:::     :::

ตราหมี ว่าที่แชมป์ ?

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ผลเสมอ 0-0 ที่จังหวัดบิคตอเรียของ เรอัล โซเซียดาด ส่งผลให้ตำแหน่งจ่าฝูง ลา ลีกา เปลี่ยนมือแล้วนะครับ แอตเลติโก มาดริด ขึ้นนำเดี่ยวด้วยการมี 26 แต้มจาก 10 นัด แซงทีมของ อิมานอล อัลกวาซิล ไป 1 แต้ม แถมยังมีเกมในมืออีกถึง 2 นัด

       นอกจากนี้ แอตเลติโก ยังทิ้ง เรอัล มาดริด 6 แต้ม โดยแข่งน้อยกว่า 1 นัด และทิ้ง บาร์เซโลน่า 12 แต้ม โดยที่แข่ง 10 นัดเท่ากัน 

จากผลพวงตรงนี้ สื่อสเปนจึงเริ่มพูด-เขียนถึงทีมของ โชโล่ ซิเมโอเน่ ในเรื่องการคว้าแชมป์อย่างจริงจังแล้ว ไม่เพียงแค่แคนดิเดต แต่เป็นเต็งหนึ่ง เป็นทีมที่มีโอกาสคว้าแชมป์มากที่สุด  

ปาโก กอนซาเลซ บ.ก.รายการ Tiempo de Juego รายการลูกหนังดังออกอาการทางสถานีสิทยุ onda cero  ดูจะมั่นใจกว่าใคร เขายกให้ แอตเลติโก เป็นแชมป์ไปแล้ว 


"ณ วันนี้ แอตเลติโก ไม่ใช่แคนดิเดต ไม่ใช่ตัวเต็ง แต่พวกเขาคือแชมป์" 

ในเชิงตัวเลข มีการยกเอาผลงาน 10 นัดแรกใน 2 ฤดูกาลหลังสุดที่ แอตเลติโก คว้าแชมป์ ลา ลีกา มาเปรียบเทียบ 

ฤดูกาล 1995-96 แอตเลติโก ภายใต้การนำของ ราโดเมียร์ อันทิช กุนซือผู้ล่วงลับ เก็บไป 26 แต้ม จาก 10 นัดแรก ด้วยผลงานชนะ 8 เสมอ 2 ลงเอยเป็นแชมป์ด้วยการเก็บไปทั้งสิ้น 87 คะแนน (ชนะ 26 เสมอ 9แพ้ 7) 

ฤดูกาล 2013-14 ซึ่งคุมโดย โชโล่ เอง 10 เกมแรก เก็บไป 27 แต้ม โดยชนะ 9 เสมอ 1  ลงท้ายเป็นแชมป์ด้วยการเก็บไป 90 คะแนน (ชนะ 28 เสมอ 6 แพ้ 4)




           ดูจากสถิติตัวเลขแล้ว แสดงให้เห็นว่า แอตเลติโก ชุดปัจจุบันกำลังเดินอยู่บนเส้นทางและในโมเมนตัมเดียวกับชุดแชมป์ทั้ง 2 ฤดูกาล จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้คนจะพากันมองว่าพวกเขามีโอกาสสูงมากในซีซั่นนี้ 

กับ เรอัล โซเซียดาด ซึ่งเป็นทีมที่อยู่ใกล้กับ แอตเลติโก มากที่สุด ด้วยความเคารพ ผมไม่ได้มองว่าพวกเขามีลุ้นอะไรจริงจัง แม้จะมีกลุ่มนักเตะฝีเท้าดี หนุ่มแน่น ทั้งไอเดียในการเล่นก็ยังน่าสนใจ หากแต่ด้วยประสบการณ์และขนาดทีม ก็เชื่อว่าระยะยาวเมื่อเสียดสีกันแล้วเปรียบเป็นมวยคงยืนไม่ครบ 12 ยก  


ผมเองก็ไม่ต่างจากแฟนบอลทั่วไปที่ยังมองว่าสุดท้ายแล้ว เรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลน่า ก็จะกลับมาสู่เส้นทางลุ้นแชมป์จนได้ ทว่าหนนี้อาจแตกต่างออกไป ตรงที่ว่าพวกเขาต้องเป็นฝ่ายไล่ล่า แอตเลติโก   

ข้อสำคัญที่ทำให้ทุกคนหันมามอง แอตเลติโก อย่างจริงจัง ก็คือความได้เปรียบในเรื่องของจำนวนนัดที่ลงสนามและแต้มที่หนีห่างจากคู่แข่งสำคัญอย่าง เรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลน่า 


มองที่ตัวเลขบนตารางคะแนน มันสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า แอตเลติโก คือทีมดีกว่าใคร  หากแต่ลึกลงไปแล้ว และผมมองว่าสำคัญกว่าอันดับก็คือ 'ความสม่ำเสมอ' 

เรอัล มาดริด ก็มีวันที่เล่นดี , บาร์เซโลน่า ก็มีวันที่พวกเขาท็อปฟอร์ม ในบางนัดเกมรุกของ 2 ทีมนี้ ดุดันเฉียบขาดกว่า แอตเลติโก เยอะ แต่ปัญหาคือทั้งคู่ไม่สามารถรักษามาตราฐานของตัวเองเอาไว้ได้ 

ในส่วนของ แอตเลติโก หากดูจากผลงานในฤดูกาลปัจจุบัน 10 นัดแรก อาจมองได้ว่าเป็นแค่ฟอร์มที่พุ่งขึ้นมาชั่ววูบนึง ทว่าเมื่อย้อนกลับไปเมื่อถึงฤดูกาลที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ว่าพวกเขาอยู่ในเส้นทางของตัวเอง เดินอยู่บนมาตราฐานความสม่ำเสมอนี้มาพักใหญ่ๆแล้ว 

1 กุมภาพันธ์ ปีนี้ ในเกม ลา ลีกา นัดที่ 22 แอตเลติโก บุกไปแพ้ เรอัล มาดริด 0-1 จากประตูโทนของ คาริม เบนเซม่า ในนาทีที่ 56 

นั่นคือความพ่ายแพ้หนสุดท้ายของพวกเขา เพราะหลังจากนั้น แอตเลติโก ก็ไม่แพ้ใครอีกเลยจนจบฤดูกาล รวมทั้งหมด 15 นัด แบ่งเป็นชนะ 8 เสมอ 7 ซึ่งเมื่อรวมกับฤดูกาลปัจจุบันเท่ากับว่า ไร้พ่ายใน ลีกา มา 25 นัดแล้ว โดยชนะ 16 เสมอ 9 


ตรงนี้มันชัดเจนเลยนะครับว่าพวกเขาสม่ำเสมอมานานแล้ว ซึ่ง'ความสม่ำเสมอ' นั้น เป็นที่รู้กันดีว่าคือคุณสมบัติสำคัญของแชมป์ลีก 

"ในวันที่เล่นดี ก็ชนะคู่ต่อสู้อย่างสวยงาม" 

"ในวันที่เล่นได้กลางๆ ก็จะเชือดคู่แข่งไปได้"

"และในวันที่ย่ำแย่ ก็จะยังชนะ หรืออย่างน้อย มีแต้มติดมือ" 


ถามว่า ในขณะที่ เรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลน่า ผลงานแกว่งเป็นลูกตุ้ม แล้ว แอตเลติโก สร้างมาตราฐานนี้ขึ้นมาได้อย่างไร ?

ส่วนตัว ผมมองว่าเป็นผลต่อเนื่องจากการลงตลาดนักเตะเมื่อซัมเมอร์ปีที่แล้ว 

ซัมเมอร์ 2019 เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับ แอตเลติโก พวกเขาสูญเสียแข้งแกนหลักออกไปพร้อมๆกันถึง 6 คน กริซมันน์,ลูกัส เอร์นานเดซ,ดีเอโก้ โกดิน,โรดรี้,ฆวนฟราน และ เฟลิเป้ หลุยส์ 

ทำให้สโมสรต้องทุ่มเงินกวาดนักเตะเข้าสู่ทีมมากมาย ตั้งแต่ ชูเอา เฟลิกซ์,มาร์กอส ยอร์เรนเต้,เฟลิเป้,เอคตอร์ เอร์เรร่า,คีแรน ทริปเปียร์,เรนาน โลดี้,มาริโอ เอร์โมโซ่ 


ดูจากชื่อชั้นของแข้งที่เข้ามาแทนแล้ว ทุกคนมองว่า แอตเลติโก มีการซื้อที่ยอดเยี่ยม ทว่าผลงานของทีมกลับไม่เป็นอย่างที่หวัง 

แอตเลติโก เป็นทีมที่ดี มีนักเตะที่ดี แต่พวกหน้าใหม่ยังต้องเรียนรู้ระบบ และอะไรอีกหลายๆอย่างของทีม นั่นทำให้พวกเสียแต้มให้ทีมอย่าง อลาเบส,เซลต้า บีโก้,กรานาด้า และแพ้ทีมอย่าง เออิบาร์ , เก็บได้เพียง 2 แต้มจาก 4 นัดที่ดวลกับคู่แข่งลุ้นแชมป์อย่าง เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า 


นอกจากนี้ยังมช่วงแกว่งแบบสุดๆ จนโดนทีมดิวิชั่นต่ำกว่าอย่าง กูลตูรัล เลโอเนซ่า เขี่ยตกรอบโกปา เดล เรย์ 

เอาจริงๆ การที่ โชโล่ พา แอตเลติโก จบอันดับ 3 เมื่อซีซั่นที่แล้วได้นั้น ส่วนตัวผมคิดว่ามันเป็นผลงานที่สุดยอดเอามากๆ ไม่แพ้ที่ ซีดาน พา เรอัล มาดริด ชนะรวด 10เกมคว้าแชมป์ เพราะทีมของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย เขามีอะไรที่ต้องปรับต้องแก้เต็มไปหมด มันเป็นการทำงานที่หนักเอามากๆ ซึ่งรวมแล้วมันใช้เวลาอยู่ราว 7 เดือนด้วยกัน ซึ่งผมว่ามันน้อยนะ 

จนมาถึงซัมเมอร์ปีนี้ แม้ทีมจะเสียกำลังสำคัญในแดนกลางอย่าง โตมัส ปาร์เตย์ ไป แต่ก็ยังได้ หลุยส์ซัวเรซ,ลูกัส ตอร์เรร่า และ จอฟเฟร่ ก็องด็อกเบีย เข้ามา 


2 คนหลังทำให้ โชโล่ มีตัวเลือกในแดนกลางมากขึ้น แม้ในแง่ควอลิตี้จะยังไม่สามารถบอกได้ว่า "ดีกว่าหรือเทียบเท่า" ทว่ากับการมาของ หลุยส์ ซัวเรซ คือการยกระดับอย่างแท้จริง 

สาเหตุนึงที่ แอตเลติโก ถูกมองเป็นพระรองมาตลอด ก็เพราะว่าพวกเขามักพลาดในเกมสำคัญ เกมที่ชี้เป็นชี้ตายอยู่เสมอ เข้าชิงแชมเปี้ยนส์ลีก 2 ครั้ง ก็เสร็จให้ เรอัล มาดริด ทั้งๆที่เกมไม่ได้เป็นรองเลย หรืออย่างนัดชิงซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า ที่ ซาอุฯ เมื่อมกราคมที่ผ่านมาก็ยังโดน มาดริด ย้ำแค้นได้แค่รองแชมป์


ใน ลา ลีกา ก็แพ้ บาร์ซ่า แพ้ เรอัล มาดริด ดีที่สุดก็คือยันเสมอ 

มันอาจไม่ใช่คำตอบทั้งหมด แต่ผมมองว่ามันใกล้เคียงมากๆ สำหรับการมาของนักเตะที่เปี่ยมประสบการณ์อย่าง ซัวเรซ ที่เข้ามายกระดับเกมรุก เพิ่มจำนวนประตูให้กับ แอตเลติโก และที่เหนือกว่านั้นคือเมื่อถึงเกมใหญ่ สัญชาตญาณของดาวยิงอุรุกวัยจะช่วยทีมได้แน่ 

จากจุดนี้ เมื่อผู้เล่นหน้าใหม่จากซีซั่นก่อนเริ่มลงตัว เมื่อรวมกับพื้นฐานเกมรับที่ยอดเยี่ยมเป็นทุนเดิม จึงทำให้ แอตเลติโก กลายเป็นเครื่องจักรเก็บแต้ม เป็นทีมที่มีมาตราฐานคงเส้นคงวาที่สุด 


ขณะที่ เรอัล มาดริด กำลังมีปัญหาแกนหลักโรยรา หลายคนเลยช่วงพีคไปแล้ว และขาดการเสริมทัพอย่างที่เคย ในส่วนของ บาร์ซ่า ก็มีปัญหารุมเร้าจากภายใน เปลี่ยนแปลงเทรนเนอร์ถึง 3 คนในช่วงไม่กี่เดือน มันเป็นเวลาเดียวกันที่ แอตเลติโก เติบโตขึ้นเรื่อยๆ กำลังถึงพร้อมในคุณสมบัติของ แชมเปี้ยน  

แม้ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะบอก แต่จากทิศทางแล้วคงต้องยอมรับว่าไม่ใช่ก็ใกล้เคียง ณ วันนี้ แอตเลติโก มาดริด คือเต็งหนึ่งแชมป์ ลา ลีกา ฤดูกาลนี้ อย่างไร้ข้อกังขา 

เจมส์ ลา ลีกา


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด