คู่แข่งในรอบ 16 ทีมสุดท้ายก็คือ เซเนกัล ทีมรองแชมป์กลุ่มเอที่ถือว่าผลงานไม่ธรรมดาทีเดียวแม้จะมีเกมแพ้ ฮอลแลนด์ ในนัดเปิดสนามแต่ต้องบอกว่าทำผลงานได้ดีเลยแต่ไปเสียประตูจากความผิดพลาดง่ายๆของ เอดูอาร์ เมนดี้ เอง
ทีนี้เมื่อเข้าถึงรอบน็อคเอาท์ สิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ก็คือการดวล "จุดโทษ" นั่นเอง และมันเป็นสิ่งที่ทีมชาติอังกฤษกลัวมาตลอดในช่วงหลังที่ทีมมักจะลงเอยด้วยความพ่ายแพ้อยู่บ่อยครั้ง
"สิงโตคำราม" แพ้ในการดวลเป้าระยะ 12 หลาให้กับ เยอรมัน ในรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลกปี 1990 และในยูโร 1996 ในรอบเดียวกัน สร้างรอยช้ำให้กับทีมอย่างมาก
และนับตั้งแต่เข้าสู่ศตวรรษใหม่ทีมตกรอบจากการดวลจุดโทษในรายการใหญ่อีกถึง 4 ครั้ง เกิดขึ้นในยูโร 2004 และฟุตบอลโลก 2006 ในการเจอกับ โปรตุเกส และในยูโร 2012 และล่าสุดสดๆร้อนๆในเกมชิงชนะเลิศให้กับ อิตาลี
ไม่รู้ว่านั่นจะเป็นสิ่งที่ยังตามหลอกหลอนทีมอยู่รึเปล่าเพราะเพิ่งผ่านมาเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น เรียกได้ว่ายังเป็น "แผลสด" อยู่เลย เป็นสิ่งที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต ต้องคิดอย่างหนักว่าใครจะทำหน้าที่หากมาถึง
26 ผู้เล่นที่เลือกมาติดทีมมี อารอน แรมส์เดล และ นิค โพ๊พ สองคนที่ยังไม่เคยยิงจุดโทษในเกมจริงๆจังมาก่อน ส่วนในรายของ จอร์แดน พิคฟอร์ด เคยสังหารมาแล้วในเกมยูฟ่า เนชั่นส์ ลีกกับ สวิตเซอร์แลนด์ เมื่อ 3 ปีที่แล้ว
แต่ใครจะเป็น 5 ชื่อแรกที่อยู่ในลิสต์สำหรับสังหารเป้าที่ส่วนใหญ่มักจะจบที่ตรงนี้ ไม่บ่อยนักเตะที่เลยออกมาถึงคนที่ 6, 7, 8
แฮร์รี่ เคน กัปตันทีมคือเบอร์ 1 อย่างไม่ต้องสงสัยเพราะนี่คือมือสังหารทั้งกับสโมสรและทีมชาติ โดยเจ้าตัวมีสถิติอยู่ที่ยิงเข้า 60 จาก 69 ครั้งให้กับทั้ง สเปอร์ส และ อังกฤษ ถือเป็นคนที่มีเปอร์เซ็นต์สูงที่สุดในบรรดานักเตะที่ยิงมากกกว่า 2 ครั้งขึ้นไป (87 เปอร์เซ็นต์)
ตามมาด้วย คัลลั่ม วิลสัน และ มาร์คัส แรชฟอร์ด สองกองหน้าที่มีเปอร์เซ็นต์การยิงจุดโทษสำเร็จมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งโดยปกติแล้วเป็นตัวสำรอง
จากนั้นก็ดูจะเลือกยากขึ้นเมื่อดูจากคนที่เหลืออย่าง เจมส์ แม้ดดิสัน, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และ เมสัน เมาท์ เคยยิงจุดโทษมากกว่า 10 ครั้งในอาชีพ แต่ทั้ง แม้ดดิสัน และ เมาท์ พลาดมากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ สเตอร์ลิ่ง พลาดถึงครึ่งหนึ่งนับตั้งแต่ปี 2013
ผลที่ตามมาคือทำให้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กลายเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ซึ่งกองหลังจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยิงจุดโทษไปแล้ว 6 ครั้ง พลาดเพียงแค่หนเดียวเท่านั้น เทียบเปอร์เซ็นต์แล้วเป็นรองแค่ แฮร์รี่ เคน กับ คัลลั่ม วิลสัน เท่านั้น
นั่นแสดงให้เห็นว่า แม็กไกวร์ สามารถรับมือกับความกดดันมหาศาลได้ดีกว่าแม้ว่าจะเข้ามาสู่ทัวร์นาเม้นต์ที่ กาตาร์ ด้วยผลงานที่ย่ำแย่และเสียงวิจารณ์อย่างหนัก แต่เจ้าตัวก็ทำผลงานลบคำสบประมาทได้เป็นอย่างดี
ในเกมชิงชนะเลิศยูโร 2020 ที่ทีมแพ้ อิตาลี ในการดวลจุดโทษ 2-3 แม็กไกวร์ คือคนที่ยิงเข้าร่วมกับ เคน ส่วนอีกสามคนอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด, เจดอน ซานโช่ และ บูคาโย่ ซาก้า เป็นคนพลาด
นอกจากนี้ยังมีนักเตะที่อยู่ในข่ายเช่น เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ แคลวิน ฟิลลิปส์
แต่บางทีคนที่ถูกมองข้ามไปอย่าง เอริก ดายเออร์ ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน ซึ่งแม้ว่าเขาจะไม่ได้มีเทคนิคอะไรมากมาย แต่ก็มีสถิติที่ใช้ได้โดยยิงจุดโทษเข้า 4 จาก 5 ครั้ง
อีกประเด็นที่น่าสนใจก็คือตำแหน่งผู้รักษาประตูว่า แกเร็ธ เซาธ์เกต จะเลือกไว้วางใจ จอร์แดน พิคฟอร์ด ทำหน้าที่รึเปล่า ซึ่งทาง นิค โพ๊พ เองมีสถิติในการเซฟจุดโทษที่เหนือกว่าอยู่เล็กน้อย (17.1 เปอร์เซ็นต์ต่อ 16.1 เปอร์เซ็นต์) เหมือนอย่างที่ หลุยส์ ฟาน กัล เคยทำกับ ฮอลแลนด์ ที่ให้ ทิม ครูล ลงมาทำหน้าที่และก็ประสบความสำเร็จ
ส่วนในมุมมองของ เดอะ ซัน สื่อเจ้าดังของอังกฤษวาง จอร์แดน พิคฟอร์ด เป็นผู้รักษาประตู ส่วน 5 คนที่จะยิงจุดโทษมี แฮร์รี่ เคน, คัลลั่ม วิลสัน, มาร์คัส แรชฟอร์ด, แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และ เอริก ดายเออร์
