Tier หรือเขียนทับศัพท์ว่า เทียร์ ในวงการข่าวฟุตบอลคือการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของการรายงานข่าว ซึ่งส่วนมากจะเป็นในเรื่ิองของการซื้อขายนักเตะ รวมไปถึงข่าววงในต่าง ๆ ของสโมสร เทียร์ ต่าง ๆ เริ่มได้รับความนิยมและถูกพูดถึงมากขึ้นในช่วงหลายปีหลัง ส่วนหนึ่งเกิดจากพฤติกรรมการเสพข่าวที่เปลี่ยนไป จากการอ่านหนังสือพิมพ์มาเป็นสื่อออนไลน์มากขึ้น ซึ่งในหลายครั้งหลายหนประชาชนชาวโซเชี่ยล มีเดีย เองก็มักจะถูกปั่นหัวด้วยข่าวประเภทคลิกเบตหรือข่าวเต้าที่เรียกยอดไลก์ ยอดแชร์ แต่ไม่มีมูลความจริง จนทำให้เกิดการปรับตัวว่าต่อไปนี้หากจะแชร์หรือเชื่อข่าวใด ๆ ข่าวนั้นต้องมีที่มาจากสื่อที่เชื่อถือได้เท่านั้น ในอดีต สื่อใหญ่ที่เชื่อถือได้บนโลกออนไลน์มีมากมาย อาทิ บีบีซี, ไทมส์, โกล, เดอะ การ์เดี้ยน เป็นต้น ต่อมาความน่าเชื่อถือทั้งหลายก็เริ่มถูกจำกัดวงให้แคบลงด้วยการ "เฉพาะเจาะจง" ไปยังชื่อนักข่าวที่หาข่าวนี้มา จนค่อย ๆ มีการจัดลำดับของ เทียร์ เกิดขึ้น ลำดับของ เทียร์ หรือความน่าเชื่อถือในข่าวถูกแบ่งออกเป็นทั้งหมด 5 ระดับ ดังนี้
เทียร์ 5 = มีระดับความน่าเชื่อถือ 0 - 25 % โดยส่วนมากจะมาจากแหล่งข่าวที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ หรือมาจากเว็บไซต์ที่ขยันปั้นข่าวมาเรียกยอดเข้าชม เทียร์ 4 = ระดับความน่าเชื่อถือ 25 - 45 % ซึ่งดีกว่าสำนักข่าวที่แล้ว แต่ระดับความน่าเชื่อถือยังอยู่ในระดับต่ำ คือไม่ได้ปั้นข่าวมา แต่ข่าวที่ลงยังไม่มีการคัดกรองที่ดีพอ เทียร์ 3 = ระดับความน่าเชื่อถือ 45 - 65 % เป็นประเภทที่ข่าวเชื่อถือได้ แต่ยังพอจะมีความผิดพลาดในการรายงานอยู่บ่อยครั้ง ข่าวส่วนใหญ่ผ่านการกรองมาแล้วระดับหนึ่ง เทียร์ 2 = ระดับความน่าเชื่อถือ 65 - 85 % อยู่ในเกณฑ์ที่เชื่อถือได้ ข่าวค่อนข้างตรง มีผิดพลาดบ้างเล็กน้อย เทียร์ 1 = ระดับความน่าเชื่อถือ 85 - 99.99 % เลเวลนี้คืออยู่ในระดับความน่าเชื่อถือสูงสุด ส่วนใหญ่เป็นพวกหัวหน้าข่าว หรือพวกนักข่าวท้องถิ่นที่สิงสถิตในสโมสรนั้น ๆ เป็นหลัก ข่าวจากเทียร์นี้จึงมีความน่าเชื่อถือค่อนข้างมาก แล้วทีนี้ เทียร์ต่าง ๆ สำคัญกับการเสพข่าวในปัจจุบันนี้มากแค่ไหน? ถ้าพูดตามตรงก็ต้องบอกว่า "สำคัญ" เพราะมันคือการการันตีในระดับหนึ่งว่าข่าวที่เรากำลังเสพนั้น มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเกิดขึ้นจริง แต่ในอีกมุมหนึ่งก็ต้องบอกเช่นกันว่า เทียร์เหล่านี้ "ไม่ใช่หลักยึด" สำหรับการเสพข่าวเช่นกัน ที่พูดแบบนี้ก็เพราะว่า ในปัจจุบันดูเหมือนแฟนบอลจะไปเทน้ำหนักให้ความสำคัญกับเทียร์ มากกว่าการ "วิเคราะห์ข่าว" ด้วยตัวเองกันหมดแล้ว ในข่าวหนึ่งข่าว การรับข้อมูลจากทุกด้านคือเรื่องสำคัญ แม้ว่าเราจะได้ข้อมูลจากเทียร์ 1 มาก็จริง แต่ในขณะเดียวกันเราก็ต้องวิเคราะห์ตามด้วยว่า "เป็นไปได้" มากน้อยแค่ไหน หากเรานำข้อมูลจากอีกฝั่งมาเทียบกัน
ฟาบริซิโอ โรมาโน่ ที่เป็นท็อป ๆ ของเรื่องนี้เองยังมีลูกผิดให้เห็นอยู่บ้างเลย แล้วทำไมในหลาย ๆ ครั้ง เราถึงให้น้ำหนักกับคำว่า "เทียร์" กันมากเกินไป ข่าวบางข่าวมาจากเทียร์ในระดับ 3 แต่ถ้าหากมันมาจากฝั่งที่มีสายสัมพันธ์กับนักเตะลึกซึ้ง เราจะไม่ฟังข้อมูลจากข่าวนี้กันเลยหรือ? ยกตัวอย่าง ข่าวของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ล่าสุดที่มีข่าวว่าขอย้ายออกจาก แมนฯ ยูไนเต็ด นั้น คนแรกที่รายงานข่าวนี้คือ ดันแคน คาสเซิ่ล นักข่าวซึ่งถูกจัดไว้ในระดับเทียร์ 4 หากเรามองแค่ลำดับเทียร์ เราคงคิดว่านี่คือข่าวปั่น แต่ถ้าเราวิเคราะห์เพิ่มขึ้น จะพบว่า ดันแคน แคสเซิ่ล คนนี้เนี่ย เขาเป็นคนสนิทของ จอร์จ เมนเดส เอเย่นต์ของ โรนัลโด้ เลยนะ แล้วทำไมเราถึงไม่เชื่อถือข่าวนี้ล่ะ ทั้งที่มันค่อนข้างมีความเป็นไปได้มากกว่าเทียร์ 1 ที่ไม่ได้ใกล้ชิดวงในนักเตะคนนี้ขนาดนี้ด้วยซ้ำ หรืออย่างตอน ดาร์วิน นูนเญซ ที่มีข่าวจะย้ายมา ลิเวอร์พูล เองก็ตาม นักข่าวเทียร์สูง ๆ ลงข่าวช้ากว่าฝั่งโปรตุเกสด้วยซ้ำ แต่พอเราเอาข่าวจากฝั่งโปรตุเกสที่เชื่อถือได้มาลงว่า นูนเญซ จะมาหงส์แดง กลับไม่น่าเชื่อถือเท่ารอเทียร์ 1 มาคอนเฟิร์มเหรอ? ทั้งที่บางครั้งเทียร์สูง ๆ เหล่านี้ก็เอาข่าวตั้งต้นมาจากพวกเทียร์ล่าง ๆ นี่แหละ ก่อนจะมาขยายความ หาข้อมูลเพิ่มแล้วค่อยออกมา Here we go ทีหลัง ไม่ได้บอกว่าเทียร์นักข่าวไม่สำคัญนะครับ แต่กำลังจะบอกว่า "อย่าไปยึดติดกับคำว่าเทียร์" กันให้มาก เราใช้ลำดับเทียร์ของนักข่าวมาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ดีกว่า แล้วเปิดใจรับฟังเทียร์อื่น ๆ จากแหล่งข่าวอื่น ๆ กันบ้าง นำข้อมูลมาประกอบกัน แล้วเราจะมองเห็นภาพกว้าง มองเห็นความจริงของข่าวนั้น ๆ มากขึ้น เสพข่าวให้สนุก ไม่ต้องไปยึดมั่นถือมั่นกับเทียร์มาก แม่นยำแค่ไหนก็พลาดกันได้ ถ้าเราไม่ยึดติดกับเทียร์ 1 เทียร์ 2 อะไรพวกนั้น เราจะเห็นกลไกของข่าวชัดเจนขึ้น และในหลาย ๆ ดีล หากเราวิเคราะห์ข่าวด้วยตัวเอง นอกจากจะสนุกในการเสพข่าวแล้ว เรายังสามารถ Here we go ด้วยตัวเองได้เลย โดยไม่ต้องรอให้ใครมาคอนเฟิร์ม นั่นแหละครับ คือความสนุกของการเสพข่าวซื้อขาย ในช่วงที่ไม่มีฟุตบอลมันส์ ๆ ให้ดู
