:::     :::

เห็นอะไรจากเกมแรกของ โธมัส ทูเคิ่ล

วันศุกร์ที่ 29 มกราคม 2564 คอลัมน์ สนามเด็กเล่น โดย เสือเตี้ย
1,080
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
จะบอกว่าน่าผิดหวังก้อาจจะบอกอย่างนั้นได้กับเกมประเดิมคุมทีมนัดแรกของ โธมัส ทูเคิ่ล ที่จบลงด้วยการได้เพียงแค่ 1 คะแนนเท่านั้น

กับการเจอคู่แข่งที่ไม่ได้แข็งอะไรมากอย่าง วูล์ฟแฮมป์ตัน ด้วยศักยภาพที่เหนือกว่าอย่างน่าน่าจะมีประตูมาฝากพร้อมกับสามคะแนนสักหน่อย

แต่ก็เข้าใจกับการคุมทีมนัดแรกและเพิ่งมีเวลาซ้อมร่วมกันเพียงแค่วันเดียวก็คงจะต้องเรียนรู้กันก่อน

จากรูปเเกมที่เหนือกว่าชัดเจนซึ่งมั่นแน่นอนอยู่แล้วก็ดูจะเป็นนิมตรหมายอันดีของทีมกับการเริ่มต้นใหม่อีกครั้งในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง

ส่วนในเกมนี้ถือว่ามีอะไรหลายอย่างที่น่าสนใจลองไปดูกันว่าจะมีอะไรกันบ้าง

เปลี่ยนแปลงสไตล์การเล่น


โธมัส ทูเคิ่ล ถือว่าออกสตาร์ทเกมแรกด้วยระบบการเล่นที่ถือว่าเซอร์ไพรส์ทีเดียวกับการเล่นในระบบ 3-4-2-1 จากปกติที่เล่นกองหลังแบบ 4 คน

มันอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ของนักเตะ เชลซี เพราะที่ผ่านมาก็มีหลายเกมที่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เล่นในระบบนี้มาก่อน 

สามเซนเตอร์ทั้ง เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, ติอาโก้ ซิลวา และ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ แทบจะไม่ขยับดันขึ้นมาสูงเลย ปล่อยให้เกมรุกเป็นหน้าที่ของบรรดาแข้งริมเส้นและพวกแนวรุกไป โดยมี จอร์จินโญ่ กับ มาเตโอ โควาซิช ปักหลักตรงกลาง ส่วนแนวรุก คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ขยับมาเล่นวิงแบ็คขวา ส่วนทางซ้ายเป็น เบน ชิลเวลล์ โดยมี ฮาคิม ซิเย็ค กับ ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่ถูกดันขึ้นไปยืนสูง กองหน้าเป็น โอลิวิเยร์ ชิรูด์

สัญญาณถือว่าดูดีเลย เพียงแต่จุดที่ขาดหายไปคือความคล่องตัวในแดนหน้าที่ไม่ใช่สไตล์ในแบบของ ชิรูด์ ต้องรอดูเกมถัดไปว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่

ทิโม แวร์เนอร์ กับเกมแรกที่ไม่ได้เล่น


นับตั้งแต่ออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ ทีแค่เกมเดียวเท่านั้นที่ ทิโม แวร์เนอร์ ไม่ได้ลงสนาม เกิดขึ้นในเกมคาราบาว คัพ ตั้งแต่ 23 กันยายนกับ บาร์นสลี่ย์ ซึ่งเหนือกว่าเยอะอยู่แล้วเลยไม่ต้องลง 

เบ็ดเสร็จลดาวยิงทีมชาติเยอรมันสนามไปแล้วถึง 28 เกมทุกรายการ ทำไป 9 ประตูกับ 6 แอสซิสต์ ซึ่งหากมองจากตัวเลขก็ไม่ได้ขี้เหร่ แต่หากได้ดูเกมอยู่เสมอต้องบอกว่าหลายครั้งเจ้าตัวผลงานน่าผิดหวัง

เป็นระยะเวลานานมากกว่า 2 เดือนครึ่งแล้วที่ แวร์เนอร์ ทำประตูไม่ได้ แม้จะมีแอสซิสต์บ้างประปราย แต่สิ่งที่แฟหนบอลบอยากเห็นมากกว่าก็คือประตู

ส่วนหนึ่งในการตั้ง โธมัส ทูเคิ่ล คุมทีมก็คือการเค้นศักยภาพของสองแข้งชาวเยอรมันทั้ง แวร์เนอร์ และ ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่โดนวิจารณ์อย่างหนัก

เกมนี้เป็นตัวสำรองไม่ถูกส่งลงเล่น แต่น่าจะเป็นการพักให้หายใจหายคอกันหน่อยหลังฝืดมาติดๆ ยังไงก็น่าจะยังเป็นคนสำคัญอยู่แล้ว

การผ่านบอลที่โดดเด่น

        

การผ่านบอลสำเร็จ 433 ครั้งในครึ่งแรกแค่ครึ่งเดียว ทำให้ เชลซี เป็นทีมแรกในรอบกว่า 16 ปีที่ทำตัวเลขแบบนี้ขึ้นมาได้

เทียบกับยุคของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เกมดูจะพุ่งทะยานไปข้างหน้ามากกว่า การผ่านบอลจะเน้นที่การกินแดนคู่แข่งไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะจังหวะสวนกลับ

กับเกมล่าสุดต้องยอมรับว่าตัวเลขที่ออกมานั้นไม่ได้สร้างอันตรายให้กับคู่แข่งมากนัก เน้นที่การเก็บบอลให้อยู่ในการครอบครองของทีมมากกว่า

นี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ โธมัส ทูเคิ่ล กำชับลูกทีมไม่ให้เสียบอลง่าย ซึ่งทั้งเกมทีมผ่านบอลสำเร็จถึง 820 ครั้ง ครองบอลที่ 78.9 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าเป็นสถิติสูงที่สุดของกุนซือที่คุมเกมนัดแรกในพรีเมียร์ลีกเลย

แต่สิ่งที่ขาดไปอย่างเดียวคือการเข้าทำและเจาะตาข่ายได้เท่านั้น แต่ก็มองว่าเป็นเรื่องดีๆละกัน แค่เกมแค่ก็ได้สถิติในแง่บวกไปครองแล้ว

ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่ดูสดใสมากยิ่งขึ้น

        

ถ้าจะให้จิ้มว่านักเตะคนไหนผลงานน่าผิดหวังมากที่สุดในทีม เชลซี ซีซั่นนี้ต้องบอกว่าชื่อของ ไค ฮาแวร์ตซ์ คงจะอยู่ในอันดับต้นๆแน่นอน

5 ประตูจาก 25 เกม หากไม่นับแฮตทริคในเกมคาราบาว คัพกับ บาร์นสลี่ย์ เท่ากับว่าแข้งทีมชาติเยอรมันเพิ่งทำได้แค่ 2 ประตูเท่านั้น หนึ่งเกิดขึ้นในพรีเมียร์ลีก และอีกหนึ่งในเอฟเอ คัพ

ว่ากันตามตรงแล้วแทบไม่มีเกมไหนที่แข้งวัย 21 ปีจะทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจเลยก็ว่าได้

กระทั่งในเกมล่าสุดกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ภายใต้การคุมทีมของเจ้านายคนใหม่ นี่ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือนเลยที่ ฮาแวร์ตซ์ ลงเล่นในพรีเมีย์ลีกเต็ม 90 นาที

ฟอร์มการเล่นในเกมนี้ก็ดูมีชีวิตชีวาทีเดียว โดยเฉพาะการสอดเข้าเขตโทษโดยไม่มีบอลหรือวิ่งทำทางในแบบที่เราเห็นกันมาตั้งแต่สมัยค้าแข้งกับ เลเวอร์คูเซ่น

การมาถึงของ โธมัส ทูเคิ่ล อาจจะเป็นการเค้นศักยภาพเหมือนสมัยค้าแข้งในเยอรมันของ ทูเคิ่ล ออกมาได้อีกครั้ง ซึ่งมันไม่เกิดขึ้นเมื่อครั้ง แฟร้งค์ แลมพาร์ด คุมทีม

โอกาสคว้าท็อปโฟร์


อย่างที่จั่วหัวเอาไว้ว่าผลเสมอในเกมนี้ถือว่าน่าผิดหวังแม้จะเป็นการคุมทีมเกมแรกของ โธมัส ทูเคิ่ล ก็ตาม แต่การเจอกับคู่แข่งที่ศักยภาพต่ำกว่าแถมอยู่ในบ้านด้วย

หนึ่งคะแนนในนัดนี้ทำให้ทีมเก็บเพิ่มเป็น 30 คะแนนเท่านั้นรั้งอันดับ 8 ตามหลังพื้นที่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกอยู่ 5 คะแนน ซึ่งอาจจะไม่มาก แต่หากเจาะลึกไปมากกว่านั้นต้องบอกว่าน่าเป็นห่วง

เชลซี ลงเล่นไปแล้ว 20 เกม ในขณะที่อันดับที่สูงขึ้นไปอย่าง เอฟเวอร์ตัน และ สเปอร์ส ที่มีแต้มเหนือกว่า 3 แต้ม แต่แข่งน้อยกว่าถึง 2 นัด ในขณะที่ ลิเวอร์พูล มีแต้มเหนือกว่า 4 คะแนนและแข้งน้อยกว่า 1 เกม

และยิ่งเห็นฟอร์มการเล่นของ อาร์เซน่อล ที่คว้าชัยชนะอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ทำแต้มขึ้นมาเท่ากันแล้ว แถมกำลังเล่นด้วยความมั่นใจด้วย

โธมัส ทูเคิ่ล ต้องพาทีมกลับมาทำผลงานให้ดีโดยเร็วที่สุด เพื่อทำให้ได้ตามเป้าเป็นอย่างน้อยก็คือคว้าตั๋วไปเล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกให้ได้

เกมต่อไปบุกไปเยือน เบิร์นลี่ย์ ยังไงต้องสามแต้มเท่านั้น ก่อนที่จะต้องทำศึกใหญ่กับ สเปอร์ส ในนัดต่อจากนั้น


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด