:::     :::

ช้างศึกU-23 งานไม่สาหัส แต่ต้องชนะใจแฟนบอล

วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
655
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ฟุตบอลทีมชาติไทย ช่วงนี้ทำอะไรก็ดีไปหมด ไม่ว่าจะเป็นพี่ใหญ่ที่คว้าแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

ล่าสุดทัพ “ช้างศึกU23” ชุดเฉพาะกิจ ที่ใช้นักเตะรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี เป็นแกนหลัก ก็โชว์เทพในศึกชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ด้วยการเอาชนะ สิงคโปร์ ไป 3-1

ส่วนอีกรุ่นที่แฟนบอลอยากเห็นฟอร์มมากที่สุด คงหนีไม่พ้นรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ภายใต้การคุมทีมของ “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ

โดยล่าสุดศึกชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2022 รอบสุดท้าย ที่อุซเบกิสถาน เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน มีการจับสลากแบ่งสายกันไปแล้ว


ซึ่งทีมชาติไทย ถือว่าโชคดีไม่น้อยเมื่อถูกจับมาอยู่กลุ่ม ซี ร่วมกับ เกาหลีใต้ และ 2 เพื่อนบ้านผู้น่ารำคาญอย่าง เวียดนาม และ มาเลเซีย โดยจะหวดแข้งกันในระหว่าง 1-9 มิถุนายนนี้

หากวัดตามมาตรฐานลูกหนังเราเป็นรองแค่ทัพ “โสมขาว” ที่มีดีกรีเป็นแชมป์เก่าเพียงทีมเดียวเท่านั้น 

ส่วน เวียดนาม กับ มาเลเซีย ต่างสู้ไส้รู้พุง หรือ สไตล์การเล่นกันดีอยู่แล้ว เพราะเจอกันมานับไม่ถ้วน มาตรฐานการเล่นไม่ได้หนีห่างกันมากคงซัดกันสนุก 


ก่อนเข้าสู่ทัวร์นาเมนต์จริง อาจจะได้ประลองเชิงเรียกน้ำย้อยกันก่อนในซีเกมส์อีกด้วย 

แถมสถิติการคุมทีมของ “โค้ชโย่ง” ในอดีตที่ไม่เคยคุมทีมรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี พ่ายให้ทีมในอาเซียนเลย ยิ่งเรียกความมั่นใจได้อีกโข 

โดยเฉพาะการฟัดกับ มาเลเซีย และ เวียดนาม รวม 7 นัด “โค้ชโย่ง” พาไทยเฮถึง 6 นัด สะดุดเสมอ “เสือเหลือง” แบบไร้สกอร์ ในรอบคัดเลือกที่มองโกเลีย

นั่นทำให้ “โค้ชโย่ง” มั่นใจว่าจะพาทัพ “ช้างศึกU23” เก็บ 6 แต้มเต็มจาก 2 ทีมเพื่อนบ้าน และทะลุผ่านเข้าไปรอบน็อคเอ้าท์


แต่สถานการณ์ต่อจากนี้อาจทำให้ “โค้ชโย่ง” แอบปวดหัวไม่น้อย เพราะระยะเวลาที่คาบเกี่ยวกันระหว่างโปรแกรมฟุตบอลลีกในช่วงโค้งสุดท้ายที่จะปิดซีซั่นในเดือนพฤษภาคม 

นั่นอาจจะส่งผลต่อการเตรียมทีมและฝึกซ้อมก่อนเข้าสู่ทัวร์นาเมนต์มีน้อยลง

ไหนจะโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลในซีเกมส์ที่เวียดนาม และโปรแกรมของทีมชุดใหญ่ ที่มีคิวลงทำศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก 

อาจจะทำให้นักเตะบางรายต้องไปช่วยทีมชุดใหญ่ อย่าง กฤษดา กาแมน, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา และ เอกนิษฐ์ ปัญญา ที่กำลังคืนร่างเทพอีกครั้ง เป็นต้น

งานนี้ “โค้ชโย่ง” ต้องเร่งคุยกับ “มาโน่ โพลกิ้ง” ให้ลงตัว เพื่อจะได้แยกนักเตะว่าคนไหนจะไปเล่นให้ชุดใหญ่ จะได้เตรียมทีมและแท็คติคให้เข้ากับนักเตะได้อย่างเหมาะสม 


ยิ่งนักเตะชุดนี้เต็มไปด้วยแข้งระดับหัวกะทิทั้ง กฤษดา กาแมน, โจนาธาน เข็มดี, จตุรพัช สัทธรรม, ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร, อิรฟาน ดอเลาะ หรือ ชาญณรงค์ พรหมศรีแก้ว

ขณะที่แนวรุกมีทั้ง กรวิทย์ ทะสา, เอกนิษฐ์ ปัญญา, แพทริก กุสตาฟส์สัน, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, สิทธิโชค ภาโส หรือ อนันต์ ยอดสังวาลย์ ให้เลือกใช้งาน 

ทำให้แฟนบอลอยากเห็นการเล่นด้วยสไตล์ฟุตบอลสมัยใหม่ การจ่ายบอลเท้าสู่เท้าแม่นยำ รูปแบบการเล่นชัดเจน และเพรสซิ่งดุดันเต็มไปด้วยความกระหายในชัยชนะ


อย่าลืมว่านอกจาก “โค้ชโย่ง” จะต้องทำภารกิจให้บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้แล้ว ยังต้องกระตุ้นให้ลูกทีมเล่นให้ “ชนะใจ” แฟนบอลด้วย

หากทำได้เชื่อว่า “โค้ชโย่ง” จะได้รับเครดิตและเสียงชื่นชมจากแฟนบอลกลับมาได้อีกครั้งแน่นอน 

นี่คือภารกิจสำคัญและเป็นบทพิสูจน์ฝีมือ “โค้ชโย่ง” ด้วยว่ามีความเหมาะสมที่จะคุมทีมชุดนี้ในระยะยาวหรือไม่


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด