:::     :::

เด็กปั้นราคาแพงที่สุดของพรีเมียร์ลีก

วันศุกร์ที่ 01 เมษายน 2565 คอลัมน์ เด็กเก็บบอล โดย ยักษ์เดนส์
1,324
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ทุกวันนี้การปั้นเด็กขึ้นมาจากอะคาเดมี่ส่วนใหญ่เราจะได้เห็นจากสโมสรระดับกลางลงไปถึงระดับล่างมากกว่าที่เราจะได้เห็นจากทีมระดับท็อป

         ความด้วยความสำเร็จที่รอไม่ได้ ความอดทนของบอร์ดบริหารและแฟนบอลมีขีดจำกัดทำให้ผู้จัดการทีมของบรราดทีมใหญ่ไม่ค่อยกล้าที่จะทอบโอกาสให้ดาวรุ่งอย่างเต็มที่

         เรียกได้ว่าซื้อสูตรที่ผสมเข้าที่แล้วเอามาลงกับทีมตัวเอง ส่วนจะได้เรื่องหรือไม่ได้เรื่องก็ว่ากันไป

         หลายสโมสรแทบจะใช้การปั้นเด็กให้พอมีฝีเท้าแล้วขายเพื่อจุนเจือสโมสรกันเลย ไม่ใช่ว่าไม่อยากรั้งเอาไว้ แต่บางครั้งการตามล่าห่ความสำเร็จก็เป็นส่วนหนึ่งของนักเตะอาชีพ  หรือจะบอกว่านักเตะเองก็อยากย้ายด้วยนั่นแหละ

         ทีมใหญ่ได้นักเตะที่ต้องการ นักเตะได้ย้ายไปสู่ทีมที่ได้ลุ้นแชมป์ ทีมเล็กได้เงินก้อนโตมาพยุงการเงินสโมสร จะบอกว่า "วิน-วิน" ก็คงไม่น่าเกลียดเท่าไร

         มาดูการย้ายทีมที่ทำกำไรมหาศาลที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ว่าจะมีใครกันบ้าง โดยราคาค่าตัวนั้นอ้างอิงมาจากเว็บไซด์ทรานเฟอร์มาร์คต์

เบน ชิลเวลล์

จาก : เลสเตอร์ ซิตี้ ไป : เชลซี

ค่าตัว : 45.18 ล้านปอนด์


         แบ็กซ้ายทีมชาติอังกฤษเกิดที่มิลตัน คีนส์ โดยย้ายมาอยู่กับ เลสเตอร์ ซิตี้ ตั้งแต่อายุเพียง 12 ปีเท่านั้นเมื่อปี 2009 โดยเจ้าหนู เบน ชิลเวลล์ ฉายแววตั้งแต่อายุยังน้อย และคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของทีมในปี 2014/15 และขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปีถัดมา

         หลังจากที่เป็นเพียงตัวประกอบในปีแรกและโดนปล่อยให้ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ในแชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2016/17 ชิลเวลล์ เริ่มมีส่วนร่วมมากขึ้นแม้จะเจออาการบาดเจ็บเล่นงาน พร้อมกับมีประตูแรกในสีเสื้อ "สุนัขจิ้งจอก" ในเกมที่ทีมแพ้ สเปอร์ส 1-6 ในช่วงท้ายฤดูกาล

         แต่หลังจากนั้นเจ้าตัวก็เริ่มขึ้นมาอยู่ในชุดใหญ่อย่างเต็มตัวโดยลงเล่นมากขึ้น 32 เกมทุกรายการในปี 2017/18 และ 36 เกมในปี 2018/19 ซึ่งเป็นการเล่นในพรีเมียร์ลีกทั้งหมด ทำไป 5 แอสซิสต์

         ในปี 2019/20 ปีสุดท้ายใส่รั้วคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ถือเป็นปีที่ดีที่สุดกับ เลสเตอร์ โดยทำ 3 ประตูกับ 4 แอสซิสต์จาก 33 เกมทุกรายการ แม้ว่าช่วงเวลากับทีมจะไม่มีแชมป์อะไรติดมือแต่ผลงานที่โดดเด่นก็ทำให้ เชลซี ทุ่มเงินก้อนโต 45.18 ล้านปอนด์ คว้าตัวไปอยู่ในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์

         จากวันนั้นจนถึงวันนี้ลงเล่นให้ เชลซี ไปแล้ว 54 เกมทำ 7 ประตูกับ 8 แอสซิสต์ กวาดแชมป์ใหญ่ทั้งยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ, ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ และเป็นรองแชมป์เอฟเอ คัพด้วย

อารอน วาน-บิสซาก้า

จาก : คริสตัล พาเลซ ไป : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ค่าตัว : 49.50 ล้านปอนด์


         เข้าสู่สังกัดของ คริสตัล พาเลซ ตั้งแต่อายุ 11 ปีย้อนกลับไปเมื่อปี 2009 ก่อนที่จะเซ็นสัญญาอาชีพทางการในปี 2016 โดยเริ่มต้นด้วยการเล่นในตำแหน่งปีก

         ภายใต้การคุมทีมของ แฟร้งค์ เดอ บัวร์ ในช่วงแรกนั้นนายใหญ่ชาวฮอลแลนด์ประทับใจกับการเล่นเกมรับของแข้งชาวอังกฤษรายนี้ จนขยับถอยลงเล่นมาในตำแหน่งฟูล-แบ็กแทน จนมาถึงยุคของ รอย ฮ็อดจ์สัน เจ้าตัวก็กลายเป็นแบ็กที่ไว้ใจได้ในการเล่นเกมรับเลยและโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจ

         ในช่วงซัมเมอร์ปี 2019/20 ทาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทุ่มเงินระดับ 49.50 ล้านปอนด์เพื่อดึงตัวไปร่วมทีม โดยในซีซั่นแรกถือว่าได้รับคำชมอย่างมากในการเล่นเกมรับที่เข้าสกัดได้อย่างยอดเยี่ยม

         อย่างไรก็ตามเกมรุกยังเป็นปัญห่สำหรับ วาน-บิสซาก้า ที่ถูกยกไปเปรียบเทียบกับแข้งร่วมชาติคนอื่นอยู่เสมอ จนกระแสกดดันอย่างหนักทำให้เจ้าตัวหลุดฟอร์มไปเยอะทีเดียวในช่วงหลัง

เบน ไวท์

จาก : ไบรท์ตัน ไป : อาร์เซน่อล 

ค่าตัว : 52.65 ล้านปอนด์


         หนึ่งในคนที่ถูกพูดถึงมาที่สุดในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่ไม่ใช่เพราะความเก่งกาจ แต่เป็นเรื่องของค่าตัวที่ถูกปรามาสเอาไว้อย่างสูงว่าไม่น่าจะแพงขนาดนี้ 

         เบน ไวท์ ย้ายจาก เซาธ์แฮมป์ตัน มาเป็นอยู่กับ ไบรท์ตัน ตอนอายุ 16 ปี และหลังจากนั้นสองปีก็เริ่มได้รับโอกาสลงเล่นในบอลถ้วย น่าเสียดายในปีถัดมาที่ทีมเลื่อนชั้นเจ้าตัวโดนปล่อยให้ ปีเตอร์โบโร่ ยืมตัวใช้งาน รวมถึงในปี 2019/20 ที่ไปเล่นกับ ลีดส์

         การค้าแข้งกับทีม "ยูงทอง" ที่เจ้าตัวลงเล่นทั้ง 46 เกมในแชมเปี้ยนชิพ ช่วยให้ ลีดส์ ได้แชมป์แชมเปี้ยนชิพเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกและกลับสู่ ไบรท์ตัน มาเป็นตัวจริงในปี 2020/21

         ไวท์ ทำผลงานได่อย่างยอดเยี่ยมช่วยทีมรอดตกชั้นไปได้พร้อมกับคว้าตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสรไปครองด้วย

         และด้วยฟอร์มที่น่าประทับใจนี่แหละที่ทีมให้ อาร์เซน่อล ยอมทุ่มเงินก้อนโตไปร่วมทีมพร้อมเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แต่เจ้าตัวก็ค่อยๆปรับตัวและเป็นตัวหลักของทีมช่วยให้ "ปืนใหญ่" อยู่ในอันดับ 4 ของตารางในขณะนี้

ราฮีม สเตอร์ลิ่ง

จาก : ลิเวอร์พูล ไป : แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ค่าตัว : 57.33 ล้านปอนด์


         เกิดที่คิงส์ตัน ประเทศจาไมก้า กระทั่งอายุ 5 ขวบเดินทางมายังอังกฤษก่อนเริ่มต้นเป็นเด็กฝึกหัดของ ควีนส์ พาร์ค เรนเจอร์ส ตอน 10 ขวบก่อนที่จะมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ตอนอายุ 16 ปีก่อนจะขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในอีก 2 ปีให้หลังในยุคของ ราฟาเอล เบนีเตซ

         การลงสนามของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง สร้างความฮือฮาด้วยการเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดอันดับ 3 ของสโมสร มาพร้อมกับความเร็วที่น่าทึ่งและความสามารถในการไปกับบอลได้อย่างยอดเยี่ยมปั่นป่วนแนวรับคู่แข่งจนกระเจิง

         129 เกมในสีเสื้อของ "หงส์แดง" เจ้าตัวลงเล่น 129 เกม ทำไป 23 ประตูกับ 25 แอสซิสต์ และในปี 2014/15 ก็ถือเป็นปีที่ดีที่สุดของเจ้าตัวก่อนที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะติดต่อเข้ามา

         ด้วยค่าตัว 57.33 ล้านปอนด์ที่ทาง "เรือใบ" จ่ายไปทำให้ สเตอร์ลิ่ง เป็นนักเตะชาวอังกฤษที่มีค่าตัวแพงที่สุดในเวลานั้นเลย 

แจ็ค กรีลิช

จาก : แอสตัน วิลล่า ไป : แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ค่าตัว : 105.75 ล้านปอนด์


         เด็กน้อยจากเมืองเบอร์มิงแฮมมาอยู่กับ แอสตัน วิลล่า ตั้งแต่อายุเพียง 6 ปีเท่านั้นกระทั่งอายุ 17 ปีก็เริ่มขึ้นมาซ้อมกับทีมชุดใหญ่ก่อนถูกส่งไปลองฝีเท้ากับ น็อตต์ส เคาน์ตี้ ในฤดูกาล 2013/14 

         หลังจากนั้น แจ็ค กรีลิช กลับมาอยู่กับ "สิงห์ผงาด" โดยสองปีแรกยังได้ลงเล่นสลับเป็นตัวสำรอง กระทั่งในปี 2016/17 ที่ทีมตกชั้นไปเล่นในแชมเปี้ยนชิพ เจ้าตัวก็ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในแดนกลางของทีมและช่วยทีมกลับสู่พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จในปี 2019/20 

         สองปีที่โลดแล่นในแชมเปี้ยนชิพร่วมกับ วิลล่า, กรีลิช ยกระดับฝีเท้าขึ้นและการขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกไม่ได้ลดทอนศักยภาพแต่ยิ่งทำได้ดีมากยิ่งขึ้นจนกลายเป็นที่จับตามองอย่างมาก

         6 ประตูกับ 10 แอสซิสต์เมื่อฤดูกาลที่แล้วทำให้ "เรือใบ" ทุ่มทุนสูงถึง 105.75 ล้านปอนด์ดึงตัวไปร่วมทีม แม้ว่าจะยังไม่ได้โชว์ผลงานได้เปรี้ยงปร้างอย่างที่หลายคนคาดหวังทำได้แค่ 4 ประตูกับ 3 แอสซิสต์ แต่ก็ยังเชื่อว่าเจ้าตัวจะโดดเด่นได้ในไม่ช้า


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด