมนพูดอะถูก โชคทวีไปทำทีมไหนตอนนี้ลำบาก เพราะว่าเจ้าของทีมเขาถึงกันหมด แล้วถ้าคุณไปทำทีมแล้วคุณออกมาพูดแบบนี้ สักวันถ้าคุณไปทำทีมอื่น ผมพูดได้เลยว่าน้องโชคลำบาก

แมน : เหมือนกับว่าตอนนี้ต้นทุนยิ่งตกลงไปอีกนะครับ

หมอเมา : แล้วขอโทษนะครับ คุณนวลพรรณ ล่ำซำออกมาโต้แล้ว ออกมาแล้ว ในรายละเอียดที่ออกมาโต้เนี่ยผมอ่านเรียบร้อยแล้ว คุณนวลพรรณบอกเลยว่าในฐานะคนจ่ายเงินเขามีสิทธิ์ ในเมื่อคุณโชคทวีทำทีมที่แข่งเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีกที่แพ้ตก

แมน : แพ้เซเรส เนกรอส

หมอเมา : แล้วก็บอลถ้วยตก

แมน : ไทยแลนด์แชมเปี้ยนส์คัพ

หมอเมา : ในเมื่ออย่างเนี้ย ในฐานะคนจ่ายเงินเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะยกเลิกหรอ คนจ่ายเงินเนี่ยคุณทำผลงานดี เขาพอใจ เขาก็ต่อสัญญาให้เงินคุณแพงขึ้น ในวันที่เขาไม่พอใจ ภาพน่ะเหมือนมองภาพน่ะแมน ในวันที่จูบปากกันรักใคร่กัน มองภาพยังไงก็สวย ในวันที่ไม่ชอบพอกันแล้ว ภาพที่สวยมันก็ดูไม่สวย แต่เรื่องเนี้ย ในเมื่อโชคทวีตัดสินใจออกมาพูดแล้ว ถามผมเนี่ยถ้าเป็นผม ผมจะไม่เอาเรื่องราวเหล่านี้มาเสนอ เพราะว่า ใช่ แต่มันไม่ได้เป็นผลดีกับโชคทวี

แมน : พี่โชคเขาจะมีย้ำอยู่คำนึง ในวันแรกที่เขาให้สัมภาษณ์สื่อว่า "แล้วจะมีโค้ชไปทำไม" คำนี้คนก็จะถามมาเยอะว่า ในเมืองไทยเรา โค้ชทำทีม แต่ว่าเจ้าของทีม คนจ่ายเงิน ก็อยากจะมีความคิดเห็น คนนั้นควรลงมั้ย ทำไมคนนี้ไม่ได้ลง ในมุมของโค้ชก็อยากจะแพ้ก็แพ้ด้วยฝีมือและมันสมองของตัวเอง อะไรแบบนี้

หมอเมา : คนจ่ายเงินประสบความสำเร็จในชีวิตมา มีเงินพอที่จะมาเป็นนายทุนกับการทำทีมฟุตบอล ขอโทษนะ จะไปบอกว่าเขาไม่มีความรู้เรื่องบอล เขาไม่รับหรอก เขาบอกว่าเขาดูมาเยอะ ผมอยู่กับผู้จัดการทีมมากี่คน ผมบอกได้เลย อย่างบางคนเนี่ย เป็นคนที่เรียกว่าอยากทำทีม ใจกล้า อย่างพี่หอย (ธวัชชัย สัจจกุล) เนี่ยผมยอมรับ พี่หอยออกมาพูดเลยว่าผมอยากทำ เฮ้ย! มันสนุกเว้ยไอ้หมอเว้ย ผมรับแกได้ แกลองถูกลองผิด ลองผิดลองถูก แต่แกบอกว่าแกอยากจะทำ แล้วเงินแกนี่ แกจ่ายเงินนี่ แกมีสิทธิ์จะทำ แต่บางคนเนี่ย เสียงดังตังค์ไม่จ่ายก็เยอะแยะในวงการฟุตบอลเมืองไทย อยากเป็นผู้บัญชาการ อยากอยู่เบื้องหลัง แต่ถามว่าเงินจ่ายมั้ย ไม่จ่าย โอ้โหใครฟังรายการวันนี้โชคดีมากเลยนะ นี่ผมพูดเลย มีคำถามอะไรอยากถาม ถาม

แมน : วันนี้มีคนที่เกี่ยวของกับสโมสรฟุตบอลหลายทีมเข้ามาฟังรายการเยอะเลยนะครับ ทั้ง T2, T3 เยอะเลย

หมอเมา :  คุณไม่มีสิทธิ์หรอก นายทุนน่ะเป็นคนกำหนดคุณทั้งหมด ถ้าคุณไม่ทำตามเค้าก็เอาคุณออก คนจะอยู่ได้น่ะ ผมถามนิดนึงว่าสมัยก่อน เอาสโมสรราชประชาเนี่ยแหละ ไปถามคนที่อยู่กับทีมเนี่ย น้ายูร ประยูร (เสชนะ) เนี่ย ไปถามว่า หมอเมา กับ ธรรมวิทย์ ทำงานเต็มที่เกินร้อยมั้ย ในทีมตอนนั้นน่ะโอ้โห เพ็ญพัฒน์ ก็มาโอ๊ยอย่างนี้ไม่ดีโน่นไม่ดี แต่ว่าทุกวันนี้เนี่ย เพ็ญพัฒน์ ตอบในเฟซผมว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา ผมมีอะไรล่วงเกิน ขอโทษ

แมน : อย่างนี้ใช้คำอย่างนี้ได้หรือเปล่าครับว่า การที่เราจะอยู่ในวงการได้อย่างยืดยาวเนี่ย เราต้องรู้จักเอาตัวรอดเป็นยอดดีหรือเปล่าครับ

หมอเมา : ก็ผมบอกแล้ว ใช่ครับพี่ ดีครับผม นะครับ เวลาไปต่างประเทศก็ซื้อของมาฝากสื่อมวลชน คนอย่างนี้อยู่ได้ อย่างหมอเมาอยู่ไม่ได้ เพราะพูดความจริงไง คนพูดความจริงอยู่ไม่ได้หรอกครับ

แมน : อย่างนี้อุดมการณ์ก็อยู่ไม่ได้สิครับ

หมอเมา : อุดมการณ์อยู่ได้ แต่ต้องไปอยู่ในป่า

แมน : โอ๊ยตายแล้วววว แล้วมันจะดีสำหรับวงการโดยภาพรวมมั้ยครับ สำหรับโค้ชฟุตบอลไทยที่เริ่มต้นด้วยอุดมการณ์

หมอเมา : มันต้องค่อยเป็นค่อยไป ผมเนี่ยได้ประสบการณ์ สมัยผมตอนหนุ่มๆ เนี่ย ผมเคยเป็นโค้ชฟุตบอลประเพณี ทำทีมประเพณีจุฬาฯชนะ ผมทำ 3 ครั้ง ชนะ 2 เสมอ 1 แต่ผมต้องยุติ ต้องเลิก เพราะว่าผมไม่ตามใจผู้ใหญ่ นี่เป็นเรื่องที่ผมไม่เคยเล่าเลย แต่ถ้าผมใช่ครับพี่ ดีครับผม ผมเนี่ยจะทำฟุตบอลประเพณีจุฬายาวนานที่สุดจนถึงวันนี้

แมน : ก็กินยาวๆ เลย

หมอเมา : ผมบอกให้ พี่จะเอายังไงแล้วแต่พี่ ได้ครับ อย่างงู้นครับ อย่างงี้ครับ แต่ถามว่าถูกต้องมั้ย ไม่ถูก ไปถามน้องๆ ดิ ตอนคนที่เล่นฟุตบอลประเพณีสมัยผม ภาคภูมิ นพรัตน์ บอลยังไม่ทันจบเลย อีก 15 นาทีบอลจะจบ เดินมาหาผม "พี่หมอไปสั่งโต๊ะรอได้เลย แล้วทีนี้เรานั่งกินกันจนเช้า" เพราะอะไร เพราะเด็กมีความเชื่อมั่นว่าผมทำทุกอย่างเหมือนกันหมด

แมน : คำถามนี้ผมว่าน่าจะแทนใจคนหลายๆ คนเลยนะ เขาบอกว่า ถ้าอย่างนั้น ถ้าไม่ปล่อยให้โค้ชทำงานเต็มที่ ก็ไม่ต้องจ้างโค้ชให้เปลืองสิครับ

หมอเมา : เอ้า ผมถามนิดนึง คนที่เป็นนายทุนน่ะ เขาจะมีเวลา มีคนอย่างพี่หอยที่เช้ามาซ้อมเย็นมาซ้อมมั้ย แล้วขอโทษ เขามีวิธีการ คนที่มีเงินเนี่ย เขาเลี้ยงวัว เขาอยากดูอะไร อยากดูผลงานแค่นั้น แต่ระหว่างการเลี้ยงวัวเขาไม่สนหรอก คนที่จะต้องทำคือใคร โค้ช

แมน : ก็คือมาคุมซ้อม มาทำหน้าที่ไป แต่ว่าตอนแข่งเขาก็อาจจะอยากมีส่วนร่วม อยากรู้ด้วยว่าจัดทีมยังไง

หมอเมา : สมัยก่อนน่ะน้องแมน โค้ชทีมชาติน่ะง่ายมากเลย ซ้อม 4 โมง อ้ะ นักบอลมาถึง อ้ะ เล่นลิง เล่นลิงเสร็จปุ๊บ เป่านกหวีดปรี๊ด อ้ะ วิ่ง 3 รอบสนาม อ้ะ วิ่ง 3 รอบสนามเสร็จ อ้ะกินน้ำเสร็จ อ้ะมีแบบฝึกยิงประตู หรูหราหน่อย ประเภทพาร์ทเดียวแล้วยิงประตู โอ้โหโค้ชไม่เก่ง ต้องส่ง 10 ครั้ง 20 ครั้งแล้วไปจบด้วยการยิงประตู ฝรั่งคนนึงเขาถามผมว่า แล้วระหว่างส่งกัน 20 พาร์ท ถ้ามันผิดสักพาร์ทนึง เริ่มต้นใหม่ เขาบอก คนดูโอ้โห หรูหราจังเลย แบบฝึกนี้ โอ้โห ไปได้จากที่ไหนมาเนี่ย แล้วหลังจากให้เล่นยิงประตู 20 นาที ยิงหมด แบ็คยังต้องยิงเลย ศูนย์หน้า เซ็นเตอร์ยิงหมด มันไม่เกี่ยวข้องกันเลย แต่ไม่เคยแยกซ้อม เสร็จแบ่งข้างเล่น อ้ะ เสร็จมาเล่นเซ็ตอัพ วิ่งสักนิดนึง จบ 

แมน : มีถามมาว่า ผมเอาเป็นในอดีตแล้วกัน นักเตะทีมชาติมีเด็กเส้นเยอะมั้ยครับ ใครฝากมา

หมอเมา : เยอะมาก แต่ละคนมีสัมปทานทั้งนั้นแหละ คนนี้เด็กคนนั้นๆ ผมพูดได้เลยมี เอาอะไรอีกล่ะ แหมวันนี้ของขึ้นเลย อยากพูด

แมน : ปัจจุบันก็ไม่รู้นะ ในอดีตก็รู้ๆ กันนะครับ

หมอเมา : ไม่ต้องหรอก ตอนนี้น่ะผมชื่นชม เนี่ยคนบอกว่าหมอเมาประจบ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผมบอกให้ว่า สมัยบิ๊กอ๊อดทำไม่เคยล้วงลูก ไม่เคยมีชื่อ ก่อนหน้านั้นนะขอโทษนะ ทีมชาติหรอครับ มีแล้ว 4 คนนี้ต้องติด มันมีหมดน่ะครับ อย่าพูดดีกว่า พูดแล้วสะเทือนเยอะ

แมน : มีคำถามมาว่า ในประเทศไทย ในไทยลีกแล้วกัน มีสโมสรไหนที่ให้โค้ชทำงานแบบเต็มร้อยมั้ย คนอื่นไม่เข้ามายุ่งหรือแทรกแซง

หมอเมา : ผมไม่รู้นะสมัยนี้ แต่สมัยก่อนน่ะไม่มีเลย ถามว่ามีก็มีสินธนาตอนยุคคุณมนตรี สุวรรณน้อย น่ะ ให้ผมทำผมสร้างทีม ตอนนั้นน่ะ มนตรีไม่มาเลย มีอะไรก็คุยกัน แต่เผอิญน้องแมนต้องเชื่ออย่างนึง นายทุนทุกคนนะครับหูเบาหมด ไม่มีนายทุนหรือคนรวยคนไหนหูหนักเลย

แมน : ผมว่าถ้าทีมไหนมีที่ปรึกษาเยอะๆ ทีมนั้นไม่ค่อยมั่นคงหรอก สั่นคลอนง่ายมาก

หมอเมา : ทุกคนอยากเป็นเจ้าของความสำเร็จ ทุกคนอยากบอกว่า เนี่ยเวลาบอลชนะ โอ๊ยผมบอกแล้วว่าเด็กคนนี้เล่นดี เห็นมั้ยล่ะฟุตบอลน่ะ... แต่เวลาแพ้ โค้ชไม่ได้รู้เรื่องเลย มันเป็นอย่างนี้

แมน : มีอยู่ทีมนึง ผมขอไม่เอ่ยชื่อนะครับ เป็นทีมระดับไทยลีกที่เปลี่ยนโค้ชบ่อยมาก แล้วก็วนโค้ชบ่อยๆ วนกลับมาเนี่ย มีโค้ชคนนึงเคยเขาเล่าให้ผมฟังว่า ในวันที่ทีมแพ้ คนที่เป็นผู้ช่วย เป็นที่ปรึกษา เป็นประธานเทคนิคอะไรต่างๆ เนี่ย พากันไปพูดกับประธานสโมสรว่าโค้ชคนนี้ไม่ผ่าน แต่วันที่ทีมชนะ โอ๊ยดี ชมนู่นนี่นั่นนะฮะ

หมอเมา : ใช่ครับพี่ ดีครับผม ถูกต้องแล้วครับ

แมน : แล้ววันที่แพ้สัก 2-3 นัดติดเนี่ย โค้ชอยู่ไม่ได้ ตอนนั้นความเป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้อง คือหักกันหมดเลย เพราะทุกคนอยากเป็นโค้ชใหญ่หมด

หมอเมา : ฆ่าน้อง ฟ้องนาย ขายเพื่อน เอาอะไรล่ะน้องแมน แมนรู้จักผมมานาน ผมเนี่ยยืนซดกับคนเยอะมาก ไม่ใช่เก่ง ผมรอดมาทุกวันนี้ก็เพราะว่าอะไร ผมแผ่เมตตา แล้วก็นั่งดูว่า เวรกรรม กฎแห่งกรรมน่ะมันมีจริงนะครับ แหม่เวลามันน้อย ต้องมีสัก 2 ชั่วโมงถึงจะพอ

แมน : เวลาที่คุยกันสนุกๆ เวลามันผ่านไปเร็วจริงๆ ครับ วันนี้เวลาหมดแล้วนะครับ เรา 2 คนและทีมงาน FM106 Mhz ต้องขอลาไปก่อนนะครับ พบกันใหม่โอกาสหน้า สวัสดีนะครับ

หมอเมา : สวัสดีครับ

ถ้าชอบก็กดไลค์ ถ้าใช่ก็กดแชร์ กันด้วยนะครับ (แมน โกสินทร์)