5 ดีลสุดคุ้ม จากบุนเดสลีกามาพรีเมียร์ลีก

บทความนี้จะขอคัดเลือกมา 5 ดีลที่นับได้ว่าเป็นดีลสุุดคุ้มสำหรับนักเตะจากบุนเดสลีกา จะมีใครบ้างนั้น เชิญทัศนากันได้เลย 5) อิลคาย กุนโดกัน กุนโดกัน ย้ายจาก ดอร์ทมุนด์ มาอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ ในตอนปี 2016 ด้วยค่าตัวประมาณ 20 ล้านปอนด์ ซึ่งช่วงแรก ๆ ที่ย้ายมาก็ถูกตั้งแง่ไม่น้อยเหมือนกันว่าจะเล่นในลีกอังกฤษได้มากน้อยแค่ไหน กุนโดกัน ใช้เวลาไม่นานในการพิสูจน์ตัวเองว่าสามารถเล่นได้ทุกที่ในโลก เขากลายเป็นห้องเครื่องคนสำคัญในการขับเคลื่อนเกมตรงกลางสนามของทีม ฤดูกาลที่พีคสุด ๆ ของเขาคือในปี 2020-21 ซึ่ง กุนโดกัน ยิงได้มากถึง 17 ประตูจากทุกถ้วยทุกรายการ และพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 3 ในรอบ 4 ฤดูกาลหลังสุดอีกด้วย กุนโดกัน เอาตัวรอดบนเวทีพรีเมียร์ลีกได้อย่างสบายหายห่วง เขาติดทีมยอดเยี่ยมของลีก 1 ครั้ง และเคยได้นักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนของลีกอีก 2 ครั้ง ปัจจุบันเขาลงสนามให้ ซิตี้ ไปแล้ว 263 นัด ยิงไป 51 ประตูกับอีก 34 แอสซิสต์ อีกทั้งยังเคยทำสถิติจ่ายบอลสำเร็จมากที่สุดในหนึ่งนัดด้วยจำนวนถึง 167 ครั้ง ซึ่งนั่นคืออีกเครื่องการันตีถึงฝีเท้าอันยอดเยี่ยมของเขาได้เช่นกัน เป๊ป กล่าวชม กุนโดกัน ว่าเป็นกองกลางที่ครบเครื่องมากที่สุดคนนึงที่เคยร่วมงานด้วย สามารถขยับไปเล่นได้หมดตามที่สั่ง รวมถึงให้เล่นเป็นฟอลส์ไนน์ก็เคยเล่นมาแล้ว แถมยังทำประตูได้อีกต่างหาก นอกจากนี้ยังเป็นกองกลางที่เล่นได้มีวินัยและแท็คเกิ้ลฉลาด โดยตลอดการเล่นกับ ซิตี้ มา 6 ปี เขายังไม่เคยได้รับใบแดงเลยสักครั้งเดียว 4) ซน ฮึง มิน ดาวเตะชาวเกาหลี หนึ่งในความภาคภูมิใจของชาวเอเชียอย่างแท้จริงกับผลงานระดับเทพบนเวทีพรีเมียร์ลีก ซึ่งในตอนนี้เขากลายเป็นซูเปอร์สตาร์หัวแถวของลีกไปแล้วเรียบร้อย ซน ย้ายจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มาอยู่กับ สเปอร์ส ในปี 2015 ด้วยค่าตัว 22 ล้านปอนด์ นับว่าเป็นนักเตะเอเชียที่มีค่าตัวย้ายทีมสูงที่สุดในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว ซน ฮึง มิน ใช้เวลาปรับตัวแค่ปีเดียวเท่านั้น เมื่อย่างเข้าสู่ปีที่สองเขาก็ระเบิดฟอร์มยิงประตูให้ไก่เดือยทองในระดับเลขสองหลักมาตลอด เขาประสานงานกับ แฮร์รี่ เคน อย่างเข้าขารู้ใจในแดนหน้า นับจนถึงตอนนี้ ซน ลงสนามให้ สเปอร์ส ไปแล้วมากถึง 334 นัด ยิงได้ 134 ประตู 75 แอสซิสต์จากทุกรายการ ได้นักเตะยอดเยี่ยมของ สเปอร์ส 2 สมัย รวมถึงยังได้รางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำปีของสโมสร 3 สมัยติดต่อกันอีกต่างหาก ซน พัฒนาฝีเท้าขึ้นในทุก ๆ วัน และผงาดได้ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกมาแล้วในฤดูกาลก่อน ผลงานของเขาในค่าตัว 22 ล้านวันนั้น ถือว่าคุ้มค่าทุกเพนนีเลยทีเดียว
3) ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมยอง กองหน้าชาวกาบองย้ายจาก ดอร์ทมุนด์ มาอยู่กับ อาร์เซน่อล ในช่วงต้นปี 2013 ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 56 ล้านปอนด์ โดยก่อนย้ายมาเขาฝากผลงานระดับเทพเอาไว้ที่เยอรมนีด้วยตัวเลข 141 ประตู พ่วงด้วยดาวซัลโวบุนเดสลีกาติดตัวมาด้วยอีก 1 สมัย เมื่อย้ายมาอยู่กับปืนโต โอยาเมยอง แทบไม่ต้องปรับตัวอะไรมากมาย สไตล์การเล่นของเขาเป็นพวกใช้ความเร็วในการเข้าทำ ดังนั้นจึงจูนติดกับฟุตบอลอังกฤษได้ง่าย โอบาเมยอง ยิงประตูในฤดูกาล 2018-19 ไปได้ถึง 22 ประตูจาก 36 นัดในพรีเมียร์ลีก ส่งผลให้เขาได้ดาวซัลโวมาครองทั้งที่เพิ่งเล่นแบบเต็มฤดูกาลปีแรก นอกจากนี้ยังได้นักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนของลีกอีก 2 ครั้ง รวมถึงได้นักเตะยอดเยี่ยมของสโมสรในปี 2020 อีกหนึ่งสมัยด้วยเช่นกัน โอบาเมยอง ถือว่าเป็นกองหน้าตัวท็อป ๆ ของพรีเมียร์ลีกในช่วงที่เขาฟิตสมบูรณ์ดี สถิติกับ อาร์เซน่อล คือยิงได้ 92 ประตูจาก 163 นัดรวมทุกรายการ แต่มามีปัญหาเรื่องวินัยในช่วงท้ายจนถูกยึดปลอกแขนกัปตันทีม และถูกปล่อยให้ บาร์เซโลน่า ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ก่อนจะคัมแบ็คกลับมาพรีเมียร์ลีกกับ เชลซี ในช่วงท้ายของซัมเมอร์ 2022 2) โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ กองหน้าจอมเทคนิคชาวบราซิล ซึ่งหากมองแค่ตัวเลขการทำประตูอาจไม่มากเท่าไหร่ แต่อิทธิพลต่อเกมรุกที่เขามีให้กับทีมนั้น ถือว่ามหาศาลเลยทีเดียว ฟีร์มิโน่ ย้ายจาก ฮอฟเฟ่นไฮม์ มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ในปี 2015 ด้วยค่าตัวราว ๆ 30 ล้านปอนด์ ก่อนจะค่อย ๆ ปรับตัวและกลายเป็นคีย์แมนสำคัญของ เจอร์เก้นทคล็อปป์ ในระบบ 4-3-3 ได้ในที่สุด สไตล์ของ ฟีร์มิโน่ เป็นประเภทตัวพักบอล ดึงกองหลังเพื่อเปิดพื้นที่ให้เพื่อนโฉบเข้าไปในกรอบเขตโทษ เขามีเทคนิคเจ๋ง ๆ แบบบราซิลมาโชว์อยู่เสมอ ทั้งการจ่ายบอลแบบไม่มองรวมถึงตอนยิงประตู ซึ่งเป็นเอกลัษณ์ที่ทำให้แฟน ๆ ชื่นชอบเขาเป็นอย่างมาก ฟีร์มิโน่ พา ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกและแชมป์ยุโรปได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเขาลงสนามให้ทีมไปแล้วมากถึง 335 นัด ยิงไป 101 ประตู และทำไปถึง 77 แอสซิสต์ ถือว่าเป็นกองหน้าที่ครบเครื่องและเป็นประเภทตัวจ่ายที่มีประสิทธิภาพมากคนนึงเลยทีเดียว เจอร์เก้น คล็อปป์ ชื่นชอบวิธีการเล่นของ ฟีร์มิโน่ มาก เขายกย่องให้เป็นเครื่องยนต์สำคัผบประจำทีม เป็นนักเตะที่โค้ชทุกคนอยากมีไว้ในทีม เป็นกองหน้าที่ไม่เห็นแก่ตัว สร้างอิมแพคท์ในเกมรุกได้ดี และเป็นคนที่พร้อมเล่นทุกอย่างตามแต่โค้ชจะสั่ง โดยที่ไม่ว่าจะจับไปเล่นบทบาทไหน เขาก็ทำหน้าที่นั้น ๆ ได้ดีเยี่ยมแบบไม่มีขาดตกบกพร่องเลย
1) เควิน เดอ บรอยน์ สุดยอดแห่งการย้ายจากบุนเดสลีกามาอยู่พรีเมียร์ลีก ประจำลิสต์นี้ ซึ่งเราแทบไม่ต้องบรรยายสรรพคุณอะไรของเขาคนนี้กันเลย เพราะผลงานที่ผ่านมา คือคำตอบที่เด่นชัดมากแล้วว่า เควิน เดอ บรอยน์ เป็นนักเตะที่เก่งมากแค่ไหน เดอ บรอยน์ ย้ายจาก โวล์ฟสบวร์ก มาอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ ในราคาสูงถึง 58 ล้านปอนด์ ตอนปี 2015 ก่อนจะโชว์ผลงานเกินราคาตั้งแต่วันแรกมาจนถึงวันนี้ เดอ บรอยน์ เป็นเพลย์เมกเกอร์ที่ครบเครื่อง เขามีจุดเด่นคือการยิงไกลรวมไปถึงการสอดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษที่เก่งมาก สถิติของเขากับ ซิตี้ คือยิงไป 87 ลูก 129 แอสซิสต์จากทุกรายการ ทั้งที่เล่นในตำแหน่งกองกลางด้วยซ้ำ เดอ บรอยน์ เป็นสตาร์ดังเบอร์ต้น ๆ ของพรีเมียร์ลีก เขากวาดรางวัลส่วนตัวมาครบถ้วนในอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นนักเตะยอดเยี่ยมจากการโหวตของเพื่อนร่วมอาชีพ 3 ครั้ง, นักเตะยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีก 1 ครั้ง รวมไปถึงยังกวาดรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสรอีก 3 ครั้ง นี่ยังไม่รวมรางวัลยิบย่อยอีกมากมาย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเครื่องการันตีชั้นดีว่า เดอ บรอยน์ คือนักเตะที่สมบูรณ์แบบมากแค่ไหนในยุคปัจจุบัน ทั้งหมดนี้คือ 5 ดีลคุณภาพจากบุนเดสลีกาสู่พรีเมียร์ลีก ที่พอจะบอกกับเราได้บ้างนะครับว่ามาตรฐานของนักเตะจากลีกเยอรมนีนั้น ไม่ได้หนีไปจากอังกฤษมากอย่างที่กลัวกัน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวนักเตะและโค้ชเป็นหลักว่าจะดึงศักยภาพออกมาได้มากแค่ไหนเท่านั้นเอง