สุสานเด็กปั้น
โคอาดี้ คือเด็กถิ่น ร้านตลาดผลผลิตแห่ง เมอร์ซี่ ไซด์ ตัวจริง ตั้งแต่ลืมตาดูโลกมาก็กรีดเลือดเป็น 'เดอะ ค็อป'
ทว่าโชคชะตา รวมถึงโอกาสไม่อำนวยให้ได้ลงสนามกับทีมชุดใหญ่ วันนี้จึงต้องพับความฝันการเป็นกัปตันทีม 'หงส์แดง' ออกไปหาตำแหน่งกับค่ายอื่น
กระทั่งได้ลงเอยกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ทีมในระดับแชมเปี้ยนชิพ ซึ่งกำลังทำผลงานโกยคะแนน เพื่อขอลืมตาอ้าปากบนลีกสูงสุด
โคอาดี้ (กลาง) วันนี้ไปเป็นกัปตัน วูล์ฟส์แฮมป์ตัน
มนุษย์ร้อยละ 95 เดินไปข้างหน้า แต่สำหรับเซนเตอร์ฮาล์ฟวัย 24 กะรัต เลือกก้าวถอยหลังตั้งหลักอย่างมั่นคงในลีกรอง
มันเรื่องที่แสนปวดใจเมื่ออุตส่าห์มีโอกาสเติบโตจากอะคาเดมี่ ลิเวอร์พูล, เกิดและเติบโตที่เมืองนี้ แต่กลับไม่สามารถคว้าเครื่องแบบสีแดงสดตัวนั้นมากอด
ซัมเมอร์ 2014 ในยุคของ ผจก.ทีม เบรนแดน ร็อดเจอร์ส แนะแนวให้ เซนเตอร์วัยหนุ่มตัดสินใจออกจากคอมฟอร์ทโซน เซ็นสัญญาเข้าสังกัด ฮัดเดอร์สฟิลด์
โคอาดี้ (ซ้าย) ปะทะกับ กาเบรี่ยล เชซุส (ขวา) ในรายการ คาราบาว คัพ
หนึ่งซีซั่นฐานะ 'เดอะ เทอร์เรียร์ส' ทำให้กองหลังดาวโรจน์มีโอกาสลงสนามสม่ำเสมอ โดยเฉพาะเกมแชมเปี้ยนชิพฟาดเกือก 45 นัด พลาดแค่แมตช์เดียว และทำไป 3 สกอร์
หนึ่งในเหยื่อที่โดน โคอาดี้ ทะลวงตาข่ายก็คือ 'วูล์ฟส์'
ซึ่งในฤดูกาล 2015-16 ทีมจากมิดแลนด์ ตะวันตก ก็ไม่ลังเลขอเซ็น ปราการหลังหน่วยก้านดีเข้าสู่โมลินิวซ์ กราวนด์ ด้วยค่าตัว 2 ล้าน ปอนด์
เวลาผ่านไป 3 ปี จากไอ้หนุ่มหน้าเปื้อนสิว เติบโตสู่เสาหลักของ 'หมาป่า มิดแลนด์' ภายใต้การทำงานกับผจก.ทีม จอมแท็คติค นูโน่ เอสปิริโต้ กำลังช่วยกันผลักดันสถานะจากสโมสรลีกรอง ขึ้นเป็นสมาชิกลีกสูงสุด
กองหลังผู้ดี (ซ้าย) อยู่กับ วูล์ฟส์ มาสามฤดูกาลกระทั่งได้ปลอกแขน
“เป็นการตัดสินที่ยากมากเมื่อต้องเดินออกจากชายคา ลิเวอร์พูล แต่ผมทราบว่ามันคือสิ่งที่ต้องทำ เพื่อโอกาสลงแข่งต่อเนื่องรวมถึงพัฒนาฝีเท้าตัวเอง" กัปตันคนปัจจุบันของ วูล์ฟส์ กล่าว
"ร็อดเจอร์ส (อดีตผจก.ทีม ลิเวอร์พูล) ดีกับผมมากๆ, ประสบการณ์เล่นแบบยืมตัวกับ เชฟฯ ยูไนเต็ด ก็ยอดเยี่ยม จากนั้นก็เป็น ฮัดเดอร์สฟิลด์ กระทั่ง วูล์ฟส์ ติดต่อมา ผมก็ไม่ลังเลที่จะตอบตกลง"
บทเรียนจากการเคยอยู่สโมสรใหญ่ สอนว่าหากไม่เจ๋งจริงก็ปักหลักลำบาก "เพราะผมเคยสัมผัสการเล่นให้ทีมใหญ่มาก่อน ถามว่าสนุกไหมก็ดีนะ แต่มันก็ทำให้เรารู้สึกว่าเป็นแค่เศษเสี้ยวเล็กๆที่ไร้คนเหลือบแล"
https://twitter.com/Wolves/status/967119123699269632
เนื่องเพราะเติบโตมาในรั้ว แอนฟิลด์ แถมเล่นตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟ แน่นอนว่านักเตะต้นแบบที่อยากเดินตามรอยเท้าก็คือ เจมี่ คาร์ราเกอร์ หนึ่งในผลผลิตของอะคาเดมี่ซึ่งสามารถทะลุปล้องชึ้นเป็นรองกัปตัน รวมถึงสัมผัสแชมป์ ยูฟ่า ชปล.
แต่เมื่อยังไปไม่ถึง การลงมาสร้างความมั่นใจกับ วูล์ฟส์ ก็ไม่ถือว่าถอยหลังลงคลอง เหตุเพราะกุนซือ นูโน่ ช่วยส่งมอบความมั่นใจ รวมถึงพัฒนาในเรื่องเกมการเล่น
รวมถึงยกตัวอย่างกองหลังรุ่นไล่เลี่ยกันทั้ง ไมเคิ่ล คีน (เอฟเวอร์ตัน) หรือ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ (เลสเตอร์) ต่างก็สร้างความมั่นใจระดับลีกรอง กระทั่งได้รับโอกาสถึงติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่
โคอาดี้ (กลาง) เมื่อครั้งเป็นเด็กปั้น หงส์แดง
"ตอนที่ยังเป็นนักเตะฝึกหัด ลิเวอร์พูล แล้วได้ขึ้นซ้อมกับทีมชุดใหญ่ ผมพยายามเรียนรู้จากทุกคนที่ได้ร่วมงาน โดยเฉพาะ 'คาร์ร่า' ผมเห็นเขาเล่นมาตลอด มันจึงเป็นเกียรติมากตอนฝึกเคียงข้างพี่เขา"
"วิธีการที่ คาร์ราเกอร์ อ่านเกม, สั่งการแผงรับ ทั้งหมดช่วยให้ผมเรียนรู้เอามาปรับใช้ กระทั่งมาร่วมงานกับ ผจก.ทีม วูล์ฟแฮมป์ตัน ก็ยิ่งผลักดันขึ้นไปอีก ขอยกย่องเลยว่าโค้ชคนปัจจุบันของผมระดับหัวกะทิ"
เซนเตอร์ฮาล์ฟเลือดผู้ดีเสริมอีกว่าประสบการณ์โชกโชนของ นูโน่ น่าทึ่งมาก "เขาเคยคุมในลีกระดับท็อปกับทีม ปอร์โต้ แถมผ่านเวที ยูฟ่า ชปล. เราจึงเห็นได้เลยว่ามันเจ๋งมากตอนถูกติวระหว่างซ้อม รวมถึงแนวทางการทำงาน"
นูโน่ เอสปิริโต้ โค้ชคนปจจุบันของ โคอาดี้
"โค้ชพัฒนาการเล่นให้ผม รวมถึงมีไอเดียที่อยากให้เล่นตามสั่งไม่ว่าก่อนนี้คุณจะฝึกหัดสไตล์ใดมา โดยไม่ต้องสนว่าคู่แข่งเป็นใคร สิ่งที่ นูโน่ ร้องขอมีเพียงเป็นกองหลังที่เล่นฟุตบอลอย่างชาญฉลาด"
สำหรับผลงานปัจจุบัน วูล์ฟส์ อาจนำเป็นหัวตาราง แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ ก็จริง ทว่ากัปตันเลือดผู้ดีไม่ประมาท ยิ่งสองเกมหลังเจ๊ามาติดๆ จึงต้องมุ่งมั่นเป็นพิเศษ
"แชมเปี้ยนชิพ เป็นลีกที่หิน เมื่อกลางสัปดาห์เราเล่นกับ นอริช ซึ่งพวกเขาบี้เราจนเสียศูนย์ (นำก่อน 2-0 โดนตีเสมอ 2-2 ช่วงทดเจ็บ) ฉะนั้นต่อให้นำจ่าฝูงก็ไม่มีหลักประกันใดๆ"
"เรายังไม่คิดเรื่องเลื่อนชั้น หรือใดๆทั้งสิ้น เพราะยังมีถึง 13 นัดสำคัญรออยู่ เริ่มจากเสาร์กับ ฟูแล่ม ทีมในกลุ่มล้นอันดับเพลย์ออฟเลย"
วันนี้อดีตผลผลิต หงส์แดง ไปได้ดีที่มิดแลนด์แล้ว
นั่นคือหนึ่งตัวอย่างอดีตเยาวชน ลิเวอร์พูล ที่ออกไปได้ดีกับที่อื่น ทีนี้ลองมาดูคนที่อยู่สู้แล้วได้ดีบ้าง
ในรอบทศวรรษหลังคงมีแค่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด, เจมี่ คาร์ราเกอร์ หรืออาจแถม ราฮีม สเตอร์ลิ่ง อีกคนเท่านั้นซึ่งสามารถปักหลักในทีมชุดใหญ่ยุคผจก.ทีม ตั้งแต่ ราฟาเอล เบนีเตซ, รอย ฮอดจ์สัน, เคนนี่ ดัลกลิช, ร็อดเจอร์ส หรือ เจอร์เก้น คล็อปป์
สเตอร์ลิ่ง กะ เจอร์ราร์ด เมื่อครั้งยังเป็น 'หงส์แดง'
มีใครจำชื่อ เจย์ สเพียริ่ง, เคร็ก ลินฟิลด์, มาร์ติน เคลลี่, จอน ฟลาเนแกน, อันเดร วิสด่อม และ จอร์แดน รอสซิเตอร์ ได้บ้าง?
เหล่านั้นคือพวกที่วนเวียนกับทีมชุดใหญ่แต่ไม่สามารถหยั่งรากได้สักคน
ก็ให้น่าห่วงแทน เบน วู้ดเบิร์น กับ เอลิจาห์ ดิ๊กสัน-บอนเนอร์ กองกลางดาวรุ่งที่เพิ่งได้สัญญาอาชีพ จะอดทน รวมถึงพัฒนาฝีเท้าพอสอดแทรกขึ้นมาไหม?
ไม่ต้องมองไกลถึง ค.ศ. 2027 เอาแค่ปี 2021 ไว้มาดูว่าจะมีผลผลิตจากอะคาเดมี่ขึ้นมาชุดใหญ่กี่หน่อกัน