:::     :::

น้องใหม่แห่งศึก "ไทยลีก2021"

วันอังคารที่ 30 มีนาคม 2564 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
2,728
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
สัปดาห์ที่ผ่านมา ไทยลีก 2021-2022 ได้ต้อนรับ 2 น้องใหม่เป็นที่เรียบร้อย นั่นคือ หนองบัว พิชญ และ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ต้องบอกว่าทั้ง 2 ทีม กว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ มีสตอรี่ที่น่าสนใจในแง่ของประวัติศาสตร์การก่อตั้งสโมสรไม่น้อยเลยทีเดียว รวมทั้งการได้แรงสนับสนุนที่ยอดเยี่ยมจากทางสโมสร ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้นไปชมกันเลย

ความเป็นมา

หนองบัว พิชญ ถือว่าอยู่ในจังหวัดที่มีพื้นที่เล็กสุดอันดับ 3 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แถมยังมีเขตแดนติดกับ 3 จังหวัดใหญ่ที่มีความเจริญ ทั้ง อุดรธานี, ขอนแก่น, เลย โดยสโมสรก่อตั้งขึ้นในปี 2010 ในชื่อ กฟผ. หนองบัวลำภู ยูไนเต็ด และส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันในลีกภูมิภาค ดิวิชัน 2 ฤดูกาลดังกล่าว 

ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น หนองบัวลำภู เอฟซี ในฤดูกาล 2011 และลงแข่งขันภายใต้ชื่อนี้จนถึงฤดูกาล 2014 สุเทพ ภู่มงคลสุริยะ ผู้เป็นเจ้าของวิทยาลัยพิชญบัณฑิต ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาเอกชนในจังหวัดหนองบัวลำภู รวมไปถึงสถาบันอื่นๆในเครือ ได้เข้ามาเป็นผู้บริหารคนใหม่ จึงได้เปลี่ยนโลโก้และชื่อสโมสรเป็นหนองบัว พิชญ  



พวกเขาใช้เวลาเรียนรู้ความผิดพลาดทุกอย่าง ก่อนที่จะมาประสบความสำเร็จปี 2017 จะก้าวมาอยู่ลีกพระรอง และมีอีก 4 ฤดูกาลได้ก้าวมาเล่นในลีกสูงสุดของเมืองไทย โดยมี "มาดามจอย"กฤษยา ภู่มงคลสุริยา รองประธานสโมสร ช่วยสนับสนุน ทั้งารสร้างรังเหย้าใหม่มูลค่า 50 ล้านบาท พร้อมกับดึงแข้งเกรดดีๆเข้ามาสู่ทีม

ด้าน เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ถือกำเนิดจากความฝันในวัยเด็กของ "สว.ก๊อง"ชูชัย เลิศพงศ์อดิศร ชื่นชอบกีฬาฟุตบอล และให้ความสำคัญกับการออกกำลังกาย จนวันหนึ่งตัดสินใจมาทำทีมฟุตบอลอาชีพ เป็นตัวแทนคนเชียงใหม่ เพราะหมดวาระจากตำแหน่งวุฒิสมาชิก


ซึ่งเริ่มต้นจาก “ทีมช้างเผือก เชียงใหม่” เมื่อ 5 ปีก่อน จากนั้นได้เปลี่ยนชื่อเป็น “สโมสรฟุตบอลเจแอล เชียงใหม่ ยูไนเต็ด” จนคว้าแชมป์ไทยลีก 4 ตอนบน ได้สิทธิ์เข้ารอบแชมเปี้ยนส์ลีกและเลื่อนชั้นสู่ ไทยลีก 3 แถมเคยได้ที่ 3 ร่วมกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ใน เอฟเอ คัพ 2017

และสุดท้ายในฤดูกาล 2020 มาใช้ชื่อ "เชียงใหม่ ยูไนเต็ด" ซึ่งทะยานมาอยู่ในลีกรองได้เข้าสู่ขวบปีที่ 2 ซึ่งความตั้งใจของพวกเขาก็สัมฤทธิ์ผล หลังจากดึงแข้งฝีเท้าเยี่ยมๆเข้ามาสู่ทีม พร้อมกับการบริหารงานแบบมือาชีพ ทำให้จบด้วยการตีตั๋วขึนลีกสูงสุด ด้วยระยะเวลาที่แสนสั่นในการก่อตั้งสโมสร


กุนซือฝีมือฉมัง

ด้วยเป้าหมายที่ชัดเจนของ หนองบัว พิชญ ที่อยากจะเป็น "เต้ย" แห่งไทยลีก 2 ทำให้พวกเขาเริ่มต้นซีซั่นด้วยการดึง "น้าฉ่วย” สมชาย ชวยบุญชุม ที่เพิ่งแยกทางกับ ศรีสะเกษ เอฟซี เข้ามาเป็นแม่ทัพคนใหม่ หลังจากผ่านประสบการณ์ทุกอย่างในสารบบของวงการฟุตบอลไทย


อดีตดาวเตะ การท่าเรือ เอฟซี และทีมชาติไทย เคยคุมทีมอย่าง สมุทรสงคราม เอฟซี หรือ "ปลาทูคะนอง" ที่เรารู้จักกัน ก้าวจากดิวิชั่น 1 (เดิม) ขึ้นมาสู่ไทยลีก พร้อมกับสร้างปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่ หลังจากต่อกรบรรดาบิ๊กทีมอย่างสนุก จนเคยไปคุม "ช้างศึก" ยู 19 ปี 2011 โดยรอบคัดเลือกเราเป็นเจ้าภาพ เพื่อไปแข่งขันรอบสุดท้ายปี 2012

ซึ่ง "น้าฉ่วย" ก็คุมทีมอย่างยอดเยี่ยม ทั้งเอาชนะ เกาหลีใต้ และเสมอญี่ปุ่น คว้าแชมป์กลุ่มไปครอง ชนิดหักปากกาเซียน พร้อมกับการแจ้งเกิดของผู้เล่นอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ปกรณ์ เปรมภักดิ์ , ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ และ ภิญโญ อินพินิจ ก่อนไปตกรอบสุดท้าย พลาดไปแข่งเยาวชนโลกในที่สุด

ขณะที่ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด เริ่มต้นด้วยการใช้ คาร์ลอส เอดูอาร์โด้ ปาร์เรร่า ที่พา เชียงใหม่ เอฟซี เลื่อนชั้นไปเล่นในไทยลีก 2019 แต่เมื่อไทยลีก 2 ผ่านไป 12 นัด ชนะ 7 เสมอ 4 แพ้ 1 มี 25 คะแนน รั้งตำแหน่งรองจ่าฝูง ของตารางคะแนน เจ้าตัวกลับขอลาออกไป เพื่อไปเป็นผู้ช่วย อเล็กซานเดร กามา ที่คัมแบ็คสู่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด


ทำให้พวกเขาต้องการคนที่มีประสบการณ์ และก็เป็น เดนนิส อมาโต้ กุนซือเลือดเยอรมันผู้เคยพิชิตโทรฟี่แชมป์ไทยลีก 2 กับ ชัยนาท ฮอร์นบิล เมื่อปี 2017 เข้ามาทำทีม ด้วยปรัญชาที่ให้โอกาสกับทุกคนลงสนาม แต่จะดูผลงานว่าใครจะเป็น 11 ตัวจริงในการฝึกซ้อม 

นี่คือสิ่งที่เขาชนะใจนักเตะทุกคน เพราะถ้าทำผลงานในการซ้อม หรือตรงตามแท็คติคที่วางไว้ ก็จะได้รับโอกาสในการลุยตัวจริง กระทั่งทีมสามารถพิชิตตั๋วทะยานสู่ไทยลีกได้สำเร็จ ส่วนจะสร้างประวัติศาสตร์เถลิงบัลลังก์โทรฟี่ลีกรองได้เป็นหนที่สองในชีวิตหรือไม่ ต้องติดตามแบบสายตาห้ามกระพริบ


การซัพพอร์ตจากผู้บริหาร

ด้วยความเป็นคนพื้นเพ จ.เชียงใหม่ อยู่แล้ว แน่นอนว่า ชูชัย เลิศพงศ์อดิศร ต้องการที่จะพัฒนาทีมให้ก้าวสู่ความสำเร็จ หลังจากจังหวัดของ "สว.ก๊อง" มีชื่อเสียงในด้านการท่องเที่ยวอยู่แล้ว แต่ด้วยความเป็นจังหวัดใหญ่ ที่จริงแล้วน่าจะต้องมีชื่อเสียงในด้านฟุตบอล

แน่นอนว่าสิ่งที่เขาทำลงไปนั้น ตั้งแต่การให้โอกาสกุนซือได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไปจนถึงการไฟเขียวในด้านการเสริมทัพ ดึงแข้งฝีเท้าดีเข้ามาสู่ทีม นั่นทำให้เราเห็นผู้เล่นระดับ "มาสเตอร์พีช" ตบเท้าเข้ามาสู่การเป็นพลพรรค "ช้างเผือก" อย่างมากมาย 


ยิ่งวันแห่งประวัติศาสตร์ของสโมสรเชียงใหม่ ยูไนเต็ด หลังเปิดบ้านเอาชนะ ราชนาวี ไปด้วยสกอร์ 4-1 คว้าตั๋วเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก โดยอัตโนมัติได้เป็นครั้งแรก เจ้าตัวตบโบนัสอัดฉีดจากสโมสรทันที 300,000 บาท และเชื่อว่าถ้าสามารถคว้าแชมป์ได้ โอกาสที่เขาจะให้เงินไปแบ่งกัน 5 ล้านบาทมีสูงเหมือนกัน

ด้าน หนองบัว พิชญ ที่มี "มาดามจอย” กฤษยา ภู่มงคลสุริยา รองประธานสโมสร คอยดูแลทีมอย่างใกล้ชิดนั้น ก็ทุ่มงบประมาณไม่อั้นเหมือนกัน โดยเฉพาะการเติมเต็มผู้เล่นเกรด "พรีเมี่ยม" เข้ามาสู่ในเล้าไก่ของพวกเขา เรียกได้ว่าพร้อมชนกับทีมลีกสูงสุดเมืองไทยด้วยซ้ำ


ไม่ว่าจะเป็น  ยุทธพงษ์ ศรีละคร, เลอสันต์ เทียมราช, กิตติคุณ แจ่มสุวรรณ, วัลโดมิโร่ ซัวเรส (วัลโด้), เกร็ก ฮูล่า, ปาร์ค แต ฮยอง, อานิสงส์ เจริญธรรม, รักษ์พงศ์ ชูเมือง, เจษฎากร ขาวงาม นั่นทำให้พวกเขากลายเป็นทีมที่แข็งแกร่ง และยังไม่แพ้ให้กับทีมใดในไทยลีก 2 ณ เวลานี้

พร้อมกันนี้ยังสร้างสนามรังเหย้าใหม่ที่ทุ่มเงินกว่า 50 ล้านบาท เพื่อเนรมิตรรังเหย้าแบบ "ฟุตบอล สเตเดี้ยม" จนเปิดใช้ไปแล้ว เรียกว่าเป็นการซัพพอร์ตทั้งกับสโมสร และให้แฟนบอลได้มีความสุขอย่างแท้จริง


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด