แม้ในช่วงย้ายมา การท่าเรือ เอฟซี เมื่อเลกสองของซีซั่นที่แล้ว ชื่อของ “ธีรศักดิ์ เผยพิมาย” ไม่ได้อยู่ในสปอร์ตไลท์ของแฟนบอลด้วยซ้ำ แต่เขาไปฉายแสงออร่าใน ชิงแชมป์เอเชีย อายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก 2022 ที่มองโกเลีย ต่อด้วย เอเอฟเอฟ ยู 23 2022 ที่กัมพูชา โดยเป็นตัวหลักของไอ้หนูไทย ที่ส่วนใหญ่เป็นทีมชุด 19 ปี
แม้ครั้งนั้นอาจจะจบเพียงรองแชมป์ แต่ชื่อของอดีตดาวเตะจากโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี เริ่มถูกพูดถึงขึ้นมามาก เป็นช่วงคาบเกี่ยวกันกับที่ “เซอร์เด็จ” จเด็จ มีลาภ กลับมาคุม การท่าเรือ เอฟซี และจัดการส่งเขาลงสนามมากขึ้นในช่วงปลายซีซั่น
แต่กับทีมชาติไทย "เจ้าต้น" ไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คิด เพราะในรายการ ซีเกมส์ ก็ไม่ได้เป็นตัวหลัก หรือในรายการ ยู 23 ชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศอุซเบกิสถาน ก็ถูกตัดชื่อไม่ได้ไปลุยทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว
เพราะว่าครั้งนั้นทีมเอากองหน้าอย่าง ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, กรวิชญ์ ทะสา, อชิตพล คีรีรมย์, สิทธิโชค ภาโส และ พาตริก กุสตาฟส์สัน ซึ่งมีประสบการณ์มากกว่าลูกศิษย์ของ อ.สกล เกลี้ยงประเสริฐ ไปแทน แต่นั่นไม่ทำให้ “เจ้าต้น” รู้สึกผิดหวังท้อแท้แต่อย่างใด
กลับกันเด็กหนุ่มชางโคราชโดยกำเนิด มุ่งมั่นตั้งใจในการฝึกซ้อมปรีซีซั่นกับ การท่าเรือ เอฟซี แม้ในช่วงแรกมีข่าวว่า เขาต้องตาม อนุศักดิ์ ใจเพชร กับ สิทธา บุญหล้า ไปเล่นที่ คัสตอม ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ "เซอร์เด็จ" ก็ตาม
ช่วงดังกล่าว สก็อตต์ คูเปอร์ เข้ามาทำทีมแล้ว เขาเริ่มแสดงศักยภาพในการเป็นเครื่องจักรสังหารออกมา โดยเป็นคนเดียวที่ทำไป 6 ประตู ตลอดการลงเล่นเกมอุ่นเครื่องเพื่อสร้างความพร้อมให้กับทีม ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาได้สตาร์ทตัวจริงทุกเกมให้กับ การท่าเรือ เอฟซี ในรีโว่ ไทยลีก 2022-23 และทำไป 2 ประตูแล้วจาก 2 เกมหลังสุด ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เกือบยิงมาหลายประตูแล้วแต่โชคไม่เข้าข้างทั้งถูกริบประตูจาก VAR และถูกเสารวมถึงมือกาวฝั่งตรงข้ามปฏิเสธประตูมาตลอด
ด้วยฟอร์มแบบนี้ ประกอบกับความไม่สมบูรณ์ของ ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้ารุ่นพี่จาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ทำให้ มาโน่ โพลกิ้ง กุนซือทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ตัดสินใจใช้ 3 หัวหอกดาวรุ่งในรายการชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ครั้งที่ 48
ทั้ง 2 ตัวหลักจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทั้ง ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา กับ ศุภชัย ใจเด็ด ที่ยิงรวมกันไป 8 ประตู และ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย ซึ่งหัวหอกวัยย่าง 20 กะรัต ได้ออกมาพูดถึงความรู้สึกสุดพิเศษแบบนี้ว่า
"ดีใจ และ เซอร์ไพรส์มากครับ ไม่คิดว่าตัวเองจะมีชื่อติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ครั้งแรก ตั้งแต่เด็ก ผมมีโอกาสดูพี่ ๆ เล่นแค่ในทีวี แต่ตอนนี้กำลังจะมีโอกาสไปซ้อม และ ไปเล่นด้วย ไม่รู้จะพูดอะไรดี นอกจากดีใจ และ ตื่นเต้นมากครับ”
“ตั้งแต่เล่นฟุตบอลมา นี่เป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ที่สุดในชีวิตแล้วครับ ผมไม่เคยคิด ไม่เคยฝันเลยว่าจะมีโอกาสติดทีมชาติไทยชุดใหญ่เร็วขนาดนี้ เพราะในฐานะเด็กบ้านนอก คำว่า ทีมชาติไทยชุดใหญ่ กับผมห่างไกลกันมาก แค่คิดว่าจะมีโอกาสเข้ามาเล่นฟุตบอลในกรุงเทพฯ เรียนโรงเรียนดี ๆ และ เป็นนักฟุตบอลอาชีพ ก็ยากมากแล้วครับ”
“ยอมรับว่าโอกาสเข้ามาเร็วจริง ๆ ครับ แต่ผมก็จะทำให้เต็มที่ เพื่อเก็บประสบการณ์ มาต่อยอด และ พัฒนาตัวเองขึ้นเรื่อย ๆ ครับ ซึ่ง ไทยลีก 3 (พราม แบงค็อก) กับ ไทยลีก 1 ต่างกันมากครับ ทั้งระดับการเล่น และ คุณภาพผู้เล่น”
“ช่วงที่ผมย้ายมาที่นี่ใหม่ ๆ ก็แทบปรับตัวไม่ได้เลยครับ รู้ตัวเองเลยว่าความสามารถ และ สภาพร่างกายยังไม่ถึง แต่พอมีโอกาสอยู่ไปเรื่อย ๆ ได้เรียนรู้จากพี่ ๆ ทุกคนในทีม ก็ทำให้ผมพัฒนาขึ้น และ ชีวิตในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ก็เปลี่ยนไปเยอะมากครับ แต่สิ่งสำคัญที่ผมโฟกัสมากที่สุด ก็คือ ฟุตบอลครับ”
“ผมมาถึงตรงนี้ได้ ผมอยากขอบคุณอาจารย์ทุกคนเลยครับ ตั้งแต่อนุบาล , ประถมฯ , ม.ต้น และ ม.ปลาย อาจารย์สกล เกลี้ยงประเสริฐ , อาจารย์จุ่น (จตุพร ประมลบาล) ที่พราม , โค้ชทุกคน รวมถึงที่ขาดไม่ได้ คุณแป้ง (นวลพรรณ ล่ำซำ) และ คุณเอ ที่เห็นความสามารถ และ ให้โอกาสผมมาเล่นกับทีมใหญ่อย่าง การท่าเรือ เอฟซี”
“สุดท้าย ผมอยากฝากแฟนบอล การท่าเรือ และ ทีมชาติไทย เป็นกำลังใจให้ผมด้วยครับ ผมไม่รู้ว่าชีวิตนี้ ผมจะมีโอกาสแบบนี้กี่ครั้ง ดังนั้น ผมจะพยายามทำให้เต็มที่ เรียนรู้ และ เก็บเกี่ยวประสบการณ์กลับมาให้ได้มากที่สุด และ ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากจะมีโอกาสลงไปเล่นครับ”
โอกาสที่ไม่ได้มาบ่อยๆแบบนี้ แต่ทุกอย่างมาจากฟอร์มการเล่นที่เจ้าตัวโชว์ออกมาใน การท่าเรือ เอฟซี จนเป็นที่ยอมรับของแฟนบอลและทีมชาติไทย บางทีเขาอาจจะถูกโฉลกกับีมชุดใหญ่ของทัพ “ช้างศึก” ก็เป็นได้
และแน่นอนว่า เวทีต่อไปของ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย เป็นเวทีใหญ่กว่าเดิมมาก และเวลานั้นได้มาถึงแล้ว
"THIS IS YOUR SHOW TIME!!!"
