:::     :::

Once a legend, always a legend.. 2OLEGEND

วันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2564 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
2,258
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
การร่ำลาแฟนบอลครั้งสุดท้ายในฐานะผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ของโอเล่ กุนนาร์ โซลชา และช่วงเวลาดีๆตลอดสามปีอันเหมือนดั่งงานเลี้ยงที่เรียกรวมความสุขเก่าๆของแฟนปีศาจแดงให้กลับคืนมา

หลังจากที่การประกาศเมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่าโซลชาได้ลงจากตำแหน่งผู้จัดการทีมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากคุมทีมมาเกือบสามปีที่โอลด์แทรฟฟอร์ดนั้น เขาได้สร้างสิ่งสำคัญขึ้นมา และทำงานในการวางรากฐานสู่ความสำเร็จในระยะยาวให้กับสโมสรขึ้นมาอีกครั้ง

ทำให้เกิดข้อความต่างๆมากมายที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นจากทุกสารทิศ มอบให้แก่ชายผู้ที่เป็นตำนานแห่งโอลด์แทรฟฟอร์ดไปตลอดกาล จากผลงานทั้งในและนอกสนามของเขา

จากการประกาศดังกล่าว โอเล่ต้องการที่จะใช้โอกาสนี้ในการแสดงความรู้สึกขอบคุณและชื่นชมแก่เหล่านักเตะ ทีมสตาฟฟ์ แฟนบอล และทุกๆคนที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับความพยายามทั้งหมด และการสนับสนุนเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เขาคุมทีม

ในครั้งนี้เขาพูดคุยกับผู้ดำเนินรายการที่เป็นสื่อของสโมสรอย่าง สจ๊วต การ์ดเนอร์ ในบทสัมภาษณ์ที่ "เต็มไปด้วยความรู้สึก" ทั้งหมดที่อยู่ในใจของเขา ผ่านบทความที่คุณกำลังจะได้อ่านต่อจากนี้ 


โอเล่ วันนี้เป็นวันที่เศร้ามากสำหรับหลายๆคนที่รักคุณ แต่คุณเลือกที่จะออกมาพูด...

"คุณรู้ดีว่าสโมสรแห่งนี้มีความหมายกับผมมากเพียงใด และผมอยากจะทำอะไรให้สำเร็จกับที่นี่ สำหรับสโมสร แฟนบอล นักเตะ และสตาฟฟ์ ผมอยากจะให้พวกเขาก้าวขึ้นไปท้าทายตำแหน่งแชมป์ลีกให้ได้ ผมอยากพาทีมคว้าถ้วยรางวัลต่างๆ"

"ผมคิดเพียงแต่ว่า มันคงจะดีถ้าให้เรื่องนี้มันออกมาจากปากของผมโดยตรง ผมไม่อยากตอบคำถามกับทุกๆที่ มีนักข่าวมากมายมาขอสัมภาษณ์ผม แต่ว่าผมจะไม่ให้สัมภาษณ์ที่ไหนทั้งนั้น ผมอยากจะพูดโดยตรงกับที่นี่ เพราะคิดว่าทุกๆคนรู้ดีว่าผมทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อสโมสรแห่งนี้ ที่ที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับผม และทุกอย่างเป็นไปได้ดี"

"แต่น่าเสียดายที่ผมไม่สามารถพาทีมได้รับผลการแข่งขันที่เราต้องการได้ และมันถึงเวลาที่ผมจะต้องลงจากตำแหน่งนี้แล้ว"

เป็นเวลาเกือบๆจะสามปีที่คุณได้คุมทีม มองย้อนกลับไปคุณรู้สึกภูมิใจไหม?

"ภูมิใจ.. ภูมิใจมากๆ แน่นอน มันเป็นเหมือนความฝันอย่างหนึ่งในชีวิตเลยนะ จากสมัยเป็นนักเตะ พอได้ขึ้นมาเป็นโค้ชทีมสำรอง แล้วก็งานถัดไปหลังจากนั้น ความฝันอย่างเดียวที่ยังไม่ได้ทำก็คือการได้เป็นผู้จัดการทีมสโมสร และฝันผมก็เป็นจริงแล้ว"

"มันเหมือนงานเลี้ยงเต้นรำ มันคือความสุขที่สุดในทุกวินาที ตั้งแต่นาทีแรก จนกระทั่งมันกลายเป็นนาทีสุดท้าย ผมจึงอยากจะขอบคุณนักเตะทุกๆคนนับตั้งแต่ผมได้เข้ามาที่นี่ พวกเขาอยู่ในระดับท็อป เป็นผู้คนชั้นยอด บางคนก้าวเข้ามา บางคนต้องเดินจากไป แต่นักเตะทุกๆคนทั้งหมดนี้ เป็นกลุ่มที่ทำงานด้วยแล้วมีความสุขมาก"

"อย่างแรกสุดเลยผมต้องขอขอบคุณบอร์ดและเจ้าของสโมสรที่มอบโอกาสให้กับผม เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะมีโอกาสได้รับหน้าที่นี้ และผมก็ได้รับโอกาสนั้นมา ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก และรู้สึกพิเศษที่ได้รับความไว้วางใจให้เป็นคนนำพาสโมสรก้าวไปข้างหน้า และผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผมได้จากไปโดยที่สโมสรอยู่ในสภาพที่ดีกว่าตอนที่ผมเข้ามา"

"ตอนที่ผมกลับมา ผมมีเพื่อนที่ดีมากมาย ผมได้กลับมาเจอเพื่อนเก่าที่ยอดเยี่ยมบางคนอีกครั้ง รวมถึงทีมงานหน้าใหม่ๆที่เข้ามา ซึ่งก็กลายเป็นเพื่อนที่ดีของผมด้วยเช่นกัน สตาฟฟ์คนอื่นๆที่เคยอยู่ที่นี่ตอนที่ผมยังอยู่ตรงนั้น เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน มีสายสัมพันธ์ที่ดี และนั่นคือสิ่งที่สโมสรแห่งนี้เป็น"

"กับแฟนบอลนั้น พวกเขามหัศจรรย์มาก จากวันแรกที่คาร์ดิฟฟ์ จนกระทั่งถึงวันสุดท้ายในตอนนี้ พวกเขาสุดยอดที่สุด และเดี๋ยวเราก็คงได้พบเจอกันอีก"

บางสิ่งที่คุณได้ประสบกับมันตั้งแต่การคุมทีมวันแรกที่คาร์ดิฟฟ์ ผมนึกย้อนไปถึงความทรงจำสามปีที่ผ่านมากับสิ่งที่เราพวกเราได้สัมผัส วันแรกคือวันพิเศษโดยตัวมันเองเลยใช่ไหม?

"แน่นอน มาร์คัสยิงตั้งแต่สามนาทีแรกหรืออะไรประมาณนี้แหละ และเราก็ชนะต่อเนื่องอย่างดีเยี่ยมเลย ผมจำไม่ได้แล้วว่าเราชนะไปกี่เกมนะ แต่ว่ามันเป็นอะไรที่ผมภูมิใจมากกับการที่เราสร้างมันขึ้นมาด้วยกันได้สำเร็จ แล้วมันก็กลายเป็นสถิติไปในตัวของมันเอง รู้สึกจะเป็น ชนะสิบนัดรวดหรืออะไรสักอย่างนั่นแหละ ผมจำตัวเลขไม่ค่อยเก่ง แต่ที่รู้คือเราทำได้ดีเลย"

"เกมเยือนที่ไม่แพ้ใครมาอย่างต่อเนื่อง พวกเราไม่มีใครมานั่งนับมันเลย เพราะว่าไม่ใช่แค่ผมนะ มิค (ฟีแลน), ไมเคิล (คาร์ริค), คีแรน (แมคเคนน่า) เราไม่ได้เป็นแบบนั้นกัน แต่มันก็เป็นเรื่องราวของผมที่เมื่อมองย้อนกลับไปแล้วผมก็รู้สึกภูมิใจ"

เราต้องย้อนไปตอนกับปารีสด้วย...

"ใช่ เป็นคืนที่สุดยอดมาก นั่นเป็นคืนแรกเลยมั้งที่เด็กๆเหล่านี้บางคนได้สัมผัสกับที่สิ่งที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นจริงๆ เพราะว่าพวกเราหลังชนฝา ทุกคนคิดว่าเราคงหมดโอกาสพลิกล็อคกลับมาแล้ว ในการเจอกับสุดยอดทีมที่มีแต่นักเตะเก่งๆเต็มไปหมด"

"แต่นักเตะของเราแสดงให้เห็นถึงตัวตนและความภาคภูมิของแมนยูไนเต็ด ผลงานในสนามวันนั้นผมจำได้แน่นอน แล้วผมก็ได้ถ่ายรูปฉลองด้วยกันอย่างมีความสุขมากระหว่าง ผม เซอร์อเล็กซ์ (เฟอร์กูสัน) และ เอริค (คันโตน่า) และอัดวีดิโอในห้องแต่งตัวเอาไว้ เพราะงั้น มันเป็นความทรงจำที่ดีแน่นอน

เกี่ยวกับการสร้างทีมขึ้นมาใหม่ เราพูดถึงทีมที่คุณเดินเข้ามาเมื่อสามปีที่แล้ว และทีมที่คุณกำลังจะต้องเดินจากไปอย่างน่าเสียใจในวันนี้ คุณมองไปแล้วสามารถพูดได้ไหมว่าคุณเห็นการพัฒนาเกิดขึ้น?

"อย่างที่ผมเคยพูดไปหลายๆครั้งในการให้สัมภาษณ์ ผมได้รับการสนับสนุนอย่างดี บอร์ดกับเจ้าของสโมสรช่วยสนับสนุนในการนำบุคลากรที่ดีๆเข้ามา นำนักเตะที่ดีๆเข้ามาที่นี่ และผมคิดว่า.. ผมรู้ว่าผมจะออกไปโดยที่สโมสรมีทีมที่ดีขึ้น"


"สิ่งแวดล้อมทุกอย่างที่มีอยู่ในตอนนี้มันน่าทึ่งมากๆแล้ว เป็นสิ่งที่ผมจะเดินจากไปได้อย่างภูมิใจ เพราะคุณจะมีความสุขมากๆนะที่ได้เข้ามาทำงานกับที่นี่ ผมไม่ได้อยากจะทำนายทายทักอะไรล่วงหน้าเอาไว้หรอกนะ แต่ว่าสองครั้งที่ผมออกจากMoldeมา พวกเขาก็ได้แชมป์ลีกในปีถัดไป เพราะงั้นแล้วสำหรับใครก็ตามที่จะมารับช่วงต่อจากนี้ ผมขอให้คุณโชคดีมากๆ นั่นแหละคือสิ่งที่ผมแอบหวังไว้!"

ก็คือมีทุกสิ่งที่พร้อมรออยู่แล้ว...

"ผมคิดว่าที่นี่มีศักยภาพอยู่ในนี้ พวกเราทุกคนรักสโมสร และพวกเราทุกคนอยากเห็นมันดำเนินไปต่อ"

ในระดับเยาวชนก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่คุณทำเอาไว้ การนำผู้เล่นที่อายุน้อยๆเข้ามาก็ด้วยเช่นกัน ผมคิดว่าระบบเยาวชนคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งในยุคของคุณ

"มันคือแมนยูไนเต็ดอยู่แล้ว มันคือสิ่งที่อยู่ในDNAทีมเรา เราจำเป็นต้องนำบุคลากรดีๆ นักเตะดีๆเข้ามา เป็นงานถนัดเราอยู่แล้ว อะคาเดมี่ตอนนี้มี Nick Cox ดูแลอยู่ และรวมถึงเพื่อนสนิทของผมอย่างเด็มพ์ส (Mark Dempsey) ด้วยที่มีส่วนร่วมกับเรื่องนี้ และผมมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มว่าทุกสิ่งอยู่ในความดูแลที่ดี และเราจะได้เห็นนักเตะเหล่านี้ก้าวขึ้นมา"

ผมไม่คิดว่าคุณจะได้อ่านโซเชียลมีเดียในวันนี้นะ แต่ว่ามันมีแต่กำลังใจจากแฟนๆเข้ามาอย่างล้นหลามเลย คุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับแฟนบอลเสมอมา ไม่ใช่แค่ช่วงสามปีนี้ แต่มันเป็นเวลา 25ปีมาแล้ว คุณมีอะไรที่จะพูดความในใจไหม?

"มันก็เหมือนเป็นงานเลี้ยงของเรา ตามส่งแรงใจเชียร์ทีมกันต่อไปนะครับ เราต้องอยู่เป็นแรงใจให้กับทีมนะ แฟนๆนั้นดีกับผมอย่างมากตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมได้สัมผัสบอลในสนามเลย, ครั้งแรกที่ผมยิงประตูได้ เป็นแบบนั้นมาจนกระทั่งถึงตอนนี้ และผมมั่นใจว่าเดี๋ยวเราก็ได้เจอกันอีก เพราะถ้ามีที่ไหนสักที่นึงที่ผมอยากไปนั่งดูฟุตบอลละก็ มันจะต้องเป็นโอลด์แทรฟฟอร์ดแน่นอน"

แปลว่าเราจะได้เจอคุณอีกใช่ไหม...

"แน่นอนๆ ถ้าคุณอยากให้ผมไปยืนคู่กับคุุณอยู่ข้างๆสนามผมก็ไป! เอาจริงๆผมมีความสุขมากๆ และภูมิใจกับสิ่งที่ผมได้ทำร่วมกันกับเพื่อนที่ดีของผม และผมหวังว่าทุกๆคนจะโชคดี คุณก็รู้จักสตาฟฟ์ที่นี่ดี พวกเราเจอวิพากษ์วิจารณ์มากมาย แต่วิธีที่พวกเขาปฏิบัติตนเอง และวิธีการทำงาน ความรู้ต่างๆ และทัศนคติ ผมชื่นชมพวกเขามากๆเลย"

"ปกิผมจะขับรถมาถึงที่นี่ประมาณเจ็ดโมง เจ็ดโมงครึ่งตามเวลา และคิดว่าวันนี้พวกเขาเสร็จผมละ ผมมาถึงก่อน แต่ว่ามันเป็นไปไม่ได้เลย ไม่สำเร็จเลยสักวันเดียว"

ตอนที่คุณเพิ่งเข้ามานั้น ชัดเจนว่าเราตกอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ดีในลีก แต่ว่าคุณพาทีมขึ้นมาเรื่อยๆ จากอันดับ6ในซีซั่นแรก ขึ้นมาสู่การได้อันดับสาม และอันดับสองตามลำดับ มองไปยังเรื่องนี้แล้วมีอะไรที่คุณคิดว่ามันเป็นความสำเร็จที่ดีบ้าง?

"ผมภูมิใจกับสิ่งที่พวกเราทำ การชนะรวดในช่วงเริ่มต้นคือสิ่งแรกสุดเลย มันมีความสุขมาก แล้วหลังจากนั้นก็ขึ้นมาจบได้ในอันดับที่สาม ซึ่งผมชอบเกมสุดท้ายมากเลยที่เจสซี่ยิงได้ การที่เราเดินหน้าลุยมาด้วยกันจนจบอันดับสามได้นั้นมันดีมาก มันมาจากความพยายามร่วมกันของทุกๆคน ไม่ว่าจะทั้งทีม ชุดนักเตะ และปีที่แล้วก็ขึ้นมาได้อันดับที่สอง เป็นรองแค่เพียงทีมที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในทีมที่ยอดเยี่ยมที่สุดของยุโรป ผมถือว่านั่นก็ประสบความสำเร็จด้วยเหมือนกัน"

"เราอยู่ในจุดที่ใกล้เคียงมากๆกับเกมยุโรป บางทีลูกโทษลูกเดียวกลายเป็นช่วงเวลาชี้เป็นชี้ตายของคุณ เราเฉียดมากๆและมันเป็นอะไรที่ผมจะจดจำไปตลอดด้วยเช่นกัน แล้วก็เรื่องรอบรองชนะเลิศที่ผ่านๆมา ผมรู้ว่าพวกเขามีประสบการณ์เรื่องพวกนั้นติดตัวเอาไว้แล้ว ผมรู้ว่าพวกเขาพร้อมที่จะเดินหน้าต่อ และผมเชื่อว่าพวกเขาจะทำได้"

นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกคาใจไหมที่เกือบจะได้คว้าแชมป์แล้ว ซึ่งทุกๆคนก็ยังคงยกเรื่องนี้มาพูดถึงแทบจะทุกครั้งที่ต้องให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเกี่ยวกับความสำคัญของถ้วยใบนั้น มันเกือบ เกือบมากๆ

"ใช่ คุณจะพูดอย่างนั้นก็ได้ ถ้าย้อนความไปถึงเรื่องนี้และพูดว่า หากได้แชมป์ยูโรปาลีกมา นั่นถึงจะเรียกว่าประสบความสำเร็จ แต่คุณรู้ไหมว่า บางทีมันก็ไม่ใช่แค่เรื่องการคว้าแชมป์เพียงอย่างเดียวที่เป็นคำตอบสุดท้ายของทุกๆสิ่ง"

"ผมรู้ดีว่าวันนั้นเราต้องการอย่างมากที่จะได้ฉลองแชมป์กัน แต่มันชี้ขาดกันเพียงแค่นิดเดียว เรารู้ว่าการทำงานของเราเพื่อจะเข้าไปถึงรอบชิงนั้นสำคัญมากๆ แล้วมันก็ใกล้เคียงจริงๆ เราจำเป็นต้องตัดสินใจให้ดีที่สุดหลายๆครั้งตลอดเส้นทางดังกล่าว"

"น่าเสียดายที่เรายิงจุดโทษไล่ตามได้ไม่ถึง11ครั้งติดกัน คุณอาจจะหัวเราะกับเรื่องนี้ แต่เมื่อมองย้อนไป ในทุกๆวินาทีกับที่นี่มีแต่ความภาคภูมิใจทั้งสิ้น"

ในช่วงท้ายที่ผ่านมา มันคงต้องเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากแน่ๆ แล้วเดี๋ยวคุณจะไปทำอะไรต่อ โอเล่?

"ผมคงจะไปใช้เวลาอยู่กับครอบครัวนะ บางทีมันคงลำบากที่สุดในช่วงที่มีโรคระบาดเช่นนี้ ในยามที่ประเทศนอร์เวย์นั้นเปิด แต่ที่นี่ยังล็อคอยู่ ครอบครัวของผมย้ายกลับไปที่นอร์เวย์ และเจ้าตัวเล็กก็ชอบอยู่ที่นู่น ที่ผ่านมาเราเลยต้องใช้ชีวิตห่างกัน ดังนั้นผมจะไปใช้เวลาอยู่กับพวกเขา แล้วผมก็จะตามดูทีมอย่างแน่นอน"

"หวังว่าจะมีผู้จัดการทีมคนใหม่เข้ามา และผมอยากจะซัพพอร์ตเขา ผมอยากให้เขาประสบความสำเร็จ ผมวางรากฐานเพื่อเตรียมพร้อมให้มันสามารถที่จะเกิดสิ่งนั้นได้ เพราะผมรู้ว่าผมทำดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว ผมมั่นใจเต็ม100%ว่าผมวางสิ่งแวดล้อมที่ดีสำหรับภาคฟุตบอลเอาไว้ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องถนัดในสิ่งที่ผมทำ"

"บางทีผมอาจจะกลับมาทำงานฟุตบอลอีกก็ได้"

แล้วคุณก็จะกลายเป็นแฟนที่ตามเชียร์อยู่ไกลๆต่อไปใช่ไหม

"ผมเป็นแฟนแน่นอน และหวังว่านักเตะทุกๆคนจะโชคดี มีนักเตะที่ดีมากๆที่นี่หลายๆคน บ้างก็เป็นผู้คนที่ดี ผมมั่นใจว่าเราจะเห็นเขายืดอกขึ้นมาและเดินหน้ากันต่อไป"

ก็คือคุณจะตามดูต่อแน่ๆล่ะ โอเล่ เพราะงั้นมีอะไรที่คุณอยากจะฝากถึงเหล่านักเตะต่อเกมใหญ่ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้กับบียาร์เรอัลไหม?

"ก็เหมือนกับสิ่งที่ผมได้พูดกับพวกเขาแล้วเมื่อเช้านี้ จงเชื่อมั่นในตัวเอง คุณรู้ดีอยู่แล้วว่าพวกเรามีดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ เราไม่สามารถแสดงมันออกมาได้ แต่ว่าจงเงยหน้าสู้ต่อไป มีความสุขกับการได้ลงเล่นในฐานะนักเตะแมนยูไนเต็ดในรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างแชมเปี้ยนส์ลีก"

"ถ้าพวกคุณเข้ารอบต่อไป ไมเคิลจะดูแลตรงนี้ ไมเคิลคือคนที่ผมเคารพและเชื่อมั่นที่สุด ผมรักเขาสุดหัวใจ ตอนนี้ผมพูดไปน้ำตาก็จะไหล เพราะว่าเขายอดเยี่ยม"

"พวกเขาอยู่กันได้.. ผมจะคอยเฝ้ามองและสนับสนุนพวกเขาต่อไป"

คุณจะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีที่โอลด์แทรฟฟอร์ดตลอดไป...

"ผมหวังว่าจะเป็นเช่นนั้นครับ"

มันดีมากๆที่ได้พูดคุยกับคุณ ขอบคุณเป็นอย่างสูงเลยครับ

"ขอบคุณมากๆ แล้วเจอกันครับ"

Reference

https://www.manutd.com/en/news/detail/ole-gunnar-solskjaer-conducts-farewell-interview-with-mutv-21-november-2021

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด