แต่ช่วงที่ผ่านมาสภาพร่างกายดีขึ้นเรื่อยๆ แม้โอกาสลงสนามยังไม่มากพอแต่มันคือสัญญาณที่ดีซึ่งทาง โบอาดู พึงพอใจกับสิ่งที่เป็นไปอย่างทีละน้อย
หลังจากนี้คือการพัฒนาร่างกายและแสดงผลงานให้กุนซือใหญ่ได้เห็น หากทุกอย่างเป็นไปด้วยดีมันจะต่อยอดด้วยโอกาสการลงไปสร้างผลงานซึ่งสิ่งเหล่านั้นอยู่ที่นักเตะว่าจะทำได้ดีเพียงใด
ตอนนี้ ... ในช่วงที่ฟุตบอลลีกใหญ่หยุดโปรแกรมให้ เวิลด์ คัพ ที่กาตาร์ จึงเป็นเวลาของ โบอาดู นั่งเล่าเรื่องราวความเป็นไปในช่วงที่ผ่านมาของตนเอง
บอกความรู้สึกในตอนนี้รวมไปถึงชีวิตประจำวันของคุณให้ฟังหน่อย?
"เริ่มต้นที่ทีมก่อนเลยแล้วกัน มันวิเศษมาก นักเตะทุกๆ คน โค้ชทุกคนต่างสนับสนุนผม ดังนั้นสำหรับผมที่กลับมา (จากาการบาดเจ็บ) จึงรู้สึกถึงแรงสนับสนุนและความมั่นใจ มันเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับผมอย่างแน่นอน ผมต้องการมอบคืนความมั่นใจที่พวกเขาแสดงให้ผมเห็น รวมไปถึงแฟนบอลด้วย พวกเขามอบความเชื่อมั่นให้กับผม ผมอยากตอบแทน ก็แค่ต้องการเป็น มีโรน ที่ดีที่สุดให้กับทีม ตอนนี้ผมรู้สึกว่าตนเองฟิตขึ้นเรื่อยๆ ก็แค่อยู่กับจำนวนเวลาการลงสนาม"
ดูเหมือนว่าการทำประตูในเกมพบ มงต์เปลลิเย่ร์ จะสำคัญมากๆ คุณสนุกกับช่วงเวลานั้นจริงๆ
"ใช่ แน่นอนเลย เพราะว่าผมบาดเจ็บไป 2 เดือน และก่อนหน้าเป็นการพักเบรกช่วงซัมเมอร์เท่ากับว่าหายไป 3 เดือนที่ผมไม่ได้ลงเล่นเกมอย่างเป็นทางการ ซึ่งก็ใช่ ผมมีความสุขมากที่ทำประตูได้ ทำประตู 2-0 เพราะกองหลังป้องกันได้ดี พวกเรานำ 1-0 แต่คู่แข่งสามารถทำประตูได้ พวกเขาทำอะไรไม่ได้เลยตลอดทั้งเกมและจากนั้นทำประตู ดังนั้นสำหรับผมแล้วการทำประตูที่สองสำคัญมาก"
นอกเหนือจากการทำประตูของคุณ ฤดูกาลนี้มี 3 รายการให้ลงเล่น แล้วเป้าหมายของคุณคืออะไร?
"ผมคิดว่าซีซั่นที่แล้วพวกเราเข้ารอบรองชนะเลิศในบอลถ้วย และพวกเราพลาดเข้าชิงฯ เพราะแพ้จุดโทษ ส่วนปีนี้ผมคิดว่าด้วยทีมที่มี ผมคิดว่าพวกเราสามารถทำได้ดีกว่าปีก่อน ผมว่าพวกเราสามารถเข้ารอบชิงชนะเลิศได้ คว้าแชมป์บอลถ้วย นั่นคือสิ่งที่ผมมายังสโมสรนี้ เพื่อคว้าแชมป์พร้อมกับทีม มันจะมีความเป็นไปได้ ในรายการนี้ พวกเราสามารถทำได้เหมือนเดิม หรือดีกว่านั้น ในลีก พวกเราสามารถจบที่สองได้ ปีก่อนเราจบที่ 3 แต่ก็เกือบได้ที่ 2 ในการลงเล่นนัดสุดท้าย ผมคิดว่าพวกเรามีทีม พร้อมโค้ชและทีมงาน ซึ่งสามารถผลักดันพวกเราไปยังระดับที่แตกต่าง ผมคิดว่าถึงการคว้าอันดับ 1 และ 2 ผมอยากเป็น 1 ใน 3 ทีม และแน่นอนว่า ยูโรปา ลีก ก็สำคัญเช่นกัน"
แล้วความเป็นอยู่ในโมนาโก รู้สึกอย่างไรตั้งแต่มาอาศัยอยู่ที่นี่?
"รู้สึกดี วิเศษไปเลย โมนาโกเป็นเมืองในแบบที่ทุกคนทราบกัน เมืองที่แสนวิเศษ ซึ่งมีผู้คนที่ใช้ชีวิตสบายๆ อาศัยอยู่ แต่สำหรับผมคือการโฟกัสในฟุตบอล แต่แน่นอนว่าชีวิตนอกเหนือจากนั้นสำคัญเช่นกัน และสำหรับผมแล้ววิเศษมาก ตอนนี้พ่อแม่ผมมาอยู่ที่นี่ด้วย ทำให้ผมรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ผมสามารถอยู่คนเดียว อยู่กับพ่อแม่ ก็แค่รู้สึกว่าอยู่ที่บ้านกับคนที่นี่ ผมมีความสุข"
คุณมีงานอดิเรกอะไรนอกเหนือจากฟุตบอล?
"ผมเล่นวิดีโอเกมเยอะมากๆ เพลย์สเตชัน ใช่ เกมฟีฟ่า ผมไม่ได้เล่นมา 2 ปีแต่ตอนนี้กลับมาเล่นอีกครั้ง ผมเล่น Call of Duty ด้วย รวมถึง เอ็นบีเอ และ ฟอร์มูลา วัน ผมเล่น 4 เกมที่ว่ามาเยอะมากๆ แต่ก็ยังใช้เวลากับครอบครัวเช่นกัน ออกไปซื้อของหรืออะไรทำนองนั้น ผมยังชอบดูเทนนิสและบาสเกตบอล บางครั้งเกมก็มาดึก แต่ผมก็จะดูมัน"
ความฝันในวัยเด็กคืออะไร อยากเป็นนักฟุตบอลหรือว่าอะไรที่แตกต่างออกไป?
"เริ่มแรกเลย ผมอยากเป็นนักบิน ขับเครื่องบิน แต่หลังจากนั้นตอนอายุได้ 7 หรือ 8 ขวบ ผมบอกตัวเองว่าอยากเป็นนักฟุตบอล ผมเด็กมากๆ ในตอนที่บอกตัวเองว่า 'โอเค ฉันทำได้แน่' ดังนั้นสำหรับผมแล้ว ผมมีความมั่นใจในตัวเองเสมอ ผมคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนที่คุณอายุน้อย"
มีช่วงเวลาในเส้นทางอาชีพที่คุณจดจำได้ดีหรือไม่? ยกตัวอย่างติดทีมชาติหรืออะไรทำนองนั้น?
"เกมแรกของผมที่ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ ผมอายุได้ 16 หรือ 17 ปี นั่นเป็นเรื่องที่พิเศษเพราะผมแค่คิดว่าตนเองมาจากเส้นทางที่ยาวไกล และปีก่อนหน้านั้นผมได้รับบาดเจ็บ รวมถึงตอนที่ผมซ้อมกับทีมชุดใหญ่ซึ่งมีอายุ 15 ปี นั่นเป็นเรื่องที่พิเศษ"
ใครเป็นแรงบันดาลใจในตำแหน่งของคุณ?
"เธียร์รี่ อองรี เขาเป็นนักเตะที่สำคัญมากๆ ตอนที่ผมอายุได้ 6 ขวบหรืออายุวัยไล่เลี่ยกัน ซามูเอล เอโต้ เป็นกองหน้าที่แสนวิเศษเช่นกัน ทั้งสองเป็นคนที่ผมอยากเจริญรอยตาม"
