:::     :::

3 คีย์แมนเบื้องหลังการเลื่อนชั้น

วันอาทิตย์ที่ 09 พฤษภาคม 2564 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
1,475
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ในที่สุดไทยลีก 2021-2022 ก็มีครบ 16 ทีม ไล่เรียงมาจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, การท่าเรือ เอฟซี, สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด, ราชบุรี มิตรผล เอฟซี, สมุทรปราการซิตี้, เอสซีจี เมืองทอง, ราชบุรี มิตรผล เอฟซี, นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี, พีที ประจวบ เอฟซี, โปลิศ เทโร เอฟซี, ชลบุรี เอฟซี, สุพรรณบุรี เอฟซี และอีก 3 ทีมน้องใหม่ หนองบัว พิชญ, เชียงใหม่ ยูไนเต็ด และ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ซึ่งจะเริ่มฤดูกาล 31 ก.ค. 2021 ปิดเลกแรก 28 พ.ย. 2021 จากนั้นก็จะสตาร์ทในช่วงเลกสอง 8 ม.ค. 2022 จบฤดูกาล 21 พ.ค. 2022

วันนี้เราจะพาทุกท่านไปชมว่า 3 คีย์แมนที่มีส่วนในการพา 3 ทีมน้องใหม่เลื่อนชั้นมานั้นคือใครกันบ้าง และปัจจัยใดที่ทำให้ทีมเหล่านี้ ประสบความสำเร็จคว้าตั๋วสู่ไทยลีก แถมยังเป็น 3 จังหวัดที่มีแฟนบอลให้การสนับสนุนอย่างมากมาย


 สุเทพ ภู่มงคลสุริยา ประธานสโมสร หนองบัว พิชญ เอฟซี

 “รู้สึกหายเหนื่อย หลังจากที่ได้เห็นรอยยิ้มทุกคน จากที่เป็นคนไม่ค่อยรู้เรื่องฟุตบอล เริ่มศึกษาระบบบริหารทีมอย่างจริงจัง”

 “ทีมเราเคยโดนเปรียบเทียบว่าเป็นทีมอบต. วันนี้เราทำให้ทุกคนเห็นแล้วว่าทีมหนองบัวลำภู คือ 16 ทีมที่ดีที่สุดในเมืองไทย"

 "ผมต้องขอบคุณนักกีฬา ขอบคุณผู้สนับสนุนทีม และที่สำคัญคือแฟนบอลที่คอยซัพพอร์ตทีมมาโดยตลอด เราสัญญาว่าปีหน้าในศึกไทยลีก 1 จะสู้อย่างสุดความสามาถ จะนำชัยชนะและความสุขมาให้พี่น้องชาวหนองบัวลำภูครับ"

 นี่คือสิ่งที่ สุเทพ ภู่มงคลสุริยา ประธานสโมสร หนองบัว พิชญ กล่าวเอาไว้ในวันที่ฉลองแชมป์ไทยลีก 2 ต่อหน้าแฟนบอลทั้งจังหวัด พร้อมกับการมอบโบนัส 2 ล้านบาทให้กับทีมไปแบ่งกันอีกด้วย

 จังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร ประมาณ 518 กิโลเมตร โดยทั่วไปแล้วเป็นที่ราบสูง และใช้เวลาเพียง 7 ปีในการบริหารของประธานสโมสรคนปัจจุบัน พวกเขาสามารถก้าวไปผจญภัยในลีกสูงสุดของเมืองไทยได้สำเร็จ

 การเข้ามาบริหารสโมสรแห่งนี้ของ "สุเทพ ภู่มงคลสุริยา" ใน พ.ศ.2557 จากผู้บริหารวิทยาลัยพิชญบัณฑิต จ.หนองบัวลำภู ก้าวมานั่งตำแหน่งประธานสโมสรคนใหม่ ทำให้เกิดอะไรเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง 

 โดยเฉพาะใน 2 ปีต่อมา "โค้ชกล่ำ" ธีระเวคิน สีหะวงค์ สามารถพาทีมเลื่อนชั้นจาก ไทยลีก 3 ไปสู่ไทยลีก 2 ด้วยการปราบทั้ง อยุธยา เอฟซี รวมถึงคู่ปรับอย่าง อุดรธานี เอฟซี พาทีมทะยานไปพร้อมกับ ตราด เอฟซี และ ม.เกษตรศาสตร์ ในซีซั่น 2018

 อย่างไรก็ตาม "พญาไก่ชน" ใช้เวลาถึง 3 ปีในการลุยลีกพระรอง ก่อนมาทำสำเร็จในยุคที่ "น้าฉ่วย"สมชาย ชวยบุญชุม คุมทีม ด้วยผลงาน 34 นัด ชนะ 21 เสมอ 12 แพ้ 1 มี 75 คะแนน คว้าแชมป์ไทยลีก 2 ฤดูกาล 2020-21


 หนึ่งในคนที่สมควรได้รับเครดิตจริงๆ ก็คือ สุเทพ ภู่มงคลสุริยา ประธานสโมสร หนองบัว พิชญ ที่ลงทุนลงแรงกับทีมบ้านเกิด นอกจากนี้ยังสร้างสนามฟุตบอล พร้อมวางงบประมาณเบื้องต้น 50 ล้านบาท โดยมีลักษณะตัวสนาม "พิชญ สเตเดี้ยม" คล้ายกับ มิตรผล สเตเดี้ยม ของ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี สามารถจุแฟนบอลได้ไม่ต่ำกว่า 10,000 ที่นั่ง  

 ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา มีการเผยภาพโมเดลในการทำห้องแต่งตัวสนาม พิชญ สเตเดี้ยม ซึ่งถือว่าทำออกมาได้สวยงดงามแบบสโมสรระดับโลก นั่นแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของชายที่ชื่อ "สุเทพ ภู่มงคลสุริยา" สมแล้วที่พวกคุณคู่ควรกับการเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก ในฤดูกาลหน้า


พิชัย เลิศพงศ์อดิศร ประธานสโมสรเชียงใหม่ ยูไนเต็ด

 20 มี.ค.64 หลังเกมที่ 31 ของไทยลีก 2 ซึ่ง เชียงใหม่ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ ราชนาวี ไปแบบสุดมันส์ด้วยสกอร์ 4-1 สร้างประวัติศาสตร์คว้าตั๋วเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 

 แม้จะจบด้วยการเป็นรองแชมป์ไทยลีก 2 แต่นี่คือสโมสรที่มีพัฒนาการเติบโตแบบก้าวกระโดด ภายใต้การคุมทีมของผู้มีใจรักในฟุตบอลเป็นทุนเดิมอย่างแล้ว อย่าง "ส.ว.ก๊อง" พิชัย เลิศพงศ์อดิศร ประธานสโมสรเชียงใหม่ ยูไนเต็ด

 กรกฎาคม 2014 "ส.ว.ก๊อง" ตั้งทีม ช้างเผือก เชียงใหม่ ในชื่อ บริษัท ช้างเผือกเชียงใหม่ ยูไนเต็ด จำกัด และส่งทีมเข้าร่วม อเมเจอร์ ลีก ภาคเหนือ และได้เลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 4 ซึ่งเป็นลีกอาชีพระดับแรก

 ก่อนลุยไทยลีก 4 ต้นปี 2016  มีการปรับเปลี่ยนชื่อทีมจาก "ช้างเผือก เชียงใหม่" เป็นสโมสร "เจแอล เชียงใหม่ ยูไนเต็ด" ตามชื่อผลิตภัณฑ์ผู้สนับสนุนอย่าง "เจเล่" ทว่าลงแข่งนัดแรกก็พ่ายต่อ พิษณุโลก เอฟซี เพราะลงทะเบียนรายชื่อไม่ทัน แต่ก็ฟันฝ่าเร่งเครื่องจนคว้าแชมป์ T4 ภาคเหนือ และชนะในรอบแบ่งกลุ่มเลื่อนชั้นสู่ T3 สำเร็จภายในปีเดียว 

 ฤดูกาลดังกล่าว พวกเขายังได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของลีกรากหญ้าด้วยการทะลุเข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอล เอฟเอ คัพ แม้จะตกรอบแต่ในซีซั่น 2019 ก็ได้เลื่อนชั้นสู่ลีกพระรอง ด้วยเป้าหมายเพียงแต่ขอประคองตัวเอาไว้ก่อน จนสามารถจบอันดับ 11 


ในที่สุดวันเวลาของ "เชียงใหม่ ยูไนเต็ด" ก็มาถึง จากการทุ่มทุนและลงแรงของบอร์ดบริหาร ทำให้ทีมสามารถจบด้วยการเป็นรองแชมป์ไทยลีก 2 คว้าตั๋วทะยานสู่ลีกสูงสุดได้อย่างน่าชื่นชม

 แต่การทะยานครั้งนี้ของพลรรค "ช้างเผือก" ก็ต้องแลกมากับเหตุการณ์หลายอย่าง ซึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญก็คือ การปรับเปลี่ยนแม่ทัพจาก "คาร์ลอส เอดูอาร์โด้ แปไรร่า" มาใช้บริการกุนซือที่มีความเชี่ยวกรากในไทยลีก 2 อย่าง เดนนิส อมาโต้ ด้วยความเชื่อมั่นจากประสบการณ์ที่เขาเคยพา ชัยนาท ฮอร์นบิล คว้าแชมป์โทรฟี่ดังกล่าวในปี 2017

 ด้วยบุคลิกที่จริงจังกับการทำงาน ผสานกับให้ทุกคนแสดงความกระหายในตอนซ้อม และผลลัพท์ที่ดีจะออกมาในวันแข่งจริง นี่เป็นสาเหตุให้ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด แซงทางโค้งเหนือ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่ผลงานเก็บทรงไม่ค่อยอยู่เวลานั้นเข้าป้ายคว้าอันดับ 2 ไปครอง

 แผนงานของ "ส.ว.ก๊อง" ในการขึ้นไทยลีก ไม่ได้หยุดแค่นั้น เพราะตัดสินใจให้ทีมโยกไปใช้สนามสมโภช 700 ปี พร้อมกับเปลี่ยนแปลงกุนซือมาใช้บริการ "โค้ชอั๋น"สุรพงษ์ คงเทพ สลับกับ เดนนิส อมาโต้ ที่โยกไปคุม สุโขทัย เอฟซี รวมถึงเพิ่งจะได้ดาวยิงคนใหม่อย่าง ยานนิค โบลี มาจาก การท่าเรือ เอฟซี

 ไหนจะมี "กระทิงแดง" ที่มีกระแสว่าจะเข้ามาเป็นสปอนเซอร์ใหม่ให้กับทีม ดูแล้วเม็ดเงินเหล่านี้จะทำให้ทีมเดินเครื่องไปลุยลีกสูงสุดครั้งแรกของประวัติศาสตร์สโมสร ถือเป็นอีกหนึ่งทีมที่น่าติดตามสำหรับลีกสูงสุุดแดนสยามเลยทีเดียว


วัฒนา ช่างเหลา ประธานสโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด

 จากที่เกือบจะเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 2022-2023 แบบชิวๆ กลายเป็นว่ามีเรื่องราวมากมายให้ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ต้องเร่งเครื่องคว้าตั๋วสู่รอบเพลย์ออฟ ก่อนที่จะประสบความสำเร็จเดินหน้าสู่ลีกสูงสุดครั้งแรกในประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมา 6 ปี

 หนึ่งในคีย์แมนที่ขาดไปไม่ได้เลย ก็คงจะหนีไม่พ้น "บิ๊กต้อม" วัฒนา ช่างเหลา ประธานสโมสรหนุ่มไฟแรง ซึ่งตระกูลของเขาเองก็เป็นผู้ก่อตั้งสโมสรในฤดูกาล 2015 พร้อมกับหยิบยก "งูจงอาง" มาใช้เป็นโลโก้สโมสร เพื่อสื่อถึงหมู่บ้านงูจงอางขอนแก่นเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด

 ที่จริงแล้วสโมสรแห่งนี้มีเรื่องราวน่าติดตามมากมาย กว่าที่พวกเขาจะเลื่อนชั้นมาไทยลีกได้สำเร็จนั้น เมื่อ 5 ปีก่อนพวกเขาเคยเจ็บปวดแบบสุดๆ เพราะถูกลงโทษแบนจากสมาคมฯ ห้ามยุ่งเกี่ยวกับการแข่งขัน และปรับตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย เอฟเอ คัพ 2016 เนื่องจากเหตุการณ์ที่สำคัญขึ้นมาในวงการ

 เนื่องจากการถูกขับออกจากการเป็นสมาชิกภาพของสมาคมฯ เนื่องจากปรากฏข้อมูลที่เชื่อได้ว่ามีการลอบทำร้ายกรรมการผู้ตัดสิน หลังจบเกม ยามาฮ่า ลีก ดิวิชั่น 1 เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2559 ที่ถูกเชื่อมโยงถึงสโมสรฟุตบอลขอนแก่น ยูไนเต็ด 

 เวลานั้นลมหายใจของแฟนบอลและผู้บริหารก็หยุดลงชั่วขณะ เพราะไม่คิดว่าจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นมา วันเวลาผ่านไปปีกว่า พวกเขาก็ได้สิทธิ์กลับคืนมาอีกครั้ง แต่ต้องไปนับหนึ่งใหม่ในยุทธจักรลีกล่าง หรือ ไทยลีก 4 ซึ่ง "บิ๊กต้อม"วัฒนา ช่างเหลา ก็ระดมสมองและพละกำลังใหม่หมดด้วยนโยบาย "ทำทีมขอนแก่น โดยคนขอนแก่น เพื่อคนขอนแก่น"


 ก่อนที่พวกเขาจะไต่เต้า ขึ้นสู่ไทยลีก 3 ในฐานะรองแชมป์ของรอบประเทศ และมาเป็นแชมป์รอบประเทศ ด้วยการเอาชนะ "นครปฐม ยูไนเต็ด" เลื่อนชั้นขึ้นสู่ไทยลีก 2 สำเร็จ จนมาถึงวันที่ 11 เม.ย.64 ก็สามารถจารึกประวัติศาสตร์ในตักศิลาของทีม เมื่อเอาชนะ "เสือป่าราชา"ในการดวลจุดโทษสกอร์รวม 2 นัด 5-2 คว้าตั๋วขึ้นชั้นสู่ไทยลีก 2021-2022 

 ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา มีเรื่องราวที่ดีและร้ายปะปนกันไปหมด "บิ๊กต้อม" ได้กล่าวในวันนั้นไว้ว่า "ขอบคุณทุกกำลังใจ ขอบคุณแฟนบอล วันนี้เหนื่อย ทุกคนกดดัน โดยรูปเกมไม่ต้องพูดถึง ถ้าเราดีพอเราจะได้ขึ้นไทยลีก และเราสามารถพิสูจน์ได้แล้วว่าเราดีพอที่จะขึ้นไปเล่นไทยลีก วันนี้เป็นก้าวแรกที่สำคัญ ที่เราตั้งเป้าไว้ตั้งแต่เราตั้งสโมสร ว่าต้องการให้ทีมขอนแก่นไปโลดเล่นในไทยลีก วันนี้เราทำได้แล้ว"

 การลุยลีกสูงสุดของเมืองไทย ปัญหาแรกของ ขอนแก่น ยูไนเต็ด จำเป็นต้องหาโค้ชที่เป็นระดับ เอ ไลเซนส์ ขึ้นไป เนื่องจาก "โค้ชบอส"ปฏิภัทร รอบรู้ ที่พาทีมเลื่อนชั้นจาก T3 มา T2 และสู่ T1 ยังมีดีกรีแค่ บี ไลเซนส์ เท่านั้น

 ทำให้การตัดสินใจของบอร์ดบริหาร คือ จะให้ "โค้ชบอส" เป็นผู้ช่วยโค้ช เพื่อให้ได้มีเวลาเรียน เอ ไลเซนส์ ที่จะเปิดขึ้นในปีนี้ และจะได้มีดีกรีเอาไว้ใช้ในการคุมทีมบ้านเกิดลุยไทยลีกในอนาคตได้ ซึ่งถือว่าเป็นแผนงานที่ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน และทางทีมก็กำลังจะมีการเปิดตัวโค้ชใหม่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้


 แฟนบอล "จงอางผยอง" คงไม่มีใครไม่นึกถึง "บิ๊กต้อม" วัฒนา ช่างเหลา บุรุษที่ฟันฝ่าทุกอุปสรรค อีกทั้งยังอยู่เคียงข้างกับทีมเรื่อยมา ไม่ว่าจะเจอมรสุมลูกไหนก็ไม่ปล่อยมือออกจากทุกคนในทีม กระทั่งสามารถพาทีมลุยไทยลีกได้สำเร็จด้วยการใช้เวลาเพียงแค่ 6 ปีเท่านั้น


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด