:::     :::

บทสรุปเอฟเอ คัพของทัพสิงห์

วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม 2565 คอลัมน์ สนามเด็กเล่น โดย เสือเตี้ย
824
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
บทสรุปสุดท้ายของฤดูกาลนี้ เชลซี ต้องจบลงด้วยมือเปล่า แม้ว่าจะยังมีภารกิจในการรักษาพื้นที่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกฤดูกาลหน้าเอาไว้อยู่

         สองถ้วยในประเทศทั้งคาราบาว คัพ และ เอฟเอ คัพจบลงด้วยความพ่ายแพ้อย่างน่าเจ็บใจ โดยทั้งสองหนเป็นการแพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล และตัดสินด้วยการดวลเป้าทั้งสองครั้ง

         ถือเป็นความเจ็บปวดของเหล่านักเตะและแฟนบอล หลังจากที่ 3 หนก่อนหน้นที่ในการดวลเป้าทีมชนะมาตลอดทั้งกับ บียาร์เรอัล ในยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และอีกสองครั้งกับ แอสตัน วิลล่า และ เซาธ์แฮมป์ตัน ในคาราบาว คัพมา

         อาจจะไม่สามารถบอกได้ว่าทีมลงเอยด้วยความล้มเหลวเมื่อเข้าชิงบอลถ้วยถึงสองรายการ แต่ในเมื่อจบด้วยการไม่ได้แชมป์อะไรเลยหลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมเมื่อฤดูกาลที่แล้วมันก็น่าผิดหวังนั่นแหละ

        

ต่อเวลาพิเศษ

         นัดนี้ถือเป็นเกมที่ 61 ของ เชลซี ในทุกรายการ ถือว่านักเตะในทีมทุกคนเค้นพลังงานออกมาอย่างเต็มที่ แต่ต้องบอกว่าเกมที่เวมบลีย์นั้นทีมยังมี "ก๊อกสอง" ที่ทำให้เกมของพวกเขายังสู้ได้ดี

         โดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรกของการต่อเวลาพิเศษที่ทีมครองบอลได้ถึง 65 เปอร์เซ็นต์ และโอกาสทำประตู 3 ใน 10 ครั้งที่ทีมทำได้ก็เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ ในขณะที่โอกาสทั้ง 17 ครั้งตลอดทั้งเกมของ ลิเวอร์พูล ไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้เลย

         "หงส์แดง" กลับมาครองบอล 58 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงครึ่งหลัง โดยตลอดทั้งเกมทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ครองบอลที่ 53 เปอร์เซ็นต์ 

        

อลอนโซ่ ในตำแหน่งปีก

         ในครึ่งหลัง มาร์กอส อลอนโซ่ เกือบพังตาข่ายให้กับทีมได้จากฟรีคิกที่ยิงไปชนเสา โดยในภาพรวมทั้งสองทีมมีโอกาสยิงเข้ากรอบทีมละ 2 หนเท่ากัน โดยทาง เชลซี ยิงไม่เข้ากรอบ 8 หน ส่วนฝั่ง ลิเวอร์พูล ยิงไม่เข้ากรอบ 12 ครั้ง กับ 3 ครั้งที่ติดบล็อค 

         ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ สร้างโอกาสสำคัญ 3 ครั้งเทียบกับทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล ที่ทำได้ 1 ครั้ง ซึ่งการเล่นเกมรุกของ "สิงห์บลูส์" บุกทางฝั่งซ้ายของ อลอนโซ่ มากกว่าฝั่งขวาของ รีซ เจมส์ 

         นั่นเป็นเพราะเจ้าตัวมี อันโตนิโอ รือดิเกอร์ คอยช่วยจัดการกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก่อนที่แข้งทีมชาติอียิปต์จะเจ็บและถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามหลังผ่านครึ่งชั่วโมงของเกม

         แข้งชาวสเปนเป็นนักเตะที่สัมผัสบอลมากที่สุดของ เชลซี และมีโอกาสยิงมากที่สุดร่วมกับ คริสเตียน พูชิซิช คนละ3 หน ซึ่งทาง อลอนโซ่ บีบให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ไม่กล้าเติมเกมรุกมากนักเมื่อเทียบกับอีกฝั่งอย่าง แอนดี้ โรเบิร์ตสัน

        

มีส่วนร่วมมากที่สุด

         แผนการเล่นของ ลิเวอร์พูล ที่ใช้ นาบี เกอิต้า เป็นตัวลุยขึ้นมาจากตรงกลาง ทำให้ในแนวรุกของ "หงส์แดง" เจาะเข้ามาหลายครั้งโดยมี ซาดิโอ มาเน่ เป็นเป้า

         นั่นทำให้แนวรับ เชลซี งานเยอะและต้องมีสมาธิอยู่ตลอดเวลา ซึ่ทาง เทรโวห์ ชาโลบาห์ คือนักเตะที่สกัดและเคลียร์บอลมากกว่าใครในทีม 5 ครั้ง แถมยังผ่านบอลมากสุดที่ 68 ครั้ง ในขณะที่ ติอาโก้ ซิลวา เพื่อนร่วมทีมทำได้ 3 ครั้ง

         ในตำแหน่งกองกลาง จอร์จินโญ่ ขับเคลื่อนบอลไปข้างหน้า ไม่แปลกที่จะสัมผัสบอลมากกว่า มาเตโอ โควาซิช ถึงสองเท่า แต่มิดฟิดล์ทีมชาติอิตาลีก็ตัดบอลได้ถึง 4 หนมากกว่าใครในทีม

        

         ส่วนนักเตะยอดเยี่ยมของฝั้ง "สิงห์บลูส์" นักเตะที่ได้รับการโหวตมากที่สุดจากแอปป์ 5th Stand ได้แก่ รีซ เจมส์ โดยเจ้าตัวจ่ายบอลสำคัญ 2 หนมากที่สุดในทีมและเปิดบอลเข้าเขตโทษสองหน นอกจากนี้ยังเข้าสกัดบอล 2 ครั้ง สัมผัสบอล 95 ครั้ง และผ่านบอลสำเร็จ 53%

         ส่วนทาง อลอนโซ่ ที่บุกมากกว่าได้เปิดบอลเข้าเขตโทษ 7 ครั้ง ส่วนทาง เมสัน เมาท์ เปิดบอล 5 ครั้ง

        


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด